British Library Sounds

หอสมุดแห่งชาติอังกฤษ (British Library) พัฒนาคลังรวบรวมเสียงบันทึกต่างๆ เช่น สำเนียงท้องถิ่น ศิลปะ วรรณคดี และการแสดง ดนตรีคลาสสิก เพลงสากล ดนตรีพื้นบ้านเสียงสัตว์ เสียงธรรมชาติ รวมถึงเสียงพูดบอกเล่าเรื่องราวของผู้อยู่ในเหตุการณ์หรือประวัติศาสตร์คำบอก (Oral History) รวมมากกว่า 90,000 รายการ จัดแบ่งตามประเภท และมีระบบสืบค้นทั้งแบบขั้นพื้นฐานและแบบขั้นสูงเพื่ออำนวยความสะดวกในการค้นหาและเข้าถึงรายการเสียงที่ต้องการ รายการเสียงแต่ละรายการจะมีคำอธิบายประกอบ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นของเทคโนโลยีเว็บ 2.0 เช่น Tag cloud การเพิ่มบันทึก (Note) และการแชร์รายการเสียงบันทึกผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ British Library Sounds 

OER Search Engines

เสิร์ชเอนจิน (Search Engine) เพื่อค้นหา แหล่งทรัพยาการศึกษาแบบเปิด (Open Educational Resource: OER)

  • Creative Commons Search ค้นหาสื่อการเรียนการสอนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก ผู้ใช้ยังสามารถค้นหาสื่อการเรียนการสอนที่ต้องการผ่านเว็บไซต์ที่เป็นที่รู้จัก เช่น Google Images YouTube Flickr เป็นต้น
  • Digital Public Library of America ค้นหาและเข้าถึงสื่อดิจิทัลจากห้องสมุด หอจดหมายเหตุ และพิพิธภัณฑ์ในสหรัฐอเมริกา
  • DOER บัญชีรายชื่อ (Directory) ของ OER
  • Google University Learning ค้นหาและเข้าถึง OER และ OCW หรือ Open Courseware ซึ่งใช้ Google Custom Search
  • HippoCampus โครงการของ Monterey Institute of Technology and Education (MITE) เน้นกลุ่มผู้ใช้ระดับมัธยมศึกษาและวิทยาลัย
  • Internet Archive ค้นหาและเข้าถึงหลักสูตร วิดีโอการบรรยาย และสื่อการเรียนการสอนอื่นๆ จากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งในยูโรปและสหรัฐอเมริกา
  • Mason OER Metafinder ค้นหาและเข้าถึงตำราและสื่อการเรียนการสอนแบบเปิดจากคลัง OER (OER repository) มากกว่า 15 แหล่ง 
  • MERLOT OER พอร์ทัล (Portal)
  • OER Commons โครงการริเริ่มโดย Institute for the Study of Knowledge Management in Education (ISKME) สามารถค้นหาสื่อการเรียนการสอนใหม่ที่ถูกรวบรวมและเผยแพร่ หรือค้นหาด้วยเทคนิคการสืบค้นขั้นสูงตามความต้องการ
  • OER Dynamic Search Engine wiki ของเว็บไซต์ OER พร้อมด้วยเสิร์ชเอนจิน 
  • Open Course Library
  • Open Course Ware Consortium ค้นหาและเข้าถึงบทเรียนมากกว่า 30,000 รายวิชา จากสถาบันกว่า 280 แห่งทั่วโลก
  • Open Culture เน้นค้นหาและเข้าถึสื่อการเรียนการสอน เช่น ตำรา กิจกรรมตามหลักสูตร แบบทดสอบและการประเมินผลการเรียนการสอน จากสถาบันอุดมศึกษามากกว่า 80 แห่ง
  • OpenStax เน้นค้นหาและเข้าถึงตำราเรียน บทความ และสื่อการเรียนรู้อื่นๆ ที่เปิดให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
  • Temoa OER พอร์ทัล (Portal)
  • XPERT ค้นหาฐานข้อมูลการเรียนรู้แบบเปิด เหมาะสำหรับนักเรียนทุกระดับ  ครอบคลุมหลากหลายสาขาวิชา  

ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ห้องสมุดสามารถแสดงให้เห็นว่าห้องสมุดเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ได้อย่างไร

บริษัท ศูนย์ห้องสมุดคอมพิวเตอร์ออนไลน์ จำกัด (Online Computer Library Center – OCLC) และ สมาคมห้องสมุดวิจัยและวิทยาลัยแห่งสหรัฐอเมริกา (Association of College and Research Libraries – ARCL) ได้จัดพิมพ์รายงาน เรื่อง ผลกระทบของห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษา : การปรับปรุงการปฏิบัติงานและหัวข้อที่สำคัญเพื่อการวิจัย (Academic Library Impact: Improving Practice and Essential Areas to Research) ซึ่งเสนอแนวทางการพัฒนาบริการของห้องสมุดที่เน้นความสำเร็จของนักเรียนแก่ผู้บริหารและเจ้าหน้าห้องสมุด บทนำของรายงานดังกล่าวประกอบด้วยคำถามสำคัญที่บรรณารักษ์คุ้นเคย คือ ผู้บริหารห้องสมุดและเจ้าหน้าที่ห้องสมุดของสถาบันอุดมศึกษาสามารถแสดงให้เห็นว่าห้องสมุดเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาได้อย่างไร OCLC และ ARCL ได้ระบุ 6 หัวข้อซึ่งอธิบายวิธีการตอบคำถามดังกล่าว หัวข้อเหล่านี้สอดคล้องกับบทบาทของผู้บริหารห้องสมุด เจ้าหน้าที่ห้องสมุดที่ดูแลเรื่องการตลาด  และเจ้าหน้าที่ห้องสมุดที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับผลการเรียนของนักศึกษา

ผู้บริหารห้องสมุด

ผู้บริหารห้องสมุดควรเปรียบเทียบการประเมินผลงานของห้องสมุดกับภารกิจของมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ในการประเมินและการสื่อสารผลงานของห้องสมุดต่อความสำเร็จของนักศึกษา ผู้บริหารห้องสมุดจำเป็นต้องร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ

นักการตลาดห้องสมุด

การติดต่อสื่อสารเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงด้านการตลาด นักการตลาดห้องสมุดจำเป็นต้องสื่อสารผลงานของห้องสมุดโดยเริ่มต้นจากตัวเลขและคำศัพท์ที่ใช้ในชุมชนวิชาการ

จากการหารือกับผู้บริหารห้องสมุดและการทบทวนวรรณกรรม พบว่าบรรณารักษ์ใช้คำว่า “บริการ” มากกว่าคนอื่นๆ ในการศึกษาระดับอุดมศึกษา บรรณารักษ์ใช้คำเฉพาะเจาะจงมากขึ้นเช่น “การเรียนการสอน” “การบริการลูกค้า” และ “พื้นที่” โดย  OCLC และ ARCL แนะนำว่านักการตลาดห้องสมุดควรหารือกับผู้บริหารห้องสมุดและศึกษาดูว่าจะเชื่อมโยงกิจกรรมของห้องสมุดเข้ากับภารกิจของมหาวิทยาลัยได้อย่างไร

บรรณารักษ์ผู้สอนและเจ้าหน้าที่ห้องสมุด

ข้อมูลคือสิ่งสำคัญสำหรับห้องสมุดเพื่อให้เหตุผลในการดำเนินงานของห้องสมุดแก่ผู้บริหาร อาจารย์ผู้สอน และผู้ให้เงินสนับสนุน บรรณารักษ์ควรรวมข้อมูลของห้องสมุดเข้าไปในคอลเลคชั่นของข้อมูลของมหาวิทยาลัย
จากการศึกษาของ OCLC และ ARCL พบว่าผู้บริหารมหาวิทยาลัยมักเชื่อมโยงห้องสมุดเข้ากับผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักศึกษาโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับบริการ คอลเล็กชั่น และพื้นที่ของห้องสมุด ตรงข้ามกับการเชื่อมโยงห้องสมุดเข้ากับผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักศึกษาในเรื่องการสนับสนุนการสอนเช่นทักษะการวิจัยและวิธีการแยกแยะข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ดังนั้นบรรณารักษ์ควรมีการบันทึกข้อมูลงานที่เกี่ยวข้องกับการสอนของบรรณารักษ์ด้วย เพื่อแสดงให้เห็นว่าห้องสมุดมีส่วนร่วมในการปรับปรุงการเรียนการสอนและการเรียนรู้ของนักศึกษาให้ดียิ่งขึ้น

ที่มา: Lynn Silipigni Connaway, L. S. (2017, November 21). The three types of library professionals who absolutely must read the new ACRL/OCLC Academic Library Impact report [Web page]. Retrieved from http://www.oclc.org/blog/main/the-3-types-of-library-professionals-who-absolutely-must-read-the-new-acrloclc-academic-library-impact-report/

จากแนวคิดสู่การปฏิบัติเกี่ยวกับ OER ด้วย 5P

5 กลยุทธ์สำคัญ จากแนวคิดสู่การปฏิบัติเกี่ยวกับคลังทรัพยากรการศึกษาแบบเปิด (Open Educational Resource – OER)

Purpose (วัตถุประสงค์)

ความเข้าใจและการยอมรับของบุคลากรหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการนำ OER มาใช้ คือสิ่งสำคัญ ดังนั้นการนำ OER มาใช้ จึงควรมีการพัฒนาแผนงานที่หลักแหลม “SMART plan” ซึ่งประกอบด้วย

Specific – มีความชัดเจน

Measurable – สามารถวัดผลได้

Agreed Upon – ได้รับการเห็นพ้อง

Results Focused – มุ่งเน้นผลลัพธ์และความสำเร็จ

Time Bound – มีกรอบเวลาการทำงานที่ชัดเจน โดยเฉพาะวันที่ที่เป้าหมายบรรลุผล

การมีวัตถุประสงค์ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ชัดเจน และหนักแน่น จะนำไปสู่กระบวนการของการทำให้ OER นั้นเกิดผล และการวัดผลกระทบของ OER ต่อการสอนและการเรียนรู้

Program (แผนงาน)

การกำหนดว่าอะไรคือแผนงานในภาพรวม หรือ ปัจจัยอะไรที่กำหนดว่าโรงเรียนจะใช้ OER และจะทำให้เกิดประโยชน์หรือสำเร็จนั้นเป็นสิ่งที่ควรคำนึง แผนงานสามารถมุ่งเน้นเนื้อหาของ OER ในบางสาขาวิชาก่อน เช่น เนื้อหาในกลุ่มวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ (Science, Technology, Engineering, and Mathematics – STEM) หรือ ศิลป์ภาษา หรือเนื้อหาตามระดับชั้นเรียน เช่น ชั้นประถมศึกษาหรือมัธยมศึกษา

หลังจากการกำหนดแผนงานแรกแล้ว สิ่งต่อมาคือควรมีการประเมินโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี (Technology infrastructure) เพื่อตรวจสอบเรื่องนโยบายของพื้นที่ที่จะนำ OER มาใช้ เครือข่ายโทรคมนาคม และอุปกรณ์ที่จะสนับสนุนแผนการใช้เนื้อหาในรูปแบบดิจิทัลที่ได้วางไว้ จากนั้นคือการประเมินหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา กลุ่มสาขาวิชาใดของหลักสูตรที่ต้องการถูกออกแบบหรือถูกปรับเพื่อให้การใช้เนื้อหาในรูปแบบดิจิทัลเป็นไปอย่างเต็มที่เพื่อบรรลุเป้าหมายของการเรียนรู้ ควรมีการประเมินว่าเนื้อหาประเภทใดที่จะใช้ เช่น จะเป็นเนื้อหาเชิงการค้าหรือพาณิชย์ เนื้อหาที่สามารถใช้งานฟรี OER เนื้อหาที่ครูผู้สอนเป็นผู้สร้าง หรือการผสมผสานของประเภทเนื้อหาที่กล่าวมา

Process (กระบวนการ)

หลังจากที่เข้าใจวัตถุประสงค์และแผนงานสำหรับการใช้เนื้อหาในรูปแบบดิจิทัลแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการกำหนดกระบวนการ หรือ วิธีการที่ครูผู้สอนและนักเรียนจะสามารถค้นหาและใช้ OER ควรมีการให้แนวทางในการนำ OER ไปใช้ในรูปแบบที่สนับสนุนเป้าหมายและมาตรฐานการเรียนรู้ของพื้นที่ที่นำ OER ไปใช้

Platform (แพลตฟอร์ม)

การพิจารณาแพลตฟอร์มเพื่อจัดวางเนื้อหาและข้อมูลเมทาดาทาทั้งหมด จะต้องพิจาณาว่าเครื่องมือใดมีการใช้งานอยู่บ้าง เช่น ระบบการจัดการการเรียนรู้ (Learning Management System – LMS) คลังสื่อการเรียนรู้ (Learning Object Repository – LOR) หรือ ระบบการจัดการเนื้อหา (Content Management System – CMS)

People (คน)

การจัดตั้งกลุ่มของผู้ทำงานและผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้นำและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเรียนรู้ในรูปแบบดิจิทัลในพื้นที่ที่นำ OER ไปใช้ การพิจารณาการแต่งตั้งผู้จัดการโครงการสำหรับการเรียนรู้ออนไลน์และหลักสูตร หรือการจัดตั้งคณะกรรมการที่จัดสรรเนื้อหาในรูปแบบดิจิทัลสำหรับแผนงานที่ออกแบบและกำหนดไว้ โดยคณะกรรมการอาจรวมตัวกันในระหว่างขั้นตอนการวางแผนเพื่อทำความเข้าใจว่า OER จะถูกนำมาปฏิบัติอย่างไร

ที่มา: Wilhelm, R. (2017, November 19). A Playbook to Go Open: 5 Steps to Adopting OER [Web page]. Retrieved from https://www.edsurge.com/news/2017-11-19-a-playbook-to-go-open-5-steps-to-adopting-oer?utm_content=buffera0a78&utm_medium=social&utm_source=facebook.com&utm_campaign=buffer

แผนพัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ระยะยาว 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579)

การทำแผนพัฒนามหาวิทยาลัยในรูปแบบของแผนพัฒนามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ระยะยาว 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) ถือเป็นแนวทางการบริหารที่สำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้การดำเนินงานบริหารเป็นไปอย่างมีระบบ ตามกรอบที่เป็นเป้าหมายมุ่งร่วมกัน มหาวิทยาลัยเล็งเห็นว่า แผนที่ดีจำเป็นต้องมีการคิดพิจารณาที่เป็นระบบประกอบไปด้วยทั้งเหตุผลและประสบการณ์ ซึ่งแผนพัฒนามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ระยะยาว 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) ฉบับนี้ ได้สังเคราะห์ขึ้นจากการประมวลข้อมูลในแง่มุมต่าง ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม/วัฒนธรรม การเมือง วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีที่สำคัญ ครอบคลุมสภาวการณ์อนาคต จากระดับการเปลี่ยนแปลงในกระแสทั่วโลก พลวัตของโลกในศตวรรษที่ 21 บริบทประเทศไทย และการปฏิรูปตลอดจนภาวะความเสี่ยงใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นเครื่องช่วยกำหนดทิศทางการพัฒนาและการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อนให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ก้าวเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ 1 ใน 5 ของอาเซียน สู่ “มหาวิทยาลัยเพื่อนวัตกรรมและสังคม”

แผนกลยุทธ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ประจำปี พ.ศ. 2561 – 2565

มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรตระหนักถึงความสำคัญของการปรับปรุงและพัฒนามหาวิทยาลัย เพื่อให้ได้คุณภาพและมาตรฐานของการจัดการศึกษาที่เป็นที่ยอมรับและสามารถแข่งขันได้ สอดคล้องกับสถานการณ์ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต และด้วยพระราชกฤษฎีกาว่าด้วย หลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 หมวด 3 ในมาตรา 14 ได้กำหนดให้ส่วนราชการต้องจัดททำแผนปฏิบัติราชการ 4 ปี เพื่อแปลงเป็นแผนปฏิบัติราชการประจำปีและกำหนดแนวในการจัดสรรงบประมาณตอบสนองต่อนโยบายและยุทธศาสตร์ของรัฐที่ปรับเปลี่ยน ประกอบกับแผนกลยุทธ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ประจำปี พ.ศ. 2556-2560 ได้สิ้นสุดลง ดังนั้น มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรจึงได้ทำการทบทวนและจัดทำแผนกลยุทธ์ ประจำปี พ.ศ. 2561-2565 เพื่อให้มหาวิทยาลัยมีแผนกลยุทธ์ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากแผนยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัย ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ในระยะที่ 1 พ.ศ. 2561-2565 และมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) นโยบายไทยแลนด์ 4.0 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) กรอบแผนอุดมศึกษาระยะยาว 15 ปี ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2551-2565) แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579 ยุทธศาสตร์กระทรวง นโยบายการปรับยุทธศาสตร์ใหม่มหาวิทยาลัยราชภัฏ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) และยุทธศาสตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง สามารถใช้เป็นกรอบแนวทางที่แสดงถึงยุทธศาสตร์รวมถึง กลยุทธ์ต่างๆ เพื่อพัฒนามหาวิทยาลัย ตลอดจนหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล แผนกลยุทธ์ฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยใช้แนวทางกระบวนการพัฒนาแผนตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษา โดยมุ่งเน้นการพัฒนาแผนจากการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอกของมหาวิทยาลัย ระดมความคิดเห็นผ่านการประชุมสัมมนาและได้รับอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2560

แผนยุทธศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. 2561-2565

แผนยุทธศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. 2561-2565 ประกอบด้วยประเด็นยุทธศาสตร์ 5 ยุทธศาสตร์ และตัวชี้วัดยุทธศาสตร์ 33 ตัวชี้วัด โดยคลอบคลุมกรอบการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตบัณฑิต การวิจัย การบริการวิชาการ การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม การบริหารจัดการ และการประกันคุณภาพ โดยสอดคล้องและตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560–2579 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560–2564) และแผนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. 2556-2563 (ปรับแผน) ในการเตรียมความพร้อมสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยมีประเด็นยุทธศาสตร์ 5 ยุทธศาสตร์

ไทยแลนด์ 4.0 กับภาคการเกษตร โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

ยุทธศาสตร์การพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) หลักการเเละเเนวคิด 1.พัฒนาเป็นSmart officers / Smart researchers 2.ปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างใน กษ. 3.ปรับปรุงและพัฒนากฎหมายให้ทันสมัย 1.ท้าให้เกษตรกรมีความรู้ความสามารถ และใช้สหกรณ์เป็นกลไกขับเคลื่อนหลัก 2.ยกระดับสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพ มาตรฐาน สร้างมูลค่าเพิ่ม และมีความปลอดภัย 3.น้านวัตกรรมและเทคโนโลยีมาพัฒนาภาคการเกษตรมีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง 4.น้อมน้าศาสตร์พระราชา และปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน 5.เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการภาครัฐ

อ่านเอกสารฉบับเต็ม

ร่างยุทธศาสตร์กรมหม่อนไหม ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560–2579) โดย กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ยุทธศาสตร์กรมหม่อนไหม ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) ได้จัดทาขึ้นให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่สาคัญของร่างกรอบยุทธ์ศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) ทั้ง 6 ยุทธศาสตร์มากาหนดเป็นกรอบโครงสร้างของยุทธศาสตร์กรมหม่อนไหม เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงและสอดคล้องกับเป้าหมายแนวทางการพัฒนาในระยะยาวได้อย่างเป็นรูปธรรมตลอดจนมีการกาหนดเป้าหมายและ ตัวยุทธศาสตร์ให้มีความถูกต้องชัดเจน สอดคล้องกับเป้าหมายและตัวชี้วัดของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 รวมทั้งเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน กรอบแนวคิดการพัฒนาประเทศสู่ประเทศไทย 4.0 นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2558 – 2564) นโยบายของรัฐบาลและแผนแม่บทอื่นๆ รวมทั้งได้น้อมนาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาเป็นแนวทางในการจัดทายุทธศาสตร์หม่อนไหม ระยะ 20 ปี

อ่านเอกสารฉบับเต็ม

ยุทธศาสตร์กรมชลประทาน 20 ปี (พ.ศ. 2560–2579) โดยกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กรมชลประทาน 20 ปี มีกรอบระยะเวลาดาเนินการแบ่งออกเป็น 4 ช่วง สอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยในช่วงระยะ 5 ปีแรก กรมชลประทานจัดทาแผนยุทธศาสตร์กรมชลประทาน ระยะ 5 ปี พ.ศ. 2560 – 2564 โดยตั้งเป้าหมายสู่การเป็น “องค์กรอัจฉริยะ ที่มุ่งสร้างความมั่นคงด้านน้า (Water Security) เพื่อเพิ่มคุณค่าการบริการ ภายในปี 2579” ด้วยการกาหนด Road Map เป้าหมายการดาเนินงานแต่ละช่วงเป็นเข็มทิศนาทาง เพื่อมุ่งสู่ความสาเร็จที่ส่งต่อไปสู่การพัฒนาระดับประเทศให้บรรลุเป้าหมาย “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ในที่สุด

อ่านเอกสารฉบับเต็ม

rid-thailand