หน้าแรก ค้นหา
ผลการค้นหา :
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 5 ฉบับที่ 9 ประจำเดือนธันวาคม 2562
ข่าว สวทช. ร่วมกับ TMA เปิดประเด็นนวัตกรรมอาหารเพื่อมนุษยชาติ ในงาน Food Innopolis 2019 สวทช. ร่วมกับพันธมิตรโชว์นวัตกรรม “ถุงพลาสติกสลายตัวได้” ประเดิมงาน “กาชาดสีเขียว 62” สวทช. จับมือ สอว. ดึงผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ยกระดับหน่วยบ่มเพาะธุรกิจฯ ทั่วประเทศ สวทช. ส่งต่อทูตเยาวชน JENESYS 2019 บินลัดฟ้าเรียนรู้ วทน. แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ธ.ก.ส. ร่วมกับ สวทช. หนุนพัฒนานวัตกรรมการเกษตรดิจิทัล สวทช. ร่วมกับ จ.ปทุมฯ และเครือข่ายพันธมิตร จัดเวิร์คชอปเรียนรู้โค้ดดิ้งเรื่อง PM 2.5 สวทช. ผลักศูนย์น้องใหม่ NSD ขับเคลื่อน S-Curve ที่ 11 พัฒนานวัตกรรมรับอุตฯป้องกันประเทศ สวทช. อว. ผนึก สยามพิวรรธน์ พีทีทีจีซี โชว์เครื่องกรองอากาศ ‘IonFresh’ ต้นคริสต์มาสรักษ์โลก สวทช. จุดประกายนักวิทย์ฯน้อย ผ่าน Science Film Festival 2019   บทความ สวทช. รักษ์โลก เปิดตัว “ถุงขยะย่อยสลายได้”   ปฏิทินกิจกรรม สวทช. เปิดรับ Food SMEs ร่วมอบรม PADTHAI Batch#5    Download เอกสารฉบับเต็ม [8.96 MB] NSTDA Newsletter ปีที่ 5 ฉบับที่ 9 ประจำเดือนธันวาคม 2562 from National Science and Technology Development Agency (NSTDA) - Thailand  
จดหมายข่าว สวทช.
 
สวทช. จัดงาน Innovation Network Center เพิ่มโอกาสและความท้าทายสินค้านวัตกรรมไทย
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ณ ห้อง Auditorium อาคารศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี : อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (Thailand Science Park) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดกิจกรรม “Innovation Network Center” แก่ผู้ประกอบการ SME และผู้เช่าพื้นที่ในอุทยานวิทยาศาสตร์กว่า 200 คน เพื่อให้เป็นเวทีเครือข่ายแลกเปลี่ยนความรู้ในเรื่องการพัฒนานวัตกรรมระหว่างกัน โดยมีนางสุวิภา วรรณสาธพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวเปิดงานและให้การต้อนรับ ไฮไลท์ในงาน Innovation Network Center ได้แก่ การเสวนาในหัวข้อเรื่อง “โอกาสและความท้าทายสินค้านวัตกรรมไทย” โดยมีผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วย คุณประพันธ์ วิไลเลิศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเด็นทอล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ดร.นพดล โปธิตา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชียงใหม่ เอ็นไวรอนเม้นท์โปรเทค จำกัด คุณธนัฐณ์ มีศรี Sales & Marketing Director บริษัท คีนน์ จำกัด และคุณสุดารัตน์ พุกบุญมี นักวิเคราะห์อาวุโส งานส่งเสริมนวัตกรรมสู่เชิงพาณิชย์ ฝ่ายบริการทางการเงินเพื่อนวัตกรรม สวทช. เพื่อให้เป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลจากผู้ประกอบการสินค้านวัตกรรมโดยคนไทยที่มีคุณภาพผ่านมาตรฐาน (more…)
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 5 ฉ.9 – ปฏิทินกิจกรรม
สวทช. เปิดรับ Food SMEs ร่วมอบรม PADTHAI Batch #5 เมืองนวัตกรรมอาหาร (Food Innopolis) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย FI Accelerator ร่วมกับ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เปิดรับสมัครผู้ประกอบการ SMEs ทายาทธุรกิจด้านนวัตกรรมอาหาร ที่ต้องการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ รวมถึงบุคลากรที่รับผิดชอบการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมอาหารขององค์กร โดยต้องจดทะเบียนนิติบุคคลมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี เข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการใน “โครงการอบรมเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการอาหาร SMEs ด้านนวัตกรรมอาหารของไทย ครั้งที่ 5 (PADTHAI #5)” หลักสูตรเข้มข้น 5 วัน 5 คืน จากผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจอาหารโดยตรง พร้อมรับโอกาสมากมาย เช่น การเข้าถึงแหล่งสนับสนุนทุน ตลาด และการแข่งขันนำเสนอแผนธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เปิดรับสมัครวันนี้ - 6 ม.ค. 63 และจะฝึกอบรมแบบเข้มข้น 3 - 7 ก.พ. 63 ณ โรงแรมแสนโฮเทล จ.เชียงราย มีค่าใช้จ่ายลงทะเบียนฝึกอบรม ดูข้อมูลเพิ่มเติมและลิงค์สมัครที่ https://forms.gle/KPrgbi19gq59o1DXA หรือเพจเฟซบุ๊ก PADTHAI by Food Innopolis สอบถามโทร. 091-7135433 (กรองจิตร), 082-441-4169 (สันติ)
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 5 ฉ.9 – สวทช. รักษ์โลก เปิดตัว “ถุงขยะย่อยสลายได้”
สวทช. รักษ์โลก เปิดตัว “ถุงขยะย่อยสลายได้” นับวันขยะพลาสติกจะเป็นปัญหาที่รุนแรงและมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่ผ่านมามีการผลิตพลาสติกเพื่อใช้งานบนโลกนี้แล้วกว่า 8,800 ล้านตัน ซึ่งกว่าร้อยละ 40 เป็นขยะพลาสติกใช้งานเพียงครั้งเดียวแล้วทิ้ง และร้อยละ 88 ของขยะพลาสติกทั้งหมดถูกกำจัดโดยการฝังกลบ เผา ทิ้งลงแม่น้ำและไหลสู่ทะเล สร้างผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและกำลังย้อนกลับมาสร้างปัญหากับมนุษย์ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ หรือ เอ็มเทค (MTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร พัฒนา “ถุงพลาสติกย่อยสลายได้” ซึ่งเป็นการคิดค้นสูตรเม็ดพลาสติกคอมพาวด์สำหรับการผลิตต้นแบบถุงพลาสติกย่อยสลายได้ที่สามารถขยายการผลิตในระดับอุตสาหกรรมได้เป็นครั้งแรกของประเทศ โดยมีวัตถุดิบหลักเป็นมันสำปะหลังที่เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย และมีการนำไปใช้งานจริงแล้วในงานกาชาดประจำปี 2562 ถุงพลาสติกย่อยสลายได้ฝีมือนักวิจัยไทย       ดร.นพดล เกิดดอนแฝก นักวิจัย MTEC อธิบายถึงแนวคิดในการทำวิจัยว่า ที่ผ่านมาการผลิตถุงพลาสติกย่อยสลายได้ในประเทศมีต้นทุนสูง เพราะต้องอาศัยการนำเข้าเม็ดพลาสติกชีวภาพพร้อมขึ้นรูปหรือคอมพาวด์ (Compound) จากต่างประเทศ ดังนั้นเพื่อผลักดันให้สามารถผลิตถุงพลาสติกย่อยสลายได้เอง จึงมีการรวมตัวของผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำเพื่อทำวิจัยร่วมกัน ทั้งผู้ผลิตแป้งมันสำปะหลัง ผู้นำเข้าเม็ดพลาสติกชีวภาพ นักวิจัย และผู้ผลิตในส่วนเป่าขึ้นรูปถุงพลาสติก เพื่อให้สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในราคาจับต้องได้ “จุดเด่นของถุงพลาสติกย่อยสลายได้ที่พัฒนาขึ้นคือ มีการนำเอาแป้งจากมันสำปะหลังซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจไทยมาเป็นส่วนประกอบหลักสูงถึงร้อยละ 40 ซึ่งมากกว่าถุงพลาสติกย่อยสลายได้ทั่วไป นอกจากมีส่วนสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการย่อยสลายตัวเองของพลาสติกแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนการผลิตลงได้มากอีกด้วย ทั้งนี้ในการผลิตได้ลดจุดอ่อนในเรื่องการละลายน้ำของแป้งมันสำปะหลังลง ด้วยการใช้เทคนิคทวินสกรูว์เอกซ์ทรูชัน (Twin screw extrusion) ในการหลอมส่วนผสมเข้ากับเม็ดพลาสติกชีวภาพอีก 2 ชนิด PLA และ PBAT ในสัดส่วนและอุณหภูมิที่เหมาะสม ทำให้ได้ออกมาเป็นเม็ดพลาสติกคอมพาวด์ที่มีความเหมาะสมแก่การขึ้นรูปด้วยกระบวนการเป่าเป็นถุงพลาสติก ตอบโจทย์ทั้งความยืดหยุ่น เหนียว แข็งแรง และย่อยสลายได้เร็วภายใต้ภาวะที่มีความชื้นและจุลินทรีย์ที่เหมาะสม โดยไม่ต้องใช้สารเคมีอันตรายเป็นส่วนผสม ทุกขั้นตอนการผลิตใช้เครื่องจักรพื้นฐานที่มีการใช้งานภายในประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถนำเอาองค์ความรู้ไปใช้ผลิตเพื่อจำหน่ายได้ง่าย” จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการ ทีมวิจัยพบว่าหากมีการนำไปฝังในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิและความชื้นเหมาะสม ถุงพลาสติกชนิดนี้สามารถย่อยสลายได้ภายในเวลา 3 – 4 เดือน โดยมีจุลินทรีย์ทำหน้าที่เป็นผู้ย่อยสลาย แต่หากนำไปฝังในพื้นที่จัดการขยะซึ่งมีอุณหภูมิสูงกว่า คาดว่าจะสามารถย่อยสลายได้เร็วขึ้น คือภายในเวลา 3 เดือนหรือน้อยกว่านั้น โดยในการคิดค้นถุงพลาสติกย่อยสลายได้ครั้งนี้ นักวิจัยมีความตั้งใจที่จะนำไปใช้ลดปัญหาการคัดแยกหรือการจัดการขยะอินทรีย์ “ถุงพลาสติกชนิดนี้มีเป้าหมายในการใช้กำจัดขยะอินทรีย์ เพราะขยะอินทรีย์เป็นขยะที่มีปริมาณมากถึงร้อยละ 65 ของปริมาณขยะทั้งหมด ซึ่งมักไม่ได้รับการคัดแยกเพื่อกำจัดอย่างถูกวิธี ทำให้เกิดการปนเปื้อนและลดมูลค่าของขยะรีไซเคิลลง ดังนั้นเพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดการคัดแยกก่อนทิ้ง และสามารถกำจัดได้อย่างปลอดภัย ถุงพลาสติกย่อยสลายได้ชนิดนี้จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการใช้กำจัด เพราะเมื่อทั้งถุงและขยะอินทรีย์เกิดการย่อยสลายรวมกันจนเสร็จสิ้นแล้ว จะได้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ น้ำ สารอนินทรีย์ และชีวมวล ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนสำคัญในการปลูกพืชให้กับเกษตรกรได้” ประเดิมใช้งาน “ถุงพลาสติกย่อยสลายได้” ในงานกาชาดสีเขียว จากความสำเร็จในการคิดค้นสูตรการผลิต “ถุงพลาสติกย่อยสลายได้” ได้เปิดตัวให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการทดลองใช้แล้ว ใน “งานกาชาดประจำปี 2562” ระหว่างวันที่ 15–24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ สวนลุมพินี กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการจัดงานภายใต้แนวคิดกาชาดสีเขียวเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยได้รับความร่วมมือจากภาคีภาคอุตสาหกรรมผู้ร่วมทำวิจัยและสนับสนุนการผลิตเพื่อให้เกิดการทดลองใช้จริง บริษัท เอสเอ็มเอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด ให้การสนับสนุนแป้งมันสำปะหลัง บริษัท โททาล คอร์เบียน พีแอลเอ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท บีเอเอสเอฟ (ไทย) จำกัด ให้การสนับสนุนเม็ดพลาสติกชีวภาพ และ บริษัท ทานตะวันอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) ให้การสนับสนุนกระบวนการเป่าขึ้นรูปถุงพลาสติกย่อยสลายได้ ภายในงานมีถุงพลาสติกสำหรับใช้ทิ้งขยะอินทรีย์ให้บริการ 2 ขนาด คือ ขนาด 18 x 20 นิ้ว สำหรับให้บริการตามร้านขายอาหาร และขนาด 30 x 45 นิ้ว สำหรับให้บริการตามจุดทิ้งขยะทั่วงาน จำนวนรวม 23,800 ใบ น้ำหนักรวม 1.5 ตัน โดยมีอาสาสมัครประจำทุกจุดทิ้งขยะเพื่ออธิบายการทิ้งอย่างถูกวิธีให้กับผู้เที่ยวชมภายในงาน และคณะวิจัยจะดำเนินงานติดตามผลการจัดการขยะจริงต่อเนื่องเป็นเวลาอีก 3 เดือน เพื่อยืนยันผลการใช้และนำไปปรับปรุงพัฒนาผลงานต่อไป สำหรับต้นทุนในการผลิตถุงพลาสติกมาใช้ในงานกาชาดครั้งนี้ เนื่องจากมีการผลิตจำนวนไม่มากจึงมีราคาเทียบเท่ากับที่จำหน่ายในต่างประเทศ คือ ถุงพลาสติกขนาดเล็ก 18 x 20 นิ้ว ความหนา 35 ไมครอน มีราคาใบละ 4 บาท ถุงพลาสติกขนาดใหญ่ 30 x 45 นิ้ว ความหนา 60 ไมครอน มีราคาใบละ 30 บาท แต่ ดร.นพดล ได้อธิบายถึงกลไกทางการตลาดว่า “หากในอนาคตประชาชนมีความต้องการใช้ถุงพลาสติกแบบย่อยสลายได้มากขึ้น จะทำให้มีผู้ผลิตมากขึ้น และราคาถุงจะลดลงจนเป็นราคาที่จับต้องได้มากกว่านี้”           ดร.นพดล กล่าวทิ้งท้ายว่า “ถุงพลาสติกย่อยสลายได้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้เราได้มีโอกาสเลือกใช้พลาสติกได้อย่างเหมาะสม ลดการใช้พลาสติกที่ก่อให้เกิดขยะจำนวนมาก และยังสามารถนำขยะรีไซเคิลกลับไปใช้ประโยชน์อีกครั้งตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular economy) หากทุกคนช่วยกันลดการสร้างขยะพลาสติกที่ก่อให้เกิดมลภาวะจากต้นทาง และมีการจัดการกับขยะอย่างถูกวิธีจนสามารถเปลี่ยนแปลงทั้งระบบได้ ก็จะสามารถดูแลสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน” เรียบเรียงโดย : ภัทรา สัปปินันทน์ ฝ่ายสร้างสรรค์สื่อและผลิตภัณฑ์ สวทช.
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
บทความ
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 5 ฉ.9 – สวทช. จุดประกายนักวิทย์ฯน้อย ผ่าน Science Film Festival 2019
สวทช. จุดประกายนักวิทย์ฯน้อย ผ่าน Science Film Festival 2019 กลับมาอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งกับการเฉลิมฉลองการสื่อสารทางด้านวิทยาศาสตร์ระดับโลก ในงาน “เทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ ครั้งที่ 15 (Science Film Festival 2019)” โดยในปีนี้ สถาบันเกอเธ่ ประเทศไทย ได้ร่วมกับสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) และหน่วยงานพันธมิตร นำสื่อวีดิทัศน์ 18 เรื่อง หลากเนื้อหาหลายอารมณ์จาก 10 ประเทศมาฉายให้เด็กและเยาชนได้ชมในธีม “ฮุมโบลด์ทและสายใยแห่งชีวิต” โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมเป็นหนึ่งใน 6 ศูนย์จัดฉายภาพยนตร์ให้กับเด็กและเยาวชนระหว่างวันที่ 18–28 พฤศจิกายน 2562 นางกุลประภา นาวานุเคราะห์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า “สวทช. ได้ร่วมเป็นพันธมิตรในการเป็นศูนย์จัดฉายภาพยนตร์วิทยาศาสตร์มาอย่างต่อเนื่อง เพราะพันธกิจหลักของ สวทช. นอกจากการสร้างเสริมการวิจัยเพื่อการนำไปใช้ประโยชน์ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อประเทศแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคน ทั้งในด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนสู่อาชีพนักวิจัย การพัฒนาสื่อการเรียนการสอน การสนับสนุนทุนการศึกษา รวมถึงการสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยหันมาสนใจในเรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี “สำหรับหัวข้อการจัดงานครั้งนี้ คือ “ฮุมโบลด์ทและสายใยแห่งชีวิต (Humboldt and the Web of Life)” มาจากวาระครบรอบ 250 ปีชาตกาล ของ อเล็กซานเดอร์ ฟอน ฮุมโบลด์ท (Alexander von Humboldt) นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน ผู้ปฏิวัติแนวคิดทางธรรมชาติและให้คำจำกัดความไว้ว่า “ธรรมชาติเปรียบเสมือนเครือข่ายมีชีวิตที่เชื่อมโยงซึ่งกันและกัน” เพื่อสื่อให้ผู้ชมภาพยนตร์ได้หยุดมองความสัมพันธ์ของแต่ละสิ่ง และใส่ใจว่าทุกการกระทำของตนมีผลต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสื่อที่จัดฉายมีทั้งหมด 18 เรื่อง จาก 10 ประเทศ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ ภาพยนตร์ แอนิเมชัน และหนังสั้น เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และธรรมชาติ มีทั้งแบบซาวด์แทร็ก พากษ์ไทย และมีคำบรรยายภาษาไทย ที่พิเศษคือภายหลังการจัดฉายภาพยนตร์ สวทช. ได้จัดกิจกรรมจุดประกายและส่งเสริมการเรียนรู้ เช่น เกมทางวิทยาศาสตร์ที่สอดคล้องกับภาพยนตร์ และทอล์กโชว์สร้างแรงบันดาลใจในการทำงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากนักวิจัย สวทช. โดยคาดหวังว่าเยาวชนจะได้รับความสนุกสนาน เพลิดเพลินและได้รับสาระความรู้ดีๆ” ด.ญ.กันต์กมล แก้วพูลศรี หรือ น้องเหนือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนประถมศึกษาธรรมศาสตร์ สะท้อนความประทับใจจากการเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ว่า จากการชมภาพยนตร์ มีเรื่องที่ชอบที่สุด 2 เรื่อง คือ การผจญภัยของลูกแก้วสามพี่น้อง ซึ่งนำของที่เห็นได้ทั่วไปมาประดิษฐ์เป็นกลไกให้ลูกแก้วไหลไปตามจุดต่างๆ กับ เรื่องบ้านวิทยาศาสตร์น้อยตอนหอยทากเพื่อนรัก เพราะหอยทากสามารถเดินผ่านอุปสรรคที่เป็น หิน ท่อนไม้ และทางชันได้ ถือเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยรู้มาก่อน สำหรับคนที่ยังไม่ชอบวิทยาศาสตร์ คิดว่าถ้าลองเปิดใจดูจะพบว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องสนุกมากค่ะ ด้าน นางสาวทิฆัมพร ม่วงแจ่ม หรือ น้องไผ่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสามโคก กล่าวว่า ได้ดูเรื่องจากรากเหง้าสู่กำเนิดมนุษย์ ทำให้เห็นปัจจัยต่างๆ ซึ่งส่งผลให้มนุษย์มีวิวัฒนาการมาเป็นอย่างทุกวันนี้ เป็นแรงกระตุ้นให้อยากเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาตนเองและประเทศให้เจริญก้าวหน้า ที่สำคัญหลังจบภาพยนตร์ยังได้ฟังพี่นักวิจัย สวทช. เล่าถึงประสบการณ์เส้นทางสู่การเป็นนักวิจัย การทบทวนเป้าหมาย และการวางเตรียมตัววางแผน ทำให้ยิ่งอยากทำตามฝันในการทำงานด้านการแพทย์ให้สำเร็จ เทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้นับเป็นกิจกรรมดีๆ ที่ช่วยให้เด็กและเยาวชนเห็นว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องใกล้ตัวและสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กและเยาวชนสนใจเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ และก้าวสู่อาชีพนักวิจัยเพื่อขับเคลื่อนประเทศด้วยองค์ความรู้และนวัตกรรม
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 5 ฉ.9 – สวทช. อว. ผนึก สยามพิวรรธน์ พีทีทีจีซี โชว์เครื่องกรองอากาศ ‘IonFresh’ ต้นคริสต์มาสรักษ์โลก ใจกลางเมือง โครงการ “Circular Living Campaign 2019”
สวทช. อว. ผนึก สยามพิวรรธน์ พีทีทีจีซี โชว์เครื่องกรองอากาศ ‘IonFresh’ ต้นคริสต์มาสรักษ์โลก ใจกลางเมือง โครงการ “Circular Living Campaign 2019” 3 ธันวาคม 2562 ณ ลานสยามดิสคัฟเวอรี่ พลาซ่า: กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ร่วมจัดกิจกรรมในโครงการ “Circular Living Campaign 2019” โดย สวทช. ได้นำ ไอออนเฟรซ (IonFresh) เครื่องกรองอากาศแบบไฟฟ้าสถิต (Electrostatic Air Purifier) ซึ่งพัฒนาโดยทีมวิจัยศูนย์เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของประเทศและการประยุกต์เชิงพาณิชย์ สวทช. ติดตั้งที่บริเวณใต้ต้นคริสต์มาส Magical Christmas Tree โดยเครื่อง IonFresh จะช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 มีอัตราการกรองอากาศ 5,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง เพื่อกรองอากาศให้กับประชาชนทั่วไปเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น ณ ลานสยาม ดิสคัฟเวอรี่ พลาซ่า ตั้งแต่บัดนี้  ถึง 11 มกราคม 2563 การสร้างสรรค์ต้นคริสต์มาส Magical Christmas Tree สยามดิสคัฟเวอรี่ ร่วมกับ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ พีพีทีจีซี และได้รับการสนับสนุนจากศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) คิดค้นประดิษฐ์ผลงานต้นคริสต์มาสในแนวรักษ์โลก ซึ่งในปีนี้นำเสนอภายใต้แนวคิด “Clean Air Eco Christmas Tree” ออกแบบเป็นรูปกังหันใบพัดสีขาวทำจากวัสดุเป็นแผ่นกระดาษเคลือบพลาสติกชีวภาพทำจากอ้อย ข้าวโพด มันสำปะหลังจำนวน 1,000 ใบ ขนาด 70 × 50 เซนติเมตร สำหรับปีนี้บริเวณใต้ต้นคริสต์มาส (Magical Christmas Tree) ได้เพิ่มความพิเศษมากกว่าทุกปี คือ มีเครื่องกรองอากาศ ‘IonFresh’เป็นเครื่องกรองอากาศแบบไฟฟ้าสถิต (Electrostatic air purifier) สำหรับใช้งานภายนอกอาคารจำนวน 4 เครื่อง วิจัยและพัฒนาโดย ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของประเทศและการประยุกต์เชิงพาณิชย์ (National Security and Dual-Use Technology Center – NSD) สวทช. อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12923-20191204-ionfresh
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 5 ฉ.9 – สวทช. ผลักศูนย์น้องใหม่ NSD ขับเคลื่อน S-Curve ที่ 11 พัฒนานวัตกรรมรับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
สวทช. ผลักศูนย์น้องใหม่ NSD ขับเคลื่อน S-Curve ที่ 11 พัฒนานวัตกรรมรับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ผลักดันหน่วยงานใหม่ภายใต้ สวทช. ได้แก่ ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของประเทศและการประยุกต์เชิงพาณิชย์ หรือ National Security and Dual-Use Technology Center (NSD) เพื่อขับเคลื่อน New S-Curve ที่ 11 การพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ตามนโยบายประเทศไทย 4.0 ล่าสุดเปิดตัวศูนย์ NSD พร้อมนำ 5 นวัตกรรมภายใต้ศูนย์ฯ จัดแสดงในงาน Defense & Security 2019 และร่วมจัดสัมมนาให้ความรู้ในเรื่องเทคโนโลยีกราฟีนกับการป้องกันประเทศ  ดร.ศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของประเทศและการประยุกต์เชิงพาณิชย์ (NSD) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดเผยว่า ความมั่นคงของประเทศ ถูกกำหนดให้เป็นประเด็นสำคัญหนึ่งในยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 - 2580) โดยมีเป้าหมายสำคัญในเรื่องการสร้างความมั่นคงปลอดภัย พร้อมรับมือภัยพิบัติและภัยคุกคามในทุกรูปแบบ อีกทั้งรัฐบาลมีนโยบายผลักดันให้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีป้องกันประเทศ เป็น S-Curve ตัวที่ 11 โดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รับผิดชอบในการส่งเสริมและวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีสองทาง (Dual-Use) ที่สามารถนำไปใช้งานได้ทั้งในภารกิจด้านความมั่นคงและภาคพลเรือนทั่วไปเชิงพาณิชย์ ดังนั้น สวทช. จึงได้จัดตั้ง “ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของประเทศและการประยุกต์เชิงพาณิชย์” หรือ NSD ขึ้นในปี 2562 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12919-20191127-nsd
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 5 ฉ.9 – ธ.ก.ส. ร่วมกับ สวทช. หนุนพัฒนานวัตกรรมการเกษตรดิจิทัล
ธ.ก.ส. ร่วมกับ สวทช. หนุนพัฒนานวัตกรรมการเกษตรดิจิทัล ธ.ก.ส. จับมือ สวทช. ร่วมพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมการเกษตรดิจิทัล เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ SMEs เกษตร นำเทคโนโลยีมาเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของห่วงโซ่คุณค่าอุตสาหกรรมการเกษตร รวมถึงการพัฒนาทางการเงินและการสาธารณสุข เพื่อนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของเกษตรกรไทย 21 พฤศจิกายน 2562 ณ โถงชั้น 2 ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ บางเขน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วย “ความร่วมมือทางวิชาการและถ่ายทอดเทคโนโลยี” โดยมี นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กับ นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมลงนาม เพื่อร่วมมือและส่งเสริมการสร้างระบบนิเวศด้านนวัตกรรมการเกษตรดิจิทัล สุขภาพการแพทย์สาธารณสุข สังคม และองค์กร โดยใช้กลุ่มเทคโนโลยีเป้าหมาย หรือ Technology Development Groups (TDGs) นำไปวิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์ข้อมูล ต่อยอดเพื่อสร้างความยั่งยืนและความสามารถในการแข่งขันให้แก่อุตสาหกรรมภาคเกษตรไทย อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12909-20191121
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 5 ฉ.9 – สวทช. ร่วมกับ จ.ปทุมฯ และเครือข่ายพันธมิตร จัดเวิร์คชอปเรียนรู้โค้ดดิ้งเรื่อง PM 2.5 แก่ผู้บริหารและครูในพื้นที่
สวทช. ร่วมกับ จ.ปทุมฯ และเครือข่ายพันธมิตร จัดเวิร์คชอป เรียนรู้โค้ดดิ้งเรื่อง PM 2.5 แก่ผู้บริหารและครูในพื้นที่ 22 พฤศจิกายน 2562 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศ จ.ปทุมธานี - สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 (สพป.ปทุมธานี เขต 1) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมถึงหน่วยงานเอกชนที่ให้การสนับสนุนคือ มูลนิธินายห้างโรงปูนผู้หนึ่ง จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “แนวทางการจัดการเรียนรู้ Coding ด้วยสถานการณ์ PM2.5” ระหว่างวันที่ 22 - 24 พฤศจิกายน 2562 เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาจากสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ที่สร้างผลกระทบต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะกับเยาวชน ผู้สูงอายุ และประชาชนในพื้นที่ พร้อมสร้างความตระหนักและความรู้ความเข้าใจเรื่องสถานการณ์ PM2.5 ให้แก่บุคคลในพื้นที่ ด้วยการนำรูปแบบการเรียนรู้ที่ทันสมัยเรื่องโค้ดดิ้ง (Coding) กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเรื่องค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน มาใช้เป็นแนวทางจัดการเรียนการรู้ในห้องเรียน จะส่งผลให้เด็กสนุกกับการเรียนรู้ได้มากยิ่งขึ้น โดยมีปลัดอาวุโสอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย ดร.อ้อมใจ ไทรเมฆ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. และศึกษานิเทศก์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 ตลอดจนวิทยากรจาก ม.ธรรมศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ผู้บริหารโรงเรียน และครูผู้เข้ารับการอบรม จำนวน 162 คน จากโรงเรียน สังกัด สพป.ปทุมธานี เขต 1 จำนวน 103 โรงเรียน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12912-20191122-pm2-5
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 5 ฉ.9 – สวทช. ส่งต่อทูตเยาวชน JENESYS 2019 บินลัดฟ้าเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
สวทช. ส่งต่อทูตเยาวชน JENESYS 2019 บินลัดฟ้าเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยงานส่งเสริมและพัฒนาเด็กและเยาวชนที่มีศักยภาพสูง ฝ่ายพัฒนาบุคลากรวิจัย ให้ความร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย คัดเลือก 16 เยาวชนไทยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อเป็นทูตเยาวชนวิทยาศาสตร์ในโครงการ JENESYS 2019 ศึกษาดูงานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวัฒนธรรมถึงประเทศญี่ปุ่น จำนวน 9 วัน ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน - 3 ธันวาคม 2562 ณ กรุงโตเกียว และจังหวัดนีงาตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยจัดพิธีแสดงความยินดีและปฐมนิเทศทูตเยาวชน JENESYS 2019 เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเดินทาง เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 62 ที่ผ่านมา ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานีนางอติพร สุวรรณ หัวหน้างานส่งเสริมและพัฒนาเด็กและเยาวชนที่มีศักยภาพสูง (JSTP) ฝ่ายพัฒนาบุคลากรวิจัย สวทช. เปิดเผยว่า สวทช. เป็นผู้ประสานการดำเนินโครงการคัดเลือกเยาวชนทางด้านวิทยาศาสตร์ให้กับสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งตอนนี้ดำเนินการมา 5 ปีแล้ว โดยในปีนี้ได้ทำการคัดเลือกนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโครงการต่างๆ ที่ สวทช. ดูแล ไม่ว่าจะเป็นโครงการ JSTP โครงการรับนักเรียน ม.ปลายฝึกทักษะวิจัย ณ ศูนย์วิจัยแห่งชาติของ สวทช. ซึ่งกลุ่มนี้จะเป็นนักเรียนในโครงการวิทยาศาสตร์ และ สวทช. ยังคัดเลือกจากนักเรียนที่เข้ามาอบรมในโครงการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อที่บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร รวมถึงนักเรียนที่อยู่ในโครงการ FabLab ด้วย รวมทั้งหมดจากที่ได้มีการส่งใบสมัครเข้ามาเป็นจำนวนนักเรียน 69 คน จากนั้นจึงคัดเลือกมา 30 คนเพื่อรับการสัมภาษณ์ และคัดเลือกรอบสุดท้ายเหลือ 16 คนเพื่อเป็นทูตวิทยาศาสตร์ที่จะไปร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ที่กรุงโตเกียวและจังหวัดนีงาตะ ประเทศญี่ปุ่น อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12908-20191118-jenesys-2019
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 5 ฉ.9 – สวทช. จับมือ สอว. ดึงผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ยกระดับหน่วยบ่มเพาะธุรกิจฯ ทั่วประเทศ มุ่งหนุนเสริมขีดความสามารถการแข่งขันผู้ประกอบการไทย
สวทช. จับมือ สอว. ดึงผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ยกระดับหน่วยบ่มเพาะธุรกิจฯ ทั่วประเทศ มุ่งหนุนเสริมขีดความสามารถการแข่งขันผู้ประกอบการไทย 12 พฤศจิกายน 2562 ที่โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส กรุงเทพฯ : สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์พัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี (BIC) ภายใต้ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (TMC) ร่วมกับ สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการอุทยานวิทยาศาสตร์ (สอว.) สองหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) แถลงข่าวผลความร่วมมือการพัฒนาศักยภาพการจัดการหน่วยบ่มเพาะธุรกิจใน “โครงการยกระดับขีดความสามารถของหน่วยบ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยีด้วย Maturity Model” ที่ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จนครบทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยการประเมินขีดความสามารถของหน่วยบ่มเพาะฯ ต่างๆ ทางโครงการฯ มอบหมายให้ศูนย์พัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี สวทช. เป็นผู้ดำเนินการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลจากหน่วยบ่มเพาะฯ โดยดึงผู้เชี่ยวชาญระดับสูงระดับโลกสถาบัน CREEDA (ครีด้า) ประเมินและยกระดับขีดความสามารถหน่วยบ่มเพาะฯ ตามอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคต่างๆ ด้วยรูปแบบ Maturity Model ที่ให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย การส่งเสริมกิจกรรมด้านการบ่มเพาะฯ ซึ่งปีนี้ดำเนินการไป 8 แห่ง ได้แก่ ม.วลัยลักษณ์ ม.ราชภัฏอุตรดิตถ์ ม.ราชภัฏพิบูลสงคราม ม.แม่ฟ้าหลวง ม.แม่โจ้ ม.นเรศวร ม.มหาสารคาม และ ม.เทคโนโลยีสุรนารี  อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12898-20191112-1
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 5 ฉ.9 – สวทช. ร่วมกับพันธมิตรโชว์นวัตกรรม “ถุงพลาสติกสลายตัวได้” จากแล็บสู่ใช้งานจริงประเดิมงาน “กาชาดสีเขียว 62”
สวทช. ร่วมกับพันธมิตรโชว์นวัตกรรม “ถุงพลาสติกสลายตัวได้” จากแล็บสู่ใช้งานจริงประเดิมงาน “กาชาดสีเขียว 62” 13 พฤศจิกายน 2562 โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค : สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)โดยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. ร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพไทย (TBiA) และพันธมิตรภาคเอกชนร่วมแถลงข่าว "ถุงพลาสติกสลายตัวได้สำหรับขยะอินทรีย์ จากแล็บสู่การขยายผลเพื่อใช้งานจริง” ซึ่งเป็นการนำ "ถุงพลาสติกสลายตัวได้สำหรับขยะอินทรีย์” ผลงานวิจัยของเอ็มเทค สวทช. ที่ร่วมกับ บริษัท เอสเอ็มเอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด พัฒนาสูตรพลาสติกชีวภาพมาแปรรูปเป็นพลาสติกและทำการผสมสูตรเพื่อเพิ่มสมบัติทางวิศวกรรมให้เหมาะสมกับการนำไปขึ้นรูปเป็นฟิล์มบาง โดยได้รับความร่วมมือจากภาคีอุตสาหกรรมพลาสติก ได้แก่ บริษัท โททาล คอร์เบียน พีแอลเอ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท บีเอเอสเอฟ (ไทย) จำกัด ผู้สนับสนุนวัตถุดิบเม็ดพลาสติกชีวภาพ และบริษัท ทานตะวันอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) สนับสนุนกระบวนการเป่าขึ้นรูปถุงพลาสติกสลายตัวได้ สำหรับใช้แยกขยะอินทรีย์ใน “งานกาชาด 2562” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-24 พฤศจิกายนนี้ ที่สวนลุมพินี อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12895-20191113
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย