การจัดอบรม เรื่อง การบำรุงรักษาระบบผลิตไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์และโทรคมนาคม เพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรในโรงเรียนนำร่องของโครงการฯ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2567 ณ โรงแรมเมอร์เคียว จังหวัดเชียงใหม่

การจัดอบรม เรื่อง การบำรุงรักษาระบบผลิตไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์และโทรคมนาคม
เพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรในโรงเรียนนำร่องของโครงการฯ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2567
ณ โรงแรมเมอร์เคียว จังหวัดเชียงใหม่

      เมื่อวันที่ 15 – 16 ธันวาคม 2567 ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) สวทช. ร่วมกับ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การบำรุงรักษาระบบผลิตไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์และโทรคมนาคม เพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรในโรงเรียนนำร่องของโครงการฯ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2567 ณ โรงแรมเมอร์เคียว จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้รับเกียรติจากพันตำรวจเอกผดุงเกียรติ ปัณฑรนนทกะ ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 33 เป็นประธานเปิดงาน โดยมี ดร. อัศวิน หงษ์สิงห์ทอง หัวหน้าโครงการไอซีทีเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับชุมชนชายขอบในพื้นที่โครงการตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นวิทยากรหลัก พร้อมด้วยคุณณัฐ สงคราม หัวหน้าแผนกส่งเสริมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และคุณเกรียงศักดิ์ วิมลไตรรัตน์ หัวหน้าวิศวกรฝ่ายสนับสนุนการทำงานองค์กรด้านระบบสื่อสาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟว์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นวิทยากร

 

การฝึกอบรมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มีครูจากโรงเรียนสังกัดตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) 5 แห่ง สังกัดศูนย์เรียนรู้ชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวง 6 แห่ง โรงเรียนในแม่ฮ่องสอน 1 แห่ง และโรงเรียนที่สำนักงานโครงการส่วนพระองค์ฯ ขอรับการสนับสนุนจากมูลนิธิฯ อีก 8 แห่ง รวมแล้วมีครูที่เข้ารับการฝึกอบรมพัฒนาทักษะซ่อมบำรุงระบบเซลล์แสงอาทิตย์และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานในโรงเรียน 34 คน  

รายงานผลการดำเนินงานของ สวทช. ประจำปีงบประมาณ 2567 ไตรมาส 4

ผลการดำเนินงานของ สวทช. ไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2567 ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (กวทช.)

“เด็กชายขอบสร้างศักยภาพดิจิทัล: Navanurak Platform ช่วยเสริมสร้างพลังการเรียนรู้และการอนุรักษ์วัฒนธรรมสู่ชุมชนชายขอบ จังหวัดตาก”

“เด็กชายขอบสร้างศักยภาพดิจิทัล: Navanurak Platform ช่วยเสริมสร้างพลังการเรียนรู้และการอนุรักษ์วัฒนธรรมสู่ชุมชนชายขอบ จังหวัดตาก”

      มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์เทคโนโลยีอีเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) และคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ที่และกลุ่มนักศึกษาจิตอาสามารถเสริมสร้างการเรียนรู้ รวมถึงการสนับสนุนจากหน่วยงานในพื้นที่ ที่ช่วยผลักดันให้การดำเนินกิจกรรมสำเร็จลุล่วง เพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสำหรับชุมชนชายขอบ และขยายผลไปสู่การใช้ระบบดิจิทัลเพื่อการเก็บรักษามรดกวัฒนธรรมและความหลากหลายทางชีวภาพ

เดินหน้าขับเคลื่อน โครงการพัฒนาทักษะไอซีทีเพื่อการจัดเก็บข้อมูลทางวัฒนธรรมสำหรับชุมชนชายขอบด้วยแพลตฟอร์มนวนุรักษ์ ระยะที่ 2/2567 ด้วยการจัดกิจกรรมลงพื้นที่ ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา (บ้านหม่องกั๊วะ) และศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านวะกะเลโค๊ะ จังหวัดตาก ระหว่างวันที่ 17-21 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมาโดยมีจำนวนครูและนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนทั้งสิ้น 60 คน

     เพื่อเป็นการเสริมทักษะดิจิทัล สร้างคุณค่าให้ชุมชน มุ่งพัฒนาศักยภาพเยาวชนในพื้นที่ชายขอบ ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการถ่ายภาพและสื่อวิดีทัศน์ โดยมีการฝึกทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติจริง นักเรียนได้เรียนรู้การใช้แพลตฟอร์มนวนุรักษ์ (Navanurak) ซึ่งเป็นเครื่องมือดิจิทัลสำหรับการจัดเก็บข้อมูลวัฒนธรรมและความหลากหลายทางชีวภาพในชุมชน พร้อมทั้งเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ในการนำข้อมูลมาพัฒนาต่อยอดเป็นประโยชน์ต่อชุมชน

    ผลงานสร้างสรรค์ที่น่าภาคภูมิใจ โดยมีคณะอาจารย์และพี่ๆจิตอาสาช่วยกันจัดกิจกรรมในครั้งนี้

  • โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ผลิตผลงานภาพถ่ายวัฒนธรรมท้องถิ่นกว่า 800 ภาพ และคลิปวิดีโอ 20 คลิป
  • ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านวะกะเลโค๊ะ จัดทำภาพถ่าย 652 ภาพ และคลิปวิดีโอ 142 คลิป

     นวนุรักษ์: เทคโนโลยีเพื่อการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน
     “นวนุรักษ์” เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลวัฒนธรรม รวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ต่าง ๆ โดยมีจุดเด่นด้านความง่ายในการใช้งาน ความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูลกับการท่องเที่ยว และการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในชุมชนชายขอบอย่างยั่งยืน

     ความร่วมมือที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง
     กิจกรรมครั้งนี้เป็นผลจากความร่วมมือของหลายหน่วยงาน ได้แก่ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ที่ส่งทีมวิทยากรและนักศึกษาจิตอาสามาเสริมสร้างการเรียนรู้ รวมถึงการสนับสนุนจากหน่วยงานในพื้นที่ ที่ช่วยผลักดันให้การดำเนินกิจกรรมสำเร็จลุล่วง

     เป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
     มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ และ สวทช. ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตในชุมชนชายขอบ ด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่ออนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมและสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน พร้อมทั้งเป็นแรงผลักดันให้เยาวชนในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน.

     กิจกรรมที่โรงเรียน ตชด.เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา
     ในกิจกรรมครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยนักวิชาการและนักศึกษาจิตอาสาได้ร่วมกันถ่ายทอดความรู้ด้านการถ่ายภาพและสื่อวิดีทัศน์แก่นักเรียนและครูในพื้นที่ เพื่อพัฒนาทักษะในการจัดเก็บข้อมูลวัฒนธรรมและความหลากหลายทางชีวภาพ นักเรียนมีโอกาสฝึกปฏิบัติจริงและผลิตสื่อสร้างสรรค์ที่สามารถนำไปใช้เผยแพร่ความงดงามของชุมชนบ้านหม่องกั๊วะ อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก

     ความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม
     ผลลัพธ์ของการอบรมครั้งนี้ส่งผลให้นักเรียนสามารถจัดทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ เช่น

  • ภาพถ่ายและวิดีโอวัฒนธรรมท้องถิ่นกว่า 200 ภาพ
  • คลิปวิดีโอสะท้อนวิถีชีวิตชุมชน จำนวน 20 คลิป

     ขยายผลสู่ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านวะกะเลโค๊ะ
     กิจกรรมยังขยายผลไปยังศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านวะกะเลโค๊ะ อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก โดยเน้นพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลให้เยาวชนสามารถจัดเก็บข้อมูลวัฒนธรรมและความหลากหลายทางชีวภาพด้วยตนเอง รวมถึงสร้างความเข้าใจในการประยุกต์ใช้ข้อมูลเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนในอนาคต

     แพลตฟอร์มนวนุรักษ์: เครื่องมือเพื่ออนาคต
     “นวนุรักษ์” เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่รวบรวมข้อมูลวัฒนธรรมและชีวภาพของชุมชนชายขอบ โดยมีจุดเด่นที่ความง่ายในการใช้งาน และสามารถนำข้อมูลไปประยุกต์ใช้ในหลายมิติ ทั้งการอนุรักษ์ การศึกษา การท่องเที่ยว และการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

     จุดเด่นของโครงการและการเสริมสร้างศักยภาพเยาวชน

     โครงการนี้เน้นการสร้างศักยภาพให้แก่เยาวชนในพื้นที่ชายขอบผ่านการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเรียนรู้และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งมีจุดเด่นดังนี้:

  1. การใช้เทคโนโลยีเสริมสร้างทักษะการจัดเก็บข้อมูลวัฒนธรรม กิจกรรมนี้ได้ส่งเสริมให้นักเรียนใช้แพลตฟอร์มนวนุรักษ์เป็นเครื่องมือในการจัดเก็บข้อมูลทางวัฒนธรรมและความหลากหลายทางชีวภาพ โดยข้อมูลเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของชุมชน แต่ยังเป็นฐานข้อมูลที่สามารถนำไปต่อยอดเพื่อการพัฒนาต่าง ๆ เช่น การจัดทำเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น และการสร้างสรรค์นวัตกรรมในชุมชน
  2. การเพิ่มมูลค่าให้ชุมชนผ่านการเรียนรู้และการปฏิบัติจริง นอกจากการเก็บข้อมูล นักเรียนยังได้รับการสอนถึงวิธีการนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น การสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชุมชน การผลิตผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบในท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ และการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ที่สะท้อนถึงความหลากหลายของวัฒนธรรมในพื้นที่
  3. สร้างแรงบันดาลใจและความภูมิใจในชุมชน การเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่นผ่านการฝึกปฏิบัติจริงทำให้นักเรียนเกิดความภูมิใจในรากเหง้าและมรดกของตนเอง รวมถึงสามารถนำความรู้นี้ไปถ่ายทอดให้กับบุคคลอื่นในชุมชนได้ การที่นักเรียนมีส่วนร่วมในการเก็บข้อมูลวัฒนธรรมและสร้างเนื้อหาดิจิทัล ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการเป็นตัวแทนของชุมชนที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวของพื้นที่ตนเองได้

 

     โครงการนี้มุ่งสร้างแรงบันดาลใจและเสริมสร้างศักยภาพให้เยาวชนในพื้นที่ห่างไกล พร้อมเชื่อมโยงวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ อันจะนำไปสู่การพัฒนาชุมชนที่ยั่งยืนในทุกมิติ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ และ สวทช. ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาทักษะและส่งเสริมการเรียนรู้ด้านดิจิทัลในชุมชนชายขอบ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและนำไปใช้สร้างประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ต่อไป.

อบรมเชิงปฏิบัติการด้านการบำรุงรักษาระบบผลิตไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์

เสริมทักษะเยาวชนชายขอบก้าวสำคัญสู่เทคโนโลยีในอนาคต
กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ Coding และการแข่งขัน Formula Kid 2024

      สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ กองบัญชาการตำรวจชายแดน และ มูลนิธิโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนในพระบรมราชูปถัมภ์ ฯ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้าน Coding สำหรับเยาวชนในชุมชนชายขอบ โดยมุ่งหวังที่จะลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยีและสร้างโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมแก่เยาวชนในพื้นที่ห่างไกล ภายใต้โครงการ ไอซีทีเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับชุมชนชายขอบ

กิจกรรมครั้งนี้นับเป็นโอกาสสำคัญ ที่จะสร้างแรงบันดาลใจและเสริมทักษะให้กับเยาวชนในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (รร.ตชด.) โดยในครั้งนี้มีโรงเรียนเข้าร่วมทั้งหมด 27 แห่ง ครูผู้สอนจากแต่ละโรงเรียนได้เข้ารับการอบรมพื้นฐานการเขียนโปรแกรมผ่านแพลตฟอร์ม KidBright Simulator และโรงเรียนที่ผ่านการคัดเลือก 10 แห่ง ได้เข้าสู่การแข่งขัน Formula Kid 2024 ซึ่งถือเป็นการแข่งขัน ครั้งแรก ที่จัดขึ้นสำหรับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน

การแข่งขัน Formula Kid 2024 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-9 กันยายน 2567 โดยเน้นการพัฒนา ทักษะการเขียนโค้ด และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีผ่านการควบคุมยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้เชิงลึกด้านเทคโนโลยี แต่ยังฝึกทักษะการคิดเชิงระบบ การวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม ถือเป็นการปูทางสู่อนาคตของเยาวชนในชุมชนชายขอบอย่างแท้จริง

การแข่งขันในครั้งนี้ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านห้วยเหมือง จังหวัดชุมพร คว้ารางวัลชนะเลิศไปครอง ด้วยความสามารถในการแสดงศักยภาพทางเทคโนโลยีที่โดดเด่น รองชนะเลิศคือ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา (บ้านหม่องกั๊วะ) จังหวัดตาก และรองชนะเลิศอันดับหนึ่งได้แก่ ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านคีรีล้อม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในวงการการศึกษา ที่ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้เยาวชนในพื้นที่ห่างไกลได้สัมผัสและเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 โดยทีมผู้จัดงานมุ่งหวังที่จะขยายโอกาสการเรียนรู้ทางเทคโนโลยีนี้ให้ครอบคลุมเยาวชนในทุกภูมิภาคของประเทศต่อไป

ภาพถ่าย : https://psit.e-office.cloud/d/8a930d8d

แผนการดำเนินงาน 2568

แผนการดำเนินงานและงบประมาณ ปีงบประมาณ 2568 สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) / สิงหาคม 2567

รายงานผลการดำเนินงานของ สวทช. ประจำปีงบประมาณ 2567 ไตรมาส 3

กิจกรรม “ค่าย 1 : สิ่งประดิษฐ์สมองกลฝังตัว” ปีการศึกษา 2567 ณ โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย จ.สงขลา

    สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)  ร่วมกับ โครงการพัฒนาทักษะอิเล็กทรอนิกส์และการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ภายใต้ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้จัด กิจกรรม “ค่าย 1 : สิ่งประดิษฐ์สมองกลฝังตัว” ปีการศึกษา 2567 กำหนดจัดการอบรม ให้แก่ครูและนักเรียนจากโรงเรียนในรูปแบบ Onsite ในวันที่ 21-23 มิถุนายน 2567 ณ โรงเรียนหาดใหญ่วิทยากรลัย จ.สงขลา โดยมี นายพงศ์ศักดิ์ สังข์ถาวร ผู้อำนวนการโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย จ.สงขลา เป็นประธาน กล่าวต้อนรับและเปิดกิจกรรมการอบรม ในครั้งนี้มีผู้อบรมทั้งหมด 155 คน รวม ครูและนักเรียน จาก 12 โรงเรียน

การอบรมครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2 หลักสูตร หลักสูตรที่1 อบรมสร้างความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ AI (Artificial Intelligence) ผ่าน browser ด้วย pictoblox ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้การเขียนโค้ช เพื่อแยกแยะโรคของใบไม้ โดยทีมวิทยากร นาย จิระศักดิ์ สุวรรณโน หลักสูตรที่ 2 สร้างพื้นฐานการต่อวงจรอิเล็กทรอนิกส์ด้วยหุ่นยนต์บีมวิ่งจับเส้น โดย รองศาสตราจารย์ ดร.เรวัตร ใจสุทธิ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นวิทยากรให้ความรู้ ทั้งสองหลักสูตรจะเป็นพื้นฐานให้แก่ผู้เข้าอบรมใช้ทำโครงงานในอนาคตได้

จัดอบรมเชิงปฏิบัติการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย (ระดับประถมศึกษา) ครั้งที่ 1 เรื่อง “คณิตศาสตร์ : ตัวเลข จำนวน และพีชคณิต” ระหว่างวันที่ 14 – 16 มิถุนายน พ.ศ.2567

    สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)  ร้วมกับ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จัดอบรมเชิงปฏิบัติการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย (ระดับประถมศึกษา) ครั้งที่ 1 เรื่อง “คณิตศาสตร์ : ตัวเลข จำนวน และพีชคณิต” ระหว่างวันที่ 14 – 16 มิถุนายน พ.ศ.2567 ณ ห้องประชุม 68-302 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา วัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาครูด้านเทคนิคการเรียนการสอนคณิตศาสตร์:ตัวเลข จำนวน และพีชคณิต สำหรับครูประถมศึกษา แนวทางการจัดกิจกรรมส่งเสริมให้เด็กประถมศึกษาได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ในการเรียนรู้คณิตศาสตร์:ตัวเลข จำนวน และพีชคณิตได้ฝึกการคำนวณ รู้จักคิด ตั้งคำถามและค้นหาคำตอบด้วยตนเอง และฝึกปฏิบัติจัดกิจกรรม คณิตศาสตร์ไม่ใช่เพียงแค่การคำนวณตัวเลข แต่เป็นการพัฒนาทักษะคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน การเข้าใจตัวเลข จำนวน และพีชคณิตจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรมี ไม่ว่าจะเป็นในด้านการศึกษา หรือในด้านการดำเนินชีวิตประจำวัน เป็นต้น โดยได้รับเกียรติจาก ผศ.ชนกพร ธีระกุลและคณะ จากคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ร่วมเป็นคณะวิทยากรในการจัดอบรมดังกล่าว กิจกรรมดังกล่าวมีครูเข้าอบรม 31 คน จาก 10 โรงเรียน