“สุรศักดิ์” รมว.กระทรวง อว. ประกาศนโยบาย Quick Win ช่วยคนตกงาน เปิดโครงการ “โดรนคนละครึ่ง” เดินหน้าสู่เกษตรอัจฉริยะ ปั้น “มหาวิทยาลัยสีเขียว”
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2568 เวลา 09.00 น. ที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมว.กระทรวง อว. ได้แถลงนโยบายการทำงานภายใต้นโยบายการยกระดับการศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ให้ก้าวทันโลก การนำเทคโนโลยีมาเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยมีผู้บริการกระทรวง อว. นำโดย ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) นำโดย ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. เข้าร่วมผ่านระบบออนไลน์ และ ดร.กัลยา อุดมวิทิต และ ดร.วรวรงค์ รักเรืองเดช รองผู้อำนวยการ สวทช. เข้าร่วมที่ห้องประชุมชั้น 4 อาคารพระจอมเกล้า กระทรวง อว.
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ตนมีนโยบายเร่งด่วนหรือ นโยบาย Quick Win ที่เห็นผลได้จริงภายในระยะเวลา 4 เดือน ควบคู่กับการต่อยอดนโยบายเดิมที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งอยู่แล้ว โดยนโยบายเร่งด่วนแรกคือ การบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนกับภาวะการว่างงาน ซึ่งปัจจุบันกำลังเป็นปํญหาในวงกว้าง สถานการณ์ตลาดแรงงานเปลี่ยนไปจากการเข้ามาของเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI ส่งผลให้กำลังแรงงานตั้งแต่ระดับสูง กลาง และล่างตกงานเป็นจำนวนมาก ดังนั้น กระทรวง อว. จะเปิด Upskill-Reskill ให้กับประชาชน โดยให้มหาวิทยาลัยและอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคทั่วประเทศจัด Upskill-Reskill ในสาขาที่มีความจำเป็นเร่งด่วนและตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงงาน เปิดโอกาสให้แรงงานที่มีประสบการณ์อยู่แล้วได้เข้ามาพัฒนาและเพิ่มพูนทักษะใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานยุคใหม่ และกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานอีกครั้ง ที่สำคัญ กระทรวง อว. จะดึงหน่วยงานให้ทุนอย่าง Ted Fund, สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค เป็นต้น มาสนับสนุนทั้งการบ่มเพาะและให้ทุนต่อยอดและสร้างธุรกิจ เพื่อที่แรงงานที่มีประสบการณ์จะได้ผันตัวไปเป็นผู้ประกอบการ SMEs หรือสตาร์ทอัพ อีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากการกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานแล้ว
รมว.กระทรวง อว. กล่าวต่อว่า อีกนโยบายเร่งด่วน คือ การช่วยเหลือภาคเกษตรกรรม ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ โดยกระทรวง อว. จะทำโครงการ “โดรนเพื่อการเกษตรคนละครึ่ง” เป็นการนำเอาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมไปรับใช้ประชาชน ไปรับใช้สังคม โครงการนี้จะช่วยให้เกษตรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดการสัมผัสสารเคมี รวมทั้งเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ประหยัดเวลาและแรงงาน โดยมีรูปแบบของนโยบายเป็นการช่วยค่าบริการหรือค่าใช้จ่ายในการใช้บริการโดรนเพื่อการเกษตรคนละครึ่ง ถือเป็นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาแก้จนอย่างเป็นรูปธรรมและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ส่งเสริมเกษตรกรให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อเปลี่ยนเกษตรแบบดั้งเดิมให้เป็นเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) โดยจะนำร่องในพื้นที่ภาคกลางเป็นอันดับแรกก่อนจะขยายไปในพื้นที่อื่น ขณะเดียวกัน เราจะดึงเครือข่ายผู้ประกอบการ SMEs และสตาร์ทอัพด้านโดรนเพื่อการเกษตร ซึ่งเข้าร่วมโครงการกับอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคมาเป็นผู้ให้บริการเช่าโดรน นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการด้านให้บริการโดรนเพื่อการเกษตรรายย่อยอื่นๆ สามารถมาเข้าร่วมโครงการนี้ได้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมได้อีกด้วย
นายสุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากสองนโยบายเร่งด่วนที่ถือเป็นนโยบาย Quick Win ที่ต้องทำให้สำเร็จแล้ว นโยบายด้านการอุดมศึกษา กระทรวง อว. จะสนับสนุนค่าสมัครสอบค่าสมัครสอบ TCAS เพื่อลดภาระให้กับนักเรียนและผู้ปกครอง นโยบายนี้เป็นนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ตนก็จะดำเนินการต่อเนื่องและดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อไปในการสอบ TCAS69 โดยจะสนับสนุนค่าสมัครสอบ TGAT ในอัตรา 140 บาทต่อคน และค่าสมัครสอบรอบ 3 (Admission) ในระบบ TCAS เพิ่มเติม โดยผู้สมัครสามารถเลือกสมัครได้สูงสุด 7 อันดับฟรี ในอัตรา 600 บาทต่อคน นอกจากนี้ยังจะสนับสนุนค่าสมัครสอบวัดความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ TPAT1-5 (TPAT 1 อัตรา 140 บาทต่อคน และ TPAT 2-5 อัตรา 140 บาทต่อคน) ซึ่งคาดว่าจะมีนักเรียนและผู้ปกครองได้รับประโยชน์กว่า 733,750 คน รวมทั้ง สนับสนุนทุนให้กับนักศึกษาให้กับนักศึกษาพิการ เยาวชนในพื้นที่ห่างไกล และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทุนเรียนดีแต่ยากจน และทุนพัฒนานักวิจัย เป็นต้น ขณะเดียวกัน จะเร่งขับเคลื่อน Credit Bank หรือระบบคลังหน่วยกิต ให้เป็นกลไกหลักในการสะสมและเทียบโอนหน่วยกิตจากประสบการณ์การทำงานและการเรียนรู้จากแหล่งต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม โดยตั้งเป้าให้มีความพร้อมสมบูรณ์ภายในปี 2570 ที่ทุกสถาบันอุดมศึกษาจะเชื่อมต่อกันด้วยระบบคลังหน่วยกิต ทุกวิชาในสถาบันอุดมศึกษาและหลักสูตรระยะสั้นจากภาคเอกชนที่มีคุณภาพจะได้รับการรับรองในการจัดเก็บหน่วยกิต และจัดเก็บไว้ในคลังหน่วยกิตได้
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
“ที่สำคัญ อีกหนึ่งนโยบายที่ตนตั้งใจจะขับเคลื่อนให้สำเร็จ คือ โครงการ “มหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University) สู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050” โดยให้ความสำคัญกับ 1.การส่งเสริมและสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด 2.การประกาศนโยบาย Net Zero ให้สอดคล้องกับนโยบายของ อว. และนโยบายของรัฐบาล และ 3.การเป็นแหล่งบ่มเพาะนวัตกรรมสีเขียว เพื่อสนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจก ของประเทศ และยกระดับขีดความสามารถบุคลากรสู่การสร้างงานและเศรษฐกิจสีเขียวในอนาคต ทั้งนี้ จะขับเคลื่อนร่วมกับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)“ นายสุรศักดิ์ กล่าวและว่า
ขณะที่ นโยบายด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปัจจุบันปัญหาภัยพิบัติทั้งน้ำท่วม ภัยแล้ง โลกร้อน มลพิษ หรือ PM 2.5 เป็นปัญหาที่ประชาชนกำลังเผชิญอยู่ในชีวิตประจำวัน ดังนั้น กระทรวง อว. จะนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาใช้แก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และภัยพิบัติในหลายด้าน เช่น ระบบติดตามสถานการณ์น้ำและแอปพลิเคชัน Thai Water จากคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ และการใช้ภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อติดตามพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งช่วยในการเฝ้าระวัง แจ้งเตือน วิเคราะห์ วางแผน และตัดสินใจแก้ไขปัญหา รวมถึงการสนับสนุนเครือข่ายมหาวิทยาลัยในพื้นที่เพื่อช่วยแก้ปัญหาน้ำ นอกจากนี้ ยังมีการใช้ข้อมูลดาวเทียมในการติดตามและประเมินสถานการณ์ PM 2.5 ผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” โดยกระทรวง อว. ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เช่น สทนช., สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, กรมวิชาการเกษตร, กรมส่งเสริมการเกษตร, กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งระบบทั้งหมดที่กระทรวง อว. จัดทำขึ้นนี้ นอกจากเป็นการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแล้ว ยังช่วยพยากรณ์และวิเคราะห์สภาพอากาศ สถานการณ์น้ำ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับทำการเกษตรให้แม่นยำขึ้นได้อีกด้วย
![]() |
![]() |
รมว.กระทรวง อว. กล่าวทิ้งท้ายว่า นอกจากนี้จะเร่งผลักดันงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากยกระดับรายได้ประชาชนในพื้นที่ โดยการนำผลงานวิจัย องค์ความรู้ และนวัตกรรม มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาท้องถิ่น เช่น การนำเทคโนโลยี/นวัตกรรมมาปรับปรุงในกระบวนการผลิตเพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และพัฒนา/ต่อยอดผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการ รวมถึงบรรจุภัณฑ์ให้ได้มาตรฐาน การใช้เทคโนโลยี Smart Farm ในภาคเกษตร การพัฒนาทักษะ (Upskill/ Reskill) ที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ รวมถึงการใช้ผลงานวิจัย องค์ความรู้เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก สามารถพึ่งพาตนเองได้และกระจายรายได้สู่ชุมชนต่อไป
“ผมมีเวลาไม่มาก คือ 4 เดือน ตั้งใจว่านโยบาย Quick Win จะต้องสำเร็จให้ได้ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากภาวะว่างงาน และเกษตรกรซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมจะมีความหมายก็ต่อเมื่อได้ทำให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนดีขึ้น” นายสุรศักดิ์ กล่าว