อว.-สวทช. ประเดิมจัด Industry 4.0 Awards 2025 ชูนโยบาย 3 เสาหลักปั้นไทย สู่ฐานการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูง
กระทรวง อว. โดย สวทช. จัดพิธีมอบรางวัล “Industry 4.0 Recognition Awards 2025” เป็นครั้งแรก เพื่อเชิดชูเกียรติสถานประกอบการที่มุ่งสู่โรงงานอัจฉริยะ “ปลัด อว.” ปาฐกถาพิเศษ ชูนโยบาย 3 เสาหลัก “สร้างคน-วิจัยเพื่อใช้ประโยชน์-มหาวิทยาลัยเพื่อท้องถิ่น” เป็นระบบนิเวศขับเคลื่อนประเทศ สู่ “ฐานการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูง” ที่ทั่วโลกเชื่อมั่น
(วันที่ 3 กันยายน) ณ โรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพ สุขุมวิท: กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) จัดพิธีมอบรางวัล Industry 4.0 Recognition Awards 2025 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่ สวทช. มีการคัดเลือกสถานประกอบการภาคอุตสาหกรรมและการผลิตที่มีความโดดเด่นในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมยกระดับสู่สุดยอดอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อรับรางวัล “Industry 4.0 Recognition Awards 2025” รางวัลเพื่อเชิดชูและประกาศเกียรติคุณแก่ภาคธุรกิจที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง สู่การเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันของประเทศ โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปาฐกถาพิเศษ “นโยบายกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กับการขับเคลื่อนการยกระดับอุตสาหกรรมไทย” โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. นักวิจัย สวทช. ผู้ประกอบการภาคเอกชนและเอสเอ็มอี เข้าร่วมงานจำนวนมาก
ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวปาฐกถาพิเศษในพิธีมอบรางวัล Industry 4.0 Recognition Awards 2025 ว่า กระทรวง อว. มุ่งสร้าง “ระบบนิเวศ” ที่เอื้อต่อการยกระดับอุตสาหกรรมไทยอย่างยั่งยืนผ่าน 3 เสาหลัก ได้แก่ 1. การสร้างกำลังคน ที่มีทักษะตรงต่อความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และยานยนต์ไฟฟ้า 2. การวิจัยและนวัตกรรมเชิงยุทธศาสตร์ ที่เปลี่ยนวิธีคิดจาก “วิจัยเพื่อรู้” ไปสู่ “วิจัยเพื่อใช้ประโยชน์” ได้จริงในโรงงาน และ 3. มหาวิทยาลัยเพื่อท้องถิ่น ที่ทำหน้าที่เป็น “พี่เลี้ยง” ทางเทคโนโลยีให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่
ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย กล่าวว่า หัวใจสำคัญของอุตสาหกรรม 4.0 คือคนที่มีทักษะตรงกับความต้องการของตลาด เราจึงมีโครงการทุนการศึกษาและการฝึกอบรมที่มุ่งเน้นในสาขาที่เป็นที่ต้องการ เช่น อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ปัญญาประดิษฐ์ ยานยนต์ไฟฟ้า และ เซมิคอนดักเตอร์ นอกจากนี้งานวิจัยที่ดีต้องเดินเข้าโรงงาน ไม่ใช่จบที่ห้องแล็บ ซึ่ง สวทช. ได้พัฒนา Thailand i4.0 Index ขึ้นมาเป็นเครื่องมือประเมินความพร้อมและเป็น “ภาษากลาง” ที่สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนทั่วโลก โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนคือการเปลี่ยนภาพลักษณ์ประเทศไทยสู่การเป็นฐานการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงที่ดึงดูดการลงทุน
“วันนี้ กระทรวง อว. กำลังสร้างบุคลากรไทยให้มีความเชี่ยวชาญในสาขาเหล่านี้ เพื่อลดการพึ่งพาและสร้างความมั่นคงในระยะยาวให้กับประเทศ โดย สวทช. ได้พัฒนา Thailand i4.0 Index ในการประเมินความพร้อมของอุตสาหกรรม ซึ่งอนาคตในอีก 5 ปีข้างหน้าเราจะเห็นโรงงานในประเทศไทยมีระบบการผลิตที่เชื่อมโยงกัน ข้อมูลจะถูกนำมาใช้ในการตัดสินใจแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นผลมาจากการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมภายใต้โครงการ Industry 4.0 Platform และทางมหาวิทยาลัยในแต่ละจังหวัดจะเปลี่ยนบทบาทเป็นศูนย์รวมองค์ความรู้และเทคโนโลยี ที่พร้อมช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ประกอบการท้องถิ่น และทำงานร่วมกับผู้ประกอบการรายใหญ่ได้อย่างไร้รอยต่อ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้จากการขับเคลื่อนด้วยนโยบาย หนึ่งมหาวิทยาลัย หนึ่งภารกิจ ของกระทรวง อว. เช่นกัน”
ด้าน ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า รางวัล Industry 4.0 Recognition Awards ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีแรก ภายหลังจากที่ สวทช. และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตลอดจนพันธมิตรจากหลายหน่วยงาน ได้ร่วมกันพัฒนาดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมของอุตสาหกรรมไทย หรือ Thailand i4.0 Index สำหรับเป็นเครื่องมือมาตรฐานในการประเมินความพร้อมของอุตสาหกรรมไทยเพื่อยกระดับไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยตั้งแต่ปี 2566 มีโรงงานไทยกว่า 900 แห่งที่เข้าร่วมการประเมิน และหลายแห่งได้นำผลลัพธ์ไปจัดทำแผนการลงทุนได้อย่างชัดเจน เช่น โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ได้รู้วิธีการบูรณาการข้อมูลเครื่องจักรในสายการผลิตสู่การจัดการซัพพลายเชนและการทำลีนออโตเมชัน เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปีนี้มีผู้ได้รับรางวัลทั้งสิ้น 25 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ 22 แห่ง และ SMEs 3 แห่ง นอกจากการประเมิน Thailand i4.0 Index แล้ว สวทช. ยังมีศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (SMC) ณ เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมในการให้คำปรึกษา ทดลองทดสอบเทคโนโลยี และถ่ายทอดเทคโนโลยี Smart Factory ได้แก่ IIOT Big Data, AI และ Automation รวมถึงสิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการยกระดับสู่อุตสาหกรรม 4.0 แบบครบวงจร
“รางวัลดังกล่าวถือเป็นการส่งเสริมให้สถานประกอบการภาคอุตสาหกรรมเห็นคุณค่าและตัวอย่างของสถานประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนสู่ระบบอุตสาหกรรม 4.0 ผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มผลิตภาพ ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน และร่วมกันสร้างระบบนิเวศโรงงานอัจฉริยะของไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน” ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ กล่าวทิ้งท้าย
![]() |
![]() |
ทั้งนี้ความสำเร็จของโครงการนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากความร่วมมือที่แข็งแกร่งของหลายหน่วยงาน โดยมี สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) สนับสนุนงบประมาณผ่าน “แผนงานบูรณาการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต” กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) และกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ได้ร่วมกันใช้ดัชนี Thailand i4.0 Index เป็นมาตรฐานในการประเมินและสนับสนุนผู้ประกอบการ นอกจากนี้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ยังใช้ผลการประเมินเป็นเกณฑ์ให้สิทธิประโยชน์เพื่อการลงทุน ควบคู่ไปกับการสนับสนุนด้านสินเชื่อจาก ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) และ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งทุนและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันได้อย่างครบวงจร
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |