ทำความรู้จัก Spam (สแปม) และการป้องกัน

Spam เป็นอีกหนึ่งภัยคุกคามทาง Cyber ที่มาในรูปแบบข้อความที่ไม่พึงประสงค์ ส่งผ่านทางช่องทางต่าง ๆ มักจะเป็นข้อความโฆษณา, การเสนอขายผลิตภัณฑ์หรือบริการ, หรือการหลอกลวง ประเภทของ Spam มีดังนี้

อีเมล: Spam ส่งผ่านทางอีเมล อีเมล Spam สามารถมีลิงก์ที่อาจนำไปสู่เว็บไซต์ที่อันตรายหรือมีการแอบอ้างเป็นองค์กรที่เชื่อถือได้

SMS: ข้อความ Spam ที่ส่งผ่านทาง SMS โดยมักจะเป็นข้อความที่เสนอขายผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือข้อความที่มีลิงก์เพื่อหลอกให้ผู้รับคลิก

แอปพลิเคชันแชท: Spam ที่ถูกส่งผ่านทางแอปพลิเคชันแชท เช่น WhatsApp หรือ Facebook Messenger ซึ่งมักจะเป็นข้อความที่ไม่พึงประสงค์หรือโฆษณาที่ไม่เกี่ยวข้อง

วิธีป้องกัน Spam

  1. ใช้ฟิลเตอร์ Spam โปรแกรมอีเมลส่วนใหญ่มีฟิลเตอร์ Spam ที่สามารถช่วยกรองและป้องกันได้
  2. หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
  3. อย่าคลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบจากอีเมลที่ไม่รู้จัก
  4. ตรวจสอบชื่ออีเมล ผู้ส่ง Spam จะใช้ชื่ออีเมลที่ดูเหมือนเป็นของจริงหรือเหมือนกับที่คุณรู้จัก

5.รายงานสแปมให้กับผู้ให้บริการจะช่วยในการป้องกันและลดปริมาณสแปม

สรุป

Spam คือ ข้อความที่ไม่พึงประสงค์ที่ถูกส่งไปยังผู้ใช้จำนวนมาก ซึ่งมักสร้างความรำคาญและอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย การป้องกันสามารถทำได้โดยการใช้ฟิลเตอร์สแปม, หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลส่วนบุคคล, และไม่คลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบที่ไม่รู้จัก การรายงานสแปมสามารถช่วยลดปริมาณและผลกระทบของสแปมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำความรู้จัก Malware (มัลแวร์) และการป้องกัน

Malware ย่อมาจากคำว่า “Malicious Software” หมายถึงโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำลาย ก่อกวนระบบคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับอนุญาต Malware สามารถแฝงตัวมาในรูปแบบต่าง ๆ ได้ เช่น

Virus (ไวรัส): แพร่กระจายผ่านไฟล์หรือโปรแกรมที่ดูเหมือนปลอดภัย เมื่อลงมือทำงานจะทำลายข้อมูลหรือทำให้ระบบทำงานผิดปกติ

Worm (เวิร์ม): แพร่กระจายตัวเองผ่านเครือข่ายโดยไม่ต้องพึ่งพาไฟล์ ทำให้ระบบช้าลงหรือหยุดทำงาน

Trojan (โทรจัน): แฝงตัวมาในรูปของโปรแกรมที่ดูเปลอดภัย แต่เมื่อถูกติดตั้งหรือเปิดใช้งาน จะทำงานในลักษณะที่เป็นอันตราย เช่น เปิดช่องทางให้ hacker ขโมยข้อมูลสำคัญ

Adware (แอดแวร์): แสดงโฆษณาบนเครื่องของผู้ใช้ บางครั้งติดตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และติดตามพฤติกรรมเพื่อแสดงโฆษณาที่ตรงกับความสนใจ

Spyware (สปายแวร์): สอดแนมและรวบรวมข้อมูลจากเครื่องของผู้ใช้โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว เช่น การกดแป้นพิมพ์และการเข้าชมเว็บไซต์

วิธีป้องกัน Malware

  1. ติดตั้งและอัปเดตโปรแกรมแอนตี้ไวรัส
  2. หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
  3. อัปเดตระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ
  4. หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบจากอีเมลที่ไม่รู้จัก
  5. ใช้ไฟร์วอลล์ (Firewall) เพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ไม่พึงประสงค์

สรุป

Malware เป็นภัยคุกคามที่สามารถก่อให้เกิดความเสียหายต่อข้อมูลและระบบคอมพิวเตอร์ได้อย่างร้ายแรง การป้องกัน Malware ไม่เพียงแต่ต้องใช้เครื่องมือที่เหมาะสม แต่ยังต้องมีการปฏิบัติตามแนวทางป้องกันที่รัดกุม การรู้จักและเข้าใจวิธีการป้องกัน จะช่วยให้ระบบคอมพิวเตอร์ของคุณปลอดภัยจากภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

ทำความรู้จัก Phishing (ฟิชชิง) และการป้องกัน

Phishing เป็นอีกหนึ่งเทคนิคการโจมตีทาง Cyber ที่ใช้การหลอกลวงเพื่อขโมยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน หรือข้อมูลทางการเงิน โดยการปลอมแปลงเป็นบุคคลหรือองค์กรที่เชื่อถือได้ โดยมีเป้าหมายเพื่อหลอกให้เหยื่อให้ข้อมูล ประเภทของ Phishing มีดังนี้

Email Phishing: มีลักษณะเหมือนกับอีเมลจากองค์กรที่เชื่อถือได้ เช่น ธนาคาร ซึ่งมักจะขอให้ผู้รับคลิกลิงก์หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคล

Spear Phishing: มุ่งเป้าไปที่บุคคลหรือองค์กรเฉพาะ โดยใช้ข้อมูลส่วนตัวที่รวบรวมได้มาเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของการหลอกลวง

Smishing (SMS Phishing): ดำเนินการผ่านข้อความ SMS จะมีลิงก์ให้ทำบางสิ่ง เช่น คลิกที่ลิงก์หรือโทรกลับหมายเลขที่ให้มา

Vishing (Voice Phishing): ใช้การโทรศัพท์เพื่อหลอกลวง โดยอาจแสร้งเป็นเจ้าหน้าที่จากองค์กรหรือหน่วยงานเพื่อขอข้อมูลส่วนบุคคล

วิธีป้องกัน Phishing

  1. ตรวจสอบที่อยู่ URL ก่อนคลิกลิงก์ในอีเมลหรือข้อความ SMS
  2. ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น รหัสผ่านหรือหมายเลขบัตรเครดิต
  3. ใช้การยืนยันตัวตนสองขั้นตอน
  4. ติดตั้งและอัปเดตซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์
  5. ควรตรวจสอบก่อนที่จะทำการตอบกลับหรือคลิกลิงก์

สรุป

Phishing คือ การหลอกลวงทางไซเบอร์ที่มุ่งหวังขโมยข้อมูลส่วนบุคคล โดยการปลอมแปลงเป็นองค์กรหรือบุคคลที่เชื่อถือได้ สามารถป้องกันได้โดยการตรวจสอบ URL, ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล, ใช้การยืนยันตัวตนสองขั้นตอน, ติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์, และระมัดระวังข้อความที่ไม่คาดคิด

CAPCUT กับ AI Tools

โปรแกรม CAPCUT เป็นโปรแกรมที่มีหลากหลาย Platform ให้บริการ โดยเน้นการสร้าง Content ที่มาจากผู้ใช้งานผ่านการสร้างสรรค์ วีดีโอ , ภาพ , เสียง , ภาพนิ่ง มาประยุกต์ใช้ให้เกิด Content ที่มากกว่าการนำเสนอทั่วไป โดยในปัจจุบันทาง CAPCUT ได้เปิดให้ใช้บริการ AI ที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดทำ Content ต่าง ๆ อย่างมากมาย 
วิธีการใช้งาน
1. ดำเนินการสมัคร CAPCUT บนโทรศัพท์ของคุณให้สำเร็จโดยรองรับทั้ง Android และ IOS
2. หากคุณต้องการใช้ AI Tools ให้เข้าถึงการให้บริการผ่าน  https://www.capcut.com/editor-tools/
3. ระบบจะให้คุณทำการ Login อีกครั้งผ่านเว็บไซต์ โดยคุณสามารถเข้าถึงผ่านการ Scan QR Code ได้

4. จากนั้นระบบจะมีเมนูให้คุณเลือกการใช้ AI ซึ่งมีรองรับอย่างหลากหลาย เช่น การจัดทำ Script Video (รองรับภาษาอังกฤษ) การจัดทำวีดีโอ การจัดทำภาพ เป็นต้น

ทางผู้เขียนลองทดสอบให้ระบบ AI จัดทำสคริปต์ เที่ยวทะเลพัทยา ทางระบบก็สามารถเขียนสคริปต์แบบภาพรวมให้เราสามารถสร้างแนวคิดต่อยอดของการทำคลิปได้อย่างน่าสนใจ

 โดยสรุป
 CAPCUT AI Tools ที่ผู้เขียนแนะนำเป็นเพียงส่วนของการ Generate Script เพื่อการสร้าง Story ถ่ายทำวีดีโอเพียงเท่านั้น แต่ทว่ายังมีส่วนของการจัดการภาพถ่าย เสียง และอื่นๆ อีกมากที่ใช้ AI ในการจัดการ จึงเป็น Tools ที่น่าสนใจและใช้งานได้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน แต่ก็ยังมีหลายส่วนที่ต้องเสียเงินเพื่อการใช้งานที่มีส่วนเพิ่มเติมและประสิทธิภาพที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน 

CANVA กับการใช้งานในการนำเสนองาน

Canva เป็น Web Application ที่เน้นการออกแบบและสร้างสรรค์ด้านภาพ สื่อ และกระบวนการด้านการนำเสนอที่เป็นที่ยอมรับ มีกลุ่ม Community ที่เข้มแข็งและหลากหลาย ในปัจจุบัน Canva สามารถใช้ AI เข้ามาร่วมในการสร้างสรรค์ Content และข้อมูลภายในได้อย่างชาญฉลาดผ่านการให้บริการ Magic Studio   สามารถใช้งานได้ง่ายและรวดเร็ว รองรับทุก Smart Device และทุก Platform

วิธีใช้งาน
1.ทำการสมัครผ่านเว็บไซต์ซึ่งสามารถสมัครได้ทั้งอีเมลหรือ Account ที่รองรับหลากหลายการสมัคร
2.หลังจากสมัครแล้วผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่าจะดำเนินการทำการนำเสนอในหัวข้อใด รองรับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ  โดยในกรณีที่ใช้ AI จำเป็นต้องเลือกที่จะใช้ Magic Studio ตามหัวข้อที่ต้องการ
3.หากต้องการใช้งานจัดทำเนื้อหานำเสนอ สามารถเลือก Magic Design For Presentation เพื่อดำเนินการจัดทำการนำเสนอผ่านการใช้งาน AI ได้ทันที
4.การใช้งานสามารถดำเนินการได้ง่ายๆ โดยใส่คำหรือหัวข้อที่สนใจ เช่น อาหาร
5. จากนั้นระบบจะใช้ AI ในการจัดทำสื่อนำเสนอ โดยจัดทำเทมเพลตและข้อมูลมาให้ผู้ใช้ได้เลือก สามารถปรับแต่งหรือดำเนินการในแต่ละส่วนของภาพและการนำเสนอได้โดยสะดวก

โดยสรุป

Canva ถือเป็น Web Application ที่รองรับการใช้งานแบบ Free ที่มีประสิทธิภาพและให้การใช้งานที่สามารถเติมเต็มโจทย์ของการนำเสนอได้อย่างลงตัว หากมีการใช้งาน Pro Freature จะมีส่วนของการสร้างงานผ่าน AI ไม่ว่าจะเป็นภาพหรือองค์ประกอบอื่น ๆ ได้อีกมากมาย จึงทำให้กลายเป็นที่นิยมและเข้าถึงในกลุ่มผู้ใช้งานได้อย่างหลากหลาย

 

Decktopus กับการนำเสนอด้วย AI

รายละเอียดและความสามารถของ Desktopus AI  :  
      ตัวช่วยสร้าง Content หรือ Story Telling ที่น่าสนใจสำหรับการสร้าง Presentation ผ่านการใช้งานออนไลน์ รองรับการใช้งานภาษาไทยได้อย่างดี เหมาะสำหรับการช่วยสร้างเรื่องราวและภาพประกอบที่สนใจ โดยใช้ AI เป็นตัวขับเคลื่อน

 

วิธีใช้งาน
1.ทำการสมัครผ่านเว็บไซต์ซึ่งสามารถสมัครได้ทั้งอีเมลหรือ Account ที่รองรับหลากหลายการสมัคร
2.หลังจากสมัครแล้วผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่าจะดำเนินการทำการนำเสนอในหัวข้อใด รองรับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
3.ระบบจะมีการสอบถามถึงกลุ่มเป้าหมายที่จะนำเสนอเพื่อกำหนดแนวทางนำเสนอให้ตรงใจ
4.จากนั้นระบบจะถามด้านเนื้อหาและวัตถุประสงค์ในสไลด์เพื่อกำหนดการนำเสนอให้ชัดเจน
5. ขั้นตอนสุดท้าย ระบบจะสอบถาม Theme หรือ Template การนำเสนอโดยมีรูปแบบให้ผู้ใช้เลือก
6. จากนั้นระบบจะดำเนินการสอบถามสิทธิ์การใช้งาน ซึ่งจำเป็นต้องสมัครสมาชิกเท่านั้น โดยต้องมีการบันทึกข้อมูลบัตรเครดิตและข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้
7. จากนั้นระบบจะมีการ Generate ข้อมูลให้กับผู้ใช้งาน โดยสามารถปรับแต่งคุณลักษณะขององค์ประกอบต่างๆ ได้โดยสะดวกหรือจะให้ AI ดำเนินการปรับแต่งให้ก็ได้

ภาพแสดงการใช้งานและแนวทางการนำไปใช้งานที่เกี่ยวข้อง

 

 โดยสรุป
Desktopus  เป็น โปรแกรมที่มี AI ในการช่วยจัดทำการนำเสนอที่มีมิติการใช้งานและความเชี่ยวชาญในการจัดทำการนำเสนอที่น่าสนใจ ใช้การสอบถามคำถามต่อผู้ใช้งานแล้ว generate ภาพให้ได้ทันที มีการ focus กลุ่มผู้ฟังที่หลากหลายชัดเจน  

 

การใช้ AI เพื่อการจัดทำและตกแต่ง Presentation ด้วย Tome.app

tome.ai เป็น Web Application ของบริษัท Magical Tome  ซานฟรานซิสโก โดยมีจุดเด่นที่ให้ผู้ใช้งานสามารถสมัครบัญชีผู้ใช้แล้วสร้างเรื่องราวหรือสไลด์นำเสนอได้ผ่านการใช้ AI ที่ระบบจะดำเนินการให้อัตโนมัติทั้งด้าน Content และภาพประกอบ ทุกอย่างในระบบสามารถปรับแต่งได้โดยใช้ AI จัดการ รองรับภาษาอังกฤษและทำงานได้ดีกับภาษาไทย

วิธีใช้งาน
1.ทำการสมัครผ่านเว็บไซต์ซึ่งสามารถสมัครได้ทั้งอีเมลหรือ Account ที่รองรับหลากหลายการสมัคร2.หลังจากสมัครแล้วผู้ใช้งานจะมีเครดิตเพื่อการ Generate AI ได้ประมาณ 500 credit สำหรับการใช้งานฟรี
3.ดำเนินการสร้างสไลด์ผ่านระบบโดยใส่คำในส่วนของการนำเสนอ เช่น Stroke disease ทางผู้เขียนอยากให้ระบบทำรายงานเกี่ยวกับโรค Stroke โดยอัตโนมัติ
4. จากนั้นระบบจะดำเนินการสร้าง Layout Slide และนำเสนอพร้อมการสร้างภาพให้ทันที
5. ในกรณีใช้งานฟรีจะมีการหัก AI Credit ซึ่งจะเสียประมาณ 250 เครดิตต่อการสร้าง AI อัตโนมัติประมาณ 6 หน้า
6. ในกรณีที่เครดิตหมดจำเป็นต้องมีการเติมผ่านการเชิญสมาชิกมาสมัครต่อผ่าน url ของผู้สมัครหรือมีการชำระเงินรายเดือนซึ่งเสียเงินประมาณ 16 $ ต่อเดือนในปัจจุบัน

ตัวอย่างสไลด์ที่ลองทดสอบการใช้งานผ่าน tome.app พบว่าให้ข้อมูลได้อย่างน่าสนใจ (แต่ก็ยังต้องปรับแต่งข้อความที่สำคัญให้ตรงใจ)

โดยสรุป

tome.app ถือเป็นการสร้าง Presentation ด้วย AI ที่ใช้งานได้ง่ายแต่ก็มีข้อจำกัดสำหรับการใช้ credit ที่ไม่มีเพิ่มเติม จำเป็นต้องแนะนำสมาชิกเพื่อการเพิ่มเครดิตหรือการเสียเงินใช้งาน แต่อย่างไรก็ตาม tome.app ก็มีความฉลาดในด้านการให้ข้อมูลใน keywords ที่ชัดเจนและให้ภาพที่ตรงใจกับงานได้อย่างดี

BLOCKCHAIN มีความปลอดภัยหรือไม่ ?

หลายท่านอาจมีความสงสัยว่า Blockchain  มีความปลอดภัยหรือไม่ ? ในบทความนี้ทางผู้เขียนขอยกตัวอย่างกรณีศึกษา โดยเป็นกลุ่มเพื่อนที่ชื่อกลุ่มว่า “แชร์กันจุก” กลุ่มนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อไปทานอาหารและหารค่าอาหารกัน  กลุ่มนี้มีสมาชิก 4 คน โดยแต่ละคนก็จะมีกระเป๋า Crypto Wallet ในการจ่ายเงินแทนการโอนเงินแบบปกติ  ดังนั้นเมื่อมีการใช้ระบบ Crypto Wallet จะเกิดสิ่งนี้

  1. ทุกคนจะถูกสร้าง Block Transaction ของการโอนจ่ายเงินที่เกี่ยวข้องกันของการหารเงินครั้งนั้น
  2. ทุกคนจะมี Block ที่เท่ากันต่อกันเป็น chain โดยมีการเข้ารหัสกันทั้ง 4 คน  ของคนใดคนหนึ่งหาย จะมีส่วนอื่นทดแทนหรืออยู่ในระบบเสมอ ทำให้การทำธุรกรรมจะไม่หายไปจากเครือข่าย Blockchain

    หาก Hacker ต้องการเข้าไปแทรกแทรงหรือเข้าไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลของ Blockchain นี้ ทาง Hacker จำเป็นต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ความเร็วสูงในการเข้าไปเขียน Block และถอดรหัสข้อมูลพร้อมๆ กันในทุกๆ Block ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ในปัจจุบัน โดยเฉพาะการถอดรหัสในทุก Block ทุก Chain ที่ต้องใช้เวลาถอดรหัสมากขึ้น

ดังนั้น ในปัจจุบันมีผู้อ้างว่า การจะ Hack Blockchain หรือถอดรหัสธุรกรรมได้นั้น ต้องใช้ Super Computer ที่มีความเร็วถึง 1,500 Qubit  แต่ทว่าในปัจจุบันยัง Super Computer ที่มีความเร็วได้ไม่ถึง 500 Qubit เกิดขึ้น ว่ากันว่าต้องใช้เวลากว่า 10  – 20 ปีต่อจากนี้ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นจริง ความยากในการถอดรหัสและความยาวของธุรกรรมจะมีปริมาณมหาศาลมากขึ้น จึงทำให้ยังเป็นที่เชื่อถือได้ว่า Blockchain ยังคงมีความน่าเชื่อถือและตรวจสอบได้ในปัจจุบันครับ

การเลือกตั้งกับการใช้เทคโนโลยี Blockchain

เทคโนโลยี Blockchain สามารถประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายกับการพัฒนาระบบที่มุ่งเน้นการโปร่งใสตรวจสอบได้ ในบทความนี้ ผู้เขียนอยากแนะนำการเลือกตั้งผ่านเทคโนโลยี Blockchain ที่ถูกพัฒนาโดยศุูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ได้เผยแพร่บทความเชิงเทคนิคไว้น่าสนใจ ทำให้การเลือกตั้งโปร่งใสและเป็นไปได้จริง

เทคโนโลยีดังกล่าวสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายได้มาก ที่สำคัญยังสามารถระบุตัวตนของผู้ลงคะแนน หมดปัญหาเรื่องบัตรผีหรือบัตรปลอม พร้อมทำการประมวลผลคะแนนได้ทันที สิ่งเหล่านี้พร้อมในการดำเนินการและสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  โดยผู้อ่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nectec.or.th/research/research-project/blockchain-evoting.html

BLOCKCHAIN คืออะไร ?

Blockchain “เป็นเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลที่มีความปลอดภัย ผ่านการเข้ารหัส Cryptography และมีรูปแบบการจัดเก็บแบบกระจายศูนย์ เพื่อจุดประสงค์ในการ Trust and Security” เพื่อให้เกิด Trustless System และขจัดคนกลางหรือผู้คุมกฏออกจากระบบ เกิดขึ้นในปีค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551)

     Blockchain เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นโดยผู้ที่ใช้นามสมมติว่า ซาโตชิ นากาโมโตะ เป็นที่แพร่หลายเนื่องจากได้สร้าง BITCOIN ซึ่งเป็นเงินดิจิทัลสกุลแรกที่เริ่มใช้งานและเทรดซื้อขายเมื่อ ค.ศ. 2010 ได้ผ่านการพิสูจน์ตนเองมาเป็นเวลากว่า 14 ปี  โดยเหรียญ Crypto Currency ต่างๆ  จะมีการเข้ารหัสแตกต่างกันไป และถูกพัฒนาใช้งานบน Blockchain Technology เช่นกัน นอกจากนั้น ยังสามารถประยุกต์ใช้ในการพัฒนาโปรแกรมอื่นๆ ได้อีกด้วย