ผลการค้นหา :
สัมมนา “ก้าวล้ำด้วยกลิ่นรส: ยกระดับพืชท้องถิ่นสู่วัตถุดิบส่วนประกอบเชิงหน้าที่ด้วยนวัตกรรมทางประสาทสัมผัส” (Flavor Forward: Elevating local to functional ingredients through sensory innovation)
🎉Flavor Forward: Elevating local to functional ingredients through sensory innovation 🌱
🚨ยกระดับพืชท้องถิ่นให้เป็น Functional ingredients ด้วยพลัง Sensory innovation ร่วมฟังสัมมนา “ก้าวล้ำด้วยกลิ่นรส: ยกระดับพืชท้องถิ่นสู่วัตถุดิบส่วนประกอบเชิงหน้าที่ด้วยนวัตกรรมทางประสาทสัมผัส” (Flavor Forward: Elevating local to functional ingredients through sensory innovation) 🌱
🗓19 ก.ย. 2568 | 🕙14:00–14:45 น.
📍Level 1, Spice room (MR109G–H), QSNCC | บรรยายภาษาไทย
👉ลงทะเบียน: https://rebrand.ly/somedfiasia
📝ดูสัมมนาหัวข้ออื่นๆ: https://bit.ly/fiat25conference
🚨Turn local crops into functional ingredients with the power of sensory innovation Join the session “Flavor Forward: Elevating local to functional ingredients through sensory innovation.” 🌱
🗓19 Sep 2025 | 🕙 14:00–14:45
📍Level 1, Spice room (MR109G–H), QSNCC |
👉Session in Thai Register: https://rebrand.ly/somedfiasia
📝Explore other sessions: https://bit.ly/fiat25conference
FiAsia ,FiAsia2025 ,SensoryInnovation ,FoodInnopolis ,เมืองนวัตกรรมอาหาร
ปฏิทินกิจกรรม
“ECUTEC” สตาร์ทอัพไทยจากรั้ว สวทช. จับมือ มข. สร้าง Ecosystem แบตเตอรี่ชาติ ลดพึ่งพานำเข้า มุ่งสู่ Net Zero
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เผยความสำเร็จอีกก้าวของโครงการ NSTDA Startup หลัง “บริษัท อีซียู เทค จำกัด” ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งภายใต้การสนับสนุนของ สวทช. ได้ลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ไทยให้ครบวงจรและยั่งยืน
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ ระหว่าง โรงงานแบตเตอรี่และพลังงานยุคใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้ผลิตแบตเตอรี่แบรนด์ “kkUVolts” และ บริษัท อีซียู เทค จำกัด (ECUTEC) สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Tech) ที่เกิดจากความร่วมมือของศูนย์ความเป็นเลิศด้านยานยนต์ไฟฟ้าประเทศไทย (TECE) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) และศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) ภายใต้โครงการ NSTDA Startup ของ สวทช.
ความร่วมมือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบนิเวศของผู้ผลิตแบตเตอรี่ในประเทศไทยให้แข็งแกร่ง รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรม และมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Net Zero) รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของประเทศ
โดย บริษัท อีซียู เทค จำกัด ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านระบบบริหารจัดการแบตเตอรี่ (Battery Management System: BMS) และระบบควบคุม (Control System) จะทำงานร่วมกับโรงงานแบตเตอรี่ฯ ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อแก้ปัญหาการพึ่งพาการนำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะระบบ BMS ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญด้านความปลอดภัยและเสถียรภาพของแบตเตอรี่ การพัฒนาระบบ BMS ที่ออกแบบและผลิตโดยฝีมือคนไทยนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางข้อมูล สำหรับการใช้งานในกองทัพ แต่ยังเป็นการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภายในประเทศ (Local Content) อย่างเป็นรูปธรรม
สวทช. ในฐานะหน่วยงานที่มุ่งผลักดันงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การใช้งานจริง มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนสตาร์ทอัพไทยที่มีศักยภาพ เช่น ECUTEC ให้สามารถเติบโตและสร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมได้ ความร่วมมือนี้คือตัวอย่างที่ชัดเจนของการเชื่อมโยงงานวิจัยจากห้องปฏิบัติการสู่ภาคอุตสาหกรรม ช่วยยกระดับขีดความสามารถทางเทคโนโลยีของประเทศ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้งานด้วยบริการหลังการขายโดยทีมงานคนไทย
การผนึกกำลังกันระหว่างองค์ความรู้ด้านการผลิตแบตเตอรี่ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และระบบควบคุมของ ECUTEC ซึ่งเป็นผลผลิตจาก สวทช. นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการสร้างอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ที่ขับเคลื่อนโดยคนไทย เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนและมั่นคงของประเทศต่อไป
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์
อบรมเชิงปฎิบัติการ Innovative Food Processing with OHMIC Heating Technology: นวัตกรรมการแปรรูปอาหารด้วย OHMIC Heating
🚩 สวทช. โดย Food Innopolis ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดอบรมเชิงปฎิบัติการ Innovative Food Processing with OHMIC Heating Technology: นวัตกรรมการแปรรูปอาหารด้วย OHMIC Heating เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี Ohimic Heating เพื่อใช้สำหรับการยืดอายุผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งช่วยรักษาคุณภาพและคุณค่าทางโภชนาการของผลิตภัณฑ์ไว้ได้นานยิ่งขึ้น
📢พบกับวิทยการผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี OHMIC รศ.ดร.ปิติยา กมลพัฒนะ คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
🗓️ วันจัดกิจกรรม: 22 กันยายน 2568
📌 สถานที่จัดกิจกรรม: คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
🔥สิทธิพิเศษ
🔥ผู้สมัครเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 15 ท่าน ที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด จะได้รับคัดเลือกเพื่อเข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตในระดับอุตสาหกรรม ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี Ohmic Heating ของ บริษัท อรุณสวัสดิ์โกลเด้น ฟู้ดส์ จำกัด จังหวัดสุพรรณบุรี ในวันที่ 23 กันยายน 2568 *หมายเหตุ ผลการคัดเลือกโดยคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด
💰ค่าลงทะเบียน 1,000 บาท
📍รับจำนวนจำกัดเพียง 30 ท่าน
👉สมัครได้ที่: https://forms.gle/hP78R3RVcWfyAQb3A
หมายเหตุ*
1. ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และไม่สามารถนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้
2. ราคาดังกล่าว ไม่รวมค่าเดินทางและค่าที่พัก
☎️สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
🌐Facebook: FoodInnopolis หรือ
📲โทร 094-341-7111, 094-340-4333, 094-249-7333
ปฏิทินกิจกรรม
งานประชุมวิชาการ “TAIST-Science Tokyo: From TAIST-Tokyo Tech to TAIST-Science Tokyo: Synergizing Science, Technology, and Talent”
ขอเชิญร่วมงานประชุมวิชาการ 🌟
“TAIST-Science Tokyo: From TAIST-Tokyo Tech to TAIST-Science Tokyo: Synergizing Science, Technology, and Talent”
🗓 วันที่ 1–3 กันยายน 2568
📍 ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ
🚀 มหกรรมครั้งสำคัญที่รวบรวมพลังของนักวิจัย นักวิชาการ ผู้นำอุตสาหกรรม และคนรุ่นใหม่ เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางอนาคตของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการพัฒนากำลังคนคุณภาพของประเทศ!
ภายในงานท่านจะได้พบกับ
✨ Keynote Speakers ระดับโลก จากมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยชั้นนำ
✨ เวทีเสวนาสุดเข้มข้น เชื่อมโยงการศึกษา งานวิจัย และภาคอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน
✨ การนำเสนอผลงานวิจัยที่ทันสมัย ครอบคลุมทั้งวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม
✨ กิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจ สำหรับนักศึกษาและคนรุ่นใหม่ พร้อมเปิดโอกาสสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ
นี่คือโอกาสครั้งสำคัญที่คุณจะได้เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อน “กำลังคนคุณภาพเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน” 🌏💡
🎉 เข้าร่วมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
ปฏิทินกิจกรรม
การประชุมวิชาการ TAIST-Science Tokyo: วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการพัฒนากำลังคนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
การประชุมวิชาการ TAIST-Science Tokyo: วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการพัฒนากำลังคนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
วันที่ 1-3 กันยายน 2568
ณ ห้องประชุม Eternity ชั้น G โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ
Download Agenda
[pdf-embedder url="https://www.nstda.or.th/home/wp-content/uploads/2025/08/Schedule-Conference-TAIST-Science-Tokyo-2025-27082025-1.pdf" title="Schedule Conference TAIST-Science Tokyo 2025-27082025-1"]
ปฏิทินกิจกรรม
10 Technologies to Watch 2025: อุปกรณ์อัจฉริยะฝังในร่างกาย (Smart Implants)
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราเริ่มเห็นแนวโน้มของเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ พาร์กินสัน ที่ต้องการการดูแลอย่างสม่ำเสมอและแม่นยำมากยิ่งขึ้น เทคโนโลยีหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจและมีการพัฒนาต่อเนื่อง คือ “Smart Implants” หรือ “อุปกรณ์อัจฉริยะฝังในร่างกาย”
Smart Implants คือ อุปกรณ์ฝังในร่างกาย ที่นอกจากจะทำหน้าที่พื้นฐาน เช่น ทดแทนอวัยวะหรือช่วยการทำงานของอวัยวะบางส่วนแล้ว ยังตรวจวัดสัญญาณชีพ ประมวลผล และส่งข้อมูลสุขภาพแบบเรียลไทม์ อุปกรณ์ประเภทนี้มักประกอบด้วยเซนเซอร์ขนาดเล็ก ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ระบบสื่อสารไร้สาย และอัลกอริทึม AI เพื่อสนับสนุนการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล (personalized healthcare)
ปัจจุบันมีการใช้งาน Smart Implants หลายรูปแบบ เช่น อุปกรณ์กระตุ้นสมองส่วนลึก (Deep Brain Stimulator หรือ DBS) สำหรับผู้ป่วยพาร์กินสันที่สามารถควบคุมอาการสั่นได้ และบางรุ่นตรวจจับคลื่นสมองเพื่อปรับแรงกระตุ้นได้อัตโนมัติ อุปกรณ์ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดอย่างต่อเนื่องแบบฝังในผิวหนัง เช่น Eversense CGM ที่ติดตามค่ากลูโคสได้ยาวนานถึง 365 วันโดยไม่ต้องเปลี่ยนเซนเซอร์บ่อย ๆ และประสาทหูเทียมอัจฉริยะที่ส่งสัญญาณและปรับระดับเสียงได้ พร้อมด้วยหน่วยความจำสำหรับจัดเก็บข้อมูลการได้ยิน เช่น Cochlear Nucleus Nexa
ทั้งนี้จากรายงานของ Transparency Market Research พบว่า อุตสาหกรรม Smart Implants ทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 5.7 พันล้านดอลลอร์สหรัฐ ในปี ค.ศ. 2022 โดยมีการคาดการณ์แนวโน้มของตลาดว่าจะมีอัตราการเติบโตแบบทบต้น (CAGR) ร้อยละ 18.1 ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2023-2031 และจะมีมูลค่ามากกว่า 2.48 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในสิ้นปี ค.ศ. 2031
แม้การใช้งาน Smart Implants ในประเทศไทย ทั้งแบบเต็มรูปแบบที่มีการรวมระบบสื่อสารไร้สาย และอัลกอริทึม AI จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่มีการใช้งาน Smart Implants ในโรงพยาบาลเอกชนและโรงเรียนแพทย์มาระยะหนึ่งแล้ว โดยส่วนใหญ่นำเข้าผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ เช่น DBS ในผู้ป่วยพาร์กินสัน และผลิตภัณฑ์ประสาทหูเทียมในเด็กที่มีปัญหาการได้ยิน ซึ่งได้เป็นสิทธิประโยชน์ในหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2021
นอกจากนี้ สวทช. ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านวัสดุฝังใน เซนเซอร์ และระบบติดตามสุขภาพผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างต่อเนื่องพร้อมต่อยอดเทคโนโลยีนี้ โดยคาดว่า Smart Implants จะมีความสามารถในการตรวจวัดที่หลากหลายขึ้น ใช้พลังงานน้อยลง ติดตามแบบเรียลไทม์ และส่งข้อมูลระยะไกลมากขึ้น รวมถึงมีบทบาทมากขึ้นในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องการการดูแลใกล้ชิดแบบระยะยาว
📌 อ่านข้อมูลฉบับเต็มและข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่: https://www.nstda.or.th/r/BtQWQ
📌 รับชมการบรรยายได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=8cAv6AEX55c
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์
บทความ
สวทช. เปิดวิสัยทัศน์วาระ 2 “สร้างชาติด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี”
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ประกาศวิสัยทัศน์และทิศทางการดำเนินงานในวาระที่ 2 “สร้างชาติด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” พร้อมรับมอบนโยบายสำคัญจาก นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. และประธานกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (กวทช.) พร้อมกันนี้ ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. ได้นำเสนอผลงานเด่นในวาระที่ 1 ที่พิสูจน์ศักยภาพในการสร้างผลกระทบยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนได้จริง และประกาศเดินหน้าเต็มกำลังด้วยวิสัยทัศน์ “สร้างชาติด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” โดยมี นายวิเชียร สุขสร้อย เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. คณะกรรมการ กวทช. คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่เข้าร่วมแสดงความยินดี และสื่อมวลชนจำนวนมากเข้าร่วมทำข่าว
คลิปสั้นทันเหตุการณ์
ไบโอเทค สวทช.-TSP และพันธมิตรภาคเอกชน จัดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในพื้นที่อุทยานวิทย์ฯ “Smart Agi Days 2025: นวัตกรรมการเกษตรอัจฉริยะเพื่ออนาคต”
(28 สิงหาคม 2568) ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี: กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค-สวทช.) จัดงาน "Smart Agi Days 2025: นวัตกรรมการเกษตรอัจฉริยะเพื่ออนาคต" เพื่อส่งเสริมและเชื่อมโยงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยและพืชศักยภาพสูง ผ่านกิจกรรมที่หลากหลากหลาย อาทิ การเสวนาเชิงวิชาการ กิจกรรมเชิงปฏิบัติการ (Work shop) เช่น การสร้างสรรค์เมนูจากสมุนไพรพรีเมียมูลค่าสูง งานแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นวัตกรรมด้านการเกษตรและสมุนไพร เครื่องมือและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการให้คำปรึกษาด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจและยกระดับอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีการเกษตรอัจฉริยะ กลุ่มเป้าหมายของงาน ทั้งเกษตรกรผู้ผลิต สมุนไพร ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมพืชและสมุนไพร หน่วยงานรัฐและเอกชน ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้สนับสนุนการจัดงานตลอดจนผู้สนใจเข้าร่วมงานจำนวนมาก
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. เชาวรีย์ อรรถลังรอง ผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า มีความยินดีอย่างยิ่ง ที่งาน Smart Agri Days 2025: นวัตกรรมการเกษตรอัจฉริยะเพื่ออนาคต” จัดขึ้นมาเพื่อเป็นเวทีสำคัญที่จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ
ของผู้ประกอบการไทย ในการขับเคลื่อนภาคเกษตรกรรมให้ก้าวทันยุคสมัย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยและพืชเศรษฐกิจ ที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดโลกอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีคือหัวใจสำคัญ การเกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture) จึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือ ยุทธศาสตร์ที่จะสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้อย่างยั่งยืน การนำเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างโรงงานผลิตพืช (Plant Factory) AI และหุ่นยนต์การเกษตรมาใช้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยง รวมทั้งที่สำคัญคือ ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตจากฝีมือคนไทย
“ในนามหน่วยงานงานวิจัย ไบโอเทค สวทช. เชื่อมั่นว่า ผู้ประกอบการไทยมีความสามารถในการนำองค์ความรู้และนวัตกรรมไปต่อยอดในธุรกิจได้อย่างสร้างสรรค์ การมีบทบาทร่วมกันในงานนี้ จะเป็นการผนึกกำลังที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนได้ ทั้งนี้ งาน Smart Agri Days 2025 ซึ่งจัดขึ้นโดยความร่วมมือของหน่วยงานวิจัยและหน่วยงานพันธมิตรอย่างยิ่งใหญ่ ในพื้นที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ซึ่งเป็นประชาคมวิจัยที่มีระบบนิเวศวิจัยที่ครบครัน หวังว่างานทั้ง 2 วันที่จัดขึ้น จะเป็นพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และการต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ เพื่อให้ทุกท่านสามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้ไปใช้พัฒนาและยกระดับการผลิตได้อย่างเป็นรูปธรรม”
ภายในงานยังมีการจัดแสดง Tech Hi-light: หุ่นยนต์อัจฉริยะเพื่อการเกษตร “PhenoRobot” ฟีโน-โรบอท หุ่นยนต์สำหรับวิเคราะห์ลักษณะทางฟีโนไทป์ของพืช และ “Herbotron” หุ่นยนต์เก็บเกี่ยวสมุนไพรในโรงเรือน การแสดงและจำหน่ายสินค้าด้านการเกษตรอัจฉริยะ และผลิตผลด้านการเกษตร บริการให้คำปรึกษาด้านการวิจัยและพัฒนา รวมทั้งเวทีพบปะเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางธุรกิจที่ครบวงจร ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 28-29 สิงหาคม 2568 เวลา 09.00 – 16.00 น. ณ อาคารศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ณ ลานกิจกรรม (Event Square) ชั้น 2 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์
ABTC 2025 เปิดเวทีลงนามความร่วมมือ 8 ฉบับ พัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่และ EV เสริมศักยภาพอาเซียนสู่ศูนย์กลางพลังงานสะอาดและ Net Zero
วันที่ 27 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมทราย ลากูน่า จังหวัดภูเก็ต: หนึ่งในไฮไลต์ของงานประชุมวิชาการ 3rd ASEAN Battery Technology Conference (ABTC) 2025 เป็นเวทีสำคัญในการเปิดตัวความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในระดับภูมิภาค คือพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างพันธมิตรด้านอุตสาหกรรมพลังงานและเทคโนโลยีชั้นนำของภูมิภาค เพื่อผลักดันการพัฒนานวัตกรรมแบตเตอรี่และสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าที่ครบวงจรในอาเซียนสร้างโอกาสการลงทุนใหม่ในอนาคต ซึ่งจัดโดยสมาคมเทคโนโลยีกักเก็บพลังงานไทย (TESTA) ภายใต้การสนับสนุนของศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) TESTA ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานหลักด้านวิชาการ เชื่อมโยงงานวิจัย เทคโนโลยี และมาตรฐานด้านความปลอดภัยของแบตเตอรี่ให้กับเครือข่ายอาเซียน เป็นก้าวสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค โดยพิธีลงนามครอบคลุมความร่วมมือ 8 ฉบับ ได้แก่
1. ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ด้านมาตรฐานแบตเตอรี่สับเปลี่ยนได้สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก
ระหว่าง Amphenol Communications Solutions และ Thailand Standard Swappable Battery Consortium for Small E-Mobility (Swap2gether)
2. ความร่วมมือด้านการพัฒนาและติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (BESS) ในระดับโครงข่ายไฟฟ้าในอาเซียน ระหว่าง Singamas Group และ Narada Zhejiang Group
3. การจัดตั้งแพลตฟอร์มความร่วมมือ Sineuro Collaborative Platform เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในระดับภูมิภาค โดยมีพันธมิตรหลัก ได้แก่ NextGEN Energy, Sineng Electric, Green Tenaga, Half Bridge Automation
4. ความร่วมมือในการผลักดันการยกระดับมาตรฐานและกระบวนการทดสอบแบตเตอรี่เคมีรุ่นถัดไป (Li-metal) ให้มีความปลอดภัยสูงสุด รองรับการใช้งานทั้งในภูมิภาคอาเซียนและในระดับสากล ระหว่าง Montavista และ ASTAR Battery Test Facility (ABTF) ร่วมกับพันธมิตรจาก Singapore Battery Consortium (SBC) และ UL Standards & Engagement (ULSE)
5. ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อพัฒนานวัตกรรมระบบกักเก็บพลังงานที่มีประสิทธิภาพสูง ระหว่าง Hytzer Energy และ INV Corporation
6. การเปิดตัวความร่วมมือจัดทำเอกสารเผยแพร่ร่วมเกี่ยวกับภูมิทัศน์และระบบนิเวศแบตเตอรี่ในอาเซียน โดยเครือข่ายเทคโนโลยีแบตเตอรี่อาเซียน (ASEAN Battery Technology Network) และ CSIRO
7. ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง ASEAN Battery Safety Network กับ UL Standards and Engagement ด้านความปลอดภัยและมาตรฐานแบตเตอรี่
8. ความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างนวัตกรรมแบตเตอรี่ระดับภูมิภาค
โดย National Battery Research Institute (NBRI), Indonesia และ NanoMalaysia Berhad (NMB), Malaysia
ความร่วมมือทั้งหมดนี้เป็นก้าวสำคัญสะท้อนถึงศักยภาพของอาเซียนในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตเทคโนโลยีแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลก ทั้งยังเปิดโอกาสในการดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชนและผู้ประกอบการทั่วโลก สอดรับกับทิศทางการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและสนับสนุนเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ Net Zero ในอนาคต
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์
PATHUM INNOTECH Pitching 2025
ขอเชิญนักลงทุน ผู้ประกอบการ ที่สนใจธุรกิจนวัตกรรม
โอกาสเดียวที่จะได้เห็น “สุดยอดนวัตกรรมไทยที่มีผลงานวิจัยรองรับ” ก้าวสู่เวทีการลงทุนและตลาดโลก 🚀
.
PATHUM INNOTECH Pitching 2025 🔥
.
✨ พบกับ 8 ผลงานวิจัยนวัตกรรม
ที่จะมา Pitch เพื่อพิชิตใจนักลงทุนและนักธุรกิจ!
💼 #งานนี้เหมาะสำหรับ
✅️ นักลงทุนที่มองหาโอกาสใหม่
✅️ นักธุรกิจที่อยากร่วมทุนของจริง
✅️ คนรักนวัตกรรมและชาวปทุมธานีที่อยากเห็นผลงานคนไทยก้าวไกลระดับสากล
📅 29 สิงหาคม 2568
🕙 13:00 – 16:00 น.
📍 เวทีกลาง ศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย คลองหลวง ปทุมธานี
🎟 เข้าร่วมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
👉 ลงทะเบียนได้ที่ https://forms.gle/Ys92J4ffyhrmhGp1A
ปฏิทินกิจกรรม
เปิดเวที ABTC 2025 ที่ภูเก็ต ผลักดันบทบาทไทยสู่ศูนย์กลางองค์ความรู้ด้านการกักเก็บพลังงาน
วันที่ 27 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรม ทราย ลากูน่า จังหวัดภูเก็ต: สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) และสมาคมเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานไทย (TESTA) ร่วมกับ Singapore Battery Consortium, NanoMalaysia, Electric Vehicle Association of the Philippines, National Battery Research Institute Indonesia, National Center for Sustainable Transportation Technology ได้รับการสนับสนุนจากสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) และบริษัท HIOKI จัดงานประชุมวิชาการ 3rd ASEAN Battery Technology Conference (ABTC) 2025 เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ในระดับภูมิภาค โดยในพิธีเปิด ดร.พิมพา ลิ้มทองกุล นายกสมาคมเทคโนโลยีกักเก็บพลังงานไทย (TESTA) และผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมพลังงาน ENTEC สวทช. กล่าวต้อนรับในฐานะผู้จัดงาน, นายสมาวิษฎ์ สุพรรณไพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต้อนรับผู้ร่วมงาน, ดร.สุมิตรา จรสโรจน์กุล ผู้อำนวยการ ENTEC สวทช. กล่าวแสดงความยินดีและย้ำถึงบทบาทของประเทศไทยในการเป็นเวทีเชื่อมโยงวิชาการและอุตสาหกรรมด้านแบตเตอรี่ของอาเซียน และได้รับเกียรติจาก นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเปิดงาน
ASEAN Battery Technology Conference (ABTC) เป็นเวทีประชุมระดับภูมิภาคที่สำคัญด้าน เทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบกักเก็บพลังงาน ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดยมุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นวัตกรรม และโอกาสความร่วมมือในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในภูมิภาคอาเซียนและระดับสากล การจัดการประชุมในครั้งที่ 3 นี้ ได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์สแตนลีย์ วิตติงแฮม เจ้าของรางวัลโนเบลด้านเคมี ประจำปี 2019 ได้ร่วมบรรยายพิเศษว่าด้วยพัฒนาการและความท้าทายของแบตเตอรี่ลิเทียม อีกทั้งมีผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน และภาควิชาการจากอาเซียนเข้าร่วมอย่างคับคั่ง เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแบตเตอรี่และพลังงานสะอาดของภูมิภาค
ดร.พิมพา ลิ้มทองกุล นายกสมาคมเทคโนโลยีกักเก็บพลังงานไทย (TESTA) และผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมพลังงาน ENTEC สวทช. กล่าวว่า TESTA พร้อมด้วยพันธมิตรจากสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ร่วมกันจัดงานประชุมวิชาการเทคโนโลยีแบตเตอรี่แห่งอาเซียน ครั้งที่ 3 (ABTC 2025) ภายใต้ธีม “For a Greener Tomorrow: Advancing Battery Safety and Innovation for ASEAN’s Next Generation” มุ่งขับเคลื่อนความปลอดภัยแบตเตอรี่ และนวัตกรรมพลังงานสะอาดสู่อนาคตอาเซียน โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิระดับโลกเข้าร่วม อาทิ Professor M. Stanley Whittingham เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเคมี ปี 2019 และ Professor Yet-Ming Chiang หนึ่งใน 100 ผู้นำด้านความยั่งยืนโลกที่จัดอันดับโดย Forbes ภายในงานมีการบรรยายพิเศษ การเสวนานโยบายพลังงานอาเซียน การเปิดตัวเครือข่ายความปลอดภัยแบตเตอรี่อาเซียน (ASEAN Battery Safety Network) และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีใหม่ พร้อมต้อนรับผู้เข้าร่วมกว่า 350 คนจาก 20 ประเทศ งานนี้ตอกย้ำบทบาทของ ABTC ในฐานะแพลตฟอร์มระดับนานาชาติที่ส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงาน ยกระดับนวัตกรรม และขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตพลังงานสะอาดที่ยั่งยืนของภูมิภาคอาเซียน
นายสมาวิษฎ์ สุพรรณไพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงานว่า การเลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งสำคัญนี้ ไม่เพียงสะท้อนภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวระดับโลกที่มีความงดงามทางธรรมชาติและการต้อนรับอย่างอบอุ่น แต่ยังแสดงถึงบทบาทของภูเก็ตในฐานะเมืองแห่งการเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม ความคิด และนวัตกรรม ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของการประชุมที่มุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนความรู้และการขับเคลื่อนเทคโนโลยีแบตเตอรี่สู่อนาคตที่ยั่งยืน จังหวัดภูเก็ตมุ่งมั่นในการพัฒนาเป็น “เมืองแห่งความยั่งยืน” โดยย่านเมืองเก่าภูเก็ตตั้งเป้าหมายเป็นย่านประวัติศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทยที่ปลอดคาร์บอนภายในปี 2030 พร้อมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันมูลนิธิเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของภูเก็ตยังได้ร่วมมือกับโรงแรมกว่า 600 แห่งเพื่อผลักดันการรับรองมาตรฐานสิ่งแวดล้อม โดยตั้งเป้าให้ร้อยละ 60 ของโรงแรมทั้งหมดผ่านเกณฑ์มาตรฐาน GSTC ความพยายามเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการก้าวสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก และสะท้อนถึงความสอดคล้องกับภารกิจของ ABTC ที่เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมและอนาคตที่เป็นมิตรต่อโลก การประชุม ABTC 2025 ครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นเวทีระดับอาเซียนที่เปิดโอกาสให้นักอุตสาหกรรมและนักวิชาการร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ แต่ยังเป็นเวทีแห่งความร่วมมือเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่และร่วมกันขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสะอาดของภูมิภาคและของโลกต่อไป
ด้าน ดร.สุมิตรา จรสโรจน์กุล ผู้อำนวยการ ENTEC กล่าวว่า ENTEC สวทช. มีบทบาทในการก่อตั้งสมาคมระบบกักเก็บพลังงานไทย (TESTA) ร่วมกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยและสมาคมในประเทศ มีบทบาทในการเชื่อมโยงงานวิจัยสู่การกำหนดนโยบาย และผลักดันความร่วมมือระดับภูมิภาคให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านพลังงานสะอาดของอาเซียน สำหรับการประชุม ABTC ได้จัดมาต่อเนื่องจากบาหลี สิงคโปร์ และมาถึงภูเก็ตในปีนี้ เป็นเครื่องยืนยันถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีควบคู่กับพันธกิจร่วมกันของภูมิภาค โดยการประชุมภายใต้แนวคิด “For a Greener Tomorrow: Advancing Battery Safety and Innovation for ASEAN’s Next Generation” ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่าความปลอดภัยและนวัตกรรมต้องเดินไปพร้อมกัน หากอาเซียนจะก้าวสู่ระบบพลังงานที่ยั่งยืน
ดร.สุมิตรา กล่าวชื่นชม ศาสตราจารย์สแตนลีย์ วิตติงแฮม เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเคมี ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้ โดยยกย่องว่าเป็นตัวอย่างของพลังทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกและอนาคตด้านพลังงานได้จริง และกล่าวทิ้งท้ายขอบคุณพันธมิตรอาเซียน ทั้งจากสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย รวมถึงผู้จัดงาน นักวิจัย และภาคอุตสาหกรรมทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในการจัดงานครั้งนี้ เน้นย้ำว่าอนาคตด้านพลังงานเป็นสิ่งที่ทุกประเทศต้องร่วมกันสร้างสรรค์และขับเคลื่อนไปด้วยกัน
นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเปิดการประชุมวิชาการแบตเตอรี่แห่งอาเซียน ครั้งที่ 3 (ABTC 2025) เน้นย้ำไทยและอาเซียนต้องใช้โอกาสจากกระแสการค้าโลกและกำแพงภาษี มาขับเคลื่อนภูมิภาคให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาด ขณะที่สหรัฐอเมริกาและยุโรปจับตามาตรการภาษีในสินค้ายานยนต์ไฟฟ้า อาเซียนไม่ควรมองว่าเป็นอุปสรรค แต่ต้องใช้เป็นแรงผลักดัน ด้วยการสร้างกฎเกณฑ์มูลค่าภูมิภาคที่ชัดเจน เพื่อทำให้สินค้าที่ผลิตในภูมิภาคมีความเข้มแข็ง และสามารถใช้เป็นพลังต่อรองทางการค้าในเวทีโลก สำหรับประเทศไทยกำลังเร่งก้าวสู่การเป็นฐานการผลิตสำคัญของอุตสาหกรรมแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะการลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตเซลล์แบตเตอรี่แห่งแรกของประเทศโดยบริษัท Sunwoda ซึ่งถือเป็นการเติมเต็มห่วงโซ่อุปทานอย่างครบวงจร ตั้งแต่การผลิตเซลล์จนถึงการประกอบเป็นระบบ พร้อมเดินหน้ากฎหมายใหม่ว่าด้วยการจัดการซากรถยนต์ แบตเตอรี่ และขยะอิเล็กทรอนิกส์ ควบคู่กับการพัฒนาแบตเตอรี่ใช้แล้ว (Second Life) ให้กลับมาเป็นระบบกักเก็บพลังงานสำหรับครัวเรือน โรงงาน และชุมชน
นอกจากนี้ ความร่วมมือระดับภูมิภาค ไม่มีประเทศใดสามารถขับเคลื่อนอุตสาหกรรมนี้ได้เพียงลำพัง อาเซียนจำเป็นต้องทำงานร่วมกัน บน 3 หลักการสำคัญ คือ ความโปร่งใส ด้วยมาตรฐานและกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน นวัตกรรม เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ปลอดภัยและยั่งยืน และเศรษฐกิจหมุนเวียน ที่เปลี่ยนของเสียให้เป็นทรัพยากร
นายพงศ์พล กล่าวทิ้งท้ายว่า การประชุมครั้งนี้ไม่เพียงเป็นแค่เวทีวิชาการ แต่คือการออกแบบกติกาใหม่ของอุตสาหกรรม หากอาเซียนสามารถรวมพลังและกำหนดมาตรฐานร่วมกันเราจะไม่เพียงแค่ตามการปฏิวัติยานยนต์ไฟฟ้าของโลกแต่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำ “แบตเตอรี่ไม่ได้วัดจากขนาดแต่จากพลังงานที่กักเก็บไว้ อาเซียนก็เช่นกัน ไม่ได้วัดจากพรมแดนแต่วัดจากพลังและเป้าหมายร่วม”
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์
สวทช. ส่งมอบ “ไข่ผำพรีเมียม” หนุนภารกิจชายแดนไทย–กัมพูชา
จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อเดือนกรกฎาคม 2568 ด้วยความห่วงใยในสถานการณ์ดังกล่าว สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค–สวทช.) ได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์ “ไข่ผำพรีเมียม” จำนวน 1,000 ซอง แก่ ดร.วันนี นนท์ศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2568 เพื่อสนับสนุนทหารและผู้ประสบภัยในพื้นที่ชายแดน
“ไข่ผำพรีเมียม” เป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอาหารในรูปแบบผงปรุงรสโรยข้าว (Wolffia Furikake) ผลิตจากพืชน้ำจืดธรรมชาติ อุดมไปด้วยโปรตีน ไขมันต่ำ เหมาะสำหรับบริโภคทุกเพศทุกวัย และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการรับรองมาตรฐาน COA, GMP, Halal รวมถึงผ่านการทดสอบการปนเปื้อนจากจุลินทรีย์ก่อโรคด้วยห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน
การส่งมอบครั้งนี้สะท้อนถึงพันธกิจของ สวทช. ในการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาสร้างประโยชน์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ไม่เพียงแต่ในยามปกติ แต่รวมถึงการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนในยามวิกฤต เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโภชนาการที่เหมาะสมและมีคุณภาพอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์


