
เชื่อไหมครับ หลายคนมีความกังวลกับบุตรหลานหรือคนที่คุณรัก ในการจมดิ่งอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์หรือโลกดิจิทัลมากกว่าการใช้ชีวิตในปัจจุบัน บางคนเสียงานเสียการ เสียการปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง จนสุดท้ายก็มีการตัดสินและมองว่าโลกดิจิทัล และ Smart Device ต่างๆ คือผู้ร้ายที่มาพรากเวลาและสิ่งดีๆ จากชีวิตของการเป็นมนุษย์ไป สิ่งเหล่านี้อาจเป็นคำพูดที่ไม่เกินเลยในเรื่องดังกล่าว แต่แท้จริงแล้ว ผู้เขียนอยากสอบถามกับผู้อ่า่นว่า ผู้กล่าวหาเองหรือเปล่าที่อาจมีส่วนร่วมในการสร้างความห่างเหินเหล่านี้ไปกับคนที่คุณรักด้วย ? มีคำถาม check list ให้คุณสำรวจตัวเองสั้นๆ ดังนี้ครับ
- เวลาคุณต้องการเวลาส่วนตัวแล้วอีกฝ่ายเรียกร้องเวลาจากคุณ คุณเลือกจะให้เวลาอีกฝ่ายหรือเลือกที่จะให้เขาทำอะไรไปเองโดยที่ไม่มีคุณ หากคุณเลือกให้เขาทำอะไรเองโดยไม่มีคุณแล้วคุณยังปล่อยให้เขาใช้ smart device หรือโลก Social เป็นเพื่อนเขาแทนคุณ นี่คือข้อแรก ที่คุณเริ่มมีส่วนร่วมในการผลักเขาออกจากการปฏิสัมพันธ์กับคุณแล้วครับ
- เวลาคนที่คุณรักต้องการให้คุณฟังเขา คุณเลือกที่จะฟังอย่างตั้งใจ หรือเลือกที่จะฟังแบบให้จบไปที ถ้าคุณเลือกที่จะฟังแบบขอไปที แปลว่า คนที่คุณรักจะรับรู้ได้ว่าการใส่ใจเริ่มมีระยะห่าง การพูดให้ฟัง การฟังเริ่มเป็นแค่หน้าที่ ไม่ใช่การรับรู้ด้วยความเข้าใจ เหล่านี้จะเริ่มเกิดช่องว่างและสร้างความชินชา เฉยชา ขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้าย เขาจะไม่อยากสื่อสารกับคุณ
- เวลาว่างที่มี คุณเลือกที่จะทำกิจกรรมร่วมกันหรือต่างที่จะนั่งทำอะไรที่ตนเองชอบใกล้ๆ กันโดยไม่สนใจอีกฝ่าย หากเป็นต่างคนต่างทำ แปลว่า คุณอาจมีความวางใจและสบายใจในจุดที่อยู่ใกล้กัน แต่ไม่ได้สร้างการแชร์ความรู้สึกซึ่งกันและกัน ตรงนี้สำคัญนะครับห้ามละเลย เพราะกิจกรรมที่ทำร่วมกันจะเป็นสะพานสำคัญที่ทำให้คุณและคนที่คุณรักสามารถเชื่อมช่องว่างระหว่างวัย ระหว่างเวลา ระหว่างความรู้สึก ได้ดีที่สุด ซึ่งส่วนนี้จะเป็นกิจกรรมกลางแจ้ง การผลัดกันอ่านหนังสือให้ฟัง การเล่นเกมส์ด้วยกัน เป็นต้น เหล่านี้ล้วนเป็นสะพานสำคัญที่จะทำให้คุณกับเขาก้าวไปในโลกเดียวกันได้
ดังนั้น บทความนี้จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงอีกด้านของความเข้าใจและอยากให้คุณและคนที่คุณรักได้อ่านเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันในด้านการสื่อสารปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน เลิกโทษส่วนอื่น ให้ปรับสิ่งที่เป็นจากหัวข้อดังกล่าว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่คุณสามารถเริ่มทำได้ทันที แล้วคนที่คุณรักและคุณเองจะห่างจากหน้าจอโทรศัพท์ได้มกกว่าที่เป็น อย่าลืมพิจารณาก่อนที่จะสายเกินไปนะครับ





ภาพดังกล่าวจัดทำเป็นไฟล์ดิจิทัล ผ่านการลงทะเบียนจัดทำเป็น NFT และเสนอขายผ่านระบบเว็บไซต์ Cryptopunk โดยแต่ละภาพ แต่ละแบบ มีมูลค่าสูงมากในปี 2021 – 2022 เช่น Cryptopunk รหัส 5822 สามารถขายได้ถึง 135 ล้านดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีใครเคยคาดคิดว่าภาพดิจิทัลภาพเดียวทำไมถึงมีราคาแสนแพงขนาดนี้ และนั่นจึงทำให้คนทั่วโลกเริ่มสนใจ NFT อย่างกว้างขวาง และมีผู้เข้าร่วมทั้งสร้างสรรค์ผลงานและการร่วมซื้อขายทั่วโลก และหลังจากนั้นไม่นาน ภาพด้านล่างนี้ก็เกิดขึ้นครับ
จากภาพด้านบน คุณผู้อ่านอาจตกใจกับราคาที่เกิดขึ้นกับ Cryptopunk รหัส 5822 ที่เคยซื้อขายกันหลักร้อยล้านดอลล่าร์จากปี 2021 พบว่าปลายปี 2022 ห่างไปเพียงแค่ 1 ปี มูลค่ากลับตกไปเหลือเพียง 36,049 ดอลล่าร์ ซึ่งนั่นทำให้เกิดความNFTสูญเสียทางมูลค่าอย่างมหาศาล ทำให้เกิดบทเรียนและคำถามว่าแล้วการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล มีความเสี่ยงหรือไม่? ทางผู้เขียนขออนุญาตไม่ลงลึกในคำตอบ แต่จะขออนุญาตสรุปแนวทางความเข้าใจในกระบวนการ NFT ดังภาพ ที่สำคัญ คุณควรเข้าใจการลงทุนในตลาดนั้นๆ ก่อนการลงทุนเสมอ




