อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. ผนึกกำลัง Qianhai Ehub ร่วมผลักดันสตาร์ตอัป ไทย–จีน สู่ตลาดนวัตกรรมโลก

28 พฤศจิกายน 2568 อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (อวท.) ภายใต้การกำกับของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย ดร.จุฬารัตน์ ตันประเสริฐ รองผู้อำนวยการ สวทช. ในฐานะผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กับ ฮับผู้ประกอบการและนวัตกรรมใหม่ของเฉียนไห่–เซินเจิ้น–ฮ่องกง (อีฮับ) (Qianhai Shenzhen–Hong Kong Youth Innovation and Entrepreneur Hub: Ehub) โดยมี นายปีเตอร์ ม็อก (Mr. Peter Mok) ผู้จัดการทั่วไปอีฮับ ร่วมลงนามภายในงาน “ลานประชาคมเฉียนไห่ของเขตเศรษฐกิจพิเศษอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า ปี 2568 (2025 ASEAN–CHINA GBA Economic Cooperation (Qianhai) Forum)” จัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมนานาชาติเฉียนไห่ (Qianhai International Convention Center) เมืองเซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน

พิธีลงนามได้รับเกียรติจาก นายกาจฐิติ วิวัธวานนท์ กงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว คุณเหวิน ผิง รองผู้อำนวยการคณะกรรมการบริหารเขตการค้าเสรีนำร่องจีน (กวางตุ้ง) พื้นที่เฉียนไห่และเซอโข่ว ในฐานะรองอธิบดีสำนักงานความร่วมมืออุตสาหกรรมบริการสมัยใหม่เซินเจิ้น-ฮ่องกง ให้เกียรติร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนาม
ความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาสตาร์ตอัปและนวัตกรรมระหว่างไทยและจีน เปิดโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ให้กับผู้ประกอบการเทคโนโลยีของทั้งสองประเทศ พร้อมส่งเสริมการแลกเปลี่ยนบุคลากรด้านนวัตกรรม นักวิจัย และสตาร์ตอัป เพื่อร่วมกันยกระดับศักยภาพการแข่งขันและสร้างระบบนิเวศระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน

ดร.จุฬารัตน์ เปิดเผยว่า “อวท. และอีฮับเฉียนไห่ มีการทำงานร่วมกันมาอย่างใกล้ชิดก่อนการลงนามในครั้งนี้ ซึ่งหนึ่งในผลลัพธ์ที่น่าภาคภูมิใจ คือ บริษัท นาโน โค๊ดติ้ง เทค จำกัด (Nano Coating Tech) สตาร์ตอัป สมาชิกของอุทยานฯ ซึ่งถือเป็น สตาร์ตอัปไทยรายแรกที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกของอีฮับ นับเป็นก้าวสำคัญของการเปิดตลาดและสร้างพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ในเขตเศรษฐกิจพิเศษอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊าของจีน
อีกทั้งการลงนาม MoU ครั้งนี้ยังเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จของการประชุมประจำปี 2568 สมาคมอุทยานวิทยาศาสตร์เอเชียน (แอสป้า) (Asian Science Park Association (ASPA) Annual Conference 2025) ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดที่กรุงเทพฯ เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเปิดเวทีให้ผู้บริหารอุทยานวิทยาศาสตร์ทั่วเอเชียได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมระดับภูมิภาค ความร่วมมือกับเฉียนไห่จึงเป็นอีกก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง และจะช่วยผลักดันสตาร์ตอัปของทั้งสองประเทศให้เติบโต เป็นการขยายเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ และร่วมกันสร้างเศรษฐกิจนวัตกรรมที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียได้อย่างเป็นรูปธรรม”

นายปีเตอร์ ม็อก กล่าวว่า “บันทึกความร่วมมือฉบับนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางนวัตกรรมระหว่างสองประเทศ โดยผสานจุดแข็งของอีฮับซึ่งตั้งอยู่ในตลาดเศรษฐกิจอ่าวกวางตุ้ง–ฮ่องกง–มาเก๊า กับความเชี่ยวชาญของ อวท. ในฐานะศูนย์กลางวิจัยและพัฒนาในภูมิภาค เราเชื่อว่าความร่วมมือนี้จะช่วยสร้างแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งในการขับเคลื่อนสตาร์ตอัปและนวัตกรรมข้ามพรมแดนให้เติบโตอย่างมั่นคง”
ทั้งนี้ความร่วมมือดังกล่าว นับเป็นอีกก้าวสำคัญของอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ในการขยายเครือข่ายพันธมิตรระดับนานาชาติ และตอกย้ำบทบาทของ สวทช. ในการเชื่อมโยงงานวิจัยและนวัตกรรมไทยสู่ตลาดโลก เพื่อผลักดันเศรษฐกิจฐานความรู้ของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน









