หน้าแรก สวทช. เยือน Tokyo Women’s Medical University เสริมความร่วมมือวิจัย Biomedical Engineering และ AI

สวทช. เยือน Tokyo Women’s Medical University เสริมความร่วมมือวิจัย Biomedical Engineering และ AI

1 พ.ย. 2568
0
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์

ภาพถ่ายร่วมระหว่างคณะผู้แทน สวทช. และคณะผู้บริหาร Tokyo Women’s Medical University ณ ห้องประชุม ABMES

(วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568) – คณะผู้แทนจาก โครงการ TAIST–Science Tokyo นำโดย รศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายวิจัยประยุกต์ทางเทคโนโลยีหุ่นยนต์และชีวการแพทย์ (BART LAB) พร้อมด้วย คุณศิรินทร์พร เดียวตระกูล รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และ ดร.พัชร์ลิตา ฉัตรวริศพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้เข้าพบและหารือกับ Prof. Ken Masamune รองผู้อำนวยการ Medical AI Center (MAC) และผู้อำนวยการ Faculty of Advanced Techno-Surgery, Institute of Advanced Biomedical Engineering and Science (ABMES)Tokyo Women’s Medical University (TWMU) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวทางความร่วมมือด้าน Biomedical Engineering และ Artificial Intelligence (AI)

พร้อมด้วยคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยพันธมิตรในโครงการ TAIST–Science Tokyo ได้แก่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธรแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยมหิดล อาทิ รศ.ดร.ปกรณ์ โอภาประกาศิต, รศ.ดร.ปรีชา การินทร์, ผศ.ดร.ดุสิต ธนเพทาย และ ผศ.ดร.อภิชน ไวท์ยางกูร

ภาพคณะผู้แทน สวทช. และ วช. ระหว่างหารือแนวทางความร่วมมือด้าน Biomedical Engineering และ AI ที่ Tokyo Women’s Medical University ภาพบรรยากาศการประชุมหารือระหว่างคณะผู้แทนไทยกับทีมวิจัย Medical AI Center ณ Tokyo Women’s Medical University
ภาพคณะผู้แทนเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการวิจัยหุ่นยนต์ผ่าตัดและระบบ AI ของ ABMES ณ Tokyo Women’s Medical University ALT Text: ภาพคณะผู้แทน สวทช. ทดลองใช้อุปกรณ์ Smart Cyber Operating Theater ร่วมกับทีมวิจัยจากญี่ปุ่น

การเยือนศูนย์เทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูง

ระหว่างการเยือน คณะได้เข้าเยี่ยมชม ศูนย์การแพทย์และห้องผ่าตัดขั้นสูง (Advanced Operating Theatres) ภายใต้ Faculty of Advanced Techno-Surgery ซึ่งเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมทางการแพทย์ของมหาวิทยาลัย โดยนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผ่าตัด

นอกจากนี้ คณะยังได้เยี่ยมชม Smart Cyber Operating Theater ห้องผ่าตัดอัจฉริยะที่ผสานเทคโนโลยีภาพและการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ รวมถึงระบบหุ่นยนต์ผ่าตัด “da Vinci S Surgical System” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชั้นสูงที่ใช้ในการวิจัยและปฏิบัติงานทางการแพทย์ร่วมกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ALT Text: ภาพคณะผู้แทน สวทช. ทดลองควบคุมระบบผ่าตัดจำลองด้วยเทคโนโลยี 3D Visualization ณ ห้องปฏิบัติการ TWMU

Tokyo Women’s Medical University: ผู้นำด้านการแพทย์และเทคโนโลยีชีวการแพทย์ของญี่ปุ่น

Tokyo Women’s Medical University (TWMU) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2443 (ค.ศ. 1900) ด้วยวิสัยทัศน์ในการส่งเสริมบทบาทสตรีในวิชาชีพแพทย์และสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษา ภายใต้ปรัชญา “Sincerity and Compassion” มหาวิทยาลัยมุ่งเน้นการพัฒนาความเป็นเลิศในสาขา การแพทย์ขั้นสูง (Advanced Medicine) และ วิศวกรรมชีวการแพทย์ (Biomedical Engineering) โดยบูรณาการองค์ความรู้ด้านการแพทย์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอย่างยั่งยืน

ภาพคณะผู้แทน สวทช. ทดลองควบคุมระบบผ่าตัดจำลองด้วยเทคโนโลยี 3D Visualization ณ ห้องปฏิบัติการ TWMU ภาพคณะผู้แทน สวทช. สวมอุปกรณ์จำลองการผ่าตัดแบบภาพเสมือนจริงภายในห้องปฏิบัติการ TWMU

TWMU ยังเป็นผู้นำด้านงานวิจัยข้ามสาขา (Interdisciplinary Research) ของญี่ปุ่น โดยมีจุดเด่นด้าน Medical AI, Advanced Techno-Surgery, Regenerative Medicine, Robotics และ Smart Healthcare Systems ผ่านหน่วยงานวิจัยสำคัญ ได้แก่ ABMES และ MAC ซึ่งทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มการวิจัยร่วมระหว่างแพทย์ วิศวกร และนักวิทยาศาสตร์จากหลากหลายสาขา

ภาพคณะผู้แทน สวทช. สวมอุปกรณ์จำลองการผ่าตัดแบบภาพเสมือนจริงภายในห้องปฏิบัติการ TWMU

สานต่อความร่วมมือวิจัยและพัฒนาบุคลากรไทย

ภารกิจในครั้งนี้นับเป็นการสานต่อความร่วมมือทางวิชาการที่ริเริ่มตลอดการเยือนประเทศญี่ปุ่น โดยเน้นการ พัฒนาหลักสูตรและโครงการวิจัยร่วม การ แลกเปลี่ยนนักวิจัยและนักศึกษา รวมถึงการ ยกระดับสมรรถนะของบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของไทย ให้สามารถแข่งขันในระดับนานาชาติ

การเยือน Tokyo Women’s Medical University สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ สวทช. ในการ ขยายเครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติ และ สนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีศักยภาพ ตอบสนองต่อความท้าทายในยุคดิจิทัลและสังคมแห่งนวัตกรรมอย่างยั่งยืน

 

 

แชร์หน้านี้: