วารสารข่าว วิทย์ปริทัศน์ ฉบับที่ 8 เดือน สิงหาคม 2564

วารสารข่าว วิทย์ปริทัศน์ ฉบับที่ 8 เดือน สิงหาคม 2564

การประชุมประจำปี 2564

     สมาคมนักเรียนไทยในสหรัฐอเมริกา (ATSA) ร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน (OHESI) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) และสมาคมนักวิชาชีพไทยในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา (ATPAC) ได้จัดการประชุมสมาคมนักเรียนไทยในสหรัฐฯ และนักเรียนทุน พสวท. และทุนวิชาการโอลิมปิก ประจำปี 2564 20 – 22 สิงหาคม 2564 ณ โรงแรม Boston Marriott Copley Place นครบอสตัน รัฐแมสซาชูเซ็ตส์ ซึ่งจัดแบบระบบทางไกลและการประชุมในห้อง

การบรรยายช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม 2564
ศาสตรจารย์นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง อว. กล่าวเปิดงานและให้โอวาท
ปอว. ได้ให้ข้อคิดในการใช้ชีวิตในต่างประเทศ กับนักเรียนไทย ให้ใช้ชีวิตแบบ “ไปให้ถึงอเมริกา” หมายถึงนอกจากเก็บเกี่ยววิชาความรู้แล้ว ให้รู้จักศึกษาเรียนรู้สภาวการณ์ในประเทศนั้นๆ แสวงหาประสบการณ์ที่มีคุณค่าในมิติอื่นๆ เช่นด้านสุนทรียศาสตร์ และการผูกมิตรเพื่อให้เป็นคนที่มีความสุข และมีเครือข่ายมิตรและเพื่อนร่วมงานในระยะยาว

นายมนัสวี ศรีโสดาพล เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตันกล่าวให้โอวาท
ให้นักเรียนได้ให้ความตระหนักและร่วมมุ่งแก้ไขปัญหาที่โลกกำลังเผชิญ เช่นโรคอุบัติใหม่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งติดตามการพัฒนาด้านเทคโนโลยีต่างๆ การศึกษาเรียนรู้ไม่ได้จบแค่วันสำเร็จวันรับปริญญาบัตร

ดร.จุฬารัตน์ ตันประเสริฐ รองผู้อำนวยการ สวทช. บรรยายในหัวข้อ “โครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และนิคมวิจัยสำคัญของไทย แหล่งพัฒนาองค์ความรู้และกำลังคน”
บรรยายถึงภาพรวมโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ของไทย ในปี 2564 ไทยมีอันดับความสามารถทางการแข่งขัน (IMD World Competitiveness 2021) อยู่ในอันดับที่ 28 จาก 64 อันดับ ในส่วนของโครงสร้างพื้นฐาน ไทยขยับขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 38 โดยค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1.11 ของ GDP ในปี 2563 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 1.14 ของ GDP ในปี 2564 รัฐบาลได้ให้การสนับสนุน

ดร.กิติพงศ์ พร้อมวงศ์ ผู้อำนวยการ สอวช. บรรยายในหัวข้อ “นโยบาย BCG Economy กับความจำเป็นต่อการเตรียมบุคลากรรุ่นใหม่”
บรรยายเกี่ยวกับโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (BCG Model) เป็นแนวทางการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยมุ่งเน้น 4 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ 1) เกษตรและอาหาร 2) พลังงาน วัสดุ และเคมีชีวภาพ 3) สุขภาพและการแพทย์ 4) การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์

ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี KMITL บรรยายในหัวข้อ “แนวทางพัฒนาอาจารย์และนักวิจัยในสถาบันการอุดมศึกษายุคใหม่”
กล่าวแนะนำในการพัฒนาความเป็นผู้นำ โดยหลักการสำคัญ คือต้องเป็นผู้กล้าที่จะทำในสิ่งที่ใหม่ที่ดี เน้นมิติการเป็นนักวิจัย เป็นกลุ่มบุคคลที่สร้างนวัตกรรมให้กับประเทศ และแนะนำให้อ่านหนังสือ How to Lead ของ David Rubenstein เป็นตำราชี้แนะแนวทางการมุ่งสู่ความเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จ

ศ.ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สสวท. บรรยายในหัวข้อ “บทบาท สสวท. กับการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี”
ศ.ดร.ชูกิจฯ กล่าวถึงภารกิจหลัก 3 ด้านของสสวท. คือ 1) มีหน้าที่ในการพัฒนาหลักสูตรที่ทันสมัยและเหมาะสมกับบริบทของประเทศ 2) พัฒนาครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีทุกสังกัด ทุกระดับชั้น และยกมาตรฐานโรงเรียน 3) พัฒนาส่งเสริมผู้ที่มีความสามารถพิเศษเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ

รศ.ดร.วีระ จันทร์คง รองประธานสมาคมนักวิชาชีพไทยในอเมริกาและแคนาดา (ATPAC) บรรยายในหัวข้อ “นักวิชาชีพไทยในสหรัฐฯ กับการสนับสนุนงานของบ้านเมืองในบริบทโลกใหม่”
กล่าวถึงความสำคัญและหลักการที่นวัตกรรมสามารถนำประเทศไทยไปสู่ ประเทศไทย 4.0 ประเทศไทยต้องพัฒนากำลังมันสมองที่จะเป็นเชื้อเพลิงที่จะนำไปสู่การเติบโตของอุตสาหกรรมสำคัญ 10 อย่าง

Plenary และ Short Talk จากวิทยากรและนักเรียน
การบรรยายในรูปแบบ Plenary Talk เป็นการบรรยายเชิงวิชาการที่มีงานวิจัยสองหัวข้อหลักคือ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และวิชาด้านสังคมศาสตร์

Plenary Talk 1 – ศ.ดร.วาสนา ยันตะสี ศาสตราจารย์จาก Oregon Health and Science University, School of Medicine, CEO ของบริษัท PDX Pharmaceuticals
บรรยายเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี Nanoparticles เป็นเทคโนโลยีในการรักษามะเร็งยุดใหม่ สำหรับการรักษามะเร็งระยะรุกลาม อาศัยการรักษาเชิงรุก เนื่องจากเซลล์มะเร็งสามารถเข้าไปสู่อวัยวะอื่นๆ ได้ง่าย และไม่ได้รุกลามไปเฉพาะเซลล์มะเร็ง ดังนั้นต้องให้ยากระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน โดยใช้การส่งยาที่เรียกว่า multiple pathways delivery

Plenary Talk 2 – ศ.ดร Ian Baird ประธานศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ประจำมหาวิทยาลัย Wisconsin-Madison
บรรยายหัวข้อ Covid-19: Spatial Strategies and Politics in Thailand and the United States ซึ่งบรรยายเรื่องราวการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดตามพื้นที่ โดยสหรัฐฯ มีนโยบายการกระจายวัคซีนจากรัฐบาลกลางไประดับท้องถิ่นผ่านรัฐบาลท้องถิ่นในระดับ Counties เป็นผู้กำหนดนโยบาย ระดับองค์กรและบุคคล สำหรับวัคซีนนั้นไม่ใช่เฉพาะเรื่องคุณภาพของวัคซีน แต่หากมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ชี้ให้เห็นว่าการเกิดโรคโควิด-19 นี้ ทำให้เกิดการเพิ่มอำนาจของรัฐบาลเกือบทุกประเทศ

จาก Plenary Talks นี้ มุมมองของนักวิชาการสองศาสตร์ให้ข้อคิดกับประเทศไทยที่ยังมีข้อแตกต่างกับสหรัฐฯ ในด้านเงินสนับสนุนงานวิจัย การส่งเสริมงานวิจัยชั้นแนวหน้า ในด้านสังคมศาสตร์ชี้ให้เห็นของการบริหารจัดการระดับประเทศที่มีการรวมอำนาจและมีการกระจายอำนาจที่แตกต่างกัน

การนำเสนอผลงานแบบกลุ่มย่อยโดยนักเรียนทุน พสวท. และทุนโอลิมปิก
นักเรียนทุน พสวท. และทุนโอลิมปิกวิชาการจำนวน 20 คนได้นำเสนอผลงานแบบกลุ่ม โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มย่อย ตามสาขาการวิจัย ดังนี้

คณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ จำนวน 4 คน
นักเรียนได้กล่าวถึงงานวิจัยเรื่องวิทยาการเข้ารหัสลับสมัยใหม่ (modern cryptography) และการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) มาใช้ในการประมวลผล สกัดข้อมูลจากเว็บเพจ นอกจากนี้ยังมีการสนทนาผลลัพธ์ใหม่ของปัญหาดอกทานตะวัน (sunflower problem) ปัญหาเกี่ยวกับความต่อเนื่องบนพื้นผิวในปริภูมิสามมิติ อาจทำให้เกิดการพัฒนาด้านความเร็วในการวิเคราะห์ข้อมูลของคอมพิวเตอร์ได้ในอนาคต

เคมี จำนวน 8 คน
นักเรียนได้นำเสนอผลงานวิจัยในหัวข้อเคมีบริสุทธิ์ การวิจัยในหัวข้อความสมดุลทางเคมีในระบบซับซ้อน และการกระตุ้นปฏิกิริยาในโมเลกุลขนาดเล็ก งานวิจัยนาโนการทดลองจุดนาโน (nanodots) ในย่านใกล้อินฟราเรด และการส่องภาพวัสดุนาโนด้วยเลเซอร์ งานวิจัยสารละลายประจุไฟฟ้าต้านแบคทีเรีย การบำบัดด้วยแสง การรู้จำแบบ (pattern recognition) ของโครงสร้างในเซลล์ประสาท และ การลดของเสียประเภทเคมีการทำการทดลอง

ฟิสิกส์และวิทยาศาสตร์กายภาพ จำนวน 5 คน
นักเรียนนำเสนองานวิจัยเรื่องเทคนิคใหม่ทางฟิสิกส์ควอนตัม ในการวัดค่าฟังก์ชั่นคลื่น และงานวิจัยด้านวัสดุศาสตร์ในแกลเลียม ออกไซด์ (Gallium (III) Oxide) และการทดลองในกราฟีนสามชั้น (Trilayer graphene) งานวิจัยในด้านวิทยาศาสตร์กายภาพโดยการสร้างโมเดลการผุกร่อนของหน้าดิน และการศึกษาพายุรุนแรงในแถบเอเชียตะวันออกเขตร้อน ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับพื้นที่ประเทศไทยอีกด้วย

ชีววิทยา จำนวน 3 คน
นักเรียนนำเสนองานวิจัยเรื่องการย้ายถิ่นฐานของกุ้งและโอกาสของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน (sustainable ecotourism) งานวิจัยไวรัส เนื้อเยื่อของไวรัสในปลาม้าลายสองสายพันธุ์ และความสำคัญของโปรตีนที่มีต่อถุงห่อหุ้มของไวรัส (envelope glycoproteins)

การเสวนาในหัวข้อ “วิจัยไทย ทำอะไรกันอยู่”
รศ.ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) บรรยายในหัวข้อ “การพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์ของประเทศไทย”
สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) มีจุดประสงค์หลักคือการสร้างนวัตกรรมและบริการเทคโนโลยีนิวเคลียร์เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ สังคมของประเทศ และเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ในอาเซียนภายใน 5 ปี ปัจจุบัน การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์หลักของ สทน. ประกอบด้วย เภสัชรังสีรักษามะเร็ง การยกระดับสินค้าเกษตร การฉายรังสีอาหารและผลไม้ และการยกระดับอุตสาหกรรม เป้าหมายในอนาคต คือ การเร่งพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องเร่ง และพลังงานธรรมชาติที่สะอาด และยั่งยืนที่เกิดในดวงอาทิตย์ หรือพลังงานฟิวชั่น

รศ.ดร.พิมพ์ผกา ฮาร์ดิง บรรยายในหัวข้อ “ศูนย์ความเป็นเลิศด้านวัสดุเชิงฟังก์ชันและนาโนเทคโนโลยี (FuNTech)”
ศูนย์ความเป็นเลิศด้านวัสดุเชิงฟังก์ชันและนาโนเทคโนโลยี (FuNTech) เป็นองค์กรที่มีผู้ประสานงานในการทำวิจัยอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก อาทิ ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ปัจจุบัน หัวข้อการวิจัยหลักได้แก่ การประยุกต์ใช้พลาสม่าและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า การจัดเก็บพลังงาน อุปกรณ์แปรรูปอาหาร

และนาโนเทคโนโลยี อยู่ระหว่างการขยายทรัพยากรทางการวิจัย และระบบตีพิมพ์ผลงานวิจัยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ผศ.ดร.สัมพันธ์ เนตยานันท์ ประธานบริหารหลักสูตรการเงิน คณะบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์และการสื่อสาร มหาวิทยาลัยนเรศวร บรรยายในหัวข้อ “งานวิจัยด้านคณิตศาสตร์การเงิน”
ผศ.ดร.สัมพันธ์ฯ ได้แบ่งปันประสบการณ์การใช้ชีวิต การเรียนและทำงานกับบุคลากร ชั้นนำระดับโลก และอธิบายงานวิจัยในสาขาคณิตศาสตร์ประกันภัย ซึ่งนำแนวคิดมาจากงานวิจัยในแขนงอื่น อาทิ ฟิสิกส์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ และการเงิน และได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน การสร้างเครือข่ายทางสังคม การใช้ชีวิต

พิธีปิดประชุม
อทป.อว. ได้ให้ข้อคิดในการดำรงชีวิตและดำรงตน 5 ประการ ดังนี้
1. Positivist หรือการเป็นผู้นิยมเหตุผล (ไม่ได้แปลว่า การเป็นผู้คิดบวก)
คือการแสวงหาประสบการณ์การรับรู้โดยตรง รู้จักวิเคราะห์ ทดสอบ พิสูจน์ จะทำให้การพัฒนาวิธีคิดมีความถูกต้องและเป็นธรรม นำไปสู่การประสบความสำเร็จ มากกว่าที่จะคล้อยตามหรือเชื่อเพียงแต่การรับรู้ตามสื่อหรือกระแสต่าง ๆ

2. Optimist หรือการเป็นผู้มองโลกในแง่ดี (ซึ่งต่างจากโลกสวย)
การมองโลกในแง่ดี คือการที่เห็นทางออกของปัญหา มีความพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่และคิดว่าปัญหาที่มีจะสามารถแก้ไขได้ รวมทั้งพยายามช่วยคิดแก้ไขปัญหาในทางสร้างสรรค์ และไม่ใช้ความก้าวร้าว หรือวาจาไม่เหมาะสม

3. Humanist หรือการมีความเป็นมนุษย์
มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ขยายตัวไปมากในปัจจุบัน จะลดลงได้ ถ้าผู้คนลดการเอาเปรียบผู้อื่น และที่มีโอกาสมากหันมาช่วยเหลือคนที่มีโอกาสน้อยกว่าตน โดยไม่จำเป็นต้องคิดว่าหน้าที่ดังกล่าวเป็นของรัฐบาลหรือองค์กรกลางเท่านั้น

4. Environmentalist หรือการเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
หลักการของคนรุ่นใหม่ เนื่องจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และปัญหาสิ่งแวดล้อมหลายด้านได้ทวีความรุนแรงขึ้น คนรุ่นใหม่ต้องใส่ใจกับการดำเนินชีวิตที่เป็นมิตรและรักษาสิ่งแวดล้อม

5. Gratitudist หรือการรู้คุณ
ฐานคิดด้านการรู้คุณ ช่วยสร้างความภูมิใจในชาติและบรรพบุรุษ และประเทศกำลังพัฒนาที่มีฐานดังกล่าวที่แน่นหนามีโอกาสเจริญเติบโตได้รวดเร็ว โดยเฉพาะ คนรุ่นใหม่ เห็นได้ที่จีนเป็นชนชาติที่ยึดมั่นในหลักการนี้แรงกล้า มีตัวเลขหลายอย่างเจริญแซงหน้ามหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้น สังคมผู้สูงอายุที่เรากำลังเผชิญมีความจำเป็นต้องใส่ใจในค่านิยมนี้ให้มากยิ่งขึ้นด้วย

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://static1.squarespace.com/static/5f7e0e2e76a05248ed76e064/t/617add868046607e1b232cdd/1635442060641/OST+Science+Review+September+2021+small.pdf

 

 

ตอนที่ 25 : รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ

นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

เผยแพร่เกียรติคุณและรางวัลของนักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย ประกอบด้วย

ระดับนานาชาติ และชาติ

ดร.จักรพล สุนทรวราภาส ผลงานเรื่อง “พี ลิกนิน แคร์ (P Iignin care)”

ดร.ธีรพงศ์ ยะทา ผลงานเรื่อง “นวัตกรรมการนำส่งยาต้านจุลชีพทิลมิโคซินด้วยพาหะนำส่งระดับนาโนผ่านระบบทางเดินอาหารประสิทธิภาพสูงตรงเป้าหมาย”

ดร.สรวง สมานหมู่ ผลงานเรื่อง “G-breath” หรือ เครื่องตรวจและบอกชนิดเบาหวาน”

ดร.อภิรดา สุคนธ์พันธุ์ ผลงานเรื่อง “Herbal Extracts and Formulation Development of Nano-emulsions for Hair Growth”

คุณวรรณสิกา เกียรติปฐมชัย และคณะ ผลงานเรื่อง “การพัฒนาการวินิจฉัยการติดเชื้อวัณโรคชนิดมัยโคแบคทีเรียม ทูเบอร์คูโลซิส ด้วยดีเอ็นเอเซนเซอร์”

ดร.นิศรา การุณอุทัยศิริ และคณะ ผลงานเรื่อง “การตรวจหาเชื้อก่อโรคในอาหารหลาย ๆ ชนิดพร้อมกันด้วยแอนติบอดีอะเรย์”

ตอนที่ 24 : รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ

นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

เผยแพร่เกียรติคุณและรางวัลของนักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย ประกอบด้วย

ระดับนานาชาติ และชาติ

ดร.จริยา สากยโรจน์ ผลงานเรื่อง “Butt rot disease in Thailand’s mangroves”

ดร.เดือนเพ็ญ จาปรุง ผลงานเรื่อง “แอปตาเซนเซอร์สำหรับวิเคราะห์อัลบูมินในปัสสาวะเพื่อประกอบการคัดกรองโรคไตเรื้อรัง”

ดร.พิศิษฐ์ คำหน่อแก้ว และคณะ ผลงานเรื่อง “ท่อดูดซับความร้อนด้วยอนุภาคนาโนกราฟีน-ซิลิกา สำหรับระบบพลังงานรวมแสงอาทิตย์เข้มข้น”

ดร.ธีรพงศ์ ยะทา ผลงานเรื่อง “ตัวพาอนุภาคนาโน เพื่อการนำส่งยาในร่างกายอย่างแม่นยำ”

ดร.สมเกียรติ เตชกาญจนารักษ์ ผลงานเรื่อง “สูตรผสมสารชีวบำบัดภัณฑ์สำหรับย่อยสลายคราบปนเปื้อนน้ำมัน”

ดร.กิตติวุฒิ เกษมวงศ์ และคณะ ผลงานเรื่อง “ไข่ออกแบบได้”

วารสารข่าว วิทย์ปริทัศน์ ฉบับเดือน กรกฎาคม 2564

วารสารข่าว วิทย์ปริทัศน์ ฉบับที่ 7 เดือน กรกฎาคม 2564

10 อันดับสถาบันเทคโนโลยี ที่มีชื่อเสียงเทียบเคียงกับมหาวิทยาลัยดัง

มหาวิทยาลัยกับสถาบัน

การศึกษาระดับอุดมศึกษา มี 2 ประเภท คือ 1 มหาวิทยาลัย  หรือ University กับ 2 สถาบัน หรือ Institute ในอดีต แรกเริ่มมหาวิทยาลัยใช้เพื่ออ้างถึงศูนย์การเรียนรู้ชนาดใหญ่ที่ให้การศึกษาระดับอุดมศึกษาแก่นักศึกษาที่ต้องการเชี่ยวชาญในสาขาวิชาเฉพาะ กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาขาด้านสังคมศาสตร์ กลุ่มสาขามนุษยศาสตร์ ในขณะที่สถาบันคือศูนย์การเรียนรู้ที่รัฐบาลหรือสมาชิกในชุมชนสร้างขึ้นเพื่อส่งต่อทักษะเฉพาะด้านให้กับผู้เรียนเพื่อช่วยให้มีความรู้ในการประกอบอาชีพ สถาบันมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่เน้นด้านการศึกษา เช่น แฟชั่น เกษตรกรรม ศิลปะและเทคโนโลยีฯ ในภาพรวมคำว่า สถาบัน มีความหมายเล็กกว่า คำว่า มหาวิทยาลัย
อย่างไรก็ตาม พัฒนาการที่เกิดขึ้นในหลายประเทศได้ทำให้นิยามนี้ เปลี่ยนไปโดยเฉพาะสถาบันเทคโนโลยีได้รับการพัฒนาไปอย่างมาก ตัวอย่างของสถาบันที่มีชื่อเสียงของสหรัฐอเมริกา คือ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT) ซึ่งเป็นสถาบันสอนด้านเทคโนโลยีลำดับต้น ๆ ของโลก ส่วนของไทย คือ กลุ่มสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า (King Mongkut’s Institute of Technology) ซึ่งต่อมา วิทยาเขตธนบุรี และวิทยาเขตพระนครเหนือ เปลี่ยนชื่อว่า มหาวิทยาลัย ในขณะที่ วิทยาเขตเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง ยังคงยืนหยัดที่ จะใช้ว่า สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเช่นแรกเริ่มก่อตั้ง

Massachusetts Institute of Technology

อันดับที่ 4 U.S. News 2021 Best National Universities

เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ก่อตั้งปี ค.ศ. 1861

Massachusetts Institute of Technology (MIT) เป็นสถาบันเทคโนโลยีเอกชนที่มีชื่อเสียงระดับโลกในอันดับต้น ๆ ของ U.S. News & World Report และการจัดอันดับวิทยาลัยอื่น ๆ งานวิจัยที่พัฒนาอย่างเข้มข้น หุ่นยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์ที่เก็บเกี่ยวพลังงานจากความแตกต่างของอุณหภูมิ รวมทั้งการพัฒนาเรดาร์ แผงวงจรดิจิทัลการพัฒนาประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ไปจนถึงการค้นพบยีนก่อมะเร็ง (Oncogene)
MIT แบ่งออกเป็น 31 ภาควิชา ใน 5 คณะ
1. คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และผังเมือง
2. คณะวิศวกรรมศาสตร์
3. คณะมนุษยศาสตร์ ศิลปะและสังคมศาสตร์
4. คณะการบริหารจัดการ
5. คณะวิทยาศาสตร์

Caltech
อันดับที่ 9 U.S. News 2021 Best National Universities

เมืองพาซาตินา รัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อตั้ง ปี ค.ศ. 1891
California Institute of Technology (Caltech) เป็นสถาบันเทคโนโลยีเอกชนในสหรัฐอเมริกาที่ศึกษาวิชา STEM เป็นหลัก นักวิชาการและผู้บริหารมุ่งเน้นความพยายามและทรัพยากรขึ้นในโครงการ เช่น Jet Propulsion Laboratory (JPL) ของ NASA
JPL เป็นศูนย์วิจัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก โครงการปัจจุบัน ได้แก่ รถแลนด์โรเวอร์ Mars Curiosity, Mars Reconnaissance Orbiter และยานอวกาศ Juno ที่โคจรรอบดาวพฤหัสบดี ห้องปฏิบัติการยังมีหน้าที่รับผิดชอบช่วยพัฒนา FINDER เป็นเครื่องมือช่วยเหลือค้นหาบุคคลที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง โปรแกรมที่นักศึกษาทำโครงการวิจัยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Summer Undergraduate Research Fellowship (SURF) ซึ่งนักศึกษาจะทำงานเพื่อพัฒนาโครงการวิจัยระยะเวลา 10 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังเปิดหลักสูตรบัณทิตศึกษาในสาขาวิศวกรรมศาสตร์และสาขาวิทยาศาสตร์ ชีววิทยา เคมี วิทยาการคอมพิวเตอร์ ธรณีศาสตร์ คณิตศาสตร์ และฟิสิกส์

Georgia Tech.
อันดับที่ 35 U.S. News 2021 Best National Universities

นครแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย ก่อตั้งปี 1885
Georgia Institute of Technology (Georgia Tech)
สถาบันเทคโนโลยีรัฐและมหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นการวิจัย ภารกิจของ Georgia Tech คือการพัฒนาผู้นำที่พัฒนาเทคโนโลยีและปรับปรุงสภาพของมนุษย์ ภารกิจและแผนกลยุทธ์มุ่งเน้นไปที่การสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชีวิตของผู้คนทุกที่
Georgia Tech มีวิทยาลัย 6 สาขา บัณฑิตวิทยาลัยที่ได้รับการจัดอันดับสูง ได้แก่ คณะวิศวกรรมศาสตร์และคณะบริหารธุรกิจ Georgia เป็นมหาวิทยาลัยที่เน้นการวิจัยมากที่สุดของประเทศ

Rensselaer
อันดับที่ 53 U.S. News 2021 Best National Universities

เมืองทรอย รัฐนิวยอร์ก ก่อตั้งปี ค.ศ. 1824
Rensselaer Polytechnic Institute (RPI)
สถาบันก่อตั้งบนหลักการของการนำวิทยาศาสตร์มาสู่ชีวิตประจำวัน และยังคงแพร่หลายอยู่ในปัจจุบัน นักเรียนหนึ่งในสี่มีส่วนร่วมใน Greek Life เน้นความเป็นผู้นำนวัตกรรม ความอดทน และวิวัฒนาการ นักศึกษาระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการวิจัยที่ Rensselaer ลำดับความสำคัญในการวิจัย 6 อันดับแรก ได้แก่ เทคโนโลยีชีวภาพ พลังงานและสิ่งแวดล้อม นาโนเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์และเทคโนสารสนเทศ และสื่อและศิลปะ ทักษะทางเทคนิคจาก Rensselaer ไปสู่อาชีพที่ประสบความสำเร็จในฐานะผู้ประกอบการ นักประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์ และอื่นๆ

WPI
อันดับที่ 66 U.S. News 2021 Best National Universities

เมืองวูสเตอร์ รัฐแมสซาซูเซตส์ ก่อตั้งปี ค.ศ. 1865
Worcester Polytechnic Institute (WPI) สถาบันเอกชน เพื่อสร้างและถ่ายทอดความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม โปรแกรมการวิจัยระดับบัณฑิตศึกษาประกอบด้วยวิทยาการหุ่นยนต์ วัสดุศาสตร์ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี WPI เช่น วิศวกรรมป้องกันอัคคีภัย วิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตและวิศวกรรมชีวภาพ พลังงาน และวิทยาศาสตร์ข้อมูล

VIRGINIA TECH (VT)
อันดับที่ 74 U.S. News 2021 Best National Universities

เมืองแบล็กส์เบิร์ก รัฐเวอร์จิเนีย ก่อตั้งปี ค.ศ. 1872
Virginia Polytechnic Institute (Virginia Tech) สถาบันรัฐ อดีตสถาบันเทคนิคทางการทหารในแบล็กส์เบิร์ก ผลักดันขอบเขตความรู้โดยใช้แนวทางปฏิบัติแบบสหวิทยาการเพื่อเตรียมนักวิชาการให้เป็นผู้นำและนักแก้ปัญหา สาขาวิชาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดที่ Virginia Tech ได้แก่ วิศวกรรมศาสตร์; ธุรกิจ, การจัดการ, การตลาดและการบริการสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง ; วิทยาศาสตร์ครอบครัวและผู้บริโภค/ มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ ; และวิทยาศาสตร์ชีวภาพและชีวการแพทย์

STEVENS Institute of Technology (Stvens)
อันดับที่ 80 U.S. News 2021 Best National Universities

เมืองโฮไบเกน รัฐนิวเจอร์ซีย์ ก่อตั้งปี ค.ศ. 1870
Stevens Institute of Technology (Stvens) สถาบันเอกชน เน้นย้ำถึงนวัตกรรมและการเป็นผู้ประกอบการ เน้นการวิจัยในด้านโปรแกรมวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ และการจัดการเป็นหลัก แม้ว่า Stevens จะเน้นหนักในด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ แต่สถาบันจัดเป็นวิทยาลัยสี่แห่ง รวมถึงวิทยาลัยศิลปศาสตร์และอักษรศาสตร์ เนื่องจากหลักสูตรนี้เน้นการบรรจบกันของศิลปะและมนุษยศาสตร์ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

Rochester Institute of Technology (RIT)
อันดับที่ 112 U.S. News 2021 Best National Universities

เมืองรอเชสเตอร์ รัฐนิวยอร์ก ก่อตั้งปี ค.ศ. 1829
Rochester Institute of Technology (RIT) สถาบันเอกชน เน้นการเรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมศาสตร์ หรือเทคโนโลยีสารสนเทศ และเปิดสอนหลักสูตร ศิลปะศาสตร์ ธุรกิจ และศิลปะและการออกแบบ รวมถึงการออกแบบสื่อใหม่ ระบบข้อมูลการจัดการ วิทยาศาสตร์การถ่ายภาพ การออกแบบอุตสาหกรรม เทคโนโลยีวิศวกรรมโยธา และเว็บและคอมพิวเตอร์มือถือ

New Jersey Institute of Technology (NJIT)
อันดับที่ 118 U.S. News 2021 Best National Universities

เมืองนวร์ก (Newark) รัฐนิวเจอร์ซีย์ ก่อตั้งปี ค.ศ. 1881
New Jersey Institute of Technology (NJIT) สถาบันรัฐ เป็นผู้นำระดับโลกในด้าน Solar – Terrestrial สาขาวิชา R&D ได้แก่ คณิตศาสตร์ประยุกต์ วัสดุศาสตร์ และวิศวกรรมชีวการแพทย์ นอกจากนั้น ที่นี่ยังมี อาจารย์ชาวไทย ศ.ดร. เมธี เวชารัตนา ประธานสมาคมนักวิชาชีพไทยในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา (Association of Thai Professionals in America and Canada – ATPAC) เป็นผู้สอนในปัจจุบัน

ILLINOIS TECH
อันดับที่ 124 U.S. News 2021 Best National Universities

นครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ก่อตั้งปี ค.ศ. 1940
Illinois Institute of Technology (Illinois Tech) สถาบันเอกชน เปิดสอนหลักสูตรวิชาการ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ สถาปัตยกรรม วิศวกรรม ธุรกิจ จิตวิทยา การสื่อสารและการพัฒนาระดับวิชาชีพ และอื่น ๆ
ปัจจุบัน นักศึกษารับมือการวิจัยเชิงปฏิบัติในด้านวิทยาการหุ่นยนต์ข้อมูลมหัส (Big data) การพัฒนาเมืองยั่งยืน การแพทย์ และวิทยาการคอมพิวเตอร์ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิแห่งสหรัฐอเมริกาและสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (NSA) กำหนดให้ Illinois Tech เป็นศูนย์ความเป็นเลิศทางวิชาการแห่งชาติในการศึกษาการป้องกันภัยทางไซเบอร์

Instituto Politeécnico Nacional
อันดับที่ 4 ของเม็กซิโก อันดับที่ 508 ของโลก ที่ตั้ง กรุงเม็กซิโก ซิตี ก่อตั้งปี ค.ศ. 1936
National Polytechnic Institute IPN มุ่งเน้นศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ (Natural Science) วิทยาศาสตร์ชีวภาพและวิทยาศาสตร์สุขภาพ เทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://static1.squarespace.com/static/5f7e0e2e76a05248ed76e064/t/6148b4bf72725905e432f6aa/1632154838007/OST+Science+Review+July+2021.pdf

 

 

ตอนที่ 23 : รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ

นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

เผยแพร่เกียรติคุณและรางวัลของนักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย ประกอบด้วย

ระดับนานาชาติ และชาติ

ดร.บุญล้อม ถาวรยุติการต์ และคณะ ผลงานเรื่อง “Innovatives Sillicone Gel-Coated Fabrics for Scar Reduction”

ดร.สุพล มนะเกษตรธาร ผลงานเรื่อง “Glucose monitoring handheld device based on micro/nanoneedles”

ดร.บุรินทร์ เกิดทรัพย์ ผลงานเรื่อง “Design for permanent magnet-assisted synchronous reluctance motors used for electric vehicle applications”

ดร.กนกวรรณ ศันสนะพงษ์ปรีชา ผลงานเรื่อง “การพัฒนาอนุภาคนาโนลิโปโซม Auroginger อิมัลเจล สำหรับการนำส่งทางผิวหนัง ร่วมกับเทคนิค lontoporesis”

ดร.ธิดารัตน์ นิ่มเชื้อ ผลงานเรื่อง “การเพิ่มมูลค่าชานอ้อย : การสกัดเซลลูโลสและนาโนเซลลูโลส และการประยุกต์ใช้เป็นวัสดุทางการแพทย์”

ตอนที่ 22 : รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ

นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

เผยแพร่เกียรติคุณและรางวัลของนักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย ประกอบด้วย

ระดับนานาชาติ และชาติ

คุณเสกสรร พาป้อง ผลงานเรื่อง “Developing a Research Framework and Methodology of Social Life Cycle Assessment in Thailand”

คุณปริญญา จันทร์หุณีย์ และคณะ ผลงานเรื่อง “อุปกรณ์ช่วยพ่นยาชนิดทำได้ด้วยตนเอง”

คุณวุฒินันต์ หลงเจริญ และคณะ ผลงานเรื่อง “NavTU : แอปพลิเคชันนำทางบนมือถือแอนดรอยด์สำหรับผู้พิการไทยทางการมองเห็น”

Professor Dr. Timothy William Flegel ผลงานเรื่อง “การพัฒนาวิธีการตรวจแบคทีเรียสาเหตุกุ้งตายด่วน (Early Mortality Syndrome: EMS)”

คุณสมบัติ รักประทานพร ผลงานเรื่อง “การพัฒนาการวินิจฉัยการติดเชื้อไวรัสในกุ้งด้วยโมโนโคลนอลแอนติบอดี”

วิธีสร้างสไลด์สำหรับการนำเสนองานวิจัย

1. ใช้ตัวอักษรเท่าที่จำเป็น
จำไว้ว่าผู้ฟังกำลังฟังและดูการนำเสนอ ถ้าใช้ตัวอักษรมากในสไลด์ ผู้ฟังส่วนใหญ่จะสนใจอ่านมากกว่าฟัง

2. ใช้รูปภาพ
ในบางกรณีอาจไม่จำเป็นต้องใช้ตัวอักษร ถ้าใช้รูปภาพผู้ฟังจะสามารถฟังได้อย่างต่อเนื่องง่ายขึ้นในขณะที่ดูสไลด์

3. Control the pace of new information
อย่าใช้หัวข้อที่สรุปเนื้อหาในสไลด์ ตัวอย่างเช่น หัวข้อ Protein A is required for proper heart function ผู้ฟังจะรู้ทันทีผลของการทดลอง และผู้ฟังอาจหยุดฟัง ให้พูดถึงคำถามเกี่ยวกับงานวิจัยหรือการทดลองแทน

4. คำแนะนำอื่น ๆ
ถ้าใช้ตัวอักษร ต้องแน่ใจว่าผู้ฟังอ่านตัวอักษรได้อย่างง่าย
– ตรวจสอบการสะกดคำให้ถูกต้อง
– ทำให้มีเนื้อที่ว่างระหว่างบรรทัดหรือ paragraphs ควรใช้ช่องว่างระหว่างบรรทัด 10 pt
– ทำให้โครงสร้างไปในทางเดียวกัน ถ้ารายการเนื้อหาเป็นประโยคที่สมบูรณ์ ต้องทำให้เนื้อหาทั้งหมดเป็นประโยคที่สมบูรณ์ด้วย
– ใช้ตัวอักษรที่ดูเป็นมืออาชีพและชัดเจน และมีขนาดใหญ่ สามารถอ่านง่ายในขณะที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ฟังที่อยู่ด้านหลังห้องขนาดใหญ่สามารถมองเห็น ควรใช้ตัวอักษรอย่างน้อยขนาด 24

โดยสรุป สไลด์ต้องไม่อธิบายตัวเอง การนำเสนอที่ดีต้องการผู้นำเสนอสื่อสารรายละเอียดที่สำคัญให้ผู้ฟัง ทำให้สไลด์แนะนำเรื่องราวที่ผู้นำเสนอต้องการสื่อสาร แต่สไลด์ต้องไม่สื่อสารเรื่องราวโดยตัวเอง

ที่มา: Ben Mudrak. How to Build Great Slides for Your Research Presentation. Retrieved January 13, 2021, from https://www.aje.com/arc/writing-slides-for-your-research-presentation/

การศึกษาวัฏจักรชีวิตของการใช้พลังงานไปสู่ภาคขนส่ง และการคำนวณเปรียบเทียบรอยเท้าคาร์บอนในการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เชื้อเพลิงยานยนต์ไฟฟ้า และเชื้อเพลิงชีวภาพ

ประเทศไทยถูกจัดอันดับโดยดัชนีความเสี่ยงจากสภาพภูมิอากาศโลก (Global Climnate Risk Index) ประจำปี พ.ศ. 2564 (Global Climate Risk Index 2021 ให้มีความเปราะบางและความเสี่ยงสูงจากผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอันดับ 9 จาก 180 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ รัฐบาลไทยโดยนายกรัฐมนตรีได้ให้คำมั่นต่อประชาคมโลกในการก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุเป้าหมายการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ในปี ค.ศ. 2065 การลดการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจก (GHGs) เพื่อลดความเสี่ยงจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงอาจเป็นภาระที่ประเทศจะมิอาจปฏิเสธได้อีกต่อไป

ภาคพลังงานไทย โดยภาคการขนส่งเป็นอีกหนึ่งสาขาที่มีสัดส่วนการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจก(GHGs) สูงถึงร้อยละ 18.81 ของปริมาณการปลดปล่อยฯรวมในปี ค.ศ. 2016 เป็นรองเพียงสาขาการผลิตพลังงาน (สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, 2563) ดังนี้ ภาครัฐจึงกำหนดมาตรการสำคัญต่างๆ เพื่อลดการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกในภาคการขนส่งไทยดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการสนับสนุนการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) และมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV โดยกำหนดเป้าหมายสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก ซึ่งหมายรวมถึงเชื้อเพลิงชีวภาพ ต่อการใช้พลังงานขั้นสุดท้ายที่ร้อยละ 30 ในปี พ.ศ. 2580 และกำหนดเป้าหมายให้ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าที่ไม่ปลดปล่อยมลพิษ (ZEV) ภายในปี พ.ศ. 2578 ทั้งนี้ เนื่องจากทั้งมาตรการการส่งเสริมเชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) และยานยนต์ไฟฟ้า (EV ต่างเป็นเทคโนโลยีภาคการขนส่งทางถนนที่มีศักยภาพในการลดการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกภาคขนส่ง

อย่างไรก็ตาม เชื้อเพลิงชีวภาพมีกระบวนการเพาะปลูกและการแปรรูป ขณะที่ยานยนต์ไฟฟ้าต้องการการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติมจากแหล่งพลังงานต่างๆ ทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม หรืออย่างน้อยก็แตกต่างจากกรณีเปรียบเทียบกับการใช้พลังงานของยานยนต์สันดาปภายใน (ICE) ทั่วไป ดังนั้น การศึกษาเปรียบเทียบผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นใหม่หรือที่อาจเพิ่มขึ้นจากมาตรการเหล่านี้จึงมีความสำคัญ และสามารถวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบได้ด้วยการใช้การประเมินวัฏจักรชีวิต (LCA)

การประเมินวัฏจักรชีวิต (LCA) ภายใต้การศึกษานี้ อยู่บนพื้นฐานแนวคิด “การวิเคราะห์จากแหล่งกำเนิดสู่การขับเคลื่อน (Well-to-Wheel: WtW)” ซึ่งจำแนกการพิจารณาวัฏจักรชีวิตพลังงานเชื้อเพลิงภาคขนส่งออกเป็น 2 ส่วน คือ “การวิเคราะห์จากแหล่งกำเนิดสู่ถังเชื้อเพลิง (Well-to-Tank: WtT)” และ “การวิเคราะห์จากถังเชื้อเพลิงสู่การขับเคลื่อน (Tank to-Wheel: TtW)” ซึ่งสามารถวิเคราะห์การปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกได้ครอบคลุมตลอดวัฏจักรชีวิตเชื้อเพลิงที่ใช้ในภาคการขนส่ง โดยไม่รวมวัฏจักรชีวิตของยานยนต์

งานวิจัยนโยบายองค์กร
ฝ่ายบริหารกลยุทธ์และนโยบายองค์กร

 

ตอนที่ 21 : รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ

นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

เผยแพร่เกียรติคุณและรางวัลของนักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย ประกอบด้วย

ระดับนานาชาติ และชาติ

ดร.อัชฌา กอบวิทยา และคณะ ผลงานเรื่อง “เลนส์มิวอาย นวัตกรรมใหม่ของกล้องจุลทรรศน์แบบพกพา”

ดร.อุมาพร เอื้อวิเศษวัฒนา ผลงานเรื่อง “Climate change adaptation strategy through application of biofloc technology for the improvement of productivity and environmental sustainability of white shrimp Litopenaeus vannamei production in South East Asia”

ดร.แสงจันทร์ เสนาปิน ผลงานเรื่อง “Current and emerging infectious diseases in fish and shrimp: Emphasis on molecular characterization, pathogenesis and detection” และ “การศึกษาชีววิทยาโมเลกุลกุ้ง ด้วยเทคนิคยีสต์ทูไฮบริด”

ดร.อรวรรณ ชัชวาลการพาณิชย์ และคณะ ผลงานเรื่อง “มะเขือเทศรับประทานผลสดลูกเล็กที่ต้านทานต่อโรคใบหงิกเหลือง”

ดร.สุวดี ก้องพารากุล และคณะ ผลงานเรื่อง “แผ่นยางทำความสะอาดน้ำมันแบบใช้ซ้ำ”

ศ.นพ.นพพร สิทธิสมบัติ ผลงานเรื่อง “การวิจัยเพื่อพัฒนาระบบการสร้างวัคซีนลูกผสม 4 ชนิดเพื่อป้องกันไข้เลือดออก”

ตอนที่ 20 : รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ

นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

เผยแพร่เกียรติคุณและรางวัลของนักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย ประกอบด้วย

ระดับนานาชาติ และชาติ

ดร.สาทินี ซื่อตรง ผลงานเรื่อง “ดำเนินงานวิจัยด้านการศึกษาความหลากหลายของชนิดพันธุ์ราทะเลที่พบในป่าชายเลนของประเทศไทย” และ “ความสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการในระดับโมเลกุลของราทะเลกลุ่มโดทิดิโอไมซีส (Dothideomycetes)”

ดร.สมพงษ์ ศรีมโนเสาวภาคย์ ผลงานเรื่อง “High Precision Sound Absorber”

ดร.ศรชล โยธิยะ และคณะ ผลงานเรื่อง “Modified Coating Process for Septal Defect Closure Device” และ “เครื่องเคลือบฟิล์มบางแบบสปัตเตอร์ริง”

ดร.พัชรี ลาภสุริยกุล และคณะ ผลงานเรื่อง “ฝาจุกสำหรับภาชนะบรรจุของเหลว เพื่อช่วยป้องกันการสำลักในระหว่างริน (Dispensing Closure for Glug-Free Pouring)”

ดร.พิทักษ์ เอี่ยมชัย และคณะ ผลงานเรื่อง “OnSpec VULCAN: เครื่องเคลือบฟิล์มบางสำหรับชิปขยายสัญญาณรามาน”

ดร.วิรัลดา ภูตะคาม ผลงานเรื่อง “การศึกษากระบวนการตอบสนองของปะการังต่อการเพิ่มอุณหภูมิของน้ำทะเลและการประเมินความหลากหลายทางพันธุกรรมของปะการังในน่านน้ำไทยเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศใต้ท้องทะเลอย่างยั่งยืน” และ “การค้นหาและจีโนไทป์ เครื่องหมายโมเลกุลสนิปแบบทั่วทั้งจีโนมด้วยเทคโนโลยี genotyping-by-sequencing (GBS)”

ดร.สุรภา เทียมจรัส ผลงานเรื่อง “ระบบเซนเซอร์อัจฉริยะสำหรับสนับสนุนการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วย”