ผลการค้นหา :
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 4 ฉ.8 – นักวิจัยเอ็มเทค สวทช. พัฒนาชุดทดสอบการกัดกร่อนแบบเร่งสำหรับหลากหลายสภาวะการใช้งาน ได้รับรางวัลนักโลหวิทยาดีเด่นรุ่นเยาว์ ประจำปี 2560 (Young Outstanding Metallurgist Award 2017)
นักวิจัยเอ็มเทค สวทช. พัฒนาชุดทดสอบการกัดกร่อนแบบเร่งสำหรับหลากหลายสภาวะการใช้งาน ได้รับรางวัลนักโลหวิทยาดีเด่นรุ่นเยาว์ ประจำปี 2560 (Young Outstanding Metallurgist Award 2017) การประชุมวิชาการทางโลหวิทยาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 11 มอบรางวัลนักโลหวิทยาดีเด่นและรางวัลนักโลหวิทยาดีเด่นรุ่นเยาว์ แก่นักวิจัยดีเด่น 3 ท่าน เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติที่สร้างผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ การประชุมวิชาการทางโลหวิทยาแห่งประเทศไทย ได้ริเริ่มจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อ ปี พ.ศ. 2550 โดยความร่วมมือของศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค สวทช.) สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย และสถาบันวิจัยโลหะและวัสดุ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยดำเนินการจัดประชุมต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีและประสบความสำเร็จอย่างสูงในแวดวงวิชาการทางด้านโลหวิทยา ในปีนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ร่วมกับสถาบันอุดม ศึกษาในประเทศ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการทางโลหวิทยาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 11 (TMETC11) ภายใต้หัวข้อ "Metallurgy for Thailand 4.0” ในระหว่างวันที่ 15-16 พฤศจิกายน 2561 จังหวัดชลบุรี สำหรับรางวัลนักโลหวิทยาดีเด่น พิจารณาคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมได้รับรางวัล 3 รางวัล ได้แก่ นักโลหวิทยาดีเด่น และรางวัลนักโลหวิทยาดีเด่นรุ่นเยาว์ประเภทวิชาการและอุตสาหกรรม โดยในปีนี้ ผู้ได้รับรางวัลนักโลหวิทยาดีเด่นรุ่นเยาว์ประเภทอุตสาหกรรม ประจำปี 2560 ได้แก่ ดร.ณมุรธา สถิรจินดา พอลสัน จากศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค สวทช.) โดยผลงานวิจัยที่ช่วยแก้ปัญหาความเสียหายและการกัดกร่อนในภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ ชุดทดสอบการกัดกร่อนแบบเร่งสำหรับหลากหลายสภาวะการใช้งาน อาทิเช่น การใช้งานในสิ่งแวดล้อมระบบของไหล และสิ่งแวดล้อมบรรยากาศเขตร้อนชื้น อันเนื่องมาจากปัญหาการกัดกร่อนของโครงสร้างและชิ้นส่วนโลหะ ที่เกิดจากการเลือกใช้วัสดุและระบบการป้องกันการกัดกร่อนที่ไม่เหมาะสม ทำให้เป็นที่มาของการพัฒนาชุดทดสอบดังกล่าวเพื่อศึกษาการกัดกร่อนที่สอดคล้องกับสภาวะการใช้งานจริงเพื่อสร้างระบบข้อมูลสำหรับทำนายอัตราการกัดกร่อนของโลหะได้แม่นยำมากขึ้น นอกจากนี้ ดร.ณมุรธา ยังมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ความเสียหายของวัสดุและเทคโนโลยีการกัดกร่อน จากผลงานต่างๆ เช่น ระบบประเมินระดับความเสี่ยงจากการกัดกร่อนในหน่วยกลั่นน้ำมันดิบอยู่ในขั้นตอนการยื่นจดสิทธิบัตรเมื่อเดือนธันวาคม 2558 ชุดอุปกรณ์ทดสอบการกัดกร่อนเฉพาะที่ของวัสดุภายใต้ความเค้นแรงดึงเพื่อตรวจประเมินการกัดกร่อนภายใต้แรงเค้นอยู่ในขั้นตอนการยื่นจดสิทธิบัตรเมื่อเดือนกันยายน 2559 ชุดตรวจติดตามพฤติกรรมการกัดกร่อนของท่อโลหะใช้งานกับการไหลของสารละลายสำหรับชิ้นส่วนและอุปกรณ์ภายในหน่วยผลิตไฟฟ้าอยู่ในขั้นตอนการยื่นจดสิทธิบัตรเมื่อเดือนกันยายน 2560 และเครื่องจำลองการทดสอบการกัดกร่อนในบรรยากาศแบบเร่งเพื่อสร้างระบบข้อมูลในการเลือกใช้วัสดุ และประเมินอายุของโครงสร้างและชิ้นส่วน อาทิเช่น ระบบขนส่งราง และชิ้นส่วนยานยนต์ ใช้งานในบรรยากาศในเขตร้อนชื้น เครื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการยื่นจดสิทธิบัตรเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 4 ฉ.8 – ปฏิทินกิจกรรม
กิจกรรมสนับสนุนเพื่อเร่งการเติบโตของธุรกิจนวัตกรรมรายใหม่สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (Research Gap Fund ประจำปี 2562) เปิดรับข้อเสนอโครงการถึง 17 ธันวาคม 2561 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12250-research-gap-fund-20181106 ขอเชิญเข้าร่วมสัมมนาเรื่อง "เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ ด้วยมาตรฐานและเทคโนโลยีวิเคราะห์ทดสอบสมัยใหม่" วันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 เวลา 13.00 - 15.15 น. ไบเทค บางนา ห้อง MR 214 ลงทะเบียนฟรี คลิกที่นี่ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12243-seminar-nstda-20181121 กิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ด้วย 3D Printer”21-22 พฤศจิกายน 2561 ณ ห้องประชุม 305 ศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. จ.ปทุมธานี
กิจกรรมฝึกอบรมหลักสูตร "การเพิ่มศักยภาพศักยภาพผู้ประกอบการด้านอีคอมเมิร์ช" ในหลักสูตรการสร้างธุรกิจในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล (ภาคกลาง ตะวันตก และตะวันออก)23-24 พฤศจิกายน 2561 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. จ.ปทุมธานี กิจกรรมอบรมครูโครงการพัฒนาสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อรองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ด้านภาษา วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และการประกอบอาชีพ 10 อุตสาหกรรม จำนวน 200 คน17-18 พฤศจิกายน 2561 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. จ.ปทุมธานี กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ “การจัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์ด้วยบอร์ด KidBright”23-25 พฤศจิกายน 2561 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. จ.ปทุมธานี กิจกรรมค่ายหนึ่งวัน (One Day Camp) สำหรับนักเรียนโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โครงการศึกษาพหุภาษา ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 20 พฤศจิกายน 2561 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. จ.ปทุมธานี กิจกรรมค่าย "จุดประกายโครงงานวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย มุกดาหาร”18-21 พฤศจิกายน 2561 ณ ห้องออดิทอเรียม บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. จ.ปทุมธานี กิจกรรมค่าย "เปิดประตูสู่โลกวิทยาศาสตร์" สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา โรงเรียนปัญญาประทีป27-29 พฤศจิกายน 2561 ณ ห้องออดิทอเรียม บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. จ.ปทุมธานี กิจกรรมเยี่ยมชม สวทช. “แรงบันดาลใจสู่เส้นทางอาชีพนักวิทยาศาสตร์” จากโครงการ วมว.-มข. โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายมัธยม29 พฤศจิกายน 2561 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร และศูนย์แห่งชาติ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. จ.ปทุมธานี
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 4 ฉ.8 – เอ็มเทค สวทช. พัฒนานวัตกรรม ‘ช่วยชีวิต’
เอ็มเทค สวทช. พัฒนานวัตกรรม ‘ช่วยชีวิต’
เพราะเหตุฉุกเฉินไม่คาดคิดเกิดได้กับทุกชีวิต ซึ่งหลายคนอาจมีประสบการณ์นาทีชีวิตจากวิกฤติสุขภาพของตนเอง หรือประสบอยู่ในเสี้ยวนาทีชี้เป็นชี้ตายของผู้ที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้น ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งแรกที่ต้องมีก่อนทำการใดๆ ก็คือ ‘มีสติ’ เพื่อโทรศัพท์แจ้งหน่วยกู้ชีพฉุกเฉิน หมายเลข 1669
แต่กระนั้นระหว่างรอหน่วยกู้ชีพฯ จำเป็นต้องเข้าไปเช็กโดยเขย่าตัวเรียกผู้ที่นอนหมดสติ หากไม่รู้สึกตัว ไม่ตอบสนองเสียงเรียก และมีภาวะหัวใจหยุดเต้นด้วยแล้ว จึงทำการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน (CPR) ซึ่งการทำซีพีอาร์นั้น ประกอบไปด้วยการกดหน้าอก การเป่าปากช่วยหายใจ เพื่อช่วยให้หัวใจปล่อยเลือดออกไปเลี้ยงทั่วร่างกาย โดยต้องมีการใช้เครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัติโนมัติหรือ เครื่องเออีดี:AED (ใช้ได้กับผู้ที่อายุเกิน 8 ปีขึ้นไป) ควบคู่กัน ซึ่งเครื่องเออีดีจะช่วยรักษาการเต้นผิดจังหวะของหัวใจได้ด้วย
ทั้งนี้ตามหลักการแพทย์ระบุว่าหากสมองคนเราถ้าขาดออกซิเจนไปเลี้ยงเกินกว่า 4 นาที จะมีผลทำให้เกิดการสูญเสียของเซลล์สมองบางส่วนไปได้อย่างถาวร แม้หัวใจจะสามารถกลับมาเต้นใหม่ได้ในภายหลัง แต่สมองส่วนที่เสียไปแล้วจะทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถฟื้นคืนสติกลับมาได้สมบูรณ์ดังเดิมอีก ดังนั้นการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน หรือ ซีพีอาร์ จึงถือเป็นหนึ่งวิธีการที่จะยื้อชีวิตของผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้นกระทันหันได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ดีการฝึกฝนเพื่อทำซีพีอาร์แบบเดิมๆ ต้องใช้วิธีการฝึกฝนบ่อยครั้งจนเกิดความชำนาญ เพราะนอกจากแรงกดที่ต้องสม่ำเสมอแล้ว จังหวะในการกดนวดหัวใจ ก็ยังมีเทคนิคที่การยึดหลักการจำที่แตกต่างกันไป ซึ่งอาจส่งผลให้การช่วยฟื้นคืนชีพทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเท่าที่ควร
ดังนั้นเพื่อให้การฝึกช่วยชีวิตผู้มีภาวะหยุดหายใจทำได้โดยง่ายขึ้น นักวิจัยเอ็มเทค สวทช. ได้ออกแบบอุปกรณ์ที่ทำงานร่วมกับหุ่นฝึกช่วยชีวิตที่ผลิตจากยางพารา สามารถโชว์ “สมรรถนะของผู้ฝึก” ผ่านจอแสดงผลขณะฝึก ช่วยผู้ฝึกเห็นข้อมูลได้ทันที
ดร. ทิพย์จักร ณ ลำปาง หัวหน้าห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีน้ำยาง หน่วยวิจัยยาง ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) อธิบายว่า เอ็มเทค สวทช. ร่วมกับ เครือข่ายนวัตกรรมยางพารา และคณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชีวิต สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พัฒนาอุปกรณ์ที่ทำงานร่วมกับหุ่นฝึกช่วยชีวิตผลิตจากยางพาราที่มีฟังก์ชันอุปกรณ์แสดงข้อมูลขณะฝึก รวมทั้งพัฒนาเครื่องฝึกการใช้งานเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าแบบสาธิต (เออีดี:AED Training) ผลงานนี้ได้จัดแสดงในงาน ASEAN Federation of Cardiology Congress (AFCC 2018) เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องมาตรฐานการช่วยชีวิตให้แก่ผู้ป่วยและญาติ รวมถึงประชาชนทั่วไป ให้สามารถนำความรู้ไปปฏิบัติได้จริงในชีวิตประจำวัน
ดร. ทิพย์จักร กล่าวว่า เนื่องจากการช่วยเหลือผู้ที่หยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้นให้มีการหายใจกลับคืนสู่สภาพเดิมได้นั้น วิธีการคือ การผายปอดและการนวดหัวใจ แต่หากทำการนวดหัวใจโดยไม่มีความรู้และไม่ได้ผ่านการฝึกฝนก็จะทำให้การช่วยชีวิตไม่ได้ผล หรืออาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือได้ ดังนั้นเพื่อส่งเสริมการสอนการช่วยชีวิตที่ได้มาตรฐาน เอ็มเทค สวทช. เครือข่ายนวัตกรรมยางพารา จึงได้ร่วมมือกับ คณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชีวิต พัฒนาหุ่นจำลองสำหรับการฝึกช่วยฟื้นคืนชีพที่ทำจากยางพารา หุ่นจำลองมีผิวสัมผัสนุ่มคล้ายร่างกายมนุษย์ มีราคาถูกกว่าหุ่นที่นำเข้าจากต่างประเทศราว 3-7 เท่า อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการใช้ยางพาราภายในประเทศ
“เอ็มเทค สวทช. เป็นหนึ่งในสมาชิกเครือข่ายนวัตกรรมยางพารา ได้คิดค้นโดยพัฒนาชุดอุปกรณ์ตรวจจับระยะที่ถูกต้องแม่นยำ และแสดงข้อมูลระยะลึกของการกดขณะฝึกนวดหัวใจสำหรับใช้งานร่วมกับหุ่นฝึกช่วยชีวิตผลิตจากยางพารา พร้อมทั้งจอแสดงข้อมูลสรุปหลังจากการฝึกในแต่ละครั้งด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการฝึกช่วยฟื้นคืนชีพ โดยผู้ฝึกสามารถรับทราบข้อมูลที่สำคัญต่างๆ เช่น ความลึกและอัตราเร็วในการนวดหัวใจ ทำให้สามารถตอบสนองและปรับปรุงการนวดหัวใจในระหว่างการฝึกได้ ชุดอุปกรณ์ดังกล่าวได้รับคำแนะนำการใช้งานให้เหมาะสมกับการฝึกสอนจริงจากคณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชีวิต”
พร้อมกันนี้ทีมวิจัยเอ็มเทค ยังได้ออกแบบ “อุปกรณ์ช่วยฝึกการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ” เพื่อช่วยฝึกการใช้งานเครื่องที่นำเข้าจากต่างประเทศ
“เอ็มเทคได้พัฒนาเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติแบบสาธิต (AED) พร้อมด้วยแผ่นอิเล็กโทรดที่ใช้สำหรับสาธิตที่มีราคาย่อมเยา เพื่อทดแทนการนำเข้าเครื่องจากต่างประเทศซึ่งมีราคาแพงกว่า 2-5 เท่า ซึ่งได้รับการแนะนำขั้นตอนการใช้งาน (AED Training) จากคณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชีวิต เพื่อใช้ในการฝึกอบรมจริงในหลักสูตรการช่วยชีวิต โดยเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติแบบสาธิตเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพาที่สามารถใช้ช่วยฝึกสอนการใช้งานเครื่อง AED ของจริง ที่มีหน้าที่วิเคราะห์จังหวะการเต้นของหัวใจและสามารถส่งกระแสไฟฟ้าไปกระตุ้นให้หัวใจบีบตัวอย่างเป็นจังหวะ หรือช็อกกล้ามเนื้อหัวใจที่สั่นพลิ้วให้หยุดสั่นแล้วกลับมาทำงานปกติอีกครั้ง ซึ่งอุปกรณ์นี้อยู่ระหว่างขอจดสิทธิบัตรและขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทยเพื่อให้แพทย์ พยาบาล ผู้ฝึกช่วยชีวิตและประชาชนทั่วไปได้เข้าถึงนวัตกรรมจากฝีมือคนไทย” ดร. ทิพย์จักร กล่าวทิ้งท้าย
ล่าสุด ดร. ทิพย์จักร ยังเข้ารับมอบใบประกาศเกียรติคุณบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ในการสนับสนุนและให้ความรู้ด้านการกู้ชีพฉุกเฉิน โดยมีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่หนึ่ง ในฐานะคณะกรรมการบูรณาการประสานงาน กรณีกู้ชีพฉุกเฉิน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีและมอบใบประกาศเกียรติคุณด้วย
ทั้งนี้ความร่วมมือระหว่าง เอ็มเทค สวทช. เครือข่ายนวัตกรรมยางพารา และคณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชีวิต ถือเป็นประโยชน์ต่อการต่อยอดงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาออกแบบโครงสร้างเชิงวิศวกรรมและนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการฝึกอบรมให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรู้จักและเข้าถึงการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ ตลอดจนเกิดความเข้าใจวิธีการที่ถูกต้องในการช่วยเหลือชีวิตมนุษย์ในภาวะวิกฤติได้เป็นอย่างดี
เรียบเรียงโดย อาทิตย์ ลมูลปลั่ง ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สวทช.
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
บทความ
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย เนคเทค-สวทช.จัดกิจกรรม “รวมพลคน KidBright” ประกาศ “ก้าวต่อไปของ KidBright สู่ KidBright Community”
เดอะ สตรีท รัชดา: กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยศูนย์เทคโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) ประกาศวิสัยทัศน์ เปิดให้นักพัฒนาและเหล่านักประดิษฐ์ในทุกภาคส่วนนำบอร์ด KidBright ไปต่อยอดในกลุ่มนวัตกรไทย ให้เกิดการพัฒนาบอร์ดขยายความสามารถ (Extension board) เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทย สร้างโอกาส มุมมองการพัฒนาและผลิตบอร์ดสมองกลฝังตัวของประทศไทยให้เกิดระบบนิเวศน์ (Ecosystem) ตามนโยบาย Makers Nation โดยนางสุวรรณี คำมั่น เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานกล่าวเปิดงาน ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) กล่าวถึง เป้าหมายในการเปิดให้นักพัฒนาและเหล่านักประดิษฐ์ในทุกภาคส่วน นำบอร์ดสมองกลฝังตัว KidBright ไปพัฒนาต่อยอด ทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาบอร์ดขยายความสามารถ (Extension board) ในกลุ่มนวัตกรไทย ส่งเสริมให้เกิดเป็น KidBright Community ในรูปแบบความร่วมมือจาก เมกเกอร์ (Maker) 4 ภาค ซึ่งประกอบด้วย เชียงใหม่ Maker Club ภูเก็ต Maker Club ขอนแก่น Maker Club และ เมืองหลวง Maker Club เป็นการเปิดวิสัยทัศน์ ร่วมกันพัฒนาบอร์ดขยายความสามารถเพื่อเชื่อมต่อกับ KidBright IDE เมกเกอร์ (Maker) ทั้ง 4 ภาค จะช่วยส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมเพื่อรวมกลุ่มนวัตกรไทยในแต่ละพื้นที่ แล้วนำพลังของ Community มาร่วมกันสร้างให้เกิด KidBright : Community–base STEM Education Platform ของประเทศ นำไปสู่การสร้างระบบนิเวศน์ (Ecosystem) ที่จะช่วยยกระดับศักยภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทย ทดแทนการนำเข้าอุปกรณ์บอร์ดอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ ก่อเกิดรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป (more…)
ข่าวประชาสัมพันธ์
สวทช. พร้อมหนุนกระทรวงวิทย์ฯ ร่วมกับหน่วยงานในสังกัด ปฏิรูประบบเศรษฐกิจสู่ฐานนวัตกรรม จัดงาน “ THAILAND 4.0 IN THE MAKING”@ สยามสแควร์ 23-25 พ.ย. นี้
13 พฤศจิกายน 2561 : สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พร้อมสนับสนุน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับหน่วยในสังกัด ปฏิรูประบบเศรษฐกิจสู่ฐานนวัตกรรม ยกทัพนิทรรศการ “ขับเคลื่อน THAILAND 4.0 ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม : THAILAND 4.0 IN THE MAKING” จัดแสดงบนพื้นที่ Park@Siam ระหว่างวันที่ 21-25 พฤศจิกายน 2561 และพื้นที่สยามสแควร์ ระหว่างวันที่ 23-25 พฤศจิกายน 2561 เพื่อแสดงผลงานในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 อย่างเป็นรูปธรรมด้วยวิทยาศาสตร์ฯ ใน 4 ด้าน “สร้างคน แก้จน เสริมแกร่ง สู่ภูมิภาค” หวังกระตุ้น/สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจระยะสั้น/ระยะยาว พร้อมเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 อย่างเต็มภาคภูมิ (more…)
ข่าวประชาสัมพันธ์
ไบโอเทค สวทช. พัฒนาพันธุ์ข้าวเหนียวหอม ต้นเตี้ยทนการหักล้ม และต้านทานโรคไหม้และโรคขอบใบแห้ง “น่าน59” ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกร
12 พฤศจิกายน 2561 : กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่จังหวัดน่าน ชมการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวเหนียวพันธุ์ “น่าน59” โดยชุมชน ซึ่งสายพันธุ์ดังกล่าวพัฒนาต่อยอดมาจากสายพันธุ์ กข6 ต้นเตี้ย ต้านทานโรคไหม้และโรคขอบใบแห้ง ซึ่งเกษตรกรนิยมปลูกอยู่แล้วในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยพัฒนาพันธุ์ดังกล่าวให้มีความต้านทานโรคไหม้กว้างขึ้นและมีกลิ่นหอมด้วย โดยยังคงลักษณะต้นเตี้ยและให้ผลผลิตสูง ซึ่งสามารถใช้เครื่องจักรกลในการเก็บเกี่ยวได้ ตอบโจทย์การผลิตในยุคแรงงานด้านการเกษตรหายาก และค่าจ้างแรงงานสูง (more…)
ข่าวประชาสัมพันธ์
ยูเนสโก ร่วมกับ กระทรวงวิทย์-สวทช. และเอไอที จัดงานวันวิทยาศาสตร์โลกเพื่อสันติภาพและการพัฒนา 2561ชูประเด็นแนวทางจัดการขยะพลาสติก เชื่อมโยงกับสังคม
12 พ.ย. 2561 ที่สำนักงานยูเนสโก กรุงเทพฯ - องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ร่วมกับ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) จัดงาน World Science Day for Peace and Development 2018 หรืองานวันวิทยาศาสตร์โลกเพื่อสันติภาพและการพัฒนา ประจำปี 2561 ซึ่งเป็นงานที่ยูเนสโกจัดขึ้นประจำทุกปี เพื่อให้เห็นถึงการใช้วิทยาศาสตร์เพื่อประโยชน์ของสังคม สร้างความตระหนักแก่สาธารณชนถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ และลดช่องว่างระหว่างวิทยาศาสตร์และสังคม โดยปีนี้ชูประเด็นเรื่องปัญหาขยะพลาสติก (Plastic Waste) ซึ่งเป็นปัญหาที่มีความท้าทายต่อสถานการณ์สิ่งแวดล้อมโลกเป็นอย่างมาก โดย สวทช. นำกิจกรรมจัดการขยะพลาสติกเพื่อเรียนรู้วิธีลด (reduce) ใช้ซ้ำ (reuse) และนำกลับมาใช้ใหม่ (recycle) และบริการห้องแล็บทดสอบการย่อยสลายได้ทางชีวภาพของวัสดุของเอ็มเทค นำเสนอแก่ผู้ร่วมงานทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ นักวิชาการ และเอกชนกว่า 90 คน พร้อมรับฟังบรรยายโดยวิทยากรประเทศจีน เยอรมนี อินเดีย และรวันดา ในเรื่องปัญหาขยะพลาสติกในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และแนวทางจัดการขยะพลาสติกที่ประสบความสำเร็จในเยอรมนีและรวันดา โดยมีดร.กัญญวิมว์ กีรติกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ร่วมด้วย Mr. Shigeru Aoyagi ผู้อำนวยการยูเนสโกกรุงเทพ และ Dr. Eden Y Woon อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย เปิดงาน (more…)
ข่าวประชาสัมพันธ์
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 4 ฉ.8 – นาโนเทค สวทช. จับมือ สมาคมนาโนฯ และจุฬาฯ ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานนาโนไทยแลนด์ 2018 ผลักดันงานวิจัยฟรอนเทียร์ด้านนาโน สู่นวัตกรรมเชิงพาณิชย์
นาโนเทค สวทช. จับมือ สมาคมนาโนฯ และจุฬาฯ ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานนาโนไทยแลนด์ 2018 ผลักดันงานวิจัยฟรอนเทียร์ด้านนาโน สู่นวัตกรรมเชิงพาณิชย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี - ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับสมาคมนาโนเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถลงข่าวการจัดงานประชุมวิชาการนานาชาติด้านนาโนเทคโนโลยีของประเทศไทย ครั้งที่ 6 (NanoThailand 2018) ในหัวข้อ “From Frontier Research to Innovation and Commercialization” ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 12 - 14 ธันวาคม 2561 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการใช้นาโนเทคโนโลยีเพื่อเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม สามารถช่วยให้ประเทศสร้างรายได้จากการสร้างสรรค์นวัตกรรมสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ศาสตราจารย์ ดร.จำรัส ลิ้มตระกูล นายกสมาคมนาโนเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันสมาคมฯ มีบทบาทสำคัญ 2 ประการ คือ บทบาทในด้านวิชาการและบทบาทด้านสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม ซึ่งในด้านวิชาการ สมาคมฯ ได้จัดงานการประชุมวิชาการและงานนิทรรศการแสดงความก้าวหน้าของผลงานวิจัยทางด้านนาโนเทคโนโลยีระดับนานาชาติ หรืองาน NanoThailand ทุกสองปี ร่วมกับมหาวิทยาลัยที่เป็นเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยการจัดการประชุมฯในปีนี้ เป็นการจัดขึ้นครั้งที่ 6 ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สวทช. อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12258-20181109-nanotec
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 4 ฉ.8 – สวทช. รุกงานวิจัยใช้ได้จริง เสริมแกร่งภูมิภาคอีสาน ในงาน “สวทช.-วิทย์สัญจร” ครั้งที่ 2 จ.อุดรธานี
สวทช. รุกงานวิจัยใช้ได้จริง เสริมแกร่งภูมิภาคอีสาน ในงาน “สวทช.-วิทย์สัญจร” ครั้งที่ 2 จังหวัดอุดรธานี กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย สวทช. เดินหน้านำผลงานวิจัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมใช้ได้จริง เสริมความเข้มแข็งภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและตอนกลาง รวมถึงการเพิ่มคุณภาพผ้าทอพื้นเมือง ด้วยนวัตกรรมเอนไซม์ ENZease (เอนอีซ) ที่ช่วยลอกแป้งและกำจัดสิ่งสกปรกบนผ้าฝ้ายไว้ในขั้นตอนเดียว โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรสะเต็ม (STEM) เพื่อการวิจัยและพัฒนาสำหรับภาคอุตสาหกรรม พร้อมมอบโล่เชิดชูเกียรติ “วิทย์แปงบ้านอีสานแปงเมือง” ให้กับบุคคล 2 สาขา หนุนให้ชาวอีสานนำไปเป็นต้นแบบการประยุกต์ใช้นวัตกรรมที่เหมาะสมกับพื้นที่ เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีในท้องถิ่นอีสาน 8 พฤศจิกายน 2561 ณ โรงแรมเซ็นทาราคอนเวนชันเซ็นเตอร์ จังหวัดอุดรธานี: กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดงานประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการพร้อมแสดงผลงานวิจัยใช้ได้จริง ในงาน “สวทช. – วิทย์สัญจร” ครั้งที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและตอนกลาง) จังหวัดอุดรธานี ภายใต้แนวคิด “วิจัยเข้มแข็ง เสริมแกร่งภูมิภาค” เพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัยของ สวทช. และเครือข่ายพันธมิตรออกสู่ทุกภาคส่วน ทั้งภาคการเกษตร การศึกษา ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และเอกชน เพื่อให้เกิดการนำไปใช้ประโยชน์ต่อยอดทั้งในเชิงพาณิชย์และเชิงสาธารณประโยชน์ โดยมี นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นางสาววิราภรณ์ มงคลไชยสิทธิ์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และผู้อำนวยการสถาบันจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) หัวหน้าส่วนราชการ คณาจารย์ นักเรียน นักวิจัย ผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรม หอการค้า ผู้ประกอบการ เกษตรกร และประชาชนในภาคอีสานกว่า 500 คนเข้าร่วมงาน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12257-20181108-1
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 4 ฉ.8 – ก.วิทย์ สวทช. จับมือ 7 หน่วยงานพันธมิตร ขับเคลื่อน EECi สร้างความเข้มแข็ง ตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0
ก.วิทย์ สวทช. จับมือ 7 หน่วยงานพันธมิตร ขับเคลื่อน EECi สร้างความเข้มแข็ง ตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0 กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ลงนามความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรสร้างความร่วมมือขับเคลื่อนเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EECi (Eastern Economic Corridor of Innovation) ประกอบด้วย สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) เพื่อสนับสนุนและพัฒนาอุตสาหกรรมการบินและอวกาศใน EECi, อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค (ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้) เพื่อเชื่อมโยงการวิจัยพัฒนาและการลงทุนฐานนวัตกรรมระหว่าง EECi กับอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค, มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล และบริษัทไทยแอลกอฮอล์ จำกัด (มหาชน) เพื่อสนับสนุนการพัฒนา EECi โดยมี ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. ดร.เจนกฤษณ์ คณาธารณา รองผู้อำนวยการ สวทช. ดร.จุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) รศ.ประเสริฐ ฤกษ์เกรียงไกร รองอธิการบดี ผู้แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออกฉียงเหนือ ผศ.คำรณ พิทักษ์ ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคใต้และผู้แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคใต้ ผศ.ดร.สุพันธุ์ ตั้งจิตกุศลมั่น อธิการบดีมหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล และคุณวิชัย โคตรฐิติธรรม กรรมการบริษัทไทยแอลกอฮอล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนาม อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12253-20181107-eeci
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 4 ฉ.8 – สวทช. แนะองค์ความรู้ต่อยอด OER พัฒนาระบบค้นหาและเข้าถึงสื่อการเรียนรู้ดิจิทัล เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต สร้างความเท่าเทียมในสังคม
สวทช. แนะองค์ความรู้ต่อยอด OER พัฒนาระบบค้นหาและเข้าถึงสื่อการเรียนรู้ดิจิทัล เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต สร้างความเท่าเทียมในสังคม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย ฝ่ายบริการความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ STKS จัดสัมมนาวิชาการเรื่อง “การต่อยอด OER สู่ GLAM (Galleries, Libraries and Learning Centers, Archives and Museums) เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต” ระหว่างวันที่ 1- 2 พฤศจิกายน 2561 ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ นำเสนอความก้าวหน้าของการดำเนินการคลังทรัพยากรการศึกษาแบบเปิดภายใต้แนวคิด GLAM โครงการระบบสื่อสาระออนไลน์เพื่อการเรียนรู้ทางไกลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 โดยมี ดร. จุฬารัตน์ ตันประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทข.) เป็นประธาน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12246-20181101-glam
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 4 ฉ.8 – สวทช. นำองค์ความรู้และเทคโนโลยีการเลี้ยงกุ้ง พัฒนาปรับใช้กับฟาร์มทดสอบและสาธิตมีนเกษตร “สองน้ำ” มูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อความยั่งยืน
สวทช. นำองค์ความรู้และเทคโนโลยีการเลี้ยงกุ้ง พัฒนาปรับใช้กับฟาร์มทดสอบ และสาธิตมีนเกษตร “สองน้ำ” มูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อความยั่งยืน ณ อาคารสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา - ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา และ ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาโครงการพัฒนากิจกรรมการเลี้ยงกุ้งขาวของฟาร์มทดสอบและสาธิตมีนเกษตร “สองน้ำ” มูลนิธิชัยพัฒนา อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีมาพัฒนาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและประสิทธิภาพที่มีอยู่ของฟาร์ม สร้างแนวทางการเลี้ยงกุ้งอย่างยั่งยืนให้กับฟาร์มทดสอบและสาธิตมีนเกษตร “สองน้ำ” นับเป็นการนำผลงานวิจัยที่เข้มแข็งไปประยุกต์ใช้และสนับสนุนอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า สวทช. โดยเฉพาะศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติหรือไบโอเทค มีงานวิจัยด้านสัตว์น้ำตั้งแต่การปรับปรุงพันธุ์ การใช้ประโยชน์จากจุลินทรีย์เพื่อพัฒนาอาหารและสารเสริมภูมิคุ้มกัน ระบบการเพาะเลี้ยง รวมถึงงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับโรคและสุขภาพสัตว์น้ำ ซึ่งได้มีความร่วมมือกับสมาคมผู้เลี้ยงกุ้งและหน่วยงานต่างๆ เพื่อนำผลงานวิจัยที่เข้มแข็งไปประยุกต์ใช้และสนับสนุนอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12245-20181030-mou
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย


