Leif Edvinsson ได้แบ่งความรู้ออกเป็น 3 ประเภท คือ ความรู้เฉพาะบุคคล ความรู้ขององค์กร และความรู้ที่เป็นระบบ ดังนี้
- Individual Knowledge: ความรู้เฉพาะบุคคล เป็นความรู้ที่มีอยู่ในตัวพนักงานแต่ละคน หรือเป็นความรู้ที่อยู่ในหัวของพนักงาน
- Organizational Knowledge: ความรู้ขององค์กร เป็นความรู้ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างพนักงานที่อยู่ในกลุ่มหรือฝ่ายงานต่างๆ ในองค์กร ทำให้เกิดเป็นความรู้โดยรวมขององค์กร สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการทำงานขององค์กรโดยรวมได้มากขึ้น
- Structural Knowledge: ความรู้ที่เป็นระบบ เป็นความรู้ที่เกิดจากการสร้าง หรือต่อยอดองค์ความรู้ ผ่านกระบวนการ คู่มือ และจรรยาบรรณต่างๆ ในองค์กร
บรรณานุกรม : บุญดี บุญญากิจ, นงลักษณ์ ประสพสุขโชคชัย, ดิสพงศ์ พรชนกนาถ และปรียววรณ กรรมล้วน. (2548). การจัดการความรู้…จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ.
กระบวนการ Knowledge Spiral หรือ SECI Model ซึ่งคิดค้นโดย Ikujiro Nonaka และ Takeuchi จากกระบวนการข้างต้นการปรับเปลี่ยนและสร้างความรู้จะเกิดขึ้นได้ 4 รูปแบบ คือ Socialization, Externalization Combination และ Internalization ดังนี้
- Socialization: การแบ่งปันและสร้าง Tacit knowledge จาก Tacit knowledge ของผู้สื่อสารระหว่างกัน โดยการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ตรง
- Externalization: การสร้างและแบ่งปันความรู้จากสิ่งที่มีและเผยแพร่ออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นการแปลงจาก Tacit knowledge เป็น Explicit knowledge
- Combination: เป็นการแปลง Explicit knowledge จาก Explicit knowledge โดยรวบรวมความรู้ประเภท Explicit ที่เรียนรู้ มาสร้างเป็นความรู้ประเภท Explicit ใหม่ๆ
- Internalization: เป็นการแปลง Explicit knowledge มาเป็น Tacit knowledge มักจะเกิดจากการนำความรู้ที่เรียนรู้มาไปปฏิบัติ
บรรณานุกรม
บุญดี บุญญากิจ, นงลักษณ์ ประสพสุขโชคชัย, ดิสพงศ์ พรชนกนาถ และปรียววรณ กรรมล้วน. (2548). การจัดการความรู้…จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ.
แนวคิดของ Michael Polanyi และ Ikujiro Nonaka ซึ่งเริ่มจากแนวคิดในการจำแนกความรู้ออกเป็น 2 ประเภท คือ Tacit และ Explicit Knowledge ซึ่งได้รับความนิยมและนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ทั้งนี้ทั้ง 2 ท่านได้ให้คำจำกัดความของความรู้ทั้ง 2 ประเภท ดังต่อไปนี้
1. Tacit Knowledge เป็นความรู้ที่อยู่ในตัวของแต่ละบุคคล เกิดจากประสบการณ์ การเรียนรู้ หรือพรสวรรค์ต่างๆ ซึ่งสื่อสารหรือถ่ายทอดในรูปแบบของตัวเลข สูตร หรือลายลักษณ์อักษรได้ยาก ความรู้ชนิดนี้พัฒนาและแบ่งปันกันได้ และเป็นความรู้ที่ก่อให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขัน
2. Explicit Knowledge ความรู้ที่เป็นเหตุเป็นผล สามารถรวบรวมและถ่ายทอดออกมาในรูปแบบต่างๆ ได้ เช่น หนังสือ คู่มือ เอกสาร และรายงานต่างๆ ซึ่งทำให้คนสามารถเข้าถึงได้ง่าย
บรรณานุกรม
บุญดี บุญญากิจ, นงลักษณ์ ประสพสุขโชคชัย, ดิสพงศ์ พรชนกนาถ และปรียววรณ กรรมล้วน. (2548). การจัดการความรู้…จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ.
จากเอกสารและงานวิจัยหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์ของการจัดการความรู้ พบว่าเป็นไปในแนวเดียวกันนั่นคือ การจัดการความรู้มีผลต่อธุรกิจต่างๆ ในหลายรูปแบบ เช่น
- สร้างนวัตกรรมซึ่งส่งผลให้ผลิตภัณฑ์หรือบริการเกิดความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด จึงทำให้ได้เปรียบในการแข่งขัน การต่อรองและสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า
- เป็นเครื่องมือในการแลกเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practics) และกระบวนการทำงานต่างๆ เกิดการร่วมมือกันในการปฏิบัติงาน รวมทั้งเสริมสร้างและกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเอง
- เพิ่มศัลยภาพในการเพิ่มผลผลิต การแข่งขัน
- เพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจในการวางแผนและปฏิบัติงานในระดับต่างๆ รวมถึงการตัดสินใจในการลงทุนและแก้ปัญหา
- สามารถนำสินทรัพย์ความรู้ที่มีอยู่ทั้งในและนอกองค์กรมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บรรณานุกรม : บุญดี บุญญากิจ, นงลักษณ์ ประสพสุขโชคชัย, ดิสพงศ์ พรชนกนาถ และปรียววรณ กรรมล้วน. (2548). การจัดการความรู้…จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ.
แนวทางการจัดการความรู้สำหรับบุคลากรและชุมชนวิจัย โดยการใช้ KM (Knowledge management) เพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ (Learning) การวิจัย (Research) และการจัดการการเปลี่ยนแปลง (Change Management) จากการบรรยายของ ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช
Continue reading “KM and Research Community”
บทสรุปผู้บริหาร กรอบนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารระยะ พ.ศ. 2554-2563 ของประเทศไทย โดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
กรอบนโยบาย IT2010 ถูกใช้เป็นเข็มทิศนำการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศไทยในช่วงทศตวรรษแรกของศตวรรษที่ 21 เพื่อสร้างความต่อเนื่องทางนโยบาย กระทรวงไอซีทีจึงได้พัฒนากรอบนโยบาย ICT2020 ขึ้น เพื่อเป็นกรอบการพัฒนา ICT ของประเทศไทยในระยะ 10 ปีต่อจากนี้
รายงานฉบับสมบูรณ์ กรอบแนวทางการพัฒนาและประยุกต์ใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสในประเทศไทย โดย ดร.กษิติธร ภูภราดัย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ทุนสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.)
เพื่อศึกษาและจัดทำกรอบแนวทางการพัฒนาและประยุกต์ใช้นวัตกรรมด้าน ICT ในการส่งเสริมการเรียนรู้แก่เด็กและเยาวชนด้อยโอกาส ตลอดทั้งเพื่อสำรวจและถอดบทเรียนการพัฒนาและประยุกต์ใช้นวัตกรรมด้าน ICT สำหรับเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสทั้งจากในและต่างประเทศ
รายงานการศึกษากรอบแนวคิดในการวัดบทบาทของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารต่อระบบเศรษฐกิจไทย โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) โดยความร่วมมือกับสํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้จัดให้มีโครงการศึกษากรอบแนวคิดในการวัดบทบาทของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารต่อระบบเศรษฐกิจไทยขึ้น เพื่อศึกษาและเสนอแนะกรอบแนวคิดและวิธีการในการพัฒนาตัวชี้วัด (Conceptualization) ที่จะใช้ประเมินบทบาทของอุตสาหกรรม ICT ที่มีต่อระบบเศรษฐกิจ เพื่อให้ได้ตัวชี้วัดที่เหมาะสมและมีความเป็นสากล ทั้งในส่วนของคํานิยาม องค์ประกอบของข้อมูล วิธีการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูล และเพื่อวิเคราะห์แนวทางในการนําตัวชี้วัดดังกล่าวมาประยุกต์ใช้สําหรับประเทศไทย พร้อมทั้งตรวจสอบการมีอยู่ของข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ความพร้อมของข้อมูล/วิธีการจัดเก็บข้อมูล รวมทั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดเก็บข้อมูล รวมไปถึงการจัดทําข้อเสนอแนะอย่างเป็นรูปธรรมเสนอให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นําไปปฏิบัติต่อไป
ฉลาดใช้ สไตล์ ICT โดยฝ่ายวิจัยนโยบาย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เอกสารที่นำเสนอตัวอย่างของ ICT อันเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนคนไทยสู่ความรู้และปัญญา
ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช ได้กล่าวถึง “ยุคของความรู้” ไว้น่าสนใจผ่านเอกสาร “การจัดการความรู้เพื่อคุณภาพที่สมดุล” ความรู้ 2 ยุค ความรู้ที่เราคุ้นเคยกัน เป็น “ความรู้ยุคที่ 1″ แต่ความรู้ที่เน้นในเรื่องการจัดการความรู้ เป็น “ความรู้ยุคที่ 2″
ความรู้ยุคที่ 1 เป็นความรู้ที่สร้างขึ้นโดยนักวิชาการ มีความเป็นวิทยาศาสตร์ เน้นความเป็นเหตุเป็นผล พิสูจน์ได้โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ หรือวิชาการ มีการจำแนกแยกแยะ เป็นความรู้เฉพาะสาขาวิชาการ เป็นความรู้ที่เน้นความลึก ความเป็นวิชาการเฉพาะด้าน (specialization)
ความรู้ยุคที่ 2 เป็นความรู้ที่ผูกพันอยู่กับงาน หรือกิจกรรมของบุคคล และองค์กร เป็นความรู้ที่ใช้งาน และสร้างขึ้นโดยผู้ปฏิบัติงาน หรือกลุ่มผู้ปฏิบัติงานเอง โดยอาจสร้างขึ้นจากการเลือกเอาความรู้เชิงทฤษฎี หรือความรู้จากภายนอกมาปรับแต่ง เพื่อการใช้งาน หรือสร้างขึ้นโดยตรงจากประสบการณ์ในการทำงาน ความรู้เหล่านี้ มีลักษณะบูรณาการ และมีความจำเพาะต่อบริบทของงาน กลุ่มผู้ปฏิบัติงาน หน่วยงาน และองค์กรนั้นๆ
การจัดการองค์ความรู้ จึงเป็นเรื่องของความรู้ที่มีบริบททีมจำเพาะ เป็นกิจกรรมของผู้ปฏิบัติงาน ไม่ใช่กิจกรรมของ “ผู้รู้” ทีมีความรู้เชิงทฤษฎีมากมาย และลึกซึ้ง ที่จะ “จัด” ความรู้ เพื่อให้ผู้ปฏิบัตินำไปประยุกต์ใช้
ที่มา: สถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล. 2547. การจัดการความรู้เพื่อคุณภาพที่สมดุล = Knowledge Management for Balance of Quality.