
ดาวน์โหลดไฟล์ภาพ size : 5 MB (3822 x 4125) | 3 MB (2657 x 2868) | 1 MB (1181 x 1275) | 211 KB (800 x 863)

ดาวน์โหลดไฟล์ภาพ size : 5 MB (3822 x 4125) | 3 MB (2657 x 2868) | 1 MB (1181 x 1275) | 211 KB (800 x 863)
คำว่า Be Proactive เป็นคำที่ปรากฏในหนังสือชื่อ “The 7 Habits of Highly Effective People” ซึ่งเขียนโดยนักเขียนชื่อดังอย่าง สตีเวน อาร์โควีย์ ( Stephen R. Covey) นับเป็นผู้ให้แนวคิดเรื่องนี้โดยตรง ทั้งนี้หนังสือเล่มนี้ได้รับความนิยมอย่างมากต่อเนื่องกันเป็นเวลานานกว่า 15 ปี และถูกจำหน่ายไปแล้วกว่า 15 ล้านเล่ม
เนื้อหาในหนังสือได้กล่าวถึงนิสัย 7 ประการของผู้ที่ประสบความสำเร็จ อันประกอบด้วยเนื้อหาย่อยเกี่ยวกับแผนที่ในการดำเนินชีวิตเพื่อไปสู่ความสำเร็จ วิธีการยกระดับคุณภาพจิตใจ เนื่องจากผู้เขียนได้ให้แง่คิดว่ามนุษย์มีสิ่งที่แตกต่างจากสัตว์เดรัจฉานอยู่ 3 อย่างคือ
ดังนั้นการเอาใจใส่และหมั่นฝึกฝนคุณลักษณะดังกล่าว จนกลายเป็นนิสัย จะทำให้ประสบความสำเร็จและมีความสุขอย่างแท้จริง นอกจากนั้น ผู้เขียนได้กล่าวว่า กรอบในการมองโลก (paradigm) หรือนิสัยของคนเรานั้นส่วนใหญ่จะถูกปลูกฝังมาจากการสั่งสอนของคนรอบข้าง การใช้ชีวิตในสังคม และจากการเรียนรู้ด้วยตัวเอง และด้วยความเคยชินทำให้คนเรานั้นไม่เคยฉุกคิดว่ามุมมองที่มีอยู่นั้นถูกต้องหรือเหมาะสมหรือไม่ จึงก่อให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งและไม่เข้าใจผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา เพราะเอาความคิดของตนเองเป็นตัวตัดสิน
ดังนั้น ผู้แต่งจึงแนะนำให้หยุดทบทวนแนวความคิด มุมมองและคติธรรมในใจที่เคยยึดถือตลอดมาว่า สิ่งเหล่านั้นถูกต้องแล้วจริงหรือ ให้พิจารณาตามความเป็นจริง สิ่งไหนคิดผิดให้คิดใหม่แก้ไขที่ต้นเหตุ เมื่อเข้าใจตนเองจึงจะเข้าใจผู้อื่นได้ นอกจากนั้นผู้เขียนยังเชื่อว่าผู้ที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นส่วนหนึ่งเกิดจากการมีสมองข้างขวาที่ทรงประสิทธิภาพสามารถควบคุมการทำงานของสมองด้านซ้ายได้ สมองข้างขวามีหน้าที่เตือนให้รู้จักผิดชอบชั่วดี การมีจินตนาการ และการมีอารมณ์และความรู้สึก ดังนั้น การฝึกใช้จินตนาการและมีสติรู้เนื้อรู้ตัวอยู่ตลอดเวลาจึงเป็นการพัฒนาการทำงานของสมองด้านขวาได้เป็นอย่างดี
จากเหตุผลข้างต้น องค์กรต่างๆ จึงเลือกนำเนื้อหานี้มาเป็นหลักสูตรฝึกอบรมให้กับบุคลากร โดยเฉพาะบุคลากรในกลุ่ม “ผู้นำ หรือผู้บริหาร” เพราะคําว่า “ ผู้นํา หรือผู้บริหาร” เป็นมากกว่าคําเรียกตําแหน่ง เพราะองค์กรจะประสบความสำเร็จ ย่อมต้องอาศัย “ความเป็นผู้นำ” จาก “บุคลากรทุกคน” โดยการบ่มเพาะอุปนิสัยที่เหมาะสมให้เกิดขึ้นกับบุคลากรทุกคน อันจะนำองค์กรไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ
ลักษณะนิสัยแรกจาก 7 ประการที่ผู้เขียนได้กล่าวถึง คือ อุปนิสัยการสร้างสรรค์และรู้จักเลือก (Be Proactive)
อุปนิสัยการสร้างสรรค์และรู้จักเลือก (Be Proactive) คือการมีสติอยู่กับตัวตลอดเวลา รู้ตัวว่าขณะนี้ตนเองกำลังทำอะไรอยู่ และผลที่เกิดจากการกระทำนี้คืออะไร รู้ว่าขณะนี้ตัวเรากำลังอยู่ในสถานการณ์แบบใด สถานการณ์ปกติหรือมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น โดยสิ่งต่างๆ รอบตัวเรานั้น มีผลอะไรต่อตัวเราบ้าง และเรามีการตอบสนองต่อสิ่งที่กำลังเผชิญอย่างไร ตอบสนองด้วยกิริยาใดด้วยอารมณ์แบบไหน
บุคลที่มีอุปนิสัยที่ 1 นี้คือคนที่เลือกที่จะเป็น เลือกที่จะทำ คือคนที่ “รู้ตัวว่าเลือกได้” คนที่มีนิสัยแบบนี้ จะมีความกระตือรือล้น เป็นคนที่ Active เป็นคนที่รู้ว่า ตัวเองต้องการอะไร คนที่ Proactive จะไม่รอให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นกับตัวเขา แต่เขาจะเป็น คนทำให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้น ด้วยตัวเขาเอง เพราะเมื่อเขาเลือกที่จะเป็น เมื่อเขารู้ว่าตัวเองต้องการอะไร เขาก็จะมีความริเริ่มที่จะทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นในทันที สรุป Be Proactive คือ อะไรไม่เคยทำ ต้องเรียนรู้ ทำให้ได้ ทำให้เกิดความชำนาญ
อุปนิสัยที่ 1 จะเป็นพื้นฐานของของอุปนิสัยที่ 2 – 7 ถ้าไม่สามารถสร้างอุปนิสัยที่ 1 ได้ก็จะไม่สามารถสร้างอุปนิสัยที่ 2 – 7 ได้
สมาคมระบบขนส่งและจราจรอัฉริยะไทย (Thai Intelligent Transport Systems Association: ITS-Thailand) ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ จัดให้มีการสำรวจมูลค่าตลาดระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะ ด้านตลาดอุปกรณ์และระบบนำทาง (Navigator) ของประเทศไทย ประจำปี 2555 และประมาณการปี 2556 เพื่อนำผลการศึกษาไปใช้ในประโยชน์การสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรม ITS ต่อไป
เอกสารเผยแพร่ฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเอกสารประกอบการประชุม วิชาการประจำปี 2556 (NAC2013) ในหัวข้อ รู้จักกับ AEC ในมุมมองด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลในระดับมหภาคที่ สำคัญ คือ
– ข้อมูลพื้นฐานทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศอาเซียน ทั้งขัอมูลเชิงเปรียบเทียบที่แสดงถึงระดับการพัฒนาและโครงสร้างทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ข้อมูลทางด้านการค้าและการลงทุนระหว่างอาเซียนกับกลุ่มประเทศคู่ค้าหลัก รวมถึงข้อมูลการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศไทยกับสมาชิกอาเซียน
– ขีดความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศสมาชิกอาเซียนในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านทรัพยากรที่จำเป็นต่อการวิจัยและพัฒนา อันได้แก่ ค่าใช้จ่ายและบุคลากรด้านวิจัยและพัฒนา หรือผลผลิตในรูปแบบของบทความ ลิขสิทธิ์ การส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูง
– การขับเคลื่อนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมกันของกลุ่มประเทศอาเซียน ภายใต้กลไกของอาเซียนที่นำมาสู่ KrabiInitiative รวมถึงข้อตกลงด้านอื่นๆ ที่มีนัยสำคัญทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ดาวน์โหลดเอกสารฉบับ [size : 10.9 MB]
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารเผยแพร่ฉบับนี้จะเป็นหนึ่งในกลไกที่ช่วยสร้างความตระหนักและประสานความเข้าใจระหว่างภาคเศรษฐกิจ และชุมชนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถึงการทำงานร่วมกันเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับประเทศไทยในการก้าวเข้าสู่ AEC ในปี 2558 ได้อย่างสง่างาม
การจัดการความรู้ เป็นกระบวนการรวบรวม การสงวนรักษา และการถ่ายทอดสารสนเทศไปสู่ความรู้ ที่สามารถเข้าถึงได้เพื่อนำไปปรับปรุงการปฏิบัติงานในองค์กร โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ การนำสินทรัพย์ความรู้ (Knowledge Assets) ไปสร้างคุณค่า (Value Creation) หรือเพิ่มผลิตผล (Productivity) เพื่อสนับสนุนเป้าหมายหรือตอบสนองการดำเนินการขององค์กร
การจัดการความรู้ จึงเป็นกระบวนการในการนำความรู้ต่างๆ ที่มีอยู่ในบุคคลขององค์กร รวมทั้งความรู้ที่อยู่ในรูปของเอกสารสื่อต่างๆ มาจัดการให้เป็นระบบ เพื่อให้สามารถนำความรู้ดังกล่าวที่มีไปใช้ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ข้างต้น ยกตัวอย่าง การจัดการความรู้ของบริษัท Schlumberger ซึ่งดำเนินการโดยมีแนวความคิดที่ว่า ถ้าองค์กรและพนักงาน สามารถรู้ทุกอย่างที่แต่ละคนทั้งหมดในองค์กรรู้ ก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิ์ภาพและส่งผลให้เกิดกำไรมากขึ้น เนื่องจากความรู้สำคัญด้านประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ ที่เก็บไว้นั้น สามารถทำให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพสํงได้ ถ้ามีการถ่ายทอดความรู้ให้แก่กลุ่มที่มีประสิทธิภาพการทำงานต่ำ และเนื่องจากอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ เป็นการดำเนินการที่ไม่เหมือนธุรกิจประเภทอื่น ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับแหล่งพลังงานธรรมชาติที่อาจมีอยู่จำกัด แต่ปัญหาผู้เชี่ยวชาญทางเทคนคิก็มีจำกัดเช่นกัน การควบรวมกิจการของบริษัททำให้สูญเสียพนักงาน ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากกว่า 20,30 ปี เพราะฉะนั้น เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาดังกล่าว ควรมีช่องทางให้พนักงานได้เรียนรู้ประสบการณ์ซึ่งกันและกัน และความรู้เหล่านั้น ต้องสามารถที่จะจัดเก็บ แลกเปลี่ยน แบ่งปัน ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เหล่านี้นให้กับคนรุ่นใหม่ได้
การจัดการกับองค์ความรู้ที่มีการเขียนหรือเผยแพร่เป็นลายลักษณ์อักษร หรือที่เรียกว่า เป็นความรู้ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) นั้น สามารถติดตามและรวบรวม มาจัดเป็นระบบได้ง่าย แต่ในทางกลับกันการจัดการกับองค์ความรู้แบบฝังลึก (Tacit Knowledge) นั้น จะดำเนินการได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากเป็นความรู้ที่ฝังอยู่ในตัวบุคคล ไม่ได้มีการถอดหรือเขียนออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร มักจะเป็นความรู้ที่อยู่ในคนทำงาน และมักจะเป็นเรื่องของความเชี่ยวชาญ อาจจะยากในการถ่ายทอด ทั้งนี้ การจะจัดการกับความรู้ประเภทนี้ได้นั้น จะต้องมีกลไกต่างๆ ในการดึงเอาความรู้ ถ่ายทอดความรู้ให้กับคนในองค์กรโดยอยู่บนความไว้วางใจกัน องค์กรจึงมีหลากหลายวิธีในการดึงความรู้จากแต่ละบุคคลออกมา เช่น การสร้างองค์ความรู้ในองค์กร สามารถใช้วิธีการต่างๆ เหล่านี้ ได้แก่ การระดมสมอง (Brainstorming) การมีชุมชนนักปฏิบัติ (Community of Practices-CoP) การใช้โปรแกรม เช่น วิกิ บล็อก ในการให้บุคลากรเขียนสิ่งที่ตนรู้ออกมา หรือการมีระบบพี่เลี้ยง (Mentor) เป็นต้น นอกเหนือจากวิธีการสร้างองค์ความรู้ในองค์กรแล้ว สามารถใช้วิธีการต่างๆ เหล่านี้ในการให้บุคลากรหรือพนักงานในองค์กรได้แลกเปลี่ยน ความรู้ และเรียนรู้จากประสบการณ์ของกันและกันได้ เช่น ระบบเพื่อนช่วยเพื่อน (Peer assist) การเล่าเรื่อง (Storytelling) การใช้โปรแกรม เช่น วิกิ บล็อก และ Social network อื่นๆ มาเป็นเครื่องมือในการแลกเปลี่ยนความรู้ เป็นต้น หรือแม้แต่การจัดบรรยากาศให้อยู่ในสภาพที่อยากคุย หรือจัดช่วงเวลาที่ให้บุคลากรหรือพนักงานได้แลกเปลี่ยน ประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ในการกระตุ้นกิจกรรมการแบ่งปันความรู้ในองค์กร บางแห่งมีการจูงใจพนักงานด้วยการให้รางวัลตอนแทน เช่น บริษัท JTC Corporation มีรางวัล Knowledge Activist Award เพื่อสนับสนุนวัฒนธรรมการแบ่งปันความรู้ เพื่อสร้างความตระหนักให้แก่พนักงานที่มีผลงานโดดเด่นในการเผยแพร่และแบ่งปันความรู้
ในหลายๆ องค์กร เห็นความสำคัญของการรวมกันระหว่างเครือข่ายทางสังคมและกระบวนการในการบ่งหา ผู้เชี่ยวชาญ จึงมีการนำระบบ Expertise Locator Systems หรือ ELS มาบูรณาการความสัมพันธ์ระหว่าง คน กระบวนการ และเทคโนโลยี ดังนี้
บริษัท Shell เห็นความสำคัญของบุคลากรในองค์กร เช่นเดียวกัน โดย Shell มีกลยุทธ์ Ask-Learn-Share แนะนำให้พนักงานสอบถามผู้ฝึกสอน เพื่อนร่วมงาน หรือผู้เชี่ยวชาญ ก่อนเริ่มทำงาน โดยการถามนั้นไม่ได้เป็นเพียงการใช้เครื่องมือเท่าใดนัก แต่เป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคนในองค์กรด้วยกันเอง สำหรับกลยุทธ์การจัดการความรู้ของ บริษัท Accenture นั้น มุ่งเน้นไปที่ “people to people” โดยการแลกเปลี่ยนความรู้ ความร่วมมือขององค์กรในการสร้างแผนงานอย่างละเอียดจะเป็นตัวจัดการ ที่ทำให้เกิดการเชื่อมโยงคนข้ามองค์กรได้ ผู้นำระดับอาวุโสก็คาดหวังว่าการใช้แผนงานที่ละเอียดนี้จะถูกสนับสนุนไปทั่ว ทั้งองค์กร เช่นเดียวกับบริษัท Schlumberger ถือว่า Focal point ของการจัดการความรู้ในบริษัท คือ คนและความสัมพันธ์ของคนกับปัจจัยอื่นๆ ดังนี้
ทั้งนี้ องค์ความรู้ที่รวบรวม จัดเก็บได้นั้น จะต้องมีเครื่องมีอในการจัดหมวดหมู่และการทำดัชนี การจัดหมวดหมู่เป็นพื้นฐานในการจัดเนื้อหาให้เป็นระบบ การทำดัชนีช่วยในการจัดเอกสารและลงรายการเอกสาร ด้วยการรวมทั้งหัวเรื่องและแหล่งที่อยู่ของเอกสารเข้าด้วยกัน ถ้าการทำดัชนีมีประสิทธิภาพ จะต้องทำให้ผู้ใช้รู้ว่าต้องใช้คำสำคัญคำใดเพื่อที่จะหาสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกันได้ ด้วยการใช้คำศัพท์ควบคุม โดยทั่วไปแล้วมักจะใช้ taxonomy หรือศัพท์สัมพันธ์เข้ามาช่วย
องค์กรใดที่มีการจัดการความรู้ ควรมีการสื่อสารเรื่องดังกล่าวให้มีความชัดเจนกับบุคลากรหรือพนักงานในองค์กร เพราะอาจมีคำถามเกิดขึ้น เมื่อเริ่มการจัดการความรู้ในองค์กร คือ
จากคำถามทั้ง 3 คำถามดังกล่าว องค์กรต้องเตรียมคำตอบเพื่อให้พนักงานเข้าใจ เห็นด้วย และคล้อยตามกับการจัดการความรู้ที่จะเกิดขึ้นในองค์กร นอกจากนี้ ต้องเน้นให้กลุ่มผู้บริหารตั้งแต่ระดับสูง ระดับกลางที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างผู้บริหารและผู้ปฏิบัติ เข้าใจถึงบทบาทและหน้าที่ของตนเองในการจัดการความรู้ ซึ่งประกอบด้วย 4C คือ เก็บ (Capyure) ประมวลผล (Codify) ร่วมมือ (Collaborate) และ จัดหมวดหมู่ (Classify) โดยความรู้เหล่านั้น ต้องเป็นความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการขององค์กร เป็นความรู้ที่ต้องการใช้เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายขององค์กร ควรมีความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภายใน เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหาร และคณะกรรมการผู้บริหารเพื่อให้เกิดความสนับสนุนในการจัดการความรู้จากระดับสูงลงมา มีการกำหนดทีม KM รวมถึงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดซึ่งกันและกัน
บรรณานุกรม:
Asian Productivity Organization. Knowledge Management Tools and Tecniques Manual. Japan : Asian Productivity Organization, 2010
Etkind, Josh et al. 2003. Knowledge Portals Support Widely Distributed Oilfield Projects. Professional Communication Conference, 2003. IPCC 2003. Proceedings. IEEE International. 21-24 Sept 2003. : 189- 200.
O’Dell, Carla. 2008. Web 2.0 and Knowledge Management : Themes from an APQC Consortium Benchmarking Study. [Online] :http://wiki.sla.org/download/attachments/11371006/APQC+2008+Web+2+and+KM.pdf?version=1 Accessed: 15 Apr 2013
ตอนที่ 2 ของกรณีศึกษาความสำเร็จและความล้มเหลวในการแบ่งปันความรู้ของ Xerox และ NASA เน้นนำเสนออุปสรรคของการแบ่งปันความรู้ ซึ่งมีสาเหตุมาจากองค์กร และเทคโนโลยี รวมถึงชุมชนนักปฏิบัติ (CoP)
Continue reading “กรณีศึกษาความสำเร็จและความล้มเหลวในการแบ่งปันความรู้ของ Xerox และ NASA (ตอนจบ)”
บทความนี้เน้นนำเสนอบางความสัมพันธ์ระหว่างการจัดการสารสนเทศ (Information management) และ การจัดการความรู้ (Knowledge management) โดยเชื่อมโยงกับกรณีของ The National Aeronautics and Space Administration (NASA) และ บริษัท Xerox Corporation โดยเฉพาะการแบ่งปันความรู้ (Knowledge sharing) ซึ่งครอบคลุมการจัดหาหรือรวบรวมความรู้ (Capturing) การสื่อสาร การแบ่งปันความรู้ และการเรียนรู้ รวมถึงชุมชนนักปฏิบัติ (Communities of Practice : CoP) และวัฒนธรรมองค์กร
Continue reading “กรณีศึกษาความสำเร็จและความล้มเหลวในการแบ่งปันความรู้ของ Xerox และ NASA”
บริษัท Thomson Reuters ได้จัดทำรายงานประจำปีแสดงนวัตกรรมโลก 12 สาขาหลัก ของปี 2011 ในชื่อเรื่อง “2011 State of Innovation : Twelve Key Technology areas and their states of Innovation” เป็นรายงานต่อเนื่องจากปี 2009 และ 2010 ด้วยวิธีการวิเคราะห์จากจำนวนเอกสารสิทธิบัตรและนำเสนอเทคโนโลยีหลัก 12 สาขาพร้อมให้รายละเอียด ชื่อบริษัทอุตสาหกรรม เทคโนโลยีสาขาย่อย ชื่อประเทศ และ จำนวนเอกสารสิทธิบัตร
รายงานนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นของอุตสาหกรรมภาคต่างๆ ที่มีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่โดยแสดงข้อมูลเปรียบเทียบปี 2010 ด้วย จึงทำให้ทราบว่าสาขาใดมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัดหรือลดลง รวมทั้งแสดงรายชื่อบริษัทเจ้าของสิทธิ์นวัตกรรม (Assignee) ตามภูมิภาคหลักของโลก 3 แห่งคือสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ด้วย
สรุปเนื้อหาหลักของรายงานฉบับนี้เป็นการนำเสนอข้อมูลกิจกรรมนวัตกรรมของโลกได้อย่างชัดเจน คือ
หมวดเทคโนโลยีที่มีการเพิ่มขึ้นตลอดทั้งปี 2011 ได้แก่
หมวดเครื่องใช้ในครัวเรือน (Domestic Application) และอุปกรณ์การแพทย์ (Medical devices) โดยมีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 12
หมวดเทคโนโลยีด้านยานอวกาศ มีอัตราลดลงจากปี 2010 แต่อย่างไรหมวดย่อย Propulsion Plants มีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 202
ในส่วนของหมวดยานยนต์ พบว่า สาขา Alternate powered vehicles มีการเติบโตสูงสุด
หมวดเทคโนโลยีชีวภาพ ถือเป็นสาขาใหม่ในปี 2012 นี้ ทีมงานวิเคราะห์พบว่ามีความสำคัญมากขึ้นเป็นสาขาเกิดใหม่ทดแทนสาขาเดิมคือ Agrochemical and Agriculture ที่มีกิจกรรมด้านนวัตกรรมลดลงมาก
ในหมวดเครื่องสำอาง พบว่าหมวดย่อย สารลดการขับเหงื่อ (antiperspirant) มีอัตราเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 22 โดยบริษัท รอลิอัลเป็นผู้นำเครื่องสำอางค์ของโลก
ผลการวิเคราะห์พบนวัตกรรมในเรื่องยาสูบมีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 42 ในอุตสาหกรรม อาหาร ยาสูบ เครื่องดื่ม การหมัก
เทคโนโลยีปิโตรเลียม มีอัตราลดลงทุกหมวดย่อย ยกเว้นหมวดการสำรวจปิโตรเลียมและก๊าซ การขุดเจาะ การผลิตและการแปรรูป ที่มีอัตราเพิ่มร้อยละ 1
ในสาขาอนินทรีย์ในเภสัชกรรมและอุปกรณ์แยกส่วนของสารกึ่งตัวนำ (Semiconductors) ทั้ง 2 สาขานี้มีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 31
ข้อมูลดิบที่ใช้ในการวิเคราะห์ในจัดทำรายงานฉบับนี้ได้จากแหล่งข้อมูล / ฐานข้อมูลของบริษัท Thomson Reuters ชื่อ Derwent World Patents Index (DWPI) ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นที่ยอมรับของสำนักงานสิทธิบัตรทั่วโลก มีทีมงานบรรณาธิการทำการเรียบเรียงเนื้อหาในสิทธิบัตรแต่ละฉบับขึ้นมาใหม่ เช่นในส่วนชื่อเรื่อง บทคัดย่อ รหัสจำแนกเทคโนโลยี รหัสของบริษัทอุตสาหกรรม ทำให้เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น ทีมงาน Thomson Reuters Intellectual Property (IP)
ทำการวิเคราะห์สรุปเป็นรายงานฉบับนี้และ ให้บริการจัดทำรายงานแก่หน่วยงานต่างๆ ที่สนใจทั่วโลกด้วย
ตารางแสดงเทคโนโลยีหลัก 12 สาขาปี 2011 (2011 Patent Activity ) ได้แก่
| เทคโนโลยีหลัก 12 สาขา | 2011 Volume | 2011 Ranking | % of Total | 2010 Volume | % Change in Volume (2011 v 2010) | |
| A | Computers & Peripherals | 216,858 | 1 | 30% | 212,622 | 2 % |
| B | Telecommunications | 92,131 | 2 | 13% | 87,920 | 5% |
| C | Automotive | 86,788 | 3 | 12% | 86,479 | 0% |
| D | Semiconductors | 86,427 | 4 | 12% | 88,867 | -3% |
| E | Medical Devices | 58,592 | 5 | 8% | 52,117 | 12% |
| F | Pharmaceuticals | 57,132 | 6 | 8% | 59,350 | -4% |
| G | Domestic Appliances | 41,198 | 7 | 6% | 36,816 | 12% |
| H | Aerospace | 36,002 | 8 | 5% | N/A | N/A |
| I | Biotechnology | 25,648 | 9 | 4% | N/A | N/A |
| J | Petroleum | 13,652 | 10 | 2% | N/A | N/A |
| K | Food, Tobacco, Beverage Fermentation | 9,545 | 11 | 1% | N/A | N/A |
| L | Cosmetics | 6,082 | 12 | 1% | 6,438 | -6% |
Source: Thomson Reuters Derwent World Patents Index (DWPI)
แสดงรายละเอียดย่อยของเทคโนโลยีหลัก 12 สาขา เรียงลำดับตามตัวอักษร
ตารางที่ 1.1 เทคโนโลยี AEROSPACE แสดงเทคโนโลยีย่อย 6 อันดับแรก
| SUBSECTORS | 2011 Volume | 2010 Volume | % Change | |
| 20% | Advanced Materials | 5,260 | 5,937 | -1% |
| 10% | Instrumentation | 2,758 | 2,786 | -1% |
| 41% | Propulsion Plants | 10,777 | 3,566 | 202% |
| 14% | Production Techniques | 3,714 | 9,726 | -62% |
| 13% | Structures & Systems | 3,531 | 3,612 | -2% |
| 2% | Space Vehicles & Satellite Technologies | 602 | N/A | N/A |
Source: Thomson Reuters Derwent World Patents Index (DWPI)
ตารางที่ 1.2 แสดงบริษัทผู้นำ 10 อันดับของเอเชียแปซิฟิก ยุโรป สหรัฐอเมริกา
ในหมวดเทคโนโลยีย่อย SPACE VEHICLES & SATELLITE TECHNOLOGIES
| บริษัท | เอเชียแปซิฟิก | ยุโรป | สหรัฐอเมริกา |
| 1 | Korea Aerospace Research Institute (KR) 23 | EADS (NL) 37 | Boeing (17) |
| 2 | Harbin Institute of Technology (CN) 15 | Energiya Rocket Cosmic Corporation (RU) 21 | NASA(8) |
| 3 | Beijing University of Aeronautics and Astronautics (CN)11 | Thales (UK) 9 | Honeywell International(6) |
| 4 | Mitsubishi Electric Corporation (JP)9 | Information Satellite Systems Reshetnev (RU) 8 | Lockheed Martin(5) |
| 5 | IHI Corporation (JP)8 | Deutsches Zentrum Fur Luft-und Raumfahrt (DE) 7 | Raytheon(5) |
| 6 | Mitsubishi Heavy Industries, Ltd. (JP)7 | Rockets Cosmic Research Production Center (RU) 7 | Hamilton Sundstrand (4) |
| 7 | Mitsubishi Chemical Corporation (JP)5 | Cosmic Science Production Center (RU) 5 | Qualcomm (4) |
| 8 | NEC Corporation (JP)5 | CNES, Centre National d’ E’ tudes Spatiales (FR) 4 | United States Secretary of the Navy(4) |
| 9 | Nanjing University of Aeronautics and Astronautics (CN)4 | Lavochkin Research Production Association (RU) 4 | Composite Technology Development(3) |
| 10 | Korea Institute of Science and Technology (KR)3 | Mechanical Engineering Research Institute (RU) 4 | United States Secretary of the Airforce(2) |
Source: Thomson Reuters Derwent World Patents Index (DWPI)
ตารางที่ 2 เทคโนโลยียานยนต์ (AUTOMOTIVE) แสดงเทคโนโลยีย่อย 12 อันดับแรก
| SUBSECTORS | 2011 Volume | 2010 Volume | % Change | |
| 20% | Alternative Powered Vehicles | 19,078 | 15,913 | 20% |
| 6% | Security Systems | 5,840 | 5,752 | 2% |
| 12% | Navigation Systems | 11,279 | 12,060 | -6% |
| 10% | Safety | 9,858 | 10,263 | -4% |
| 3% | Entertainment Systems | 2,576 | 3,052 | -16% |
| 6% | Steering Systems | 6,305 | 6,327 | 0% |
| 8% | Seats, Seatbelts and Airbags | 8,212 | 7,769 | 6% |
| 4% | Braking Systems | 4,174 | 3,908 | 7% |
| 12% | Transmission | 11,413 | 11,577 | -1% |
| 6% | Suspension Systems | 6,145 | 5,924 | 4% |
| 5% | Engine design and Systems | 5,183 | 5,336 | -3% |
| 8% | Pollution Control | 7,548 | 8,376 | -10% |
Source: Thomson Reuters Derwent World Patents Index (DWPI)
โดยบริษัทผู้นำ อันดับ 1 ของเทคโนโลยีในหมวด ย่อย Alternative Powered Vehicles ของภูมิภาคแถบ เอเชีย ยุโรป และ สหรัฐอเมริกา ได้แก่
Toyota Motor Corporation (JP) ยื่นสิทธิบัตร 1,669 เรื่ิอง Daimler (DE) 286 General Motors (US) 310
ตารางที่ 3 เทคโนโลยีชีวภาพ (BIOTECHNOLOGY) แสดงเทคโนโลยีย่อย 5 อันดับแรก
| Subsector | 2011 Volume | |
| 19% | Diagnosis of Disease | 5,154 |
| 13% | Cancer Treatment | 3,549 |
| 6% | Genetically Modified Crops | 1,550 |
| 5% | Drug Discovery | 1,269 |
| 58% | General Biotechnology | 15,858 |
Source: Thomson Reuters Derwent World Patents Index (DWPI)
โดยบริษัทผู้นำอันดับหนึ่ง ในหมวดเทคโนโลยีย่อย CANCER TREATMENT ได้แก่ The University of Tokyo (JP) 19 Roche (CH) 59 Genentech (US) 56
ตารางที่ 4 เทคโนโลยี COMPUTING and PERIPHERALS แสดงเทคโนโลยีย่อย 6 อันดับแรก
| Subsectors | 2011 Volume | 2010 Volume | % Change | |
| 76% | Computing | 184,134 | 178,509 | 3% |
| 9% | Printers | 22,879 | 25,079 | -9% |
| 2% | Scanners | 4,190 | 6,372 | -34% |
| 3% | Screens | 6,109 | 6,471 | -6% |
| 4% | Smart media | 9,434 | 9,757 | -3% |
| 7% | Other peripherals | 16,705 | 26,317 | -37% |
Source: Thomson Reuters Derwent World Patents Index (DWPI)
โดยบริษัทอันดับหนึ่ง ในหมวดเทคโนโลยีย่อย SMART MEDIA ได้แก่
Samsung (KR) 229 Giesecke & Devrinet (DE) 48 Broadcom (US) 34
ตารางที่ 5 เทคโนโลยี COSMETICS แสดงเทคโนโลยีย่อย 5 อันดับแรก
| Subsectors | 2011 Volume | 2010 Volume | % Change | |
| 21% | Hair | 1,787 | 1,879 | -5% |
| 42% | Make-up | 3,706 | 3,833 | -3% |
| 31% | Skin | 2,652 | 2,859 | -7% |
| 3% | Antiperspirant | 213 | 174 | 22% |
| 3% | Perfume | 212 | 216 | -2% |
Source: Thomson Reuters Derwent World Patents Index (DWPI)
บริษัทผู้นำอันดับหนึ่ง ในหมวดเทคโนโลยีย่อย MAKEUP
ได้แก่ KAO Corporation (JP) 147 L’Oreal(FR) 322 Procter & Gamble (US) 44
ตารางที่ 6 เทคโนโลยี DOMESTIC APPLIANCES แสดงเทคโนโลยีย่อย 5 อันดับแรก
| Subsectors | 2011 Volume | 2010 Volume | % Change | |
| 45% | Kichen | 19,422 | 17,235 | 13% |
| 9% | Household Cleaning | 3,970 | 3,414 | 16% |
| 8% | Human Hygiene | 3,530 | 3,193 | 11% |
| 9% | Laundry | 3,839 | 3,543 | 8% |
| 29% | Heating/Air Conditioning | 12,834 | 11,680 | 10% |
Source: Thomson Reuters Derwent World Patents Index (DWPI)
บริษัทผู้นำอันดับหนึ่ง ในหมวดเทคโนโลยีย่อย KITCHEN ได้แก่
Panasonic Corporation (JP) 675 Bosch and Siemens (DE) 415 Whirlpool (US) 115
ตารางที่ 7 เทคโนโลยี FOOD, TOBACCO AND BEVERAGE FERMENTATION แสดงเทคโนโลยีย่อย 5 อันดับแรก
| Subsectors | 2011 Volume | 2010 Volume | % Change | |
| 27% | Bakery | 2,625 | 2,628 | 0% |
| 24% | Meat | 2,407 | 2,090 | 15% |
| 3% | Sugar & Starch | 326 | 338 | -4% |
| 22% | Tobacco | 2,197 | 1,512 | 45% |
| 24% | Beverage Fermentation | 2,367 | n/a | n/a |
Source: Thomson Reuters Derwent World Patents Index (DWPI)
บริษัท อันดับหนึ่ง ในหมวดเทคโนโลยีย่อย BEVERAGE FERMENTATION ได้แก่
Kirin Holdings Company, Ltd. (JP) 14 Novozymes (DK) 11 Qteros (US) 7
ตารางที่ 8 เทคโนโลยี MEDICAL DEVICES แสดงเทคโนโลยีย่อย 4 อันดับแรก
| Subsectors | 2011 Volume | 2010 Volume | % Chnage | |
| 34% | Diagnosis, Surgery | 22,864 | 20,076 | 14% |
| 19% | Dentistry, Bandages, Prosthesis | 12,361 | 10,746 | 15% |
| 17% | Medical Aids, Oral Administration | 11,367 | 9,714 | 17% |
| 30% | Sterilizing, Syringes, Electrotherapy | 20,312 | 17,788 | 14% |
Source: Thomson Reuters Derwent World Patents Index (DWPI)
บริษัทผู้นำอันดับหนึ่ง ในหมวดเทคโนโลยีย่อย Diagnosis, Surgery ได้แก่
Toshiba Corporation (JP) 883 Siemens (DE) 381 Covidien (US) 359
ตารางที่ 9 เทคโนโลยี PETROLEUM แสดงเทคโนโลยีย่อย 4 อันดับแรก
| Subsectors | 2011 Volume | 2010 Volume | % Change | |
| 58% | Petroleum & Gas Exploration, Drilling, Production and Processing | 8,386 | 7,554 | 11% |
| 2% | Petroleum & Gas Transportation And Storage | 281 | 311 | -10% |
| 1% | Petroleum Refining | 131 | 194 | -32% |
| 39% | Petroleum & Gas Fuels and other products | 5,544 | 5,787 | -4% |
Source: Thomson Reuters Derwent World Patents Index (DWPI)
บริษัทผู้นำอันดับหนึ่ง ในหมวดเทคโนโลยีย่อย PETROLEUM & GAS EXPLORATION, DRILLING, PRODUCTION AND PROCESSING
ได้แก่ China Petrochemical (CN) 837 Schlumberger Technology (NL) 1058 Schlumberger Technology (US) 1058
ตารางที่ 10 เทคโนโลยี PHARMACEUTICALS แสดงเทคโนโลยีย่อย 5 อันดับแรก
| Subsectors | 2011 Volume | 2010 Volume | % Change | |
| 1% | Steroids | 539 | 654 | -18% |
| 12% | Heterocyclivks | 7,946 | 10,013 | -21% |
| 63% | Organics | 41,926 | 42,845 | -2% |
| 2% | Inorganics | 1,290 | 986 | 31% |
| 22% | General | 14,957 | 15,404 | -3% |
Source: Thomson Reuters Derwent World Patents Index (DWPI)
บริษัทผู้นำอันดับหนึ่ง ในหมวดเทคโนโลยีย่อย HETEROCYCLICS ได้แก่
Takeda Pharmaceutical Company, Ltd. (JP) 57 Roche (CH) 108 Merck (US) 97
ตารางที่ 11 เทคโนโลยี SEMICONDUCTORS แสดงเทคโนโลยีย่อย 4 อันดับแรก
| Subsectors | 2011 Volume | 2010 Volume | % Change | |
| 45% | Semiconductor Materials and Processes | 47,942 | 50,812 | -6% |
| 23% | Discrete Devices | 24,535 | 18,709 | 31% |
| 4% | Integrated Circuits | 4,789 | 5,127 | -7% |
| 28% | Memories, Film and Hybrid Circuits | 25,506 | 30,995 | -5% |
Source: Thomson Reuters Derwent World Patents Index (DWPI)
บริษัทผู้นำอันดับหนึ่ง ในหมวดเทคโนโลยีย่อย SEMICONDUCTOR MATERIALS AND PROCESSES ได้แก่
Samsung (KR) 1331 ASML (NL) 201 IBM (US) 750
ตารางที่ 12 เทคโนโลยี TELECOMMUNICATIONS แสดงเทคโนโลยีย่อย 8 อันดับแรก
| Subsectors | 2011 Volume | 2010 Volume | % Change | |
| 4% | Telephone Exchange Systems | 6,144 | 6,251 | -2% |
| 8% | Digital Information Transmission Systems | 13,902 | 12,504 | 11% |
| 8% | Multiplex & Multiple Access Information Transmission Systems | 14,321 | 14,031 | 2% |
| 26% | Data Transmission Networks | 43,321 | 39,367 | 10% |
| 20% | Telephone Subscriber Equipment | 32,567 | 34,834 | -7% |
| 3% | Telephone Communications Systems & Installations | 4,750 | 6,511 | -27% |
| 6% | Telemetry & Telecontro | 9,353 | 7,638 | 25% |
| 25% | Mobile Telephony | 41,836 | 42,836 | -3% |
Source: Thomson Reuters Derwent World Patents Index (DWPI)
บริษัทผู้นำอันดับหนึ่ง ในหมวดเทคโนโลยีย่อย MOBILE TELEPHONY ได้แก่
Samsung (KR) 1613 Ericsson (SE) 459 Qualcomm (US) 843
รายละเอียดฐานข้อมูล Derwent World Patents Index (DWPI)
คือฐานข้อมูลสิทธิบัตรนานาชาติ ที่ได้รับการยอมรับ เชื่อถือ มากที่สุดในโลก โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้ตรวจสอบสิทธิบัตรทั่วโลก มีการจัดทำดัชนีอย่างเชี่ยวชาญในเนื้อหาสิทธิบัตร ในแต่ละเรื่อง(ฉบับ) ผู้ที่สืบค้น DWPI จะมีความสามารถเพิ่มขึ้นมากในการค้นหาข้อมูลส่วนที่แสดงนวัตกรรม (Novelty) ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
คุณลักษณะของฐานข้อมูล DWPI
– ครอบคลุมเนื้อหาในเอกสารสิทธิบัตรทั่วโลก ที่แสดงถึงกิจกรรมนวัตกรรมที่เกิดขึ้นใหม่ และการเติบโตของตลาด
– มีการแปลภาษาต่างๆ จากเอกสารสิทธิบัตร 30 ภาษาเป็นภาษาอังกฤษ
– รวบรวมสิทธิบัตรจากประเทศกลุ่มเอเซียแปซิฟิก
– มีคุณลักษณะที่ช่วยให้เข้าถึง เนื้อหาส่วนเทคโนโลยีได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
– ครอบคลุมสิทธิบัตรในจำนวน มากกว่า 45.2 ล้านเรื่อง ทั่วโลก ที่คิดเป็น 20.7 ล้านครอบครัวสิทธิบัตร (families)
– แสดงเทคโนโลยีจากภาคอุตสาหกรรมทุกประเภท
DWPI มีทีมงานกองบรรณาธิการ (Editorial Team) ที่มีคุณภาพสูง ผ่านการฝึกอบรมในการตรวจสอบเนื้อหาข้อมูลวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยทำการวิเคราะห์และขยายความ (enhance) ทำให้เข้าถึงเนื้อหาสิทธิบัตรที่เราสนใจได้ง่ายขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น ในสิทธิบัตรแต่ละเรื่องของ DWPI ประกอบด้วย
– ชื่อเรื่องและบทคัดย่อที่ชัดเจน (Clear)
– บรรณานุกรมของสิทธิบัตรที่มีการปรับแก้ไขข้อความ
– ทีมบรรณาธิการของ DWPI มีกฏ ระเบียบและกำหนดคำศัพท์เฉพาะทางของอุตสาหกรรมอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ผลการสืบค้นถูกต้องมากยิ่งขึ้น (accurate retrieval)
– DWPI กำหนดมาตรฐานในชื่อบริษัท ผู้ขอคุ้มครองสิทธิ์ในสิทธิบัตร (Standardized Assignee Names)
– DWPI มีระบบดัชนีที่แม่นยำ เที่ยงตรง (precision) ด้วยรหัส (coding) ที่ประยุกต์เขียนให้แก่เอกสารสิทธิบัตรแต่ละฉบับ ทำให้เกิด unsurpassed searchability
– DWPI มีระบบ Unique coding และ Index system ช่วยให้เกิดความแม่นยำ ในการสืบค้นและได้ผลลัพธ์ที่เข้าเรื่องมากที่สุด (Relevant)
– ให้รายละเอียด ดัชนีเชิงลึก ของเนื้อหาด้านเคมี สามารถสืบค้นโครงสร้างทางเคมีของสารประกอบ Markush
เอกสารอ้างอิง
Thomson Reuters Derwent World Patents Index : 2011 State of Innovation : Twelve key Technology Areas and their States of Innovation.
Available at : http://img.en25.com/Web/ThomsonReutersScience/StateofInnovation2011.pdf – As of April 2012
ทช. ระยะที่ 2 พ.ศ. 2554 – 2559 อุตสาหกรรมข้าวของประเทศไทย ประกอบด้วยการผลิตข้าว อุตสาหกรรมแปรรูปข้าว และอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ใช้ผลิตภัณฑ์จากการแปรรูป ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตข้าวรายใหญ่อันดับที่ 6 รองจากสาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย อินโดนีเซีย บังคลาเทศ และเวียดนาม ตามลำดับ ประเทศไทยผลิตข้าวได้ปีละ ประมาณ 30-31 ล้านตัน ข้าวเปลือก หรือประมาณ 20 ล้านตันข้าวสาร ผลผลิตข้าวร้อยละ 55 ใช้บริโภคในประเทศ ที่เหลือร้อยละ 45 ส่งออกตลาดต่างประเทศ สร้างรายได้และนำเงินตราเข้าประเทศปีละประมาณ 170,000 -200,000 ล้านบาท ครองตำแหน่งผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลก ระยะเวลายาวนานกว่า 30 ปี เกี่ยวข้องกับชาวนามากกว่า 3.7 ล้านคน จากเกษตรกรทั้งประเทศ 5.6 ล้านครัวเรือน หรือคิดเป็นร้อยละ 66 ของครัวเรือนเกษตรกรทั้งหมด นับได้ว่าอุตสาหกรรมข้าวมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
ดาวน์โหลดเอกสาร : PDF format [1.67 MB]
คลิกเพื่อดูผลงานต่างๆ ของอุตสาหกรรมข้าว
อุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์เป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำที่สำคัญ มีผลต่อปริมาณและคุณภาพ
ของผลผลิตทางการเกษตร มีความสำคัญในแง่ความมั่งคงของประเทศ ความมั่งคงด้านอาหาร โดยการพึ่งพาสายพันธุ์ที่พัฒนาเองในประเทศ พันธุ์ที่มีการปรับตัวได้ดีในการเพาะปลูกในประเทศ หรือในประเทศเขตร้อนเมล็ดพันธุ์เป็นสินค้าเกษตรที่เป็นผลิตภัณฑ์ปริมาณต่ำ มูลค่าเพิ่มสูง มีผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกร และอุตสาหกรรมต่อเนื่องต่างๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร และเทคโนโลยีมีบทบาทสูงต่อการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ ตัวอย่างเช่น เมล็ดพันธุ์มะเขือเทศลูกผสมบางพันธุ์ราคากิโลกรัมละ 200,000 บาท การผลิตเมล็ดพันธุ์ให้ผลตอบแทนสูงต่อเกษตรกรโดยสร้างรายได้ต่อครอบครัวตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ภายในเวลา 4-5 เดือน ในพื้นที่เพาะปลูกเพียง 1-2 ไร่ จึงเหมาะกับเกษตรกรรายย่อยที่มีฝีมือ
เทคโนโลยีชีวภาพมีบทบาทสูงต่อการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์ โดยช่วยร่นระยะเวลาในการพัฒนาพันธุ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว การปรับปรุงพันธุ์เพื่อให้พืชปรับตัวต่อผลกระทบ อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ทั้งการต้านทานต่อโรคแมลง ทนร้อน ทนแล้ง หรือพันธุ์ที่มีการใช้น้ำและปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพ
ดาวน์โหลดเอกสาร : PDF format [2.26 MB]