หน้าแรก ค้นหา
ผลการค้นหา :
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการบริหารจัดการภัยพิบัติฯ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการบริหารจัดการภัยพิบัติ และตัวอย่างงานวิจัยและนวัตกรรมในประเทศไทย เป็นเอกสารเผยแพร่ในการประชุมวิชาการ สวทช. ประจำปี 2555 (NAC2012: รู้สู้พิบัติภัย ไปกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) ซึ่งนำเสนอแนวคิด บทเรียนจากเหตุการณ์ภัยพิบัติที่สำคัญทั้งในและ ต่างประเทศ รวมถึงตัวอย่างของการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมามาประยุกต์ใช้ในการบริหาร จัดการภัยพิบัติของต่างประเทศ รวมทั้งข้อมูลที่เกี่ยวกับผลงานวิจัยพัฒนา และนวัตกรรมเพื่อการบริหารจัดการภัยพิบัติ ที่มีการสร้างสรรค์ในหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และภาคเอกชนไทย เพื่อเป็นการจุดประกายในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างหน่วยงาน รวมไปถึงการสร้างความตระหนักถึงงานนวัตกรรมดีๆ ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในประเทศไทยให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ สวทช. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารฉบับนี้ จะเป็นก้าวหนึ่งที่สำคัญ ให้ผู้ที่ทำงานในการรังสรรค์นวัตกรรมต่างๆ เพื่อการบริหารจัดการภัยพิบัติ ได้มีการรวมกลุ่มเพื่อต่อยอดองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของกัน และกันต่อไป เราอาจจะห้ามภัยพิบัติไม่ให้เกิดขึ้นไม่ได้ แต่เราสามารถร่วมกันป้องกัน เตรียมพร้อม และลดผลกระทบจากภัยพิบัติต่างๆ เหล่านั้นด้วยการบูรณาการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ากับการบริหารจัดการ และการเตรียมพร้อมในด้านอื่นๆ ดาวน์โหลดเอกสาร: PDF format [15.9 MB] ePub format [19.8MB]
เอกสารเผยแพร่
 
[ร่าง] ยุทธศาสตร์วิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมข้าว (พ.ศ. 2554-2559)
(ร่าง) ยุทธศาสตร์วิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมข้าว (พ.ศ. 2554-2559) ภายใต้แผน กลยุทธ์การวิจัยและพัฒนา สวทช. ระยะที่ 2 พ.ศ. 2554 - 2559 (Strategic Planning Alliance II: SPAII) อุตสาหกรรมข้าวของประเทศไทย ประกอบด้วยการผลิตข้าว อุตสาหกรรมแปรรูปข้าว และอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ใช้ผลิตภัณฑ์จากการแปรรูป ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตข้าวรายใหญ่อันดับที่ 6 รองจากสาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย อินโดนีเซีย บังคลาเทศ และเวียดนาม ตามลำดับ ประเทศไทยผลิตข้าวได้ปีละประมาณ 30-31 ล้านตัน ข้าวเปลือก หรือประมาณ 20 ล้านตันข้าวสาร ผลผลิตข้าวร้อยละ 55 ใช้บริโภคในประเทศ ที่เหลือร้อยละ 45 ส่งออกตลาดต่างประเทศ สร้างรายได้และนำเงินตราเข้าประเทศปีละประมาณ 170,000 -200,000 ล้านบาท ครองตำแหน่งผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลก ระยะเวลายาวนานกว่า 30 ปี เกี่ยวข้องกับชาวนามากกว่า 3.7 ล้านคน จากเกษตรกรทั้งประเทศ 5.6 ล้านครัวเรือน หรือคิดเป็นร้อยละ 66 ของครัวเรือนเกษตรกรทั้งหมด นับได้ว่าอุตสาหกรรมข้าวมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ดาวน์โหลดเอกสาร :  PDF format [1.08 MB]  
เอกสารเผยแพร่
 
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาของ สวทช.
  เอกสารแนวปฏิบัติเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีแห่งชาติ (NSTDA’s Intellectual Property Guideline) ซึ่ง จัดทำขึ้นโดยสำนักงานจัดการสิทธิเทคโนโลยี (Technology Licensing Office – TLO) เพื่อเผยแพร่ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาแก่พนักงานและพนักงานโครงการ สวทช. รวมทั้งรวบรวมนโยบาย หลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการผลงานวิจัยที่มีการระบุไว้ในข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง และประกาศต่างๆ ของ สวทช. ซึ่งจะส่งผลให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีความรู้และเข้าใจ ในทิศทางที่สอดคล้องกับภารกิจของ สวทช. และมีส่วนในการส่งเสริมและสนับสนุน การนำผลงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และสาธารณะที่จะยัง ประโยชน์ สูงสุดต่อเศรษฐกิจ สังคม และประเทศในที่สุด  ดาวน์โหลดเอกสาร: PDF format [2.36MB] :: ePub format [1.32MB] จัดทำโดย สำนักงานจัดการสิทธิเทคโนโลยี (TLO) ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (ศจ.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พิมพ์ครั้งที่ 1 : กุมภาพันธ์ 2555
เอกสารเผยแพร่
 
เอกสารข้อเสนอเชิงนโยบายเรื่อง แนวทางการจดทะเบียนรถอเนกประสงค์เพื่อการใช้งานรถเกษตรกรรมของประเทศไทย
จากความต้องการในการผลักดันโครงการวิจัยและพัฒนารถอเนกประสงค์เพื่อการใช้งานเกษตรกรรมของประเทศไทย ของนักวิจัย สวทช. โดยการพัฒนาชิ้นส่วนพื้นฐานที่ได้มาตรฐานและใช้เครื่องยนต์ดีเซลลูกสูบเดียว เพื่อให้เกิดการนำไปใช้ประโยชน์ของโครงการวิจัยดังกล่าว สวทช. จึงได้จัดทำเอกสารข้อเสนอเชิงนโยบายดังกล่าว เพื่อเป็นการรวบรวมข้อมูลที่สำคัญในคือการจดทะเบียนรถอเนกประสงค์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งนำเสนอยุทธศาสตร์ทางเลือกเพื่อการจดทะเบียนรถอเนกประสงค์ของประเทศไทย เพื่อให้เกิดการนำรถดังกล่าวไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในพื้นที่ชนบทและพื้นที่เกษตรกรรม อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนและผลักดันให้เกิดอุตสาหกรรมรถประเภทดังกล่าวในประเทศอีกด้วย ทั้งนี้รายละเอียดของยุทธศาสตร์ปรากฏอยู่ในเอกสารดังกล่าวนี้ Download เอกสาร (more…)
เอกสารเผยแพร่
 
Knowledge, Networks and Nations: Global Scientific Collaboration in the 21st Century
ความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ระดับนานาชาติ เพื่อความร่วมมือในการพัฒนาวิทยาศาสตร์ ติดตามอนาคตการสร้างความร่วมมือทางด้านวิทยาศาสตร์ได้ที่ Knowledge, Networks and Nations: Global Scientific Collaboration in the 21st Century คลิกดาวน์โหลดเอกสารต้นฉบับ
เอกสารเผยแพร่
 
อินซูลิน คืออะไร
รายการวันละนิดวิทย์เทคโนกับสวทช. ตอน อินซูลิน คืออะไร สารอินซูลิน คือฮอร์โมนที่สร้างจากตับอ่อนทำหน้าที่เผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและไขมันเปลี่ยนน้ำตาลในร่างกายไปเป็นไขมัน ถ้าตับอ่อนผลิตสารอินซูลินได้น้อยหรือไม่ได้เลยน้ำตาลก็จะตกค้างอยู่ที่กระแสเลือดทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน ในวงการแพทย์ได้นำอินซูลินมารักษาโรคเบาหวานบางชนิดส่วนใหญ่ใช้วิธีการฉีดเข้าผิวหนังแต่ก็มีผลแทรกซ้อนคือ ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือที่เรียกกันว่า อินซูลินช็อก มีอาการวิงเวียน เหงื่อออก ตัวสั่น อ่อนเพลีย ตาพล่ามัว อาจจะเกิดจากการได้รับอินซูลินมากเกินไปหรือรับประทานอาหารน้อยเกินไปหรือออกกำลังกายมากเกินไป
วันละนิดวิทย์เทคโน
 
การจัดการความรู้ง่ายๆ ด้วย Web 2.0
กระแสการจัดการความรู้มาแรงมาก ไม่ว่าหน่วยงานใดก็หนีไม่พ้น แต่ก็คงเป็นที่ทราบกันดีกว่าการก้าวสู่ความสำเร็จเป็นอะไรที่ท้าทายเสีย เหลือเกิน งั้นเรามามองอีกมุมดีกว่าไหมครับ เริ่มจากการจัดการความรู้ส่วนบุคคลก่อน (Personal KM) แทนที่จะก้าวไปยังการจัดการความรู้องค์กร หลายๆ คนให้ความสำคัญกับการจัดการความรู้ระดับใหญ่ แต่ลืมจัดการความรู้ของตนเอง องค์ความรู้หลายๆ อย่างของตนเองแทบจะหาไม่ค่อยพบ เพราะมีเยอะ ไม่มีระบบการจัดการ การจัดเก็บ การเข้าถึง และ/หรือปัญหาจากไม่มีที่เก็บ ไม่มีที่เผยแพร่ ไม่ยากครับ สำหรับการก้าวสู่การจัดการความรู้ส่วนบุคคล เริ่มต้นด้วยการเป็นสมาชิกเว็บไซต์ในกลุ่ม Web 2.0 อย่าง WordPress.com หรือไม่ก็ Slideshare.net แล้วนำองค์ความรู้ในรูปแบบต่างๆ ที่ตนเองมีเข้าไปจัดเก็บ เผยแพร่ แลกเปลี่ยนแนวคิด ความคิดเห็น สร้างกลุ่มผู้สนใจจากจุดนี้ก่อนดีไหมครับ เริ่มเล็กไปหาใหญ่ แต่คิดใหญ่นะครับ
การจัดการความรู้ (KM)
 
การจัดการความรู้และการเรียนรู้ยุค 2.0
สไลด์นำเสนอประเด็นน่าสนใจเกี่ยวกับการจัดการความรู้และการเรียนรู้ยุค 2.0 กรณีศึกษาการใช้ Twitter, Facebook และเครื่องมือต่างๆ ในกลุ่ม Web 2.0 และ Social Networking {slideshare}[slideshare id=4415148&doc=20100511-web2-onec-100604193400-phpapp02]{/slideshare}
การจัดการความรู้ (KM)
 
ความหลากหลายของการแสดงผลเนื้อหาในระบบ KM ช่วยสร้างแรงจูงใจในการเข้าใช้งาน
หลายหน่วยงานได้พัฒนาเว็บไซต์ด้วยเทคนิคต่างๆ เป็นเครื่องมือจัดการความรู้ โดยมุ่งเน้นให้บุคลากรที่ร่วมกิจกรรม KM ได้นำเสนอความรู้เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ดังกล่าว แต่จากการศึกษาข้อมูลพบว่าเว็บส่วนมากจะจบด้วยการทำลิงก์หรือ Upload เอกสารความรู้ในรูปแบบ PDF หรือไม่ก็ Word ต้นฉบับ ทำให้เว็บไซต์ดังกล่าวกลายสภาพเป็นคลังเก็บเอกสารไปโดยปริยาย ขาดเนื้อหานำเรื่อง เนื้อหาสรุปที่ช่วยสร้างแรงจูงใจให้ผู้สนใจได้เข้าไปอ่าน หน่วยงานหรือทีมงานที่รับผิดชอบกิจกรรม KM ในลักษณะข้างต้น อาจจะต้องมีกระบวนการประเมินด้วยว่าผู้ใช้ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายอีกกลุ่มหนึ่งของกระบวนการทำ KM คิดเห็นอย่างไรกับการเข้าไปค้นหาความรู้จากระบบ หรือจะเริ่มจากตัวท่านเองก็ได้ว่าท่านสนุก และชอบการเข้าไปค้นหาความรู้ในรูปแบบ PDF/Word ที่ต้อง click แล้วรอโปรแกรมเปิดแสดงผล จึงจะได้อ่านจริงหรือไม่ หากผลการประเมินบ่งชี้ชัดว่า ท่านเองก็ไม่ชอบ และผู้ใช้ก็ไม่ชอบก็ไม่น่าฝืนทำ KM ในลักษณะข้างต้น การนำเสนอเนื้อหาผ่านเว็บ KM มีเทคนิคการนำเสนอที่ดีขึ้นมากด้วยบริการต่างๆ ของ Web 2.0 ทั้งในกลุ่ม Social Media อย่าง Youtube.com, Slideshare.net, Scribd.com และฟังก์ชันเสริม (Extension) ของเครื่องพัฒนาเว็บอย่างเช่น Extension ของ WordPress.org, Joomla เป็นต้น ลองหันกลับมาทดสอบกันดูไหมครับ เริ่มจากไฟล์สไลด์ก็ได้ครับ โดยเป็นสมาชิกเว็บไซต์ Slideshare.net แล้วนำไฟล์สไลด์ upload เข้าเว็บ Slideshare สไลด์นั้นก็จะถูกแปลงสภาพเป็น Online Flash Slide อัตโนมัติ จากนั้นก็นำ code ที่ Slideshare จัดเตรียมมาวางในหน้าเว็บของเว็บ KM เพียงเท่านี้ก็ได้รูปแบบการแสดงที่ดีกว่าเดิม
การจัดการความรู้ (KM)
 
เขียนอะไรดีเพื่อเผยแพร่ผ่านเว็บ KM
หน่วยงานที่พัฒนา KM โดยใช้เว็บไซต์เป็นเครื่องมืออาจจะประสบปัญหาไม่แตกต่างกันมากนักในประเด็นที่ว่า จะแนะนำสมาชิกให้นำเสนอ เขียนเนื้อหาอะไรผ่านเว็บ KM ยังไงก็ขอเสนอตั้งต้นดังนี้ครับ เขียนเรื่องเล่าสบายๆ จากประสบการณ์การทำงานที่รับผิดชอบ นำปัญหาที่พบจากการทำงานมาเล่า และพร้อมแนวทางการแก้ไขที่ดำเนินการ หรือคำแนะนำที่ควรดำเนินการ เล่าเทคนิคที่ใช้ในการทำงาน ระหว่างการทำงานเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จ ไม่ควรเขียนยกตน หรือพูดแต่ความสำเร็จของตนเอง ไม่เขียนในเชิงวิจารย์ดูหมิ่น หรือกระทบต่อบุคคลที่สาม ไม่เขียนประเด็นการเมือง ศาสนา ความเชื่อ แนบเอกสารที่เกี่ยวข้องประกอบเรื่องเล่า อาจจะเป็นแฟ้มภาพ แฟ้มเอกสารดิจิทัล แฟ้ม Mind map อย่าลืมให้เครดิตบุคคลที่นำมากล่าวอ้าง หรืออ้างอิง และ/หรืออ้างอิงแหล่งสารสนเทศที่นำมาใช้ประกอบการเขียน เขียนในลักษณะสอบถามปัญหาที่พบจากการทำงานอื่นๆ นอกเหนือภาระงานประจำ เื่พื่อขอคำแนะนำจากเครือข่าย เขียนเล่าเรื่องสิ่งที่พบจากคำแนะนำที่ได้รับ เขียนเล่าเรื่องบุคคลที่ควรค่าแก่การยกย่อง พร้อมประเด็น สาระสำคัญที่เป็นแก่นของการยกย่อง ทั้งนี้ก็มีประเด็นที่ควรระมัดระวังเพิ่มเติม ดังนี้ หลีกเลี่ยงการคัดลอกเนื้อหาบุคคลอื่นมาเผยแพร่ หลักเลี่้ยงการนำบทความ เอกสารของบุคคลอื่นมาเผยแพร่ หลีกเลี่ยงการนำภาพที่อาจจะเข้าข่ายการละเมิดลิขสิทธิ์มาเผยแพร่ หลักเลี่ยงการกล่าวพาดพิงถึงบุคคลอื่นๆ โดยเจาะจงชื่อ ตำแหน่งอันอาจจะก่อให้เกิดประเด็นที่ไม่เหมาะสม คิดว่าคงจะเป็นแนวทางให้กับหลายๆ ท่านได้บ้างนะครับ
การจัดการความรู้ (KM)
 
แก้ว…ทำมาจากอะไร ?
รายการวันละนิดวิทย์เทคโนกับสวทช. ตอน แก้ว...ทำมาจากอะไร ? แก้วเป็นวัสดุที่ได้จากซิลิกาซึ่งมีอยู่ในทรายเนื้อละเอียดผสมกับสารเคมีชนิดอื่น อย่างตัวช่วยหลอมละลายหรือสารให้สีนำเข้าเเครื่องบดแล้วหลอมละลายด้วยอุณภูมิ 1500-1600 องศาเซลเซียสจนส่วนผสมต่างๆ หลอมเป็นแก้วเหลวจึงนำมาขึ้นรูปเพื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ แก้วเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษแข็งแรง ใส สะอาด ปลอดภัยและมีความเป็นกลางจึงได้รับความนิยมแพร่หลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำภาชนะบรรจุอาหาร ขวดน้ำอัดลม ถ้วยชาม เนื่องจากไม่ทำปฏิกิริยาใดๆ กับอาหารทำให้ไม่มีสารปนเปื้อน นอกจากนี้ยังใช้ผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์ กระจก และเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากบรรจุภัณฑ์จากแก้วจะมีความปลอดภัยและสวยงาม แก้วยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีก
วันละนิดวิทย์เทคโน
 
GIS คืออะไร ?
รายการวันละนิดวิทย์เทคโนกับสวทช. ตอน GIS คืออะไร ? GIS (geographic information system) หรือระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ที่ทำงานโดยการป้อนข้อมูลทางภูมิศาสตร์ เช่น ภาพแผนที่ ภาพถ่ายผ่านดาวเทียม ตัวเลข ตัวอักษร ระยะทาง  เข้าไปวิเคราะห์ผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้มักมีความถูกต้องแม่นยำสูง สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลายด้าน GIS มีประโยชน์หลายด้านโดยเฉพาะการจัดการสิ่งแวดล้อม การวางผังเมือง การจัดการระบบสาธารณูปโภค โดยการคำนวณหาพื้นที่บริเวณที่จะใช้งานจากภาพแผนที่ เช่นการวัดระยะทางในการสร้างถนนหรือการกำหนดจุดบนแผนที่สำหรับงานการวางท่อประปา
วันละนิดวิทย์เทคโน