หน้าแรก สวทช. เปิดประตู Food Bank สู่ภาคอีสาน นำร่องที่แรก จ.ขอนแก่น ผนึกกำลังหน่วยงานรัฐและผู้ประกอบการในพื้นที่

สวทช. เปิดประตู Food Bank สู่ภาคอีสาน นำร่องที่แรก จ.ขอนแก่น ผนึกกำลังหน่วยงานรัฐและผู้ประกอบการในพื้นที่

31 ต.ค. 2568
0
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับมูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (มูลนิธิ SOS) และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น (พมจ.ขอนแก่น) และผู้ประกอบการท้องถิ่น เร่งขยายผลโครงการบริหารจัดการอาหารส่วนเกิน (Food Surplus) ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเริ่มที่จังหวัดขอนแก่นเป็นแห่งแรก เพื่อมุ่งลดปัญหาขยะอาหารและสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับกลุ่มคนเปราะบาง และขับเคลื่อนสู่การจัดตั้ง “ธนาคารอาหารแห่งชาติของประเทศไทย” (Thailand’s Food Bank) โดยคณะทำงานของ สวทช. และมูลนิธิ SOS ได้ลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 27 – 29 ตุลาคม 2568 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขยายผลโครงการฯ อย่างน้อย 30 จังหวัด ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ ภายในปี 2571

 ในจังหวัดขอนแก่น ทาง สวทช. และมูลนิธิ SOS ได้จัดการประชุมระดมสมองเพื่อขยายเครือข่าย “อาสาสมัครรักษ์อาหาร” และ “ผู้บริจาคอาหาร” วันที่ 28 ตุลาคม 2568 ณ โรงแรมโฆษะ อ.เมืองขอนแก่น โดยมี นางสาวฉัฐพร งามเกลี้ยง พมจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดงาน เพื่อมุ่งเน้นการสร้างและขยายเครือข่ายในการกอบกู้อาหารส่วนเกินในพื้นที่ขอนแก่นอย่างเข้มข้น ทั้งในกลุ่มเครือข่าย “อาสาสมัครรักษ์อาหาร” และเครือข่าย “ผู้บริจาคอาหาร” ซึ่งจุดเด่นของ จ.ขอนแก่น นอกจากหน่วยงานรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะร่วมกันผลักดันโครงการแล้ว ผู้ประกอบการท้องถิ่นทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้า ยังให้ความสนใจและพร้อมสนับสนุนโครงการอย่างเต็มที่อีกด้วย

โดย อาสาสมัครรักษ์อาหาร หรือ Local Food Rescue มีบทบาทสำคัญในการเป็นตัวกลาง เพื่อเชื่อมโยงระหว่างผู้ให้อาหารและผู้รับอาหาร ทำให้การส่งต่ออาหารส่วนเกินที่ยังมีคุณภาพดีไปยังกลุ่มคนเปราะบางเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตรงเป้าหมาย ขณะที่ ผู้บริจาคอาหาร ได้แก่ ผู้ประกอบการหรือหน่วยงานที่สนใจ มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้ให้อาหารส่วนเกิน (Food Surplus) ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบหลักของโครงการ Food Bank ที่ยังมีคุณภาพดีและสามารถนำไปบริโภคได้ ช่วยลดปริมาณขยะอาหารและเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับกลุ่มคนเปราะบางหรือผู้มีรายได้น้อยโดยตรง ซึ่งอาหารที่ได้รับบริจาคจะถูกส่งต่อผ่านเครือข่ายอาสาสมัครรักษ์อาหาร  ผู้สนใจสามารถติดต่อประสานได้ที่ สวทช. โทร. 02 5647000 อีเมล foodbank@nstda.or.th เว็บไซต์ https://www.nstda.or.th/foodbank/ และมูลนิธิ SOS โทร. 02 0751417, 062 6750004 และ Facebook: @sosfoundationthai

นอกเหนือจากการประชุมระดมสมองแล้ว คณะทำงานของ สวทช. และมูลนิธิ SOS ยังได้ร่วมลงพื้นที่ติดตามการทำงานของอาสาสมัครรักษ์อาหารในการเข้ารับอาหารส่วนเกิน และแจกจ่ายในพื้นที่ชุมชนเทพารักษ์ 2 และเหล่านาดี 12 ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น รวมถึงในวันสุดท้ายของการลงพื้นที่ คณะฯ ได้เข้าพบเพื่อหารือ กับผู้บริหารของเทศบาลเมืองศิลาในช่วงเช้า และเทศบาลนครขอนแก่นในช่วงบ่าย เพื่อวางแผนและบูรณาการการดำเนินงานโครงการบริหารจัดการอาหารส่วนเกินในพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรมด้วย

“โครงการนี้ถือเป็นการนำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของ สวทช. มาประยุกต์ใช้แก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม เช่น คู่มือแนวปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยอาหารสำหรับการบริจาคอาหาร (Food Safety Guideline) จากไบโอเทค สวทช. เนื่องจากประเด็นเรื่องความปลอดภัยของอาหารเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการส่งต่ออาหารส่วนเกิน โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยแก้ปัญหาการเกิดขยะอาหารและการสูญเสียอาหารซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และแก้ปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหารของประชากรกลุ่มเปราะบางได้อย่างยั่งยืน” ดร.ปัทมาพร ประชุมรัตน์ นักวิจัยนโยบายอาวุโส และหัวหน้าโครงการ Food Bank สวทช. กล่าวปิดท้าย

ทั้งนี้ แผนการขยายผลอย่างน้อย 30 จังหวัด (ปี 2568 – 2571) มีดังนี้

– กลุ่มที่ 1 (ปี 2568) ได้แก่ นนทบุรี นครสวรรค์ พังงา ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง ปทุมธานี สุราษฎร์ธานี และพระนครศรีอยุธยา

– กลุ่มที่ 2 (ปี 2569) ได้แก่ สงขลา สุโขทัย น่าน ชัยนาท นครราชสีมา ระยอง ฉะเชิงเทรา หนองคาย พิษณุโลก เพชรบุรี เชียงราย และชลบุรี

– กลุ่มที่ 3 (ปี 2570 – 2571) ได้แก่ มหาสารคาม อุบลราชธานี นครพนม พัทลุง สุพรรณบุรี แพร่ แม่ฮ่องสอน ราชบุรี สมุทรปราการ และกาญจนบุรี

 

แชร์หน้านี้: