หน้าแรก ค้นหา
ผลการค้นหา :
พนัส แอสเซมบลีย์ ร่วมกับ ศูนย์บ่มเพาะฯ สวทช. เดินหน้าผลักดัน LogTech ต่อเนื่องตอกย้ำการส่งเสริมแนวคิดพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์ไทยสู่สากล
จากการดำเนินโครงการ Panus Thailand LogTech Award ที่ทางบริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช) โดย ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี (BIC) ได้ริเริ่มขึ้น และดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องจนถึงวันนี้เข้าสู่ปีที่ 3 ซึ่ง เปิดโอกาสให้ผู้สนใจในระดับ นิติบุคคล บุคคลทั่วไป นิสิต นักศึกษาระดับอุดมศึกษา ได้ใช้และแชร์ความคิดความสามารถ สร้างสรรค์เชิงเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้เป็นประโยชน์ด้าน Logistics ทั้ง Supply Chain ตอบสนองแนวนโยบายของรัฐ ในยุค Thailand 4.0 พร้อมผลักดันแนวคิดพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์ไทยสู่สากล นายพนัส วัฒนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด ผู้นำตลาดในภาคธุรกิจขนส่งมากว่า 50 ปี กล่าวว่า “ธุรกิจของบริษัทฯ ตอบสนองภาคการขนส่งในประเทศเกือบ 100% นับเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนความสำเร็จของเกือบทุกอุตสาหกรรม หัวใจสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ เป็นผู้นำในธุรกิจขนส่งอย่างแข็งแรงจนถึงทุกวันนี้ คือ การวิจัย และการพัฒนานวัตกรรมด้านโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่องที่สามารถตอบสนองความต้องการและการใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าในแต่ละอุตสาหกรรมได้ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะยกระดับอุตสาหกรรมภาคการขนส่งทั้งในประเทศและต่างประเทศให้แข็งแกร่ง และเติบโตยิ่งขึ้น บริษัทฯ จึงเดินหน้าสนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการขนส่ง รวมทั้งสร้างผู้ประกอบการใหม่ที่เป็นสตาร์ทอัพด้านโลจิสติกส์ หรือ LogTech ผ่านโครงการ Panus Thailand LogTech Award ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อตอกย้ำความเป็นเจ้าแรกในการส่งเสริม และพัฒนาแนวคิด เทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยเปิดกว้างให้กับทุกผลงานและผู้ที่สนใจทุกคนไม่ว่าจะเป็น Startups นิสิตนักศึกษา และบุคคลทั่วไป มาร่วมผจญภัยในโลกธุรกิจโลจิสติกส์ไปพร้อมกับเรา โดยในปีนี้มีแนวคิดภายใต้ Concept ว่า “The Adventures in Logistics” เพื่อจะมุ่งเน้นย้ำให้ทุกคนเข้าใจว่า ไม่ว่าคุณจะมีแนวคิดหรือทำธุรกิจแบบไหน คุณก็สามารถมาร่วม Adventure กับเราในโลกของ Logistics ได้ เพราะอะไรๆก็เป็นไปได้ในโลกของ Panus LogTech เพราะผมคิดว่า Logistics ไม่ใช่แค่เรื่องของการขนส่งเท่านั้น” (more…)
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
ขอเชิญผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพ เข้าร่วมโครงการ SUCCESS 2019
ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี (BIC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ขอเชิญ ผู้ประกอบกิจการซอฟต์แวร์และไอทีทุกประเภท รวมถึงผู้ประกอบการด้านนาโนเทคโนโลยี ไบโอเทคโนโลยี และเหล่าสตาร์ทอัพ ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจ จัดโครงสร้างองค์กรอย่างเป็นระบบ เพิ่มศักยภาพในการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยกลไกบ่มเพาะ เชื่อมโยงพันธมิตร และขยายเครือข่ายออกสู่ตลาดใหม่ทั้งในและต่างประเทศ สมัครเข้าร่วม “โครงการบ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี (SUCCESS 2019)” เพื่อรับสิทธิประโยชน์มากมายในการพัฒนาธุรกิจ เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ - 23 มิถุนายน 2562 ที่ http://bit.ly/30SuZ5O  สอบถามเพิ่มเติม โทร 0 2564 7000 ต่อ 81496, 081 913 1828 อีเมล seksun.sungsook@nstda.or.th ข้อมูลโครงการ SUCCESS 2019 (more…)
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
กิจกรรมศึกษาดูงาน “Plastics Shape the Future” ที่เยอรมัน
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยโปรแกรม ITAP และศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) ร่วมกับ หอการค้าเยอรมัน-ไทย (GTCC) ขอเชิญผู้ประกอบการอุตสาหกรรมด้านพลาสติกและที่เกี่ยวข้อง ร่วมกิจกรรมศึกษาดูงานประเทศเยอรมนี ภายใต้กิจกรรม NSTDA-Innovative Plastics Materials and Technology Exclusive Site Visits and K2019 “Plastics Shape the Future” @ GERMANY ระหว่างวันที่ 19-27 ตุลาคม 2562 (9 วัน 6 คืน) เพื่อเข้าชมงาน K2019 แบบเจาะลึกเจาะจง พร้อมเยี่ยมชมบริษัทอุตสาหกรรมพลาสติกด้านการผลิตเม็ดพลาสติก เครื่องจักรทันสมัย และระบบควบคุมคุณภาพมาตรฐานสูง โดยร่วมทริปกับทีมวิจัยที่เชี่ยวชาญเทคโนโลยีพลาสติก เพื่ออัพเดทเทคโนโลยี เปิดประสบการณ์ มุมมอง และสามารถนำกลับมาประยุกต์ใช้กับกระบวนการผลิต และต่อยอดการวิจัยพัฒนาร่วมกับทีมวิจัยไทย หมดเขตรับสมัครภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก https://www.mtec.or.th/outstanding/29866/ สอบถาม โทร. 081 734 0195 (คุณระพีพันธ์ ระหงส์) หรืออีเมล rapeepr@mtec.or.th
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
SCI UPDATE : ฟลาวมันสำปะหลังแบรนด์ไทยไร้กลูเตน
อยากกินต้องได้กิน! ข่าวดีสำหรับผู้ป่วยโรคเซลิแอค (Celiac Disease) หรือ โรคแพ้ภูมิตัวเองจากสารต่อต้านกลูเตน เมื่อนักวิจัยไทยพัฒนาการผลิตฟลาวมันสำปะหลังได้สำเร็จ พร้อมต่อยอดคิดค้นสูตรสำหรับทำผลิตภัณฑ์เบเกอรี่และขนมปังปราศจากกลูเตนได้หลากหลายชนิด (more…)
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
อว. โดย “เอ็มเทค สวทช.” ร่วมกับจุฬาฯ จัดเวทีชิงแชมป์ออกแบบและสร้างหุ่นยนต์ ครั้งที่ 12 (RDC 2019) เฟ้นสุดยอดเยาวชนเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติ “IDC RoBoCon 2019” ที่สหรัฐอเมริกา
ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ - รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย คุณศิริวรรณ ตัณฑเวชกิจ รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ ศ.ดร.ไพโรจน์ สิงหถนัดกิจ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมแสดงความยินดีและมอบรางวัลให้แก่ทีมนักศึกษาสุดยอดนักประดิษฐ์ผู้ชนะการแข่งขันใน “โครงการพัฒนาทักษะการออกแบบและสร้างหุ่นยนต์แห่งประเทศไทย ปี 2562 (The 12th Thailand Robot Design Camp : RDC2019)” ภายใต้แนวคิด “Robot for a Greener Planet” ซึ่งจะเป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ IDC RoBoCon 2019 ณ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology) หรือ MIT ประเทศสหรัฐอเมริกา ณ ลานชั้น 1 ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ (more…)
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
อว. สวทช. จับมือ บ.สกุลฎ์ซีฯ และ CWT ร่วมทุนในกิจการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีต่อยอดอุตฯ ผลิตยานพาหนะสมัยใหม่แบบครบวงจร เสริมศักยภาพผู้ประกอบการ ลดการนำเข้า ยกระดับสู่เศรษฐกิจนวัตกรรม
10 มิถุนายน 2562 กรุงเทพฯ: กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ บริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด กลุ่มบริษัท โชคนำชัย และบริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จัดพิธีลงนามการร่วมทุนในกิจการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อก้าวสู่การผลิตยานพาหนะสมัยใหม่แบบครบวงจร (Modern Transportation) โดยมี ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. คุณนำชัย สกุลฎ์โชคนำชัย ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทโชคนำชัย กรรมการผู้จัดการ คุณวีรพลน์ เตชะผาสุกสันติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด และคุณวีระพล ไชยธีรัตต์ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนาม เพื่อต่อยอดอุตสาหกรรมผลิตยานพาหนะสมัยใหม่แบบครบวงจรตามนโยบายประเทศไทย 4.0 ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) เสริมศักยภาพผู้ประกอบการ ลดการนำเข้า สร้างรายได้ เพิ่มความเข้มแข็ง ยกระดับประเทศสู่เศรษฐกิจนวัตกรรม (more…)
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
อว. สวทช. และหน่วยงานเครือข่าย จัดประชุมคิกออฟ ‘แผนจีโนมิกส์ประเทศไทย’ หารือแนวทางวิจัยและประยุกต์ใช้แพทย์จีโนมิกส์ เพื่อคุณภาพชีวิตคนไทยที่ดี
7 มิถุนายน 2562 กรุงเทพฯ : สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในฐานะหน่วยงานหนึ่งของภาคีเครือข่ายภายใต้แผนปฏิบัติการบูรณาการจีโนมิกส์ประเทศไทย (Genomics Thailand) ปี 2563 - 2567 ร่วมกับ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) (TCELS) สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานภาคีเครือข่าย จัดประชุม “Genomics Thailand Inception Workshop” เพื่อเผยแพร่แผนปฏิบัติการบูรณาการจีโนมิกส์ประเทศไทย พร้อมหารือแนวทางดำเนินงานและเป้าหมายที่ชัดเจนของกรอบงานวิจัยด้านจีโนมิกส์ 5 ด้าน ได้แก่ ด้านโรคมะเร็ง โรคที่ไม่ได้รับการวินิจฉัยและโรคหายาก โรคไม่ติดต่อและการศึกษาในกลุ่มประชากรแบบระยะยาว โรคติดเชื้อ และเภสัชพันธุศาสตร์ อันจะนำไปสู่แผนยุทธศาสตร์การทำงานด้านการวิจัยของประเทศที่ชัดเจนต่อไป โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตลอดจนผู้แทนมหาวิทยาลัยแพทย์ชั้นนำ องค์กรของรัฐ และหน่วยงานเอกชนกว่า 250 คนเข้าร่วมประชุม (more…)
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
ซอฟต์แวร์พาร์ค สานต่อภารกิจผลักดันสตาร์ทอัพไอทีไทยสู่ตลาดโลก งาน ConnecTechAsia 2019 มหกรรมเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย
6 มิถุนายน 2562 – ซอฟต์แวร์พาร์ค สานต่อภารกิจผลักดันสตาร์ทอัพไอทีไทยสู่เวทีระดับโลก นำทัพกลุ่มผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทย ร่วมโชว์เคสนวัตกรรมในศาลาไทย (Thai Pavilion) ภายใต้ธีม “ประตูสู่ตลาดโลก” (Gateway to Global Market) ภายในงาน ConnecTechAsia 2019 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย (Software Park Thailand) หน่วยงานภายใต้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่หลักในการสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย ร่วมกับ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ นำคณะผู้ประกอบการด้านซอฟต์แวร์และไอซีทีไทย จำนวน 9 บริษัท ร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีภายใต้ไทยพาวิลเลี่ยน ในงานคอนเนคเทคเอเชีย 2019 (ConnecTechAsia 2019) ระหว่างวันที่ 18 – 20 มิถุนายน 2562 ณ มาริน่า เบย์ แซนด์ (Marina Bay Sands) และซันเทค (Suntec) ประเทศสิงคโปร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาช่องทาง ขยายโอกาสทางการตลาด และสร้างเครือข่ายกับพันธมิตรต่างประเทศ รวมถึงโอกาสสร้างชื่อเสียงและยกระดับอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยบนเวทีระดับโลก นางสุวิภา วรรณสาธพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กล่าวว่า “ซอฟต์แวร์พาร์ค ยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและผลักดันผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยในการขยายโอกาสและช่องทางการค้า ควบคู่กับสร้างความเชื่อมั่นของซอฟต์แวร์ไทยในตลาดต่างประเทศ การเปิดไทยพาวิลเลี่ยน “Gateway to Global Market” หรือ "ประตูสู่ตลาดโลก" ในงานคอนเนคเทคเอเชีย 2019 ปีนี้นับเป็นปีที่ 8 ซึ่งถือเป็นการประกาศศักยภาพและความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของไทยบนเวทีระดับโลก อีกทั้งเป็นเวทีให้ผู้ประกอบการไทยได้โชว์เคสนวัตกรรมและพบคู่ค้าใหม่ๆ จากทั่วโลก รวมถึงยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไอซีที เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและนำรายได้เข้าประเทศ”บริษัทซอฟต์แวร์ ดิจิทัล และการสื่อสารที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมงานครั้งนี้ ประกอบด้วย บริษัท อัฟวาแลนท์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์โซลูชั่นและเทคโนโลยีแพลตฟอร์มชั้นนำของไทย บริษัท เอ็ทตี้ รู้ท จำกัด ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันและสื่อสิ่งพิมพ์ประเภทดิจิทัลครบวงจร บริษัท เอ็กซ์ซี จำกัด ผู้นำธุรกิจด้านอินเตอร์แอคทีฟโซลูชั่นในรูปแบบต่างๆ บริษัท แฮนดิโก จำกัด เจ้าของแอปพลิเคชันด้านการท่องเที่ยวและโรงแรมชื่อดัง บริษัท ลีฟวิ่ง โมบาย จำกัด บริษัทผู้พัฒนาโปรแกรมมือถือที่ช่วยบริหารจัดการร้านอาหารและให้คำปรึกษากับลูกค้าแบบครบวงจรรูปแบบใหม่ บริษัท นอร์ติส ไรซ์ จำกัด ผู้พัฒนาและให้บริการแอปพลิเคชัน “SOLARLAA” แอปพลิเคชันด้านการพัฒนาและการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม บริษัท ซ๊อกเก็ต ไนน์ จำกัด บริษัทพัฒนาเว็บและแอปพลิเคชันบนมือถือ รวมถึงสื่อดิจิทัลและซอฟต์แวร์ต่างๆ และ บริษัท ซัน ซิสเท็มส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ให้บริการด้านสื่อสารโทรคมนาคมและโมบายแอปพลิเคชัน ซึ่งทั้ง 9 บริษัทล้วนเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีและแอปพลิเคชันที่จะช่วยยกระดับการดำเนินธุรกิจด้านต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ สะดวกรวดเร็ว และอำนวยความสะดวกให้กับองค์กรธุรกิจต่างๆ ได้มากขึ้นงาน ConnecTechAsia ก้าวมาถึงปี 2562 ในฐานะงานด้านเทเลคอม สื่อ และเทคโนโลยี (Telecom, Media and Technology: TMT) แห่งภูมิภาค เป็นแหล่งความรู้ที่ให้ประโยชน์จากความร่วมมือกับพันธมิตรในแวดวงธุรกิจและบริษัทวิจัยชั้นนำ เช่น Accenture, Deloitte, KPMG, Light Reading, McKinsey, Ovum และ Tractica เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญแก่ผู้ประกอบการและผู้เข้าชมงานตลอดทั้งปี“ความรู้ เป็นสินทรัพย์ที่ทรงพลัง องค์กรในทุกวันนี้ต้องการความชัดเจนมากขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจและโอกาสในการควบคุมธุรกิจ ซึ่งงาน ConnecTechAsia ได้รวมเอาหุ้นส่วนความรู้ใหม่ด้านเทเลคอม มีเดีย และเทคโนโลยี ที่มารวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยน ทำข้อตกลง และสร้างเครือข่ายร่วมกัน งาน ConnecTechAsia จึงเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นที่เพิ่มขึ้นของเราในการสนับสนุนอุตสาหกรรม TMT และปูเส้นทางสู่การเติบโตและประสบความสำเร็จในภูมิภาค” Ivan Ferrari, Event Director for ConnecTechAsia จาก UBM สิงคโปร์กล่าวไฮไลท์งาน CommunicAsia, NXTAsia และ BroadcastAsiaงาน ConnecTechAsia 2019 มีผู้ประกอบการจากทั่วโลกเข้าร่วมกว่า 1,800 บริษัท ระดับผู้นำธุรกิจกว่า 200 คนเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ และจำนวนผู้เข้าชมงานมากกว่า 40,000 คน ถือเป็นงานที่รวมเอาธุรกิจที่มีความหลากหลาย แต่เชื่อมโยงหลายมิติเข้าด้วยกันและเป็นส่วนสำคัญของอีโคซิสเต็มดิจิทัลในอนาคตมาไว้บนพื้นที่แต่ละส่วนของงาน TMT ที่แยกออกเป็นอีเว้นท์หลัก 3 งาน ประกอบด้วย เทคโนโลยี 5G ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence: AI) ความปลอดภัยทางไซเบอร์ มัลติ คลาวด์ (Multi-cloud) และ ไฮบริด- คลาวด์ (Hybrid - Cloud) อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (ไอโอที) (Internet of Things: IoT) สมาร์ทซิตี้และเทคโนโลยีแพร่ภาพกระจายเสียงเจเนอเรชั่นใหม่สำหรับ งานคอมมิวนิคเอเชีย (CommunicAsia) ผู้เข้าชมงานจะได้พบกับเทคโนโลยีในยุคหน้าสำหรับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง และพบกับบริษัทผู้ประกอบการด้านสื่อและผู้ผลิตอุปกรณ์โชว์เคสผลิตภัณฑ์และบริการล่าสุดในงานบรอดคาสท์เอเชีย (BroadcastAsia) ส่วนผู้ที่สนใจด้านเทคโนโลยีเกิดใหม่และโซลูชั่นระดับองค์กรต้องไม่พลาดงานเน็กซ์เอเชีย (NXTAsia) ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ กิจกรรมเวิร์คช็อปและสัมมนาดีๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย โซนพิเศษ พร้อมรองรับด้วยโปรแกรมและระบบเครือข่ายจากพันธมิตรเพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานชมงานได้อย่างเต็มอิ่มและมีส่วนร่วมได้อย่างเต็มที่นำโดย ประธานเครือข่ายเมืองอัจฉริยะอาเซียน (ASEAN Smart Cities Network หรือ ASCN) บนความร่วมมือกับประเทศพันธมิตร ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ รวมถึงชุมชนเมืองอัจฉริยะอาเซียน (ASEAN Smart Cities Communities หรือ SCC) และในปี 2562 นี้จะได้เห็นสนามกีฬาอัจฉริยะแห่งใหม่ที่งานคอนเนคเทคเอเชียด้วยการเชื่อมต่อและโซลูชั่นดิจิทัลสำหรับการวางผังเมือง อาคาร และบ้านอัจฉริยะ งานปีนี้ยังเป็นการเปิดตัวโซน 5G Experience ครั้งแรก ซึ่งจะสาธิตสดเกี่ยวกับวิธีการที่ 5G จะแปลเป็นโอกาสและความเป็นไปได้ใหม่ ๆ สำหรับองค์กรธุรกิจ โดยเฉพาะด้านการดูแลสุขภาพ พลังงาน การผลิต และการขนส่ง ผู้เข้าชมงานสามารถเรียนรู้ว่าโดรนที่เชื่อมต่อ 5G จะสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจได้อย่างไร 5G ช่วยปรับปรุงการทำแผนที่และการขนส่ง รวมถึงส่งผลกระทบต่อบริษัทผู้ผลิตที่มีความพร้อมด้านดิจิทัลอย่างไรสองผู้นำจากไทยขึ้นเวทีการประชุมสุดยอดผู้นำ คอนเนคเทคเอเชีย ซัมมิท (ConnecTechAsia Summit)การประชุมสุดยอดคอนเนคเทคเอเชีย ซัมมิท ภายใต้ธีม การสร้างสังคมแห่งโลกอนาคต (Shaping Future Societies) จะมีนักธุรกิจชั้นนำ ทั้งด้านการสื่อสารและสารสนเทศ เทคโนโลยี สื่อ และเอ็นเตอร์ไพรซ์ มาร่วมหารือเกี่ยวกับปัจจัยที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในภูมิภาค โดยสองผู้บริหารชั้นนำจากประเทศไทยที่ได้รับเกียรติให้ขึ้นเวทีสุดยอดผู้นำครั้งนี้ ประกอบด้วย:• ดร.ศุภชัย ตันติคมน์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการรับมือกับการเปลี่ยนแปลง กรุงเทพมหานคร ขึ้นอภิปรายในหัวข้อ “Future Cities Panel - Building the Foundations of Smart Cities and Beyond” เพื่อแชร์ไอเดียเกี่ยวกับความสำคัญของการพัฒนาด้าน Infrastructure และการบริหารจัดการข้อมูล Big Data เพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งมีบทบาทในการช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและแก้ปัญหาสังคมต่างๆ • นายสุวิทย์ พฤกษ์วัฒนานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท มิว สเปซ คอร์ป บริษัทผู้ให้บริการด้านดาวเทียมบรอดแบนด์และการเชื่อมต่อเคลื่อนที่ ขึ้นอภิปรายในหัวข้อ “Spectrum Fire-side Chat:Driving Meaningful Business Strategies and Outcomes from 5G Enabled dervices” เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการจัดสรรการใช้คลื่นความถี่ที่มีอยู่อย่างจำกัดให้มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมด้านปาฐกถาพิเศษที่ได้รับเกียรติจาก มร.แฮเรียต กรีน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธาน บริษัท ไอบีเอ็ม เอเชียแปซิฟิค จะสำรวจว่าการเปลี่ยนจากการทดลองทางดิจิตอลเป็นการปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ จะเปลี่ยนคุณค่าของห่วงโซ่อุตสาหกรรมทั้งหมด รวมถึงเปลี่ยนวิธีการทำงานและการใช้ชีวิตของเราอย่างไรนอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำจะได้กระทบไหล่กับคนดังจากแวดวงการสื่อสารและโทรคมนาคม เทคโนโลยี และบรอดคาสท์มีเดียระดับโลก อาทิ• Dr Min Sun, Chief Artificial Intelligence (AI) Scientist, Appier• Muhamed Zilkhairilishamuddin, Assistant Vice President, OTT Principal Engineer, Astro• Dr Keeratpal Singh, Chief Data Scientist, Axiata• Ong Geok Chwee, CEO, Bridge Alliance• Cheryl Goh, Group Vice President of Marketing, Grab• Dr David Soldani, CTO, Huawei Australia• Jason Little, Chief Information Officer - SEA, Manulife• Ian Yip, Chief Technology Officer, McAfee Asia Pacific• Gustavo Fuchs, General Manager - Cloud & Solutions (Asia), Microsoft • Krishnan Rajagopalan, Director of Payments APAC, Netflix• Seizo Onoe, President of DOCOMO Technology and Chief Technology Architect, NTT DoCoMo• Andreas Spanner, Chief Architect (ANZ), Red Hat งานคอนเนคเทคเอเชีย เป็นงานแสดงความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไอทีที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย โดยรวมงานแสดงนวัตกรรมและโซลูชั่นล่าสุดของบริษัทชั้นนำทั่วโลก 3 งานใหญ่ไว้ด้วยกัน คือ งานคอมมิวนิคเอเชีย งานบรอดคาสท์เอเชีย และงานเน็กซ์เอเชีย ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 20 มิถุนายน 2562 ณ มาริน่า เบย์ แซนด์ (Marina Bay Sands) และซันเทค (Suntec) ประเทศสิงคโปร์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ConnecTechAsia กรุณาเยี่ยมชม www.connectechasia.com_________________________________________เกี่ยวกับ UBMConnecTechAsia จัดโดย UBM ซึ่งในเดือนมิถุนายน 2561 ได้รวมเข้ากับ Informa PLC เพื่อเป็นกลุ่มบริการข้อมูล B2B ชั้นนำและเป็นผู้จัดงาน B2B ที่ใหญ่ที่สุดในโลก กรุณาเยี่ยมชม www.ubm.com/singapore สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะของเราในสิงคโปร์
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 5 ฉ.3 – ปฏิทินกิจกรรม
ขอเชิญ SME เข้าสัมมนา 2 หัวข้อ เพิ่มโอกาสธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ขอเชิญผู้ประกอบการ SME เข้าร่วมสัมมนาหัวข้อ “จัดอันดับธุรกิจเทคโนโลยี ทางออกแหล่งทุนเพื่อภาคอุตสาหกรรม” เพื่อรับฟังความรู้ในเรื่องเทคโนโลยีมีอันดับ ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพของอุตสาหกรรมไทย และหัวข้อ “GEF UNIDO Cleantech Programme for SMEs in Thailand: นวัตกรรมเทคโนโลยีสะอาด โอกาสใหม่ของธุรกิจ SMEs” เพื่อรับฟังการแนะนำโครงการ และสิทธิประโยชน์จากการเข้าร่วมโครงการ ในวันพุธที่ 19 มิถุนายน 2562 ภายใต้งาน Manufacturing Expo 2019 เวลา 13.00 - 16.00 น. ณ ห้อง MR217 และ MR216 ตามลำดับ ด่วน! รับจำนวนจำกัด ผู้สนใจลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่ https://forms.gle/iFTDnMmQt8oSSJt1A และ https://forms.gle/URQZ2Qwy2iYSmWW9A สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 2644 81509 ต่อ 81890 หรืออีเมล mkt@nstda.or.th สวทช. ขอเชิญผู้ประกอบการอาหารไทย ศึกษาดูงานอาหารฟังก์ชั่น ที่ไต้หวัน สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP) ร่วมกับโปรแกรมบริหารผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและเสริมอาหาร TCELS ขอเชิญผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหาร และที่เกี่ยวข้อง รวมถึงอาจารย์ และนักวิจัย เข้าร่วมกิจกรรมศึกษาดูงานอาหารฟังก์ชั่น (Functional Food in Taiwan) ณ เมืองผิงตง และเมืองไทเป ประเทศไต้หวัน ระหว่างวันที่ 17 - 22 มิถุนายน 2562 เพื่อเรียนรู้แนวคิดการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยีการผลิต นวัตกรรม และตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารฟังก์ชั่น เป็นแนวทางวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอาหารเชิงสุขภาพรองรับสังคมผู้สูงอายุ และการพัฒนาอาหารเพื่อป้องกันโรค NCDs ของไทยต่อไป รับจำนวนจำกัด 20 ท่าน ภายใน 28 พ.ค. นี้ ค่าใช้จ่ายท่านละ 36,000 บาท (ยังไม่รวม VAT 7%) ลงทะเบียนได้ที่ https://forms.gle/JCJC7gnX5A5oHmkSA สอบถามเพิ่มเติม โทร. 089 118 6115, 0 2564 7000 ต่อ 1388 กิจกรรมค่ายจุดประกายนวัตกรน้อย สำหรับนักเรียน ม.3 (Gate Prpgram) จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย10-12 มิถุนายน 2562 ณ ห้องออดิทอเรียม บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. จ.ปทุมธานี กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรเฉพาะทางโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยประเทศไทย ประจำปี 2562 สำหนับครูเครือข่าย สวทช.13-14 มิถุนายน 2562 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. จ.ปทุมธานี กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “การทดสอบคุณสมบัติการยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ครั้งที่ 1”17-19 มิถุนายน 2562 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. จ.ปทุมธานี กิจกรรมค่ายหนึ่งวัน (One Day Camp) สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนสตรีวิทยา 218 มิถุนายน 2562 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. จ.ปทุมธานี กิจกรรมพัฒนาการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์และอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น ให้แก่โรงเรียนในพื้นที่แขวงเวียงจันทร์ สาธารณรัฐประชธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว)19-23 มิถุนายน 2562 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. จ.ปทุมธานี กิจกรรมฝึกอบรมเฉพาะทางเทคโนโลยีชีวภาพการเกษตรหัวข้อ “การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชขั้นพื้นฐาน (ไม้ดอกไม้ประดับ)” สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 4 และชั้นปีที่ 5 โรงเรียนเซนต์โยเซฟทิพวัล20-21 มิถุนายน 2562 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. จ.ปทุมธานี กิจกรรม “Show & Share 2019 : สิ่งประดิษฐ์สมองกลฝังตัว” 22 มิถุนายน 2562 ณ ศูนย์ประชุม อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (อาคาร CC) สวทช. จ.ปทุมธานี กิจกรรมฝึกทักษะทางวิศวกรรมเพื่อการพัฒนานวัตกรรุ่นเยาว์ ประจำปี 2562 หัวข้อ “3D modelling design & 3D Printer” สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น26 มิถุนายน 2562 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. จ.ปทุมธานี
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 5 ฉ.3 – ‘ปะการังทนร้อน’ ทางรอดโลกวิกฤติ
‘ปะการังทนร้อน’ ทางรอดโลกวิกฤติ ทั่วโลกสูญเสียปะการังไปแล้ว50%ในช่วง 30ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าในปี2050 แนวปะการังอาจตายลงเกือบทั้งหมด อุณหภูมิน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นจากภาวะโลกร้อน ก่อให้เกิด ‘ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว’ที่กำลังสร้างหายนะให้แก่แนวปะการังทั่วโลก นักวิทยาศาสตร์ไทยเร่งศึกษา‘ความหลากหลายพันธุกรรม’เฝ้าระวังปะการังไทยเสี่ยงสูญพันธุ์และใช้เครื่องหมายโมเลกุล (DNA marker) ทำนาย ‘ปะการังทนร้อน’หนึ่งในทางรอดของปะการังท่ามกลางวิกฤติโลก วันที่ 22 พฤษภาคม ของทุกปี องค์การสหประชาชาติประกาศให้เป็น ‘วันสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ (International Day of Biological Diversity)’เพื่อกระตุ้นเตือนให้ประชาคมโลกต่างตระหนักถึงความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ แต่นับวันสถานการณ์ทรัพยากรธรรมชาติกลับเลวร้ายลงทุกที ล่าสุดรายงานประเมินสถานการณ์โลกด้านความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศวิทยาระบุว่า พืชและสัตว์ราว 1 ล้านสายพันธุ์ จากทั้งหมด 8 ล้านสายพันธุ์ทั่วโลกกำลังเผชิญความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์!และนั่นรวมถึง ‘ปะการัง’ ไม่เพียงแค่การลักลอบจับปะการัง การทำประมงมากเกินความจำเป็นจะเป็นภัยคุกคามต่อปะการังแล้ว การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน คือตัวแปรสำคัญที่ก่อให้เกิด ‘ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว (Coral Bleaching)’ ซึ่งกำลังสร้างความเสียหายให้แก่แนวปะการังและระบบนิเวศทางทะเลทั่วโลก และสถานการณ์ยังคงมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น และนั่นคือสัญญาณเตือนภัยต่อมนุษย์   น้ำทะเลร้อน ปะการังฟอกขาว ‘เมษา องศาเดือด’ ที่ผ่านมา อุณหภูมิที่พุ่งสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ทำเอาหลายคนบ่นอุบว่าอากาศช่างร้อนเสียเหลือเกิน แม้แต่น้ำประปาก็ยังได้ใช้น้ำอุ่นกันถ้วนหน้าโดยที่ไม่ต้องเสียเงินติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเสียด้วยซ้ำ แต่มนุษย์เองยังสามารถหลบแดด เปิดเครื่องทำความเย็นช่วยคลายร้อนได้ แต่สำหรับปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลที่ต้องแช่อยู่ในน้ำทะเลที่แสนอุ่นทั้งวันคงไม่อาจทานทนได้ ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว คือ ภาวะที่ปะการังมีสีซีดจางจนมองเห็นเป็นสีขาว ซึ่งเป็นผลมาจากการสูญเสียสาหร่าย Symbiodinium สาหร่ายขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในเนื้อเยื่อของปะการัง โดยปกติสาหร่ายซึ่งมีสีน้ำตาลจะอยู่ร่วมกับปะการังแบบพึ่งพากัน ปะการังให้ที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัย ขณะที่สาหร่ายสังเคราะห์แสงแบ่งอาหารและคาร์บอนให้แก่ปะการังเพื่อใช้ในการเจริญเติบโตและสร้างโครงสร้างหินปูน ซึ่งปะการังได้อาหารจากสาหร่ายมากถึง 70% ของพลังงานทั้งหมด ขณะเดียวกันสาหร่ายยังมีส่วนสร้างสีสันที่สวยงามให้แก่ปะการัง เพราะปกติเนื้อเยื่อของปะการังเป็นเพียงเนื้อเยื่อใสๆ เท่านั้น แต่เมื่ออุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น สาหร่ายจะผลิตอนุมูลอิสระ (free radical) ในปริมาณมาก ซึ่งเป็นพิษต่อเนื้อเยื่อของปะการัง ปะการังจึงขับสาหร่ายออกจากเนื้อเยื่อเพื่อลดปริมาณอนุมูลอิสระในเซลล์ ปะการังจึงเหลือเพียงเนื้อเยื่อใสๆ เผยให้เห็นสีขาวของโครงสร้างหินปูนที่อยู่ภายใน จนเป็นที่มาของ ‘ปะการังฟอกขาว’ การสูญเสียสาหร่ายไม่ได้เพียงพรากสีสันไปจากปะการังเท่านั้น แต่การฟอกขาวเป็นระยะเวลานาน ทำให้ปะการังขาดอาหาร และมีโอกาสตายสูง เดือดร้อนทำไม แค่ปะการังตาย? แนวปะการังไม่เพียงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม สร้างความเพลิดเพลินหรือไว้เซลฟี่สวยๆ ใต้ทะเลเท่านั้น แต่แนวปะการังเป็นทั้งแหล่งผลิตอาหารและสร้างอาชีพที่สำคัญของมวลมนุษยชาติ แม้ว่าแนวปะการังจะครอบคลุมพื้นที่แค่ 1% ของพื้นที่ใต้ทะเลทั้งหมด แต่ว่าสิ่งมีชีวิตในทะเลประมาณ 25% ใช้ประโยชน์จากปะการัง ทั้งเป็นที่อยู่อาศัย แหล่งอาหาร แหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ และที่หลบภัยของสัตว์ทะเลจำนวนมาก อีกทั้งยังมีประชากรกว่า 500 ล้านคนบนโลกที่ต้องอาศัยพึ่งพาประโยชน์จากแนวปะการัง มีการประมาณการว่ามูลค่าที่ได้จากแนวปะการังทั่วโลกนั้นสูงกว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี การสูญเสียแนวปะการังที่ใช้เวลาเติบโตนานนับ 100 ปี ในชั่วพริบตา ย่อมหมายถึงการสูญหายของสัตว์ทะเลจำนวนมาก ปลาในมหาสมุทรเกือบครึ่งหากินในแนวปะการังแทบทั้งสิ้น และแน่นอนเราจะขาดแคลนแหล่งอาหาร มีคนอีกจำนวนมากที่ต้องตกงานและขาดรายได้จากการทำประมงและการท่องเที่ยว ท้ายที่สุดจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ศึกษาพันธุกรรม เฝ้าระวังปะการังสูญพันธุ์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ร่วมมือกับศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเล กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ศึกษาวิจัย ‘กระบวนการตอบสนองของปะการังต่อการเพิ่มอุณหภูมิของน้ำทะเลและการประเมินความหลากหลายทางพันธุกรรมของปะการังในน่านน้ำไทยเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศใต้ท้องทะเลอย่างยั่งยืน’ ดร.วิรัลดา ภูตะคาม นักวิจัยศูนย์โอมิกส์แห่งชาติ สวทช. เริ่มต้นศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรมของปะการัง เนื่องจากประเทศไทยไม่เคยมีการศึกษามาก่อน และความหลากหลายทางพันธุกรรมถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตแต่ละสายพันธุ์ เช่น หากปะการังเขากวางที่เหลืออยู่ในทะเลไทยมีความหลากหลายทางพันธุกรรมน้อยมาก หรืออาจเปรียบเทียบได้ว่าโลกของเราเหลือแค่กลุ่มคนเอเชียเท่านั้น เมื่อเกิดโรคระบาดหรือภัยพิบัติรุนแรงที่มีผลจำเพาะต่อปะการังเขากวางหรือคนเอเชีย สิ่งมีชีวิตสายพันธุ์นี้จะมีโอกาสตายทั้งหมดหรือสูญพันธุ์ ในงานวิจัยเริ่มศึกษาจากปะการังโขด (Porites lutea) เนื่องจากเป็นปะการังชนิดเด่นและเป็นโครงสร้างหลักของแนวปะการังในทะเลไทย ที่สำคัญมีแนวโน้มอยู่รอดได้เมื่อเกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว โดยศึกษาตัวอย่างปะการังโขดจาก 16 เกาะ ที่กระจายอยู่ในอ่าวไทยและอันดามัน ผลวิจัยเบื้องต้นพบว่า ความหลากหลายทางพันธุกรรมของปะการังโขดในทะเลฝั่งอันดามันมีน้อยกว่าทางฝั่งอ่าวไทย นั่นคือหากเกิดการฟอกขาวหรือโรคระบาดที่มีผลต่อปะการังโขดในฝั่งอันดามันจะมีโอกาสเสี่ยงสูญพันธุ์ได้ ทั้งนี้ยังได้เตรียมศึกษาปะการังสกุลอื่นๆ เช่น ปะการังเขากวาง ปะการังดอกกะหล่ำ ปะการังผิวเกล็ดน้ำแข็ง และปะการังลายดอกไม้ เพื่อสร้างฐานข้อมูลความหลากหลายทางพันธุกรรมปะการังของประเทศ สำหรับเฝ้าระวังปะการังสายพันธุ์ต่างๆ ที่อาจเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ และอาจเป็นหนทางสู่การอนุรักษ์ฟื้นฟู เช่น นำปะการังมาผสมเทียมแบบอาศัยเพศ เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางพันธุกรรม สร้างโอกาสในการอยู่รอดมากขึ้น ปะการังทนร้อน หนทางรอดภาวะฟอกขาว ทีมวิจัยยังได้ศึกษาลงลึกถึงระดับยีนเพื่อหา ‘ปะการังทนร้อน’ ด้วยการสกัดสารพันธุกรรมอาร์เอ็นเอ (RNA) เพื่อศึกษาการแสดงออกของยีนต่างๆ เมื่อเกิดการฟอกขาว และเปรียบเทียบระหว่างปะการังโคโลนีที่ทนร้อนกับฟอกขาวว่ามีปฏิกิริยาตอบสนองต่ออุณหภูมิน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นต่างกันหรือไม่ ผลการวิจัยเบื้องต้นพบยีนที่แสดงออกแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ยีนส่วนใหญ่มีการแสดงออกสูงขึ้น เช่น กลุ่มยีนที่มีบทบาทในการกำจัดปริมาณอนุมูลอิสระที่สาหร่าย Symbiodinium ผลิตมากผิดปกติไปในช่วงที่อุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น นอกจากนี้ยังพบยีนอีกหลายตำแหน่งที่แสดงออกแตกต่างกัน ซึ่งทีมวิจัยอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ข้อมูล และค้นหาเครื่องหมายโมเลกุล (DNA marker) ที่สัมพันธ์กับลักษณะการทนต่อการเพิ่มอุณหภูมิของน้ำทะเล หรือความทนร้อนของปะการัง สำหรับใช้คัดเลือกปะการังพ่อแม่พันธุ์ที่ทนร้อน เพื่อขยายพันธุ์ ก่อนทำการย้ายปลูกกลับสู่ทะเล ช่วยให้การฟื้นฟูมีประสิทธิภาพ ได้ปะการังที่ทนต่อสภาวะภูมิอากาศที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นในอนาคต แม้การใช้เทคโนโลยีจีโนมิกส์มาช่วยในการอนุรักษ์ฟื้นฟูปะการังมีบทบาทสำคัญและอาจเป็นความหวังต่อป้องกันการสูญพันธุ์ของปะการังบางสายพันธุ์ได้ แต่สิ่งที่จะนำไปสู่การอนุรักษ์ความหลากหลายของปะการังและสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ได้ดีที่สุด คือความร่วมมือและพยายามอย่างจริงจังในการหันกลับมาดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เรียบเรียง : วัชราภรณ์ สนทนา ฝ่ายเผยแพร่วิทยาศาสตร์ สวทช. ภาพ : ดร.ลลิตา ปัจฉิม, วุฒิชัย เหมือนทอง งานวิจัย : กระบวนการตอบสนองของปะการังต่อการเพิ่มอุณหภูมิของน้ำทะเลและการประเมินความหลากหลายทางพันธุกรรมของปะการังในน่านน้ำไทยเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศใต้ท้องทะเลอย่างยั่งยืน โดย ดร.วิรัลดา ภูตะคาม และคณะวิจัยศูนย์โอมิกส์แห่งชาติ สวทช.
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
บทความ
 
ชวนเมกเกอร์รุ่นใหม่ ประชันไอเดียสร้างนวัตกรรมเพื่อสังคมที่ยั่งยืน โครงการ Enjoy Science: Young Makers Contest ปี 4
• เชิญชวนเมกเกอร์รุ่นใหม่ระดับนักเรียน-นักศึกษาทั้งสายสามัญและอาชีวศึกษา เข้าร่วมสุดยอดงานประกวดสิ่งประดิษฐ์ภายใต้หัวข้อ “Social Innovations: นวัตกรรมเพื่อสังคมที่ยั่งยืน” • ชิงเงินรางวัลและทริปเปิดประสบการณ์เมกเกอร์ในงาน Maker Faire ระดับโลก ณ สหรัฐอเมริกา• ส่งผลงานได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2562 ดูรายละเอียดเพิ่มได้ที่เฟซบุ๊ก Enjoy Science: Young Makers Contest 5 มิถุนายน 2562 – โครงการ Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต นำโดย บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด จับมือพันธมิตรหลัก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กระทรวงศึกษาธิการ สานต่อโครงการ “Enjoy Science: Young Makers Contest ปี 4” เชิญชวน ‘เมกเกอร์’ หรือนักสร้างสรรค์นวัตกรรมรุ่นใหม่ ระดับนักเรียน-นักศึกษาทั้งสายสามัญและอาชีวศึกษา ร่วมประกวดสิ่งประดิษฐ์ในหัวข้อ “Social Innovations: นวัตกรรมเพื่อสังคมที่ยั่งยืน” เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ในสังคม ส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคมและชุมชนให้ดีขึ้น ชิงรางวัลใหญ่ทริป ร่วมงาน Maker Faire มหกรรมแสดงผลงานของเหล่าเมกเกอร์ระดับโลก ณ สหรัฐอเมริกา และรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 1.2 ล้านบาท (more…)
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 5 ฉ.3 – ไบโอเทค สวทช. จับมือ ศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพเปิดตัว AmiBase (ASEAN Microbial Database) ฐานข้อมูลจุลินทรีย์อาเซียน
ไบโอเทค สวทช. จับมือ ศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ เปิดตัว AmiBase (ASEAN Microbial Database) ฐานข้อมูลจุลินทรีย์อาเซียน 23พฤษภาคม 2562 กรุงเทพฯ: กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม โดย ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (ASEAN Centre for Biodiversity: ACB) เปิดตัว “ฐานข้อมูลจุลินทรีย์อาเซียน หรือ AmiBase (ASEAN Microbial Database) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีการรวบรวมข้อมูลของจุลินทรีย์ที่ค้นพบในอาเซียนไว้มากกว่า30,000 ชนิด ซึ่งจุลินทรีย์เหล่านี้มีประโยชน์ในการสร้างนวัตกรรม เพื่อพัฒนาทางเทคโนโลยีชีวภาพในภูมิภาค ให้ก้าวไปสู่เศรษฐกิจฐานชีวภาพ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความอุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมากแห่งหนึ่งของโลกโดยเฉพาะความหลากหลายของจุลินทรีย์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ และถือเป็นรากฐานความสำคัญของเทคโนโลยีชีวภาพเพื่อผลักดันอุตสาหกรรมด้านอาหาร การแพทย์ การเกษตร และพลังงาน ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพให้ทันกับพลวัตการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งทางกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม โดยไบโอเทค สวทช. ได้ผนึกกำลังผสานความร่วมมือกับเครือข่ายอาเซียนด้านการใช้ประโยชน์จากจุลินทรีย์(ASEAN Network on Microbial Utilization: AnMicro) กับ ACB ดำเนินโครงการพัฒนาและจัดตั้งศูนย์ข้อมูลจุลินทรีย์แห่งอาเซียน โดยได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณจากกองทุนอาเซียนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (ASEAN Science, Technology and Innovation Fund) นำไปสู่การพัฒนา AmiBase เพื่อเป็นฐานข้อมูลสนับสนุนนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์และผู้สนใจในการศึกษาวิจัยการใช้ประโยชน์จุลินทรีย์ การพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีชีวภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่https://www.nstda.or.th/th/news/12573-20190523-acb
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย