เทศกาลกินเจปีนี้ ต้องลอง ‘Ve-Chick’ ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่จากโปรตีนพืชโดย สวทช.
เริ่มแล้วกับเทศกาลกินเจ ช่วงเวลาที่ผู้คนตั้งใจละเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์เพื่อประโยชน์ทั้งใจและกาย ปีนี้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เชิญชวนทุกคนมาอิ่มอร่อย อิ่มบุญ และอิ่มใจกับนวัตกรรม “Ve-Chick (วี-ชิค) เนื้อไก่จากโปรตีนพืช” ที่มีเนื้อสัมผัสและกลิ่นสมจริง ที่สำคัญมีไฟเบอร์สูงกว่าเนื้อไก่ อีกทั้งยังปราศจากคอเลสเตอรอล ปัจจุบันถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่ภาคเอกชนและมีผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายแล้ว
Ve-Chick ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่จากโปรตีนพืช

ดร.กมลวรรณ อิศราคาร นักวิจัยทีมวิจัยวัสดุศาสตร์อาหาร เอ็มเทค สวทช. เล่าว่า Ve-Chick เป็นผลิตภัณฑ์เนื้อไก่จากโปรตีนถั่วเหลือง ที่ทีมวิจัยพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีครั้งแรกตั้งแต่ปี 2564 และยังคงเดินหน้าวิจัยต่อยอดผลงานมาจนถึงปัจจุบัน
“ขณะนี้ผลิตภัณฑ์ Ve-Chick มีทั้งหมด 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์แบบ premix (พรีมิกซ์) เป็นเนื้อไก่ผงสำหรับนำไปขึ้นรูปเป็นชิ้นเนื้อไก่รูปแบบต่าง ๆ ก่อนนำไปปรุงอาหาร ผลิตภัณฑ์แบบ precook (พรีคุก) เป็นชิ้นเนื้อไก่สำเร็จรูปพร้อมใช้ประกอบอาหาร (Ready to Cook) รวมทั้งใช้เป็นวัตถุดิบผลิตอาหารพร้อมรับประทานในรูปแบบแช่แข็งได้อีกด้วย



“ส่วนผลิตภัณฑ์กลุ่มสุดท้ายซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2567 คือกลุ่มอาหารพร้อมรับประทาน (Ready to Eat) เป็นผลิตภัณฑ์เนื้อไก่จากโปรตีนพืชที่เก็บในบรรจุภัณฑ์โดยไม่ต้องแช่เย็นได้นานถึง 1 ปี โดยทีมวิจัยได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบไว้แล้ว 2 ผลิตภัณฑ์ คือ กะเพราไก่สับจากโปรตีนพืช และแกงเขียวหวานไก่จากโปรตีนพืช”
นอกจากการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์หลายรูปแบบเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคแล้ว ทีมวิจัยยังให้ความสำคัญต่อกระบวนการผลิตที่ดำเนินการได้เองภายในประเทศและไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรราคาสูง ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยของไทยเข้าถึงเทคโนโลยีการผลิตอาหารแห่งอนาคต และแข่งขันได้ในตลาดโลก


ดร.กมลวรรณ เล่าว่า เอ็มเทค สวทช. ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต Ve-Chick ในกลุ่ม premix และ precook ให้แก่บริษัทเอกชนแล้ว โดยมีบริษัทที่พร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์แล้ว 2 บริษัท ประกอบด้วย บริษัทกรีน สพูนส์ จำกัด ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ในชื่อแบรนด์ Green Spoons และ Sun n Moon และบริษัทบี ไอ จี เนเชอรัล กรีน จำกัด ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ในชื่อแบรนด์ Gin Zhai และ FoodFill
Ve-Chick บุกตลาด B2B แล้ว

ดร.อารดา วินัยแพทย์ ผู้ก่อตั้งบริษัทกรีน สพูนส์ จำกัด เล่าว่า จุดเริ่มต้นที่ทำให้สนใจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารแพลนต์เบสต์ (plant-based food) มาจากการเป็นนักวิจัยด้านโปรตีโอมิกส์ (proteomics) ที่สาธารณรัฐสิงคโปร์มาก่อน โดยประเด็นที่ศึกษาในตอนนั้นคือ ความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างกับหน้าที่ของโปรตีนในร่างกายที่เกี่ยวกับการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคไต โรคหัวใจ ซึ่งผลการศึกษาทำให้ตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพในปริมาณที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนกระบวนการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โปรตีนทางเลือกที่มีรสชาติดี เพื่อให้ผู้บริโภคทุกช่วงวัยเข้าถึงอาหารคุณภาพดีได้ง่ายยิ่งขึ้น
ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์อาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพของคนไทย ประกอบกับการได้เห็นข่าวความก้าวหน้าของนวัตกรรม “Ve-Chick” ที่สะท้อนถึงศักยภาพการผลิตโปรตีนพืชของนักวิจัยไทย ได้กลายเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ ดร.อารดา ตัดสินใจคว้าโอกาสเข้ารับการถ่ายทอดเทคโนโลยี
ดร.อารดา เล่าว่า ส่วนตัวมีความเชื่อมั่นในความเชี่ยวชาญของนักวิจัย สวทช. ทั้งเรื่องคุณภาพผลงานวิจัยและความสามารถในการขยายการผลิตสู่ระดับอุตสาหกรรม ทำให้การถ่ายทอดเทคโนโลยีเป็นไปด้วยความรวดเร็ว จนปัจจุบันบริษัทได้ต่อยอดเทคโนโลยี Ve-Chick สู่ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานในรูปแบบอาหารแช่แข็งแล้ว 2 ชนิด คือ ผัดกะเพราไก่และคั่วกลิ้งไก่ มีกลุ่มลูกค้าหลักคือร้านอาหารและสถานพยาบาล เป็นการค้าในรูปแบบธุรกิจกับธุรกิจ (B2B)
“การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารของบริษัทมุ่งเน้นให้ผู้บริโภคได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่ ปรุงแต่งน้อย ไม่ใส่ผงชูรส และสารกันบูด เน้นการชูกลิ่นรสอาหารด้วยเครื่องเทศของไทยซึ่งมีสรรพคุณดีต่อสุขภาพ ทั้งนี้สูตรอาหารสามารถปรับให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละบริษัทที่สั่งซื้อสินค้าได้ เช่น ผลิตเป็นอาหารมังสวิรัติ อาหารเจ ซึ่งจากการจัดจำหน่ายมาแล้วกว่า 2 ปี ผลิตภัณฑ์ได้รับกระแสตอบรับจากผู้บริโภคในระดับดีมากทั้งด้านเนื้อสัมผัสและรสชาติที่ใกล้เคียงเนื้อไก่จริง อีกทั้งยังคงเอกลักษณ์ความอร่อยครบรสตามตำหรับไทย”

นอกจากการจัดจำหน่ายให้แก่สถานประกอบการในประเทศไทยแล้ว ในปีที่ผ่านมาทางบริษัทยังได้รับโอกาสให้ส่งสินค้าไปทดลองจำหน่ายในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนด้วย โดยผลลัพธ์จากการทดลองตลาดครั้งนี้ อาจนำไปสู่ลู่ทางการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารแพลนต์เบสต์สัญชาติไทยสู่ตลาดโลก
ดร.อารดา เล่าต่อว่า ด้วยความเชี่ยวชาญและชื่อเสียงด้านการวิจัยของ สวทช. ทำให้เมื่อมีการนำสินค้าของบริษัทไปจัดแสดงยังงานมหกรรมอาหารต่าง ๆ และให้ข้อมูลว่าเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาโดย สวทช. จะทำให้ผู้แทนบริษัทรวมถึงผู้บริโภคที่เข้าชมงานสนใจลิ้มลองรสชาติของผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้น ถือได้ว่ามีส่วนช่วยในการขยายฐานการตลาดเป็นอย่างดี
“ดังนั้นหากมีผู้ประกอบการท่านใดที่กำลังมองหาเทคโนโลยีการผลิตอาหารหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาตำหรับอาหารสูตรเฉพาะ ก็อยากขอแนะนำให้ทดลองเข้ารับคำปรึกษาที่ สวทช. เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมารู้สึกประทับใจการทำงานร่วมกับทีมวิจัยจากเอ็มเทค สวทช. เป็นอย่างมาก ทั้งในด้านความเชี่ยวชาญและความพร้อมเรื่องการให้บริการพัฒนานวัตกรรมอาหารแบบครบวงจร”
สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์อาหารแพลนต์เบสต์ของบริษัทกรีน สพูนส์ จำกัด ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Ve-Chick ในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ สามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ ‘กะเพราไก่เจ’ และ ‘คั่วกลิ้งไก่เจ’ ได้ที่ร้าน Bellinee’s จำนวน 75 สาขาทั่วประเทศไทย และที่ Café Kadsan ใน 7-Eleven ตั้งแต่วันที่ 21-29 ตุลาคมนี้ ส่วนผู้ประกอบการที่สนใจรับสินค้าของบริษัทไปจำหน่าย ติดต่อสอบถามได้ทางอีเมล greenspoonsonly@gmail.com
วิจัยแบบครบวงจรได้ที่ FoodSERP สวทช.
นอกจากการรับถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านอาหาร เช่น “Ve-Chick” แล้ว ผู้ประกอบการที่สนใจการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต (future food) รวมถึงบริการทดสอบคุณภาพ ยังสามารถใช้บริการ แพลตฟอร์ม FoodSERP (ฟูดเซิร์ป) หรือ ‘แพลตฟอร์มบริการผลิตอาหารและส่วนผสมฟังก์ชันแบบ one-stop service’

ดร.กมลวรรณ เล่าว่า สวทช. ได้จัดตั้งแพลตฟอร์ม FoodSERP ขึ้นเพื่อให้บริการด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การขยายกำลังการผลิต รวมถึงการทดสอบคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร โดยผสานความเชี่ยวชาญของนักวิจัยจากศูนย์แห่งชาติต่าง ๆ ภายใต้ สวทช. โดยทีมวิจัยวัสดุศาสตร์อาหาร เอ็มเทค พร้อมให้บริการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอาหารทั้งในกลุ่มเนื้อสัตว์จากโปรตีนพืช อาหารปรับเนื้อสัมผัสสำหรับผู้บริโภคที่มีความต้องการเฉพาะ เช่น ผู้สูงอายุ ผู้มีภาวะกลืนลำบาก รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการจากผู้ประกอบการ
“เอ็มเทค สวทช. พร้อมให้บริการวิเคราะห์ทดสอบด้านเนื้อสัมผัสของอาหาร เช่น ความแข็ง ความหนืด และพร้อมให้บริการร่วมกับศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สวทช. ในเรื่องการทดสอบการย่อยและการดูดซึมสารอาหารด้วยเครื่องจำลองสภาวะการย่อยอาหารในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กผ่านระบบ tiny-TIMagc และสภาวะการทำงานของลำไส้ใหญ่ผ่านระบบ TIM-2 รวมถึงบริการวิเคราะห์ทดสอบประสิทธิภาพของสารให้ประโยชน์เชิงหน้าที่
“ทั้งนี้ก็เพื่อให้นวัตกรรมอาหารที่ทีมวิจัยร่วมกับผู้ประกอบการพัฒนา ไม่เพียงมีเนื้อสัมผัสและรสชาติที่สมจริง แต่ยังเป็นอาหารที่มีคุณภาพสูง” ดร.กมลวรรณ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้ที่สนใจรับถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต Ve-Chick ติดต่อได้ที่คุณชนิต วานิกานุกูล (ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ) เบอร์โทร 0 2564 6500 ต่อ 4788 หรืออีเมล chanitw@mtec.or.th และผู้ที่สนใจใช้บริการแพลตฟอร์ม FoodSERP สอบถามและติดต่อขอรับบริการได้ทางอีเมล foodSERP_by_NSTDA@nstda.or.th
เรียบเรียงโดย ภัทรา สัปปินันทน์ ฝ่ายสร้างสรรค์สื่อและผลิตภัณฑ์ สวทช.
อาร์ตเวิร์กโดย ภัทรา สัปปินันทน์
ภาพประกอบโดย ภัทรา สัปปินันทน์ และบริษัทกรีน สพูนส์ จำกัด และภาพจาก Adobe Stock