หน้าแรก 10 Technologies to Watch 2025: เทคโนโลยีพันธุ์ข้าวลดการปล่อยมีเทน (Low Fumarate, High Ethanol or LFHE Eco-friendly Rice)

10 Technologies to Watch 2025: เทคโนโลยีพันธุ์ข้าวลดการปล่อยมีเทน (Low Fumarate, High Ethanol or LFHE Eco-friendly Rice)

20 ส.ค. 2568
0
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์
บทความ

10 Technologies to Watch 2025: เทคโนโลยีพันธุ์ข้าวลดการปล่อยมีเทน (Low Fumarate, High Ethanol or LFHE Eco-friendly Rice)

อินโฟกราฟิกประกอบเนื้อหาเรื่องเทคโนโลยีพันธุ์ข้าวลดการปล่อยมีเทน โดยมีรายละเอียดอยู่ในเนื้อหาส่วนต่อไป

การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย ภาคเกษตรมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ร้อยละ 15.23 ของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด เป็นอันดับที่ 2 รองจากภาคพลังงาน (ร้อยละ 69.96) โดย “การปลูกข้าว” ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดถึงร้อยละ 50.58 ของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคการเกษตรทั้งหมด ขณะที่เวทีโลกเริ่มกำหนดมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเข้มงวด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ

อินโฟกราฟิกประกอบเนื้อหาเรื่องเทคโนโลยีพันธุ์ข้าวลดการปล่อยมีเทน โดยมีรายละเอียดอยู่ในเนื้อหาส่วนต่อไป

ประเทศไทยมีนโยบายลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากนาข้าว ด้วยการส่งเสริม “การทำนาแบบเปียกสลับแห้ง” ซึ่งลดการปล่อยก๊าซมีเทนได้ถึงร้อยละ 30 แต่วิธีนี้มีข้อจำกัดทำได้เฉพาะนาชลประทาน ซึ่งมีเพียงร้อยละ 20 ของพื้นที่นาในประเทศ การพัฒนา “พันธุ์ข้าวลดการปล่อยมีเทน” จึงเป็นแนวทางที่มีศักยภาพสูง เพราะประยุกต์ใช้ได้ทั้งนาน้ำฝนและนาชลประทาน ซึ่งมีพื้นที่รวมกว่า 70 ล้านไร่

อินโฟกราฟิกประกอบเนื้อหาเรื่องเทคโนโลยีพันธุ์ข้าวลดการปล่อยมีเทน โดยมีรายละเอียดอยู่ในเนื้อหาส่วนต่อไป

ข้าวลดการปล่อยมีเทนมีคุณสมบัติสำคัญคือ รากผลิตเอทานอล (ethanol) ปริมาณมาก และผลิตฟูมาเรต (fumarate) น้อยลง ซึ่งฟูมาเรตเป็นแหล่งอาหารของแบคทีเรียที่สร้างมีเทน (methanogen) จึงทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ไม่ดี และปล่อยมีเทนน้อยกว่าข้าวปกติ

อินโฟกราฟิกประกอบเนื้อหาเรื่องเทคโนโลยีพันธุ์ข้าวลดการปล่อยมีเทน โดยมีรายละเอียดอยู่ในเนื้อหาส่วนต่อไป

การพัฒนาพันธุ์ข้าวลดการปล่อยมีเทนทำได้ 2 แนวทาง หนึ่งคือ การผสมข้ามสายพันธุ์ และใช้เทคโนโลยีการคัดเลือกโดยใช้เครื่องหมายโมเลกุล หรือ Marker Assisted Selection (MAS) เลือกคุณลักษณะเด่น เช่น ต้นเตี้ย อายุสั้น ผลผลิตสูง และปล่อยก๊าซมีเทนต่ำ สองคือ เทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนม (Genome Editing Technology) เพิ่มประสิทธิภาพการปรับปรุงพันธุ์ ช่วยให้ได้พันธุ์ข้าวปล่อยก๊าซมีเทนต่ำ แต่ยังให้ผลผลิตสูง รวมถึงมีคุณลักษณะตอบโจทย์ตลาด เช่น กลิ่นหอม คุณภาพหุงต้ม

อินโฟกราฟิกประกอบเนื้อหาเรื่องเทคโนโลยีพันธุ์ข้าวลดการปล่อยมีเทน โดยมีรายละเอียดอยู่ในเนื้อหาส่วนต่อไป

ปัจจุบันประเทศจีนพัฒนาพันธุ์ข้าว LFHE จากข้าวสายพันธุ์ “Heijing (เฮจิง)” ที่ลดการปล่อยก๊าซมีเทนได้สูงถึงร้อยละ 70 และให้ผลผลิตสูงถึง 1.4 ตันต่อไร่ อีกทั้งยังมีจุดเด่น คือ ต้นทุนการผลิตต่ำเมื่อเทียบกับการใช้เทคโนโลยีลดการปล่อยก๊าซมีเทนแบบอื่น เช่น การใส่ถ่านชีวภาพ (biochar) เพื่อกักเก็บคาร์บอนในดิน หรือการใช้ระบบควบคุมน้ำอัตโนมัติเพื่อจัดการไม่ให้น้ำท่วมขังตลอดเวลา ขยายผลสู่เกษตรกรได้จริง ด้วยการกระจายพันธุ์ผ่านระบบเมล็ดพันธุ์ในชุมชน ที่สำคัญตอบโจทย์เชิงนโยบายและการตลาดไปพร้อมกัน ด้วยการแสดงฉลากสิ่งแวดล้อม (eco-label) สำหรับตลาดพรีเมียม

อินโฟกราฟิกประกอบเนื้อหาเรื่องเทคโนโลยีพันธุ์ข้าวลดการปล่อยมีเทน โดยมีรายละเอียดอยู่ในเนื้อหาส่วนต่อไป

สวทช. มีองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านการพัฒนาพันธุ์ เป็นศูนย์กลางการใช้เทคโนโลยี Marker Assisted Selection ระดับประเทศและภูมิภาคลุ่มน้ำโขง อีกทั้งมีเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการปลูกข้าว

เมื่อนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกับการผลิตข้าวที่เป็นมิตรและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมจะช่วยให้ประเทศไทยสร้างความมั่นคงทางอาหารบนความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม เกิดโอกาสทางธุรกิจต่าง ๆ เช่น การพัฒนาเมล็ดพันธุ์เชิงพาณิชย์ที่ลดการปล่อยมีเทน การรับรองผลิตภัณฑ์กลุ่มข้าวคาร์บอนต่ำในตลาดพรีเมียม และผลักดันไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2065


📌 อ่านข้อมูลฉบับเต็มและข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่: https://www.nstda.or.th/r/BtQWQ
📌 รับชมการบรรยายได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=8cAv6AEX55c

แชร์หน้านี้: