ผลการค้นหา :

วิจัย “พันธุ์ไม้ป่าชายเลน” เสี่ยงสูญพันธุ์
เรียบเรียง: อาทิตย์ ลมูลปลั่ง
ป่าชายเลนเปรียบเสมือนซุปเปอร์มาร์เก็ต (supermarket) ขนาดใหญ่ เป็นแหล่งผลิตอาหาร พืชผักและพืชสมุนไพรให้กับชุมชน ทำหน้าที่ป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งและลดความสูญเสียจากอุทกภัย กรองสิ่งปฏิกูลต่างๆ ก่อนไหลลงสู่ทะเล และยังช่วยฟอกอากาศลดภาวะโลกร้อน เป็นแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในปริมาณที่มากกว่าป่าประเภทอื่น 3-4 เท่า เนื่องจากลักษณะของพืชป่าชายเลนส่วนของใบมีความหนาแน่นสูงจึงช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนและทำให้อากาศบริเวณนั้นๆ สดชื่น
ข้อมูลเมื่อปี 2562 ป่าชายเลนในประเทศไทยเหลือพื้นที่ป่าคงสภาพ 1,538,185 ไร่ ลดลงไปจากอดีตอย่างมาก โดยปี 2504 มีพื้นที่มากถึง 2,299,375 ไร่
แม้ว่าพื้นที่ป่าชายเลนมีแนวโน้มสูงขึ้นจากนโยบายการฟื้นฟูป่าชายเลน หน่วยงานต่างๆ ร่วมกันปลูกป่าชายเลนทดแทน และการดูแลรักษาพื้นที่ป่าชายเลนในภาพรวมของ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการกำหนดนโยบาย วางแผน และบริหารจัดการอนุรักษ์ ฟื้นฟู กำหนดเขตคุ้มครอง และป้องกัน บำรุงรักษาพื้นที่ทรัพย“กรป่าชายเลนของประเทศไทย
ทว่ายังคงมีการบุกรุกเข้าใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลน ไม่ว่าจะเป็นการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ นากุ้ง นาเกลือ การขยายตัวของชุมชนเมือง การทำเหมืองแร่ การสร้างท่าเทียบเรือ การขุดลอกร่องน้ำ และการทำอุตสาหกรรม ตลอดจนผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ส่งผลให้ป่าชายเลนที่เป็นป่าธรรมชาติลดลง จำนวนชนิดลดลงและเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ โดยเฉพาะชนิดที่กระจายพันธุ์ได้น้อย และพบเฉพาะถิ่น
จึงเกิดความร่วมมือการวิจัย พัฒนา และวิชาการ เกี่ยวกับป่าชายเลน เพื่อร่วมกันอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลน ระหว่าง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมสมัยใหม่ สนับสนุนการอนุรักษ์ ฟื้นฟูระบบนิเวศป่าชายเลนของประเทศไทย รวมถึงส่งเสริมการเรียนรู้ในสวนพฤกษศาสตร์ป่าชายเลนนานาชาติ ร.๙ ที่จะเป็นแหล่งรวมพันธุ์ไม้ป่าชายเลนจากทั่วโลกนำมาไว้ที่นี่ที่เดียว
นายโสภณ ทองดี อธิบดี ทช.
นายโสภณ ทองดี อธีบดี ทช. กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการต่อยอดและยกระดับงานวิจัยด้านป่าชายเลน และสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านป่าชายเลนของโลกโดยมีสวนพฤษศาสตร์นานาชาติ ร.๙ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ ทช. ให้เป็นแหล่งรวบรวมองค์ความรู้ โดยใช้งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี มาสร้างความรู้ความเข้าใจในระดับจีโนม พันธุกรรม และความสัมพันธ์กับระบบนีเวศ ตลอดจนวิธีการเก็บรักษาเชื้อพันธุกรรมของพันธุ์ไม้ป่าชายเลนในระยะยาว ให้เกิดการบริหารจัดการและสามารถนำความรู้ไปใช้ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูในถิ่นกำเนิด ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน โดยในระยะแรกมุ่งเป้าศึกษาพันธุ์ไม้ป่าชายเลนที่หายากใกล้สูญพันธุ์ตามบัญชาชนิดพันธุ์ที่ถูกคุกคามขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN) ระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี (สิ้นสุดในปี 2565) ดำเนินการโดย ส่วนวิจัยทรัพยากรป่าชายเลน กองอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน ซึ่งมีศูนย์วิจัยทรัพยากรป่าชายเลนที่ 1-6 ของ ทช. เป็นหน่วยงานภาคสนาม ครอบคลุมพื้นที่ป่าชายเลนในฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน 24 จังหวัด ร่วมดำเนินการ ได้แก่ ศูนย์วิจัยทรัพยากรป่าชายเลนที่ 1 ตราด จังหวัดระยอง จันทบุรี ตราด ชลบุรี ฉะเชิงเทรา กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ ศูนย์วิจัยทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 สมุทรสาคร ประกอบด้วย จังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ศูนย์วิจัยทรัพยากรป่าชายเลนที่ 3 ระนอง ประกอบด้วย จังหวัดชุมพร ระนอง ศูนย์วิจัยทรัพยากรป่าชายเลนที่ 4 พังงา ประกอบด้วย จังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ศูนย์วิจัยทรัพยากรป่าชายเลนที่ 5 นครศรีธรรมราช ประกอบด้วย จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ศูนย์วิจัยทรัพยากรป่าชายเลนที่ 6 สตูล ประกอบด้วย จังหวัดสตูล ตรัง พัทลุง สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส
ทั้งนี้ ทช. ยังพัฒนาพื้นที่ป่าชายเลน เป็นโครงการป่าในเมือง เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าให้แก่ประชาชนสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ได้โดยตรง และให้มีส่วนร่วมในการรักษาผืนป่าไว้ให้มีความอุดมสมบูรณ์และยั่งยืน ด้วยการทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน ดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาศึกษาและเข้าใจน‘เวศของป่าชายเลน นอกจากนั้นแล้วในจังหวัดระนองซึ่งม’ผืนป่าชายเลนพื้นที่กว่าแสนไร่ โดย ทาง ทช. กำลังพัฒนาให้เกิดการยกระดับไปสู่ผืนป่าชายเลนระดับโลก
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช.
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า สำหรับความสําคัญของงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลน สวทช. ภายใต้กระทรวง อว. ทำหน้าที่สนับสนุน องค์ความรู้ เครื่องมือและเทคนิคต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่พัฒนาร่วมกันนั้นอยู่บนฐานความรู้ และต่อยอดบนฐานวิทยาศาสตร์ โดยมั่นใจว่าการทำงานร่วมกันจะส่งเสริมให้การเพิ่มจำนวนพื้นที่ป่าชายเลนได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ สวทช. ยังมีโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของชาติ ได้แก่ ศูนย์โอมิกส์แห่งชาติ และธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ ซึ่งมีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยการวิจัยแนวหน้าในระดับจีโนมและพันธุกรรม โปรตีนและการแสดงออกของยีน โดยเฉพาะชนิดที่มีการแพร่กระจายน้อย หายาก ใกล้สูญพันธุ์ โดยผลงานวิจัยภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้มุ่งเป้าให้เกิดฐานข้อมูลจีโนมอ้างอิงของพืชป่าชายเลนเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ทั้งวิธีการอนุรักษ์พันธุกรรมในสภาพปลอดเชื้อระยะยาว ซึ่งจะนำไปสู่การคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ป่าชายเลน เกิดการปรับปรุงพันธุ์ในอนาคต สร้างความมั่นคงทางอาหารและทางระบบนิเวศให้กับป่าชายเลนในประเทศไทยคงความอุดมสมบูรณ์ เพื่อส่งเสริมให้เศรษฐกิจของประเทศไทยก้าวหน้าชุมชนมีรายได้ และเกิดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
ศ.ดร.สนิท อักษรแก้ว ประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะประธานสมาคมป่าชายเลนนานาชาติกล่าวว่า ป่าชายเลนถือเป็นระบบนิเวศที่มีความสำคัญ อยู่บริเวณรอยต่อระหว่างน้ำจืดกับน้ำเค็มมีพันธุ์พืช มากกว่า 80 ชนิด อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นพืชที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และยังเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของประมงชายฝั่ง ในปัจจุบันประเทศไทยมีโครงการที่สำคัญในระดับโลก คือ โครงการ "สตร์ป่าชายเลนนานาชาติ ร.9" ซึ่งเป็นสวนพฤกษศาสตร์ป่าชายเลนแห่งแรกของโลกที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่บ้านเสม็ดงาม จ. จันทบุรี จะเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้ป่าชายเลนจากทั่วโลกมาไว้ที่นี่เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และการวิจัยป่าชายเลนในระดับนานาชาติ
ความร่วมมือระหว่าง ทช. และ สวทช. จะเป็นการนำเอาจุดเด่นของความเชี่ยวชาญของแต่ละหน่วยงานมาบูรณาการงานวิจัยป่าชายเลน นี้ไปสู่การเปิดบทบาทการวิจัยแนวหน้าด้านป่าชายเลนครั้งสำคัญของประเทศไทย
โครงการความร่วมมือการวิจัย พัฒนา และวิชาการ เกี่ยวกับป่าชายเลน มุ่งเน้นศึกษาชนิดพันธุ์พืชป่าชายเลน 15 ชนิด ได้แก่
ไม้ชายเลนหายากใกล้สูญพันธุ์ 5 ชนิด
พังกา-ถั่วขาว (Bruguiera hainesii)
ลำแพนหิน (Sonneratia griffithii)
หงอนไก่ใบเล็ก (Heritiera fomes)
แสมขน (Avicennia lanata)
หลุมพอทะเล (Intsia bijuga)
ไม้ป่าชายเลนที่แท้จริง (true mangrove) 10 ชนิด
ลำแพน (Sonneratia ovate)
โปรงขาว (Ceriops decandra)
โกงกางใบใหญ่ (Rhizophora mucronata)
โกงกางใบเล็ก (Rhizophora apiculata)
ประสักแดง/พังกาหัวสุมดอกแดง (Bruguiera gymnorrhiza)
ประสักขาว/พังกาหัวสุมดอกขาว (Bruguiera sexangula)
ถั่วขาว (Bruguiera cylindrica)
ถั่วดำ (Bruguiera parviflora)
โปรงแดง (Ceriops tagal)
โปรงหมู (Ceriops zippeliana)
บทความ

สวทช. จิสด้า รับมอบข้อมูลผลึกโปรตีนอวกาศจากแจ็กซาพร้อมเดินหน้างานวิจัยยาต้านมาลาเรีย
For English-version news, please visit : BIOTEC-NSTDA receives drug target protein crystals grown in space from JAXA
21 กันยายน 63 ณ ห้องประชุม Visionization ชั้น 6 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) อาคาร B ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ : กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) และองค์กรสำรวจอวกาศแห่งญี่ปุ่น หรือ แจ็กซา (Japan Aerospace Exploration Agency: JAXA
จัดพิธีรับมอบข้อมูลการกระเจิงของแสงจากผลการฉายแสงซินโครตรอนกับโครงสร้างผลึกโปรตีนอวกาศ จากผลงานวิจัยหัวข้อ “การทดลองปลูกผลึกโปรตีนในอวกาศเพื่อพัฒนายาต้านโรคมาลาเรีย” ของ ดร.ชัยรัตน์ อุทัยพิบูลย์ นักวิจัยอาวุโส ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สวทช. โดยมี ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และที่ปรึกษา สวทช. เป็นประธาน
ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า ในปัจจุบัน การทดลองงานวิจัยในอวกาศเป็นเรื่องน่าสนใจของหลายมหาวิทยาลัยในประเทศ อาทิ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กับการวิจัยเรื่องผลึกเหลว หรือ Liquid Crystals ในอวกาศ หรือ มหาวิทยาลัยมหิดล กับการทดลองเพาะเลี้ยงพืชตระกูลไข่น้ำในอวกาศ เป็นต้น ซึ่งมหาวิทยาลัยเหล่านี้ เกิดแรงบันดาลใจในการทดลองงานวิจัยในอวกาศ จากการดำเนินงานของ โครงการวิจัยวิทยาศาสตร์อวกาศและการทดลองในอวกาศ หรือโครงการ National Space Exploration ของ สทอภ. โดยความร่วมมือกับ สวทช. และประเด็นที่สำคัญ คือ งานวิจัยเรื่อง “การทดลองปลูกผลึกโปรตีนในอวกาศ” ของ ดร. ชัยรัตน์ อุทัยพิบูลย์ นักวิจัยอาวุโส จาก ไบโอเทค สวทช. เป็นงานวิจัยไทย งานแรก ที่ สทอภ. ได้ผลักดันให้ไปทดลองบนสถานีอวกาศนานาชาติ ISS ได้สำเร็จ ซึ่งนั้นเป็นครั้งแรกที่มีงานวิจัยของคนไทยเพื่อคนไทยบนสถานีอวกาศนานาชาติ ISS และเป็นครั้งแรกที่มีธงชาติไทยไปปรากฎบนสถานีอวกาศนานาชาติ ISS พร้อมตราสัญลักษณ์หน่วยงานของไทย อันประกอบด้วย สทอภ. สวทช. และ ไบโอเทค และนี่คือที่มาของงานพิธีรับมอบข้อมูลผลึกโปรตีนอวกาศ ที่ สทอภ. ร่วมกับองค์กรพันธมิตรได้ดำเนินการส่งขึ้นไปทดลองบนสถานีอวกาศ โดย JAXA ได้ดำเนินการส่งงานวิจัยของไทยไปทดลองให้บนสถานีอวกาศ เป็นจำนวนทั้งหมด 2 ครั้งด้วยกัน จนได้ผลผลึกโปรตีนอวกาศที่สมบูรณ์และมีคุณสมบัติพร้อมสำหรับการวิเคราะห์เพื่อพัฒนายาต้านโรคมาลาเรียต่อไป
นางกุลประภา นาวานุเคราะห์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สวทช. เป็นหน่วยงานสำคัญของประเทศในการทำงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยดำเนินกิจกรรมด้านถ่ายทอดเทคโนโลยี การพัฒนาบุคลากร และการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีผลงานวิจัยออกสู่สังคมเป็นจำนวนมาก สำหรับการทำวิจัยโดยใช้สภาวะแรงโน้มถ่วงต่ำบนสถานีอวกาศช่วยให้การทำงานวิจัยในหลาย ๆ เรื่องที่ไม่สามารถทดลองได้บนโลก สามารถได้ผลการทดลองใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่องานวิจัยเป็นอย่างมาก อย่างเช่นงานวิจัย“การทดลองปลูกผลึกโปรตีนในอวกาศเพื่อพัฒนายาต้านโรคมาลาเรีย” ของ ดร. ชัยรัตน์ อุทัยพิบูลย์ ที่เราอาจจะได้ยาต้นมาลาเรียที่มีประสิทธิภาพในการรักษามากขึ้น ซึ่งนอกจากนี้ยังมีงานวิจัยของนักวิจัย สวทช. อีกจำนวนหนึ่งที่มีโอกาสได้ส่งขึ้นไปทดลองบนอวกาศความร่วมมือกับ จิสด้า และแจ็กซา ในโอกาสต่อไป
ดร.ชัยรัตน์ อุทัยพิบูลย์ นักวิจัยอาวุโส ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สวทช. กล่าวว่า งานต่อจากนี้จะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลการกระเจิงของแสงเพื่อศึกษาโครงสร้างโปรตีนซึ่งเป็นเป้าหมายยาต้านมาลาเรียนี้ เพื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลโครงสร้างโปรตีนที่ได้จากการปลูกผลึกบนโลก และหวังว่าจะได้ข้อมูลสำคัญเพื่อช่วยในการออกแบบยาต้านมาลาเรียชนิดใหม่ต่อไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยโรคมาลาเรียทั่วโลก
ดร.ชัยรัตน์ อุทัยพิบูลย์ นักวิจัยอาวุโส ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สวทช. กล่าวว่า งานต่อจากนี้จะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลการกระเจิงของแสงเพื่อศึกษาโครงสร้างโปรตีนซึ่งเป็นเป้าหมายยาต้านมาลาเรียนี้ เพื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลโครงสร้างโปรตีนที่ได้จากการปลูกผลึกบนโลก และหวังว่าจะได้ข้อมูลสำคัญเพื่อช่วยในการออกแบบยาต้านมาลาเรียชนิดใหม่ต่อไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยโรคมาลาเรียทั่วโลก
ดร.ชัยรัตน์ อุทัยพิบูลย์ นักวิจัยอาวุโส ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สวทช. กล่าวว่า งานต่อจากนี้จะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลการกระเจิงของแสงเพื่อศึกษาโครงสร้างโปรตีนซึ่งเป็นเป้าหมายยาต้านมาลาเรียนี้ เพื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลโครงสร้างโปรตีนที่ได้จากการปลูกผลึกบนโลก และหวังว่าจะได้ข้อมูลสำคัญเพื่อช่วยในการออกแบบยาต้านมาลาเรียชนิดใหม่ต่อไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยโรคมาลาเรียทั่วโลก
ข่าวประชาสัมพันธ์

จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 6 ฉ.6 – ไบโอเทค สวทช. ได้รับทุนสนับสนุนกว่า 12 ล้านบาท เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านมันสำปะหลังในเขตประเทศลุ่มแม่น้ำโขง
ไบโอเทค สวทช. ได้รับทุนสนับสนุนกว่า 12 ล้านบาท เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านมันสำปะหลังในเขตประเทศลุ่มแม่น้ำโขง สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยศูนย์พันธุวิศกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) เล็งเห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมมันสำปะหลัง มีการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ ตลอดจนกระบวนการ และเทคโนโลยีต่าง ๆ มีเป็นเวลากว่า 10 ปี จึงได้ดำเนินโครงการ หรือ โครงการ CCC เพื่อพัฒนาศักยภาพเกษตรกรผู้ผลิตมันสำปะหลัง บุคลากร และผู้ประกอบการอุตสาหกรรมมันสำปะหลังในประเทศลุ่มแม่น้ำโขงตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของอุตสาหกรรมมันสำปะหลังตลอดห่วงโซ่การผลิต ควบคู่กับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมระบุล่าสุดได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนความร่วมมือแม่โขงและสาธารณรัฐเกาหลี (Mekong-Republic of Korea Cooperation Fund-MKCF) กว่า 12 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการมุ่งถ่ายทอดเทคโนโลยี ฝึกอบรมให้บุคลากรในประเทศแถบลุ่มแม่น้ำโขง อ่านรายละเอียดเพิ่ม https://www.nstda.or.th/th/news/13480
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย

จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 6 ฉ.6 – สวทช. นำองค์ความรู้และเทคโนโลยี ร่วมพัฒนาการเลี้ยงกุ้งขาว ในโครงการฟาร์มทดสอบ และสาธิตมีนเกษตร “สองน้ำ” มูลนิธิชัยพัฒนา
สวทช. นำองค์ความรู้และเทคโนโลยี ร่วมพัฒนาการเลี้ยงกุ้งขาว ในโครงการฟาร์มทดสอบ และสาธิตมีนเกษตร "สองน้ำ" มูลนิธิชัยพัฒนา 3 สิงหาคม 2563 - กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์พันธุ์วิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) และ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) นำองค์ความรู้และเทคโนโลยีต่าง ๆ จากการวิจัยและพัฒนามาทดลองใช้งานในโครงการฟาร์มทดสอบและสาธิตมีนเกษตร "สองน้ำ" มูลนิธีชัยพัฒนา จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งความร่วมมือนี้จะเป็นต้นแบบระบบการเพาะเลียงสัตว์น้ำที่สามารถขยายผลให้เกษตรกร และสร้างเป็นเครือข่ายการเรียนรู้ร่วมกันอย่างเข้มแข็ง และให้เกษตรกรนำไปประยุกต์ใช้เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.nstda.or.th/th/news/13429-20200803-bio
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย

จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 6 ฉ.6 – สวทช. หนุนผู้เชี่ยวชาญโปรแกรม ITAP ช่วยผู้ประกอบการเกษตรไทย พัฒนาทุเรียนพรีเมียม ThaiGAP และทำฟรีซดรายเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร
สวทช. หนุนผู้เชี่ยวชาญโปรแกรม ITAP ช่วยผู้ประกอบการเกษตรไทย พัฒนาทุเรียนพรีเมียม ThaiGAP และทำฟรีซดรายเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร โปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP: ไอแทป) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วาจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้การสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญแก่ผู้ประกอบการเกษตร "สวนทวีทรัพย" จ.ชุมพร ในการพัฒนาสินค้าเกษตรด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ กับผลไม้หลากชนิด เช่น ทุเรียน ส้มโชกุน มังคุด เป็นต้น โดยผลไม้ทุเรียนของสวนทวีทรัพย์ได้รับการรับรองมาตรฐาน ThaiGAP ซึ่งเป็นมาตรฐานระบบการผลิตสินค้าเกษตรที่มีความปลอดภัยของภาคเอกชน ช่วยยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของผู้ประกอบการให้ขยายช่องทางการตลาดในสินค้าระดับพรีเมียม เช่น ส่งไฮเปอร์มาร์เก็ตรูปแบบค้าส่งได้ เพิ่มรายได้จากผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรโดยจำหน่ายออนไลน์ได้มากขึ้น รวมถึงยังสนับสนุนการทำนวัตกรรม Freeze Dried (ฟรีซดราย) หรือเทคโนโลยีการทำแห้งเยือกแข็งแบบสุญญากาศ ให้แก่ผู้ประกอบการสวนทวีทรัพย์ในการเพิ่มมูลค่าสินค้า สร้างความมั่นใจด้านคุณภาพ ความปลอดภัยต่อผู้บริโภค และสามารถส่งจำหน่ายยังต่างประเทศได้ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.nstda.or.th/th/news/13433
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย

จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 6 ฉ.6 – ศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ สวทช. รับมอบ ใบรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการทดสอบจาก สมอ. ด้วยมาตรฐานการวิเคราะห์ทดสอบขั้นสูงในระดับสากล
ศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ สวทช. รับมอบใบรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการทดสอบจาก สมอ. ด้วยมาตรฐานการวิเคราะห์ทดสอบขั้นสูงในระดับสากล 27 สิงหาคม 2563 ณ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม : ดร.ณฏฐพล วุฒิพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย’แห่งชาติ (สวทช.) รับมอบใบรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการทดสอบ มอก.17025-2561 (ISO/IEC 17025 : 2017) จาก นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ในฐานะที่มีมาตรฐานในการวิเคราะห์ทดสอบขั้นสูง และมีความพร้อมตามมาตรฐานการทดสอบในระดับสากล หนุนการขับเคลื่อนงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าที่มีมาตรฐานในสากล ประหยัดต้นทุน ตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.nstda.or.th/th/news/13479
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย

จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 6 ฉ.6 – สวทช. จับมือ ปตท. พัฒนาศักยภาพบุคลกรวิจัย สนับสนุนการเผยแพร่ ผลงานทางวิชาการให้เกิดนวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์หนุนไทยแลนด์ 4.0
สวทช. จับมือ ปตท. พัฒนาศักยภาพบุคลากรวิจัย สนับสนุนการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการให้เกิดนวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์หนุนไทยแลนด์ 4.0 สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จัดงาน "Tips & Trick: Communicate Your Research Effectively For TAIST-Tokyo Tech students" ภายใต้โครงการสนับสนุนการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการของนักศึกษาโครงการ Thailand Advanced Institute of Science and Technology and Tokyo Institute of Technology ( AIST-Tokyo Tech) โดยมี ดร.ชฎามาศ ธุวะเศรษฐกุล รองผู้อำนวยการ สวทช. คุณอัจฉริยะ เจริญศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ ดร.อ้อมใจ ไทรเมฆ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. พร้อมด้วย ศ.ดร.สุภาพรรณ เสราภิณ และ ศ.นพ.สุทัศน์ ฟู่เจริญ ที่ปรึกษาศูนย์พัฒนาผู้นิพนธ์ Professional Authorship Center (PAC) เข้าร่วมงาน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.nstda.or.th/th/news/13432
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย

จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 6 ฉ.6 – นาโนเทค สวทช. พาลงใต้ชมนวัตกรรมเยาวชน จาก “โครงการลดเปลี่ยนโลกกับโตโยต้า”
นาโนเทค สวทช. พาลงใต้ชมนวัตกรรมเยาวชน จาก “โครงการลดเปลี่ยนโลกกับโตโยต้า" ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ภาคใต้ เยี่ยมชม "เครื่องเก็บขยะในทะเลโดยใช้เทคโนโลยีนาโน" และ "เครื่องกำจัดจัดขยะเศษอาหารเป็นปุ๋ยอัตโนมัติ" นวัตกรรมเยาวชนจากโครงการลดเปลี่ยนโลกกับโตโยต้า ที่มองปัญหาภายในชุมชนเป็นโจทย์สร้างนวัตกรรมต้นแบบสู่การใช้ประโยชน์ในระดับชุมชนในอนาคต เตรียมความพร้อมประกวดรอบชิงชนะเลิศ 4 - 6 กันยายน 2563 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.nstda.or.th/th/news/13434
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย

จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 6 ฉ.6 – สวทช. เปิดตัวเยาวชนทุน JSTP รุ่น 22 และ JSTP-SCB รุ่น 1-2 ปูเส้นทางอนาคตสู่นักวิทยาศาสตร์ นักเทคโนฯ และนักวิจัย
สวทช. เปิดตัวเยาวชนทุน JSTP รุ่น 22 และ JSTP-SCB รุ่น 1-2 ปูเส้นทางอนาคตสู่นักวิทยาศาสตร์ นักเทคโนฯ และนักวิจัย วันที่ 9 สิงหาคม 2563 - บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี - สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยงานส่งเสริมและพัฒนาเด็กและเยาวชนที่มีศักยภาพสูง (JSTP) ฝ่ายพัฒนาบุคลากรวิจัย เปิดตัวพร้อมปฐมนิเทศและแสดงความยินดีแก่เยาวชนนักเรียนนักศึกษาผู้ได้รับทุน JSTP รุ่นที่ 22 จำนวน 18 คน และทุน JSTP-SCB รุ่นที่ 1-2 จำนวน 10 คน รวม 28 คน เพื่อมุ่งผลักดันเยาวชนเข้าสู่อาชีพวิจัย โดยจะสนับสนุนทุนการศึกษาและทุนที่วิจัย รวมถึงโอกาสฝึกทักษะวิจัยกับนักวิจัย สวทช. หรือตามสถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัย ตลอดจนประสบการณ์เข้าค่ายวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ เป็นการสร้างอนาคตของชาติ เพื่อก้าวเป็นกำลังสำคัญของประเทศไทยต่อไป อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.nstda.or.th/th/news/13435
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย

จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 6 ฉ.6 – สวทช. จับมือ มจธ. มจพ. มข. และ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย จัดเสวนาตั้งภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานประเทศไทย
สวทช. จับมือ มจธ. มจพ. มข. และ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย จัดเสวนาตั้งภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานประเทศไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (TMC) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) และสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย จัดประชุมเสวนาการจัดตั้งภาคีเครือข่ายเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานไทย (Thailand Energy Storage Technology Alliance: TESTA) เพื่อเป็นเวท’ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้สู่การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการกักเก็บพลังงานให้กับประเทศ โดยมี ดร.สุมิตรา จรสโรจน์กุล ผู้อำนวยการนวัตกรรมพลังงาน ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) เป็นประธานเปิดงาน พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญ นำโดย ดร.พิมพา ลิ้มทองกุล หัวหน้าทีมวิจัยวัสดุและงานระบบเพื่อใช้ประโยชน์ทางพลังงานไฟฟ้า เอ็มเทค สวทช. เป็นผู้แนะนำเกี่ยวกับ TESTA พร้อมเปิดเวทีเสวนาในหัวข้อ "แนวโน้มสถานการณ์ระบบกักเก็บพลังงานของประเทศไทย" โดยมีตัวแทนจาก กระทรวงพลังงาน สภาอุตสาหกรรม บริษัท พีอีซี เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) ให้เกียรติร่วมเสนอแนวความค‘ดและแบ่งปันความรู้ในครั้งนี้ อ่านรายละเอียดเพิ่ม https://www.nstda.or.th/th/news/13456-20200613_pre-testa
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย

จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 6 ฉ.6 – นักวิจัยไบโอเทค สวทช. คว้ารางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น ประจำปี 2563
นักวิจัยไบโอเทค สวทช. คว้ารางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น ประจำปี 2563 17 สิงหาคม 2563 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว กรุงเทพฯ : มูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นและนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ประจำปี 2563 ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 38 โดยภายในงานได้รับเกิยรติจาก ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตร’ว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานในพิธี และกล่าวแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัล โดยมี ศ.ดร.จำรัส ลิ้มตระกูล ประธานคณะกรรมการรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น นักวิทยาศาสตร์ดี่เด่นประจำปี 2563 ได้แก่ ดร.วรรณพ วิเศษสงวน ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สวทช. จากสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร ศ.ดร.สุทธิชัย อัสสะบำรุงรัตน์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากสาขาวิศวกรรมเคมี ดร.พิชญ พัฒนสัตยวงศ์ สำนักวิชาวิทยาการโมเลกุล สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) รศ.ดร.ทวีธรรม ลิมปานุภาพ หัวหน้าสาขาวิชาเคมี วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล อ่านรายละเอียดเพิ่ม https://www.nstda.or.th/th/news/13457-20200817
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย

จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 6 ฉ.6 – สวทช. เปิดวาร์ป 20 ทีม รับทุนต้นแบบนวัตกรรมเชิงพาณิชย์ ในโครงการ AI Innovation Jumpstart พร้อมรองรับ ARIPOLIS ในพื้นที่ EECi
สวทช. เปิดวาร์ป 20 ทีม รับทุนต้นแบบนวัตกรรมเชิงพาณิชย์ ในโครงการ AI Innovation Jumpstart พร้อมรองรับ ARIPOLIS ในพื้นที่ EECi กรุงเทพฯ - กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย (ซอฟต์แวร์พาร์ค) จัดเวทีนำเสนอผลงาน AI Innovation Jumpstart Batch2 BKK : Demo Day ภายใต้ "โครงการพัฒนาทักษะบุคลากรด้านระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และระบบอัจฉริยะ (ARI Skill Development Project)" จำนวน 20 ผลงาน ใน 6 กลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อนำเสนอผลงานที่พร้อมจะพัฒนาสินค้าและบริการ และนำเสนอต่อนักลงทุนแล้ว รวมถึงเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับ ARIPOLIS หรือเมืองนวัตกรรมระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ในเขตพื้นที่ EECi ด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อยกระดับขีดความสามารถของประเทศไทยต่อไป พร้อมกันนี้ ทุกทีมยังได้รับทุนสนับสนุนการพัฒนาต้นแบบนวัตกรรมเช‘งพาณิชย์ ทีมละ 100,000 บาท โดยมี 3 ผลงานเข้าตาคว้า Popular Vote รางวัลละ 5,000 บาท รายละเอียดเพิ่ม https://www.nstda.or.th/th/news/13459
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย