หน้าแรก ENTEC สวทช. – กกพ. จัดสัมมนาเสริมสร้างศักยภาพบุคลากร รองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน สรุปผลโครงการ “Capability Building for Energy Transition (2025)”

ENTEC สวทช. – กกพ. จัดสัมมนาเสริมสร้างศักยภาพบุคลากร รองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน สรุปผลโครงการ “Capability Building for Energy Transition (2025)”

6 ต.ค. 2568
0
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์

ผู้บริหาร ENTEC สวทช. และ กกพ. ร่วมเปิดสัมมนา “Capability Building for Energy Transition (2025)” เพื่อเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรด้านพลังงาน

วันที่ 2–3 ตุลาคม 2568 ณ โรงแรมเมอเวนพิค รีสอร์ต เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา: ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จัดสัมมนาวิชาการและสรุปผลการดำเนินโครงการ Capability Building for Energy Transition (2025) เสริมสร้างศักยภาพบุคลากร รองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสู่อนาคต โดยได้รับเกียรติจาก คุณประสิทธิ์ สิริทิพย์รัศมี รองเลขาธิการสำนักงาน กกพ. เป็นประธานกล่าวเปิดงาน

ภาพ คุณประสิทธิ์ สิริทิพย์รัศมี รองเลขาธิการ กกพ.

คุณประสิทธิ์ สิริทิพย์รัศมี รองเลขาธิการ กกพ. กล่าวว่า กิจกรรมอบรมภายใต้โครงการ Capability Building for Energy Transition (2025) เป็นโครงการที่มุ่งพัฒนาบุคลากร กกพ. ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ให้มีองค์ความรู้ด้านเทคนิค เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ทันสมัย เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของภาคพลังงานในอนาคต ซึ่งมองว่า ENTEC สวทช. เป็นหน่วยงานพันธมิตรที่เหมาะสมที่สุดในด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี เนื่องจากมีองค์ความรู้เชิงลึกและติดตามนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ขณะที่บทบาทของ กกพ. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลด้านกิจการพลังงานของประเทศ จำเป็นต้องอาศัยทั้งมิติทางวิศวกรรม กฎหมาย เศรษฐศาสตร์ และการเงิน การร่วมมือเช่นนี้จึงเป็นการเติมเต็มซึ่งกันและกัน ซึ่งหลักสูตรการอบรมได้พัฒนาต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยปีแรกเป็นเพียงหลักสูตรสั้น ๆ เพื่อทดลอง
ก่อนปรับเป็นหลักสูตรเต็มรูปแบบ ในแต่ละปีจะมีการปรับเนื้อหาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและนโยบายพลังงาน เช่น ปีนี้ได้เพิ่มหัวข้อ Small Modular Reactor (SMR) หรือ เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบโมดูลาร์ขนาดเล็ก เพื่อให้บุคลากร กกพ. สามารถติดตามและทำความเข้าใจเทคโนโลยีที่อาจถูกนำมาใช้จริงในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ

คุณประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า กกพ. มีแนวคิดที่จะนำเรื่องข้อมูลพลังงานมาเป็นหัวใจสำคัญของหลักสูตร เพื่อรองรับการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบ Smart Grid หรือโครงข่ายอัจฉริยะ ที่ต้องอาศัยข้อมูลเป็นฐานในการบริหารจัดการ ซึ่งรูปแบบการอบรมไม่ได้มองว่าเป็นเพียงโครงการระยะสั้น แต่สอดคล้องกับแผนระยะ 5 ปีของสำนักงาน และจะเดินหน้าต่อเนื่อง เพราะนี่คือการบูรณาการร่วมกันให้เกิดผลลัพธ์มากกว่าเดิม ระหว่างการกำกับดูแลและองค์ความรู้เชิงเทคนิค การพัฒนาบุคลากรจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพการกำกับกิจการพลังงานให้มีความเหมาะสม โปร่งใส และเป็นธรรม ตลอดจนสร้างโอกาสให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกที่กำลังมุ่งสู่การใช้พลังงานสะอาด ซึ่งความร่วมมือกับ ENTEC สวทช. ครั้งนี้ไม่เพียงพัฒนาคน แต่จะต่อยอดเป็นกลไกการกำกับดูแลที่ตอบโจทย์ประเทศ และเปิดทางให้ไทยก้าวสู่อนาคตพลังงานสะอาดอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ภาพดร.สุมิตรา จรสโรจน์กุล ผู้อำนวยการ ENTEC สวทช.

ดร.สุมิตรา จรสโรจน์กุล ผู้อำนวยการ ENTEC สวทช. กล่าวว่า โครงการ Capability Building for Energy Transition (2025) ได้ดำเนินงานต่อเนื่องมาหลายเดือน โดยเน้นการเสริมสร้างขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ กกพ. โดยตรง เพื่อยกระดับองค์ความรู้ให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานในระดับโลก มีทั้งการจัดอบรมเชิงวิชาการ การศึกษาดูงานในต่างประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเรียนรู้ด้านนโยบาย งานวิจัยและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีพลังงาน ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นการสรุปและปิดการอบรมอย่างสมบูรณ์ในปีนี้ และสำหรับในปี 2026 เรามองไปที่การวิจัยเชิงนโยบายและด้านกฎระเบียบ ที่จะช่วยเสริมบทบาทสำคัญของ กกพ. ในการกำกับกิจการพลังงานของประเทศ โดยมั่นใจว่าจะสามารถสนับสนุนความรู้ทางเทคนิคให้ กกพ. ก้าวทันพัฒนาการของประชาคมโลก ซึ่งการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานเป็นกระบวนการที่ใช้เวลาหลายปี ต้องอาศัยทิศทางที่ชัดเจน เป้าหมายระยะยาว และการเตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐาน ความร่วมมือกับ กกพ. มีส่วนสำคัญในการอัปเดตองค์ความรู้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกแบบ Real-time ตัวอย่างเช่น เทรนด์ด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ขนาดเล็ก ที่เริ่มเป็นประเด็นร้อนแรงในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา

ดร.สุมิตรา กล่าวทิ้งท้าย ผลกระทบจากโครงการที่ประเทศจะได้รับอย่างชัดเจน คือความมั่นใจว่าการตัดสินใจของ กกพ. จะตั้งอยู่บนฐานความรู้ที่อัปเดต ทันสมัย และรอบด้าน ไม่ได้อ้างอิงจากข้อมูลที่ล้าหลัง ทำให้ประเทศไทยสามารถซื้อเทคโนโลยีด้วยความเข้าใจ และตัดสินใจได้อย่างคุ้มค่าและเหมาะสมที่สุด

ภาพ ดร.วิศาล ลีลาวิวัฒน์ นักวิจัย ENTEC สวทช.

ด้าน ดร.วิศาล ลีลาวิวัฒน์ นักวิจัย ENTEC สวทช. และหัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า กิจกรรมการอบรมที่จัดขึ้น นอกจากเป็นการเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพให้กับบุคลากรของ กกพ. โดยตรงแล้ว บุคลากรของ ENTEC เองก็ได้มีโอกาสเรียนรู้และสร้างเครือข่ายไปพร้อมกัน ถือเป็นประโยชน์ร่วมกันโดยเน้นการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ การอัปเดตข้อมูลเชิงนโยบาย รวมถึงทิศทางพลังงานทั้งในระดับประเทศและระดับโลก เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการกำกับดูแลกิจการพลังงานในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหัวข้อสัมมนาที่จัดขึ้นที่ผ่านมา ครอบคลุมหลากหลายเทรนด์ด้านพลังงาน อาทิ พลังงานไฮโดรเจน และเทคโนโลยีนิวเคลียร์ขนาดเล็ก ซึ่งกำลังเป็นทิศทางสำคัญที่ประเทศไทยต้องเตรียมพร้อมเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality โดยการพัฒนาแหล่งพลังงานสะอาดใหม่ ๆ จะช่วยเสริมทางเลือกนอกเหนือจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม

ดร.วิศาล กล่าวต่อว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องพัฒนาความรู้ด้านพลังงานใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา เพราะเทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง การอบรมลักษณะนี้จึงเป็นการสร้างความพร้อมให้กับบุคลากร กกพ. ในการทำหน้าที่กำกับดูแลกิจการพลังงานยุคใหม่ ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และตอบโจทย์เป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศ โดย ENTEC สวทช. ตั้งเป้าขยายผลการอบรมไปสู่การสร้างเครือข่ายที่กว้างขึ้น ไม่เพียงเฉพาะ กกพ. แต่รวมถึงภาคเอกชน หน่วยงานรัฐ และผู้เกี่ยวข้องด้านพลังงาน เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และสร้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญรองรับการเปลี่ยนผ่านพลังงานในอนาคต สำหรับผลการดำเนินงานของโครงการฯ ได้รับการตอบรับที่ดี มีผู้เข้าร่วมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้การวัดผลจะไม่ได้อยู่ที่จำนวนผู้เข้าร่วมเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่สำคัญคือการส่งต่อองค์ความรู้ใหม่ ๆ และการสร้างเครือข่ายที่ช่วยต่อยอดความร่วมมือด้านพลังงานในระยะยาว

ภาพบรรยากาศภายในงาน ภาพบรรยากาศภายในงาน

กิจกรรมมุ่งเน้นสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด (Energy Transition) โดยมี ดร.นุวงศ์ ชลคุป ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยพลังงานคาร์บอนต่ำ ENTEC สวทช. ซึ่งมีบทบาทสำคัญในออกแบบหลักสูตรและผลักดันโครงการเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านพลังงานสะอาด พร้อมทั้งเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ สร้างประสบการณ์ตรงแก่ผู้เข้าร่วม ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการและการศึกษาดูงานในสถานที่จริง ซึ่งช่วยให้บุคลากรของ กกพ. สามารถมองเห็นภาพรวมของเทคโนโลยีและทิศทางการกำกับดูแลด้านพลังงานอย่างรอบด้าน

ภาพบรรยากาศภายในงาน ภาพบรรยากาศภายในงาน
ภาพบรรยากาศภายในงาน ภาพบรรยากาศภายในงาน
ภาพบรรยากาศภายในงาน ภาพบรรยากาศภายในงาน

 

ภายในกิจกรรมจัดให้มีการบรรยายครอบคลุมหัวข้อสำคัญ ได้แก่ การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) และเทคโนโลยีการกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) นำเสนอโดย ดร.พิมพา ลิ้มทองกุล ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมพลังงาน ENTEC สวทช., ใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate: REC) และกลไกการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) นำเสนอโดย คุณมัญชุตา กิ่งเนตร Head of Strategic Partnership บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด., บทบาทของเอนไซม์ไฮโดรจีเนสในการผลิตไฮโดรเจนด้วยกระบวนการชีวเร่งปฏิกิริยาที่ใช้แสง (Hydrogenase in photobiocatalytic hydrogen production) นำเสนอโดย Dr.Nuttavut Kosem จาก Kyushu University, Japan

นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้มีโอกาสลงพื้นที่ศึกษาดูงานกังหันลมเขายายเที่ยง และศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ลำตะคอง ซึ่งถือเป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญด้านพลังงานหมุนเวียนและสิ่งแวดล้อม ช่วยเปิดประสบการณ์และสร้างแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนพลังงานสะอาดในอนาคต

ภาพหมู่การทำกิจกรรม

ภาพหมู่การทำกิจกรรม

แชร์หน้านี้: