หน้าแรก คลังความรู้ 30 ปี สวทช. งานวิจัย 30 ปี สวทช. เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพสารสกัดสมุนไพร ด้วยระบบนําส่งสารสําคัญ
เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพสารสกัดสมุนไพร ด้วยระบบนําส่งสารสําคัญ
11 มิ.ย. 2564
0
30 ปี สวทช.
งานวิจัย 30 ปี สวทช.
ผลงานวิจัยเด่น

เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพสารสกัดสมุนไพร ด้วยระบบนำส่งสารสำคัญ

สารสำคัญในอาหาร อาหารเสริม หรือเวชภัณฑ์ จะมีประสิทธิภาพสูงสุดก็ต่อเมื่อดูดซึมได้ดีที่สุดในบริเวณที่เหมาะสมที่สุดในร่างกายของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ นำไปสู่การวิจัยและพัฒนาระบบนำส่งยาหรือสารสำคัญ ซึ่งสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) องค์กรวิจัยที่เดินหน้าพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยีทางด้านนี้ เพื่อต่อยอด เพิ่มมูลค่า รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของประเทศด้วยนวัตกรรม

            โดยมีการวิจัยและพัฒนาอาหารเสริม เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จากน้ำมันเมล็ดงาม้อนบรรจุแคปซูลนิ่ม

            งาม้อนเป็นพืชท้องถิ่นในภาคเหนือของประเทศไทย มีการศึกษาพบว่า น้ำมันจากเมล็ดงาม้อนอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายชนิด ได้แก่ กรดไลโนเลนิก (โอเมกา 3) กรดไลโนเลอิก (โอเมกา 6) และ กรดโอเลอิก (โอเมกา 9) นับเป็นน้ำมันที่มีความสมดุลของโอเมกา 3 และโอเมกา 6 ดีกว่าน้ำมันอื่น และเมล็ดงาม้อนสามารถนํามาสกัดน้ำมันได้ 31-51% ซึ่งมีการศึกษาที่ระบุอีกด้วยว่า หากเปรียบเทียบกับน้ำมันปลาแล้ว ปริมาณกรดไขมันโอเมกา 3 ในน้ำมันจากเมล็ดงาม้อนนั้นสูงกว่าน้ำมันปลาถึง 2 เท่าตัว

            กรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวที่พบในงาม้อนเหล่านี้ ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลไม่ให้มีมากเกินไป ป้องกันไม่ให้หลอดเลือดแข็ง ป้องกันโรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดบางชนิด รวมถึงช่วยแก้อาการไม่สบายต่าง ๆ ที่เกิดจากระบบประสาทและที่สําคัญจากการศึกษาพบว่าสาร “เซซามอล” ที่มีอยู่ในงานั้นป้องกันมะเร็งได้และยังทําให้ร่างกายแก่ช้าลงอีกด้วย

            ทีมวิจัยจากห้องปฏิบัติการนวัตกรรมนาโนเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารและการเกษตร หน่วยวิจัยเกษตรนาโนและสิ่งแวดล้อมนาโนเทค สวทช. ได้วิจัยและนําเทคโนโลยีมาใช้เพื่อแก้ปัญหาการดูดซึมสารสําคัญ โดยพัฒนาระบบอิมัลชันแบบเกิดเอง หรือ Self-emulsifying drug delivery system ก่อนการนํามาบรรจุในรูปแบบแคปซูลนิ่ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมและละลายสารสําคัญที่ละลายยากและดูดซึมต่ำ ทำให้ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพจากน้ำมันเมล็ดงาม้อนที่ผ่านการพัฒนาเป็นตํารับอิมัลชันแบบเกิดเองนี้สามารถนำส่งสารสําคัญโอเมกา-3 โอเมกา-6 และโอเมกา-9 จากน้ำมันเมล็ดงาม้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อเทียบกับการบริโภคน้ำมันเมล็ดงาม้อนที่บรรจุแคปซูลโดยตรง จากนั้นนําไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพในรูปแบบแคปซูลนิ่มพร้อมบริโภค เหมาะสําหรับกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจในเรื่องสุขภาพและผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านการดูดซึมสารอาหาร

            นอกจากนี้ทีมนักวิจัยจากนาโนเทค สวทช. ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโพลิโคซานอลจากสารสกัดไขอ้อยจากกระบวนการผลิตน้ำตาล โดยน้ำอ้อยที่ผ่านการคั้น ต้ม และกรองก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการผลิตน้ำตาล หลังการกรองจะได้กากหม้อกรองหรือวัสดุเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมการผลิตน้ำตาลที่มีลักษณะคล้ายดินร่วน ๆ ซึ่งมักนําไปแจกจ่ายฟรี ๆ เพื่อใช้ทําปุ๋ยหรือนําไปถมที่ ทั้งที่กากหม้อกรองสามารถนำมาสกัดเป็นไขอ้อยที่มีคุณภาพดีกว่าไขผึ้ง และนําไปเป็นวัตถุดิบสําหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ แต่ก็ยังไม่แพร่หลายนัก เพราะเทคโนโลยีการสกัดมีความซับซ้อน

            จากงานวิจัยและพัฒนาพบว่า สารสกัดจากธรรมชาติกลุ่มโพลิโคซานอล (Policosanol) ที่พบเฉพาะในไขเปลือกอ้อย อุดมไปด้วยคุณค่าบริสุทธิ์ของสารอาหารจากธรรมชาติ ซึ่งสูตรโครงสร้างคล้ายยาลดไขมันในเลือดกลุ่มสเตติน (Statin) โดยคุณประโยชน์ของสารสกัดโพลิโคซานอลคือ การลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกายแม้ใช้อย่างต่อเนื่อง เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ยาลดไขมันในเลือด ส่งผลให้สารสกัดธรรมชาติ “โพลิโคซานอล” เป็นที่รู้จักและยอมรับกันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก

ทีมนักวิจัยจากนาโนเทค สวทช. จึงได้พัฒนากรรมวิธีในการแยกสารโพลิโคซานอลจากไข หรือ Waxes ที่แยกสกัดได้จากกากหม้อกรอง ซึ่งเป็นวัสดุเหลือทิ้งจากโรงงานน้ำตาล เพื่อให้ได้ทั้งปริมาณและความบริสุทธิ์ที่สูง เหมาะกับการนําไปใช้ในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและยังศึกษาถึงทางเลือกในการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากโพลิโคซานอลด้วยการประยุกต์ใช้นาโนเทคโนโลยีสําหรับควบคุมการปลดปล่อยของสารโพลีโคซานอล ซึ่งนําไปสู่การแปรรูปเพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่สามารถผลิตได้ในเชิงพาณิชย์ เนื่องจากสารสกัดจากไขเปลือกอ้อย “โพลิโคซานอล” เป็นทางเลือกใหม่จากธรรมชาติ ที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการลดไขมันคอเลสเตอรอล

            โดยศึกษาแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพเชิงเภสัชวิทยาของโพลิโคซานอล ด้วยการใช้เป็นวัสดุนําส่งสารสําคัญทางชีวภาพในรูปแบบของตัวพาไขมันที่มีโครงสร้างระดับนาโน (Nanostructured Lipid Carriers: NLC) เพื่อใช้เป็นส่วนประกอบสําคัญสําหรับผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมอาหารและยา และเพิ่มความสามารถในการกระจายตัวและช่วยควบคุมการปลดปล่อยสารสําคัญ

            ปัจจุบันต้นแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากน้ำมันเมล็ดงาม้อนและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโพลิโคซานอลจากสารสกัดใบอ้อยเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างเตรียมการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่ผู้ประกอบการหรือผู้ที่สนใจต่อไป

ดาวน์โหลดหนังสือฉบับเต็ม

แชร์หน้านี้: