หน้าแรก ค้นหา
ผลการค้นหา :
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 6 ฉ.2 – สวทช. โชว์ความสำเร็จ ‘แพลตฟอร์มทองหล่อ’ จากโครงการ SUCCESS 2019
  สวทช. โชว์ความสำเร็จ "แพลตฟอร์มทองหล่อ" จากโครงการ SUCCESS 2019 7 เมษายน 2563 - ศูนย์พัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี (BIC) ภายใต้ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (TMC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ดำเนินโครงการบ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี 2562 หรือ SUCCESS 2019 ที่มีผู้ประกอบการเทคโนโลยีและ Startup เข้าร่วมโครงการจำนวน 41 บริษัท เพื่อสร้างรากฐานความแข็งแรงให้องค์กรธุรกิจ ผ่านการเรียนรู้และกระบวนการบ่มเพาะต่าง ๆ เพื่อทำธุรกิจให้ยั่งยืน พร้อมโอกาสขยายตลาด ล่าสุดกับหนึ่งในผู้ประกอบการในโครงการ "แพลตฟอร์มทองหล่อ" ที่ให้บริกิรตัดผมและเสริมควิมงิมแบบครบวงจรนอกสถินที่ โดยช่าง Partners มืออาชีพ เข้าตานักลงทุน Angel Fund จำนวน 10 ล้านบาท เพื่อต่อยอดธุรกิจให้เติบโต และเข้าถึงใจของผู้ใช้บริการให้มากยิ่งขึ้น พร้อมระบุช่วงสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ยอดใช้งานเติบโตสูงขึ้น อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/13113
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
นักวิจัยไทยพัฒนา “วิธีสกัด RNA – ชุดตรวจโควิด-19”
เรียบเรียง: วัชราภรณ์ สนทนา ทะลุ 19 ล้านรายแล้ว สำหรับตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทั่วโลก ซึ่งยังไม่มีท่าทีว่าจะจบลงง่ายๆ ตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีน ขณะที่ประเทศไทยแม้ตอนนี้จะยังคงสถิติไม่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเป็นเวลากว่า 60 วัน ก็ยังไม่สามารถมั่นใจได้ว่า โควิด-19 จะไม่กลับมาระบาดระลอกสองอีก  สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้จากบทเรียนที่ผ่านมาและเตรียมพร้อมรับกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการเดินหน้าพัฒนาชุดตรวจโควิด-19 ปัจจัยสำคัญในการควบคุมการระบาด เพื่อป้อง กันปัญหาขาดแคลนชุดตรวจและน้ำยาซึ่งต้องนำเข้าจากต่างประเทศ  ล่าสุด กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล พัฒนา "วิธีสกัดอาร์เอ็นเอ (RNA) ของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) จากตัวอย่างแบบง่าย และ ชุดตรวจโรคโควิด-19 ด้วยเทคนิคแลมป์เปลี่ยนสีในขั้นตอนเดียว" ได้สำเร็จ เพื่อสร้างความมั่นคงให้แก่ประเทศชาติในการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อก่อโรคโควิด-19 ในเชิงรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่ประเทศไทยยังขาดคือความมั่นคงด้านสุขภาพ เนื่องจากที่ผ่านมายังต้องนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ ชุดตรวจ และยา ทำให้เมื่อเกิดวิกฤติการณ์ ดังเช่น การระบาดของโรคโควิด-19 ประเทศต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์บางประเภท ซึ่งส่งผลกระทบต่อการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติงานเชิงรุกได้อย่างรวดเร็ว "นับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 (จนถึงวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา) รัฐบาลจ่ายค่าชดเชยในการตรวจวินิจฉัยโรคโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR เป็นจำนวนกว่า 420,000 ตัวอย่าง คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,261 ล้านบาท ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ขณะเดียวกันในภาวะที่ทั่วโลกต่างต้องตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อจำนวนมาก  สารสกัดสารพันธุกรรมหรืออาร์เอ็นเอเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 มีไม่เพียงพอ จนกลายเป็นปัญหาคอขวดในการคัดกรองโรค ดังนั้นในอนาคตหากมีการระบาดระลอกสอง หรือมีความต้องการตรวจเชิงรุก การที่นักวิจัยไทยสามารถพัฒนาวิธีสกัดอาร์เอ็นเอและชุดตรวจโควิด-19 ที่ได้มาตรฐาน มีความแม่นยำได้เองในประเทศจะช่วยสนับสนุนการคัดกรองโรคโควิด-19 ได้มาก" ทั้งนี้ การตรวจวินิจฉัยโรคโควิด-19 ด้วยการตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัส SARS-CoV-2 นั้น จะต้องมีการสกัดสารพันธุกรรม หรือ อาร์เอ็นเอของไวรัสจากสิ่งส่งตรวจของของกลุ่มเสียง ซึ่งที่ผ่านมายังมีข้อจำกัดคือต้องใช้น้ำยาสกัดสารพันธุกรรมที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ แต่จากความร่วมมือของนักวิจัยไทยทำให้สามารถพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพมา "วิธีสกัดอาร์เอ็นเอ" ก่อโรคโควิด-19 ได้สำเร็จ ดร.วรรณพ วิเศษสงวน ผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สวทช. กล่าวว่า วิธีสกัดอาร์เอ็นเอของเชื้อไวรัสจากตัวอย่างแบบง่าย พัฒนาขึ้นโดย ศูนย์โอมิกส์แห่งชาติ (National Omics Center : NOC)  สวทช. นำโดย ดร.สิทธิโชค ตั้งภัสสรเรือง ผู้อำนวยการศูนย์โอมิกส์แห่งชาติ เป็นวิธีการสกัดอาร์เอ็นเอด้วยเทคนิค Magnetic Bead ที่ทำได้ง่าย รวดเร็ว และจากการทดสอบการใช้งานร่วมกับคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่ามีประสิทธิภาพในการสกัดอาร์เอ็นเอเทียบเท่าชุดสกัดที่นำเข้าจากต่างประเทศ ที่สำคัญในการสกัดอาร์เอ็นเอยังใช้สารเคมีและอุปกรณ์ที่หาได้ง่ายภายในประเทศ ทำให้ต้นทุนชุดตรวจราคาไม่แพง ช่วยลดต้นทุนในการตรวจและวินิจฉัยโรคได้มาก อีกทั้งวิธีการนี้ยังนำไปใช้สกัดอาร์เอ็นของไวรัสก่อโรคได้ทุกชนิดทั้งในมนุษย์ พืชและสัตว์ด้วย ปัจจุบันมีบริษัทเอกชนจำนวน 2 บริษัท สนใจพร้อมรับถ่ายทอดเทคโนโลยีแล้ว    เมื่อสกัดอาร์เอ็นเอของไวรัสได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการตรวจยืนยันเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ซึ่ง ไบโอเทค สวทช. นำโดย นางวรรณสิกา เกียรติปฐมชัย หัวหน้าทีมวิจัยเทคโนโลยีว‘ศวกรรมชีวภาพและการตรวจวัด ร่วมกับคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ได้พัฒนา "ชุดตรวจโรคโควิด-19 ด้วยเทคนิคแลมป์เปลี่ยนสีในขั้นตอนเดียว (COVID-19 XO-AMP colorimetric detection kit)" เพื่อใช้คัดกรอง คัดแยกเฉพาะตัวอย่างที่น่าสงสัยก่อนนำไปตรวจโดยใช้วิธี RT-PCR ถือเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายของรัฐจากเดิมที่ต้องส่งตรวจทุกตัวอย่างด้วยวิธี RT-PCR ซึ่งมีราคาแพง  ดร.วรรณพ กล่าวว่า ชุดตรวจเทคนิคแลมป์เปลี่ยนสีในขั้นตอนเดียว เป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับการตรวจเชิงรุก เนื่องจากมีความจำเพาะ 100% ความไว 92% และมีความแม่นยำ 97% สามารถแสดงผลได้ภายใน 75 นาที ได้ผลเร็วกว่าวิธี RT-PCR ถึง 2 เท่า สามารถอ่านผลได้ด้วยตาเปล่า ตรวจง่ายในขั้นตอนเดียวโดยไม่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ โดยสังเกตได้จากสีของน้ำยา หากเปลี่ยนจากม่วงเป็นเหลืองแสดงว่ามีอาร์เอ็นเอของไวรัส SARS-CoV-2 อยู่ อุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจมีราคาเพียง 10,000 บาท ถูกกว่าวิธี RT-PCR ถึง 100 เท่า นอกจากนั้นแล้วต้นทุนน้ำยาเทคนิคแลมป์ที่ทีมวิจัยไบโอเทค สวทช. พัฒนาขึ้นราคาต่ำกว่าน้ำยาที่ใช้กับ RT-PCR ถึง 3 เท่า และยังราคาถูกกว่าชุดตรวจแลมป์ที่นำเข้า 1.5 เท่า อย่างไรก็ดี การพัฒนาชุดตรวจนี้ได้รับความอนุเคราะห์ตัวอย่างสารพันธุกรรมจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อใช้ในการตรวจสอบคุณภาพของชุดตรวจ ปัจจุบันไบโอเทคได้ขอให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประเมินเทคโนโลยี โดยทาง อย. กำลังพิจารณาเกณฑ์มาตรฐานที่เหมาะสมสำหรับเทคนิคแลมป์ โดยชุดตรวจนี้มีบริษัทเอกชนได้แสดงความสนใจที่จะขอรับถ่ายทอดเทคโนโลยีแล้วเช่นกัน ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า คณะเวชศาสตร์เขตร้อน คือสถาบันทางการแพทย์ที่มีทีมวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการตรวจวินิจฉัย การรักษา และป้องกันโรค ที่มีห้องปฏิบัติการอ้างอิงด้านโรคเขตร้อน ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการเครือข่ายที่ผ่านการทดสอบความชำนาญทางห้องปฏิบัติการ สำหรับการตรวจหาสารพันธุกรรมเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ด้วย สวทช. มีงานวิจัยหลายด้านที่สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทั้งการตรวจวินิจฉัย และป้องกันโรคได้ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน และ สวทช. จึงได้ทางานร่วมกันอย่างเข้มข้นจนสามารถพัฒนาต่อ ยอดทั้ง 2 งานวิจัยให้เป็นผลิตภัณฑ์ใช้งานได้จริง "การที่ประเทศไทยสามารถพัฒนาและผลิตชุดสกัดอาร์เอ็นเอ และชุดตรวจเทคนิคแลมป์เปลี่ยนสีในขั้นตอนเดียว จะช่วยให้ประเทศไทยมีความพร้อมในการรับมือต่อการระบาดของโรคอุบัติใหม่ และถือเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถวงการวิจัยและสาธารณสุขไทยจากการเป็นผู้นำเข้าเทคโนโลยีสู่การเป็นผู้ผลิตเพื่อใช้เองและส่งออกไปต่างประเทศในอนาคต"
บทความ
 
ผลงานวิจัยเด่น
 
สวทช. ขอเชิญผู้ประกอบการใน จ.อุดรฯ และใกล้เคียง ร่วมสัมมนา 2 หลักสูตร พัฒนานวัตกรรมด้านเกษตร
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP) ขอเชิญผู้ประกอบการทุกกลุ่มอุตสาหกรรม และผู้สนใจในพื้นที่ จ.อุดรธานี และใกล้เคียงในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าร่วมสัมมนาฟรี 2 หลักสูตร ได้แก่ “หลักสูตรการยกระดับผักและผลไม้ไทยสู่มาตรฐานสากล” ในวันที่ 26 มีนาคม 2563 เพื่อทราบถึงมาตรฐาน ThaiGAP กับการสร้างโอกาสเข้าสู่ตลาดระดับบน สมัครได้ที่ https://forms.gle/uyaZEjEGkY6YETaL6 และ “หลักสูตรการพัฒนาเกษตรกรรมสู่ความยั่งยืนด้วยนวัตกรรม 4.0” ในวันที่ 27 มีนาคม 2563 เพื่อทราบถึงแนวทางพัฒนาเป็นเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farmer) ในเรื่องการแปรรูปผลิตภัณฑ์ และออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อการเก็บรักษาและขนส่ง สมัครได้ที่ https://forms.gle/b4Segqji2Jo3ENij7 โดยทั้งสองหลักสูตรกำหนดจัดเวลา 08.30 - 16.00 น. ณ โรงแรมเซ็นทาราและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์อุดรธานี ด่วน! รับจำนวนจำกัด 50 ท่านต่อหลักสูตร เฉพาะผู้ประกอบการที่จดทะเบียนนิติบุคคลเท่านั้น ภายใน 23 มีนาคม นี้ สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 2564 7000 ต่อ 1300, 063 915 6656 (more…)
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
เอ็มเทค-สวทช. จับมือ ซีพี ออลล์ ปั้นนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก
For English-version news, please visit : MTEC-NSTDA and CP All embark on innovative food packaging 11 มีนาคม 2563 ที่อาคารกลุ่มนวัตกรรม 2 อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย : สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) ร่วมกับ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) โดยบริษัท ซีพี ฟู้ดแล็บ จำกัด หน่วยงานวิจัยอาหาร บริษัท ซีพีแรม จำกัด ลงนามความร่วมมือทางวิชาการ เพื่อยกระดับการพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารที่ใส่ใจถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค พร้อมสนับสนุนการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนนำผลงานทางวิชาการไปใช้ต่อยอดการประยุกต์ใช้บรรจุภัณฑ์อาหารในโรงงานอุตสาหกรรมอาหารได้ เพื่อยกระดับขีดความสามารถของประเทศไทย ในการเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารของภูมิภาคเอเชีย โดยมี นางสุวิภา วรรณสาธพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในฐานะ ผู้อำนวยการ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. ให้เกียรติกล่าวต้อนรับ พร้อมกันนี้ยังมีทีมวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์พลาสติก กลุ่มวิจัยกระบวนการทางวัสดุและการผลิตอัตโนมัติ เอ็มเทค สวทช. ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของสององค์กรร่วมเป็นสักขีพยาน โดยความร่วมมือดังกล่าวครอบคลุมในเรื่องการวิจัยและพัฒนาบรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับใส่อาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (more…)
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
9 ข้อควรรู้ “โควิด-19” จากบทสรุป 25 ผู้เชี่ยวชาญ WHO
9 ข้อน่ารู้ จากบทสรุปของผู้เชี่ยวชาญนานาชาติ 25 คน จากองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่เข้าไปสืบสวนสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศจีน และรายงานสรุปผลจนถึงวันที่ 19 ก.พ. 63 อ่านบทความฉบับเต็ม แปลโดย ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์ ฝ่ายสร้างสรรค์สื่อและผลิตภัณฑ์ สวทช. ได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/nstda-knowledge/13061-who-china-joint-mission การติดต่อ : 78-85% ติดต่อกันในครอบครัวจากละอองเสมหะ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล : ส่วนใหญ่ติดเชื้อจากที่บ้านหรือในช่วงแรกที่ยังไม่มีประกาศการระบาด อัตราการป่วย : 80% ผู้ป่วยอาการไม่หนัก การใช้เครื่องช่วยหายใจ : 5% ใช้เครื่องช่วยหายใจ 15% ใช้ออกซิเจนเข้มข้นสูง ระยะเวลาฟื้นตัว : ผู้ป่วยหนัก 3-6 สัปดาห์ ผู้ป่วยไม่มาก 2 สัปดาห์ การแสดงอาการ : คนส่วนใหญ่ที่ได้รับเชื้อจะมีอาการในที่สุด ช้าเร็วต่างกัน อาการคัดกรอง : อาการที่ไม่ใช่สัญญาณโรคของโควิด-19 คือ น้ำมูกไหล อัตราการเสียชีวิต : ผู้ป่วยโควิด-19 ที่จีนมีอัตราการเสียชีวิต 3.4% ปัจจัยการเสียชีวิต : ขึ้นกับ อายุ, สภาพร่างกายก่อนติดเชื้อ, เพศ และระบบสุขภาพที่รับมือโรค อ้างอิง: https://www.who.int/docs/default-source/coronaviruse/who-china-joint-mission-on-covid-19-final-report.pdf (16-24 February 2020) ข้อมูลเพิ่มเติม covid-19
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
สวทช. จับมือ จุฬาฯ ถ่ายทอดเทคโนโลยีชั้นสูงสู่ SMEs ไทยสร้างศักยภาพในการแข่งขันภายใต้เศรษฐกิจฐานความรู้เดินหน้าโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ส่งเสริมการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ เน้นการพึ่งพาตนเองทางเทคโนโลยี ตั้งเป้าสนับสนุน SMEs
For English-version news, please visit : NSTDA and Chulalongkorn University to promote technology utilization in SMEs 10 มีนาคม 2563 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดงานแถลงข่าวแสดงเจตนารมณ์ความร่วมมือ“การดำเนินงานเครือข่ายของโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม” (Innovation and Technology Assistance Program: ITAP) โดยมี ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และ ศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเป็นการส่งเสริมการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์แก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises: SMEs) โดยมีศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นหน่วยงานกลางในการประสานงานและบริหารจัดการ (more…)
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
สวทช. เปิดรับสมัครนักศึกษารับทุน 2 ประเภท (TGIST และ YSTP) ประจำปี ’63
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มุ่งมั่นเป็นหนึ่งในหน่วยงานสนับสนุนการผลิตบัณฑิตคุณภาพสู่สังคม ประกาศเปิดรับสมัครนักศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ขอรับทุนการศึกษาใน “โครงการสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Thailand Graduate Institute of Science and Technology: TGIST)” ประจำปี 2563 เพื่อการศึกษาวิทยานิพนธ์ภายใต้การดูแลให้คำปรึกษาของอาจารย์มหาวิทยาลัยร่วมกับนักวิจัยจากศูนย์แห่งชาติของ สวทช. ดูรายละเอียดและสมัครได้ที่ www.nstda.or.th/tgist/ ตั้งแต่วันนี้ - 31 มีนาคม 2563 และอีกทุนคือ ประกาศรับสมัครนักศึกษาในระดับปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่กำลังจะขึ้นชั้นปีสุดท้าย เพื่อขอรับทุนการศึกษาวิจัยเพื่อปริญญานิพนธ์ ปี2563 ใน “โครงการสร้างปัญญาวิทย์ ผลิตนักเทคโน (Young Scientist and Technologist Programme: YSTP)” เพื่อโอกาสรับประสบการณ์เพิ่มเติม พร้อมแลกเปลี่ยนทัศนคติการเป็นนักวิจัยอาชีพ และพัฒนาขีดความสามารถของตนเอง ดูรายละเอียดการรับสมัครได้ที่ www.nstda.or.th/ystp/ ตั้งแต่ 1 - 31 พฤษภาคม 2563
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
SCI UPDATE: ‘อุปกรณ์ตัดสับปะรด’ เครื่องมือช่วยเกษตรกรตัดและเก็บสับปะรดในขั้นตอนเดียว
พอกันที ‘ตัดสับปะรดแล้วได้แผล’ สับปะรดเป็นหนึ่งในผลไม้ที่นิยมปลูกกันมากในภาคใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี และกระบี่ ซึ่งที่ผ่านมาเกษตรกรส่วนใหญ่ยังต้องประสบปัญหาขั้นตอนการเก็บเกี่ยวผลผลิต ที่มีต้นทุนการจ้างแรงงานถึง 2 ขั้นตอน เพราะในการเก็บสับปะรด เกษตรกรต้องใช้มีดหรือตะขอพร้าตัดก้านของผลสับปะรด แล้วใช้แรงงานคนนำตะกร้อมาเดินเก็บใส่เข่งยกขึ้นรถอีกทอด ที่สำคัญหลายครั้งเมื่อเกษตรกรเข้าไร่ไปตัดผลสับปะรด มักได้บาดแผลจากการถูกหนามใบสับปะรดตำ ถูกมีดบาด และถูกสัตว์ที่ซ่อนตัวอยู่ในพงทำร้าย ทำให้การหาแรงงานภาคเกษตรในการเก็บสับปะรดค่อนข้างยาก (more…)
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
สวทช. เยี่ยมชมผลงานนักเรียน FabLab รร.เบญจมราชรังสฤษฎิ์ 2 ฉะเชิงเทรา ชี้โครงการฯ หนุนความรู้สะเต็มศึกษา ช่วยสร้างนวัตกรให้ประเทศ
For English-version news, please visit : Fabrication Lab: Creating the next generation of innovators สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้รับการสนับสนุนงบประมาณดำเนิน “โครงการโรงประลองต้นแบบทางวิศวกรรม (Fabrication Lab)” เพื่อพัฒนาทักษะความเป็นนวัตกรแก่เด็กและเยาวชนไทย ด้วยการส่งเสริมให้มีพื้นที่เรียนรู้ “โรงประลองต้นแบบทางวิศวกรรม (Fabrication Lab)” ในสถานศึกษาและแหล่งเรียนรู้ทั่วประเทศ ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมโครงงานสิ่งประดิษฐ์ของนักเรียนที่โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ 2 จ.ฉะเชิงเทรา นำโดย ดร.อ้อมใจ ไทรเมฆ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. และคณะ เพื่อให้เห็นถึงทักษะความเป็นนวัตกรของเด็กและเยาวชนไทย ซึ่งมี 4 ผลงานโดดเด่นที่เดินสายกวาดรางวัลระดับประเทศมาแล้วภายใต้โครงการ FabLab ร่วมจัดแสดง ได้แก่ เครื่องวัดปริมาณออกซิเจนละลายน้ำด้วยแสง เครื่องตรวจจับควันบุหรี่อัจฉริยะ เครื่องช่วยเหลือผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียง และรถตัดหญ้าไฮเทค โดยมีผู้อำนวยการโรงเรียน ครูผู้ดูแลห้องปฏิบัติการ FabLab ครูพี่เลี้ยงจากมหาวิทยาลัยบูรพา รวมถึงตัวแทนนักเรียนที่ได้รับรางวัลนำเสนอโครงงานสิ่งประดิษฐ์ (more…)
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
โครงการสร้างผู้ประกอบการใหม่ด้วยนวัตกรรม (TechBiz Starter) ประจำปี 2563
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์พัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี (BIC) ขอเชิญผู้ประกอบการใหม่/นักวิจัย ที่สนใจจะสร้างธุรกิจหรือขยายธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ตลอดจนผู้สนใจที่มีผลิตภัณฑ์ต้นแบบและต้องการจัดตั้งธุรกิจเทคโนโลยีนวัตกรรม สมัครเข้าร่วม “โครงการสร้างผู้ประกอบการใหม่ด้วยนวัตกรรม "(TechBiz Starter)" ประจำปี 2563 ​เพื่อเสริมสร้างทักษะและสมรรถนะที่สำคัญของการเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ด้วยแนวคิดนวัตกรรมให้ประสบความสำเร็จ​ วิเคราะห์ความเป็นไปได้ของธุรกิจทั้งด้านการตลาด การเงิน วางแผนธุรกิจ การบริหารจัดการ และเพิ่มความเข้มแข็งแก่วิสาหกิจเริ่มต้นในช่วงก่อตั้งกิจการ (3 ปีแรก) ให้ดำเนินธุรกิจอย่างมีทิศทางและสร้างโอกาสขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง ดาวน์โหลดข้อมูลโครงการ TechBiz Starter ดาวน์โหลดใบสมัครโครงการ TechBiz Starter ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครและส่งมาที่อีเมล techbiz.starter@nstda.or.th ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์พัฒนาผู้ประกอบการฯ สวทช. โทร. 0 2564 7000 ต่อ 81490 (คุณพลอย) และ 71746 (คุณปาทินันท์) (more…)
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
สวทช.-ม.แม่โจ้ ร่วมพัฒนาแหล่งเรียนรู้เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ
For English-version news, please visit : Technology demonstration and showcase of smart farming technologies at Maejo University ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่: สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ลงนามความร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในโครงการ “การพัฒนาแหล่งเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ชุมชน” โดยมี ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. และ ผศ.ดร.จำเนียร ยศราช อธิการบดี ม.แม่โจ้ ร่วมลงนามภายในงานสวทช.-วิทย์สัญจร จ.เชียงใหม่ ประจำปี 2563 เพื่อร่วมพัฒนาองค์ความรู้ หลักสูตร แหล่งเรียนรู้ และความร่วมมือวิชาการในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) ยกระดับประสิทธิภาพการผลิตของภาคการเกษตรไทย พร้อมกันนี้ คณะผู้บริหาร สวทช. และสื่อมวลชน ลงพื้นที่ ม.แม่โจ้ สัมผัสตัวอย่างความร่วมมือด้านเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะที่แปลงวิจัยลำไย และทดสอบการใช้เทคโนโลยีสถานีตรวจวัดสภาพอากาศเพื่อการเกษตร และระบบการให้น้ำอัตโนมัติสำหรับพืชไร่และพืชสวน ผ่าน Smart IoT รวมถึงเยี่ยมชมแปลงทดสอบผลิตมะเขือเทศสายพันธุ์ใหม่ของ สวทช. ในระบบเกษตรอินทรีย์ (more…)
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
สวทช. จับมือ ม.สวนดุสิต ร่วมพัฒนางานวิจัย ถ่ายทอดความรู้ด้าน วทน. พัฒนาอาชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตสู่ชุมชน
(27 ก.พ. 63 ) จังหวัดสุพรรณบุรี : กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กำหนดจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนางานวิจัยและการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อพัฒนาอาชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตในชุมชน โดยอาศัยความเชี่ยวชาญจากทั้งสองหน่วยงานในการสนับสนุนงานวิจัยและผลักดันให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) อีกทั้งเป็นการร่วมกันพัฒนาแหล่งเรียนรู้ สาธิต และทดสอบเทคโนโลยีด้านเกษตรและอาหาร เพื่อยกระดับประสิทธิภาพรวมถึงคุณภาพการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัย นำไปสู่การสร้างมูลค่าและรายได้ให้กับชุมชนต่อไป โดยมีนางสาววิราภรณ์ มงคลไชยสิทธิ์ รองผู้อำนวยการ สวทช. และ นายศิโรจน์ ผลพันธิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต เป็นผู้ลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ (more…)
ข่าวประชาสัมพันธ์