สวทช. ผนึกกำลัง กรุงเทพมหานคร และ สสวท. เปิด “โรงเรียนภาษาที่สาม” พลิกโฉมการศึกษาไทย เพิ่มสกิล ‘ภาษาเทคโนโลยี’ สร้างเยาวชนเป็น ‘นวัตกร’ รับโลกอนาคต
(วันที่ 20 มิถุนายน 2568) ณ ห้องบางกอก ชั้น B2 อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (ดินแดง) :กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ผนึกกำลังกับกรุงเทพมหานคร และสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) จัดโครงการ “ส่งเสริมนวัตกรรมการเรียนรู้สู่การพัฒนานวัตกรยุค 4.0 (โรงเรียนภาษาที่สาม)” ขึ้น เพื่อวางรากฐานสำคัญในการบ่มเพาะเยาวชนไทยให้เป็น “นักคิด นักสร้าง และนักเปลี่ยนแปลงแห่งศตวรรษที่ 21” เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีดิจิทัลในโลกยุคปัจจุบัน ทั้ง 3 หน่วยงานจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญนี้ ทำให้ “ภาษาที่สาม” ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภาษาต่างประเทศอีกต่อไป แต่ยังรวมถึง “ภาษาเทคโนโลยี” อย่างโค้ดดิ้ง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และดิจิทัลต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างนวัตกรรุ่นใหม่ ให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต
นายชนินทร์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการกองเทคโนโลยีการศึกษา สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร กล่าวถึงที่มาของโครงการว่า โครงการนี้เกิดขึ้นจากแนวคิดในการสร้างพื้นที่เรียนรู้แห่งนวัตกรรมในสถานศึกษาสังกัดกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะกลุ่มโรงเรียนภาษาที่สาม ที่มุ่งส่งเสริมการเรียนรู้ข้ามศาสตร์ เพื่อหล่อหลอมเยาวชนให้เติบโตเป็นพลเมืองโลกที่มีคุณภาพ และบ่มเพาะ “นวัตกร” ที่มีความคิดสร้างสรรค์ กล้าคิด กล้าทำ และสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีวิจารณญาณ กิจกรรมในวันนี้จึงเป็นหมุดหมายสำคัญในการปลุกพลังแห่งการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) การประดิษฐ์คิดค้น และการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์
ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สวทช. กล่าวว่า โครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่ สวทช. มุ่งหวังที่จะปลูกฝังและส่งเสริมทักษะด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมให้กับเยาวชนไทยในระดับพื้นฐานอย่างทั่วถึง โครงการนี้มุ่งเน้นการสร้าง “นักคิด นักสร้าง และนักนวัตกรรม” ผ่านการบูรณาการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ (STEM) ควบคู่กับการส่งเสริมทักษะภาษาที่สาม ตลอดระยะเวลา 9 เดือนของการดำเนินโครงการ เนคเทค สวทช. ได้ติดตามความก้าวหน้าอย่างใกล้ชิด และรู้สึกประทับใจกับพัฒนาการของคุณครูในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการมีส่วนร่วมในการออกแบบหลักสูตร การพัฒนาสื่อการเรียนรู้ต้นแบบ การคิดวิเคราะห์เชิงระบบ การทำงานเป็นทีม ตลอดจนการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์
“การที่คุณครูได้ลงมือริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมภายในพื้นที่ Maker Space ของโรงเรียน สะท้อนถึงศักยภาพ ความมุ่งมั่น และจิตวิญญาณของความเป็นนักพัฒนาด้านการศึกษาอย่างแท้จริง เชื่อมั่นว่า เมล็ดพันธุ์แห่งนวัตกรรมที่เราได้ร่วมกันปลูกไว้ในวันนี้ จะเติบโตเป็นต้นกล้าแห่งความคิดสร้างสรรค์และเป็นพลังขับเคลื่อนอนาคตของประเทศไทยต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน” ดร.ชัย กล่าว
รองศาสตราจารย์ธีระเดช เจียรสุขสกุล ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กล่าวว่า ความร่วมมือภายใต้โครงการส่งเสริมนวัตกรรมการเรียนรู้สู่การพัฒนานวัตกรยุค 4.0 หรือที่เรียกว่า “โรงเรียนภาษาที่สาม” สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ องค์กรวิชาการ และสถานศึกษา ในการเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชนไทยเข้าสู่โลกแห่งการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ สสวท. มีบทบาทหลักในการพัฒนาหลักสูตรและทรัพยากรการเรียนรู้ โดยเน้นการบูรณาการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ (STEM) เข้ากับการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาหลักสูตรต้นแบบที่สามารถนำไปปรับใช้ในสถานศึกษาทั่วประเทศโดยมุ่งหวังให้เป็นหลักสูตรที่ไม่เพียงแต่ทันสมัย แต่ยังสอดคล้องกับบริบทของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 และตอบโจทย์ของตลาดแรงงานในอนาคต สสวท.ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรและโรงเรียนต้นแบบในกรุงเทพมหานคร ที่ได้ทดลองและพัฒนาการจัดการเรียนการสอนภายใต้กรอบหลักสูตรนี้อย่างเป็นระบบ โดยมีการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ การจัดพื้นที่ Maker Space รวมถึงการส่งเสริมให้ครูมีบทบาทเป็นโค้ชที่สามารถชี้นำการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“สสวท. ไม่ได้ทำแค่เรื่องเทคโนโลยี แต่ยังทำเรื่อง STEM มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการต่อยอดการพัฒนานักเรียนสู่การใช้ AI จึงอยากให้นักเรียนและครูผู้สอนให้ความสำคัญในการเรียนรู้ทักษะพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญในการเรียนรู้ในทุกเรื่อง ตัวอย่างจากโครงการภาษาที่สาม หรือภาษาเทคโนโลยีในครั้งนี้ สสวท. กทม. และ สวทช. มุ่งมั่นร่วมกันพัฒนาให้เยาวชนโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร เกิดการเรียนรู้และเพิ่มโอกาสในการพัฒนาตนเอง อีกทั้งยังเป็นสร้างเยาวชนคุณภาพให้ทันโลกดิจิทัล เพื่อก้าวสู่การเป็นนักนวัตกรที่มีทักษะที่เหมาะสมกับยุคดิจิทัลและโลกอนาคต”
ด้านนางสาวพิศมัย เรืองศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การดำเนินงานโครงการฯ ซึ่งเป็นความร่วมมืออย่างเข้มแข็งระหว่างสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) และสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) รวมถึงภาคีเครือข่ายด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา และครูแกนนำจากทั่วประเทศ ที่ร่วมออกแบบและพัฒนาหลักสูตรภาษาที่สาม หรือ “ภาษาเทคโนโลยี” โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ให้แก่นักเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร โดยเน้นการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติจริง (Hands-on Learning) และการเรียนรู้ผ่านการแก้ปัญหา (Problem-Based Learning) ผ่านกิจกรรมที่หลากหลายและต่อเนื่อง อาทิ การออกแบบและพัฒนา “Digital Innovation Maker Space” ในโรงเรียนต้นแบบ การจัดทำหลักสูตรภาษาที่สาม (ภาษาเทคโนโลยี) ครอบคลุมทุกช่วงชั้น ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาตอนต้นถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย การอบรมและพัฒนาครูแกนนำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี รวมถึงการจัดทำและทดลองใช้หลักสูตรภาษาที่สาม เช่น Coding, AI, Digital Tools ผ่านกิจกรรมการประกวดพื้นที่ Maker Space ระดับโรงเรียน มีคุณครูเข้าร่วมจำนวน 60 ท่าน และการจัดประกวดผลงานนวัตกรรมดิจิทัลของนักเรียน ซึ่งเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี โดยมีนักเรียนเข้าร่วมจำนวน 60 คน คุณครูที่ปรึกษาจำนวน 40 ท่าน และยังได้รับความร่วมมือจากผู้บริหาร คณะกรรมการ ผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย และทีมงานรวมกว่า 90 ท่าน ร่วมขับเคลื่อนกิจกรรมในครั้งนี้อย่างเข้มแข็ง
การส่งเสริม “ภาษาที่สาม” ไม่ได้หมายถึงเพียงภาษาต่างประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมถึง “ภาษาเทคโนโลยี” เช่น โค้ดดิ้ง ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ ที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างนวัตกรรุ่นใหม่ ที่มีทั้งทักษะและจิตใจพร้อมเผชิญความท้าทายของโลกยุค 4.0 โครงการนี้สอดคล้องกับแนวทางในการจัดการศึกษาของกรุงเทพมหานคร เพื่อให้เด็กทุกคนในกรุงเทพฯ เข้าถึงโอกาสในการเรียนรู้ที่เท่าเทียม พัฒนาครูเป็นโค้ชด้านนวัตกรรมผ่านการอบรมและเครือข่ายการเรียนรู้ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร สนับสนุนการจัดพื้นที่ Maker Space ให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละโรงเรียน สร้างความร่วมมือกับเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน กรุงเทพมหานครมุ่งหวังให้ภารกิจนี้ไม่เป็นเพียงแค่การจัดกิจกรรมแต่เป็นภารกิจถาวรที่ช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาของกรุงเทพมหานคร และเตรียมพร้อมเยาวชนให้สามารถใช้ความรู้และนวัตกรรมในการพัฒนาตนเอง ชุมชน และประเทศชาติในอนาคต บุคลากรทางการศึกษาของกรุงเทพมหานครหลายภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตร “โรงเรียนภาษาที่สาม” หรือ ภาษาเทคโนโลยี รวมถึงการออกแบบห้อง Digital Innovation Maker Space และคู่มือการเรียนรู้ 4 ช่วงชั้น เพื่อขับเคลื่อนการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ในยุคดิจิทัล
ภายในงานมีการจำลองห้องเรียน Digital Innovation Maker Space จัดแสดงชุดสื่อการเรียนรู้ “ภาษาที่สาม” ทั้ง 4 ช่วงชั้น นิทรรศการแสดงผลงานจากโรงเรียนนำร่องทั้ง 20 แห่ง และกิจกรรม Workshop เช่น การต่อวงจรไฟฟ้าเบื้องต้นและการประกอบหุ่นยนต์พื้นฐาน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่บรรจุในคู่มือสื่อการสอนของหลักสูตรโรงเรียนภาษาที่สาม นอกจากนี้ยังมีการประกวดพื้นที่ Digital Innovation Maker space ระดับโรงเรียน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาและใช้ประโยชน์จากพื้นที่ Maker Space ในโรงเรียนอย่างสร้างสรรค์ และการประกวดผลงาน Digital Innovation จากการใช้เครื่องมือในพื้นที่ Maker Space ระดับนักเรียน เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความสามารถในการคิดออกแบบและสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีอีกด้วย
โครงการ “โรงเรียนภาษาที่สาม” ถือเป็นการวางรากฐานสำคัญเพื่อปลุกปั้นเยาวชนไทยให้เป็นนักคิด นักสร้าง และนักเปลี่ยนแปลงแห่งศตวรรษที่ 21 ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณครูผู้เปี่ยมด้วยพลังศรัทธาในศักยภาพของผู้เรียนและนักเรียนทุกคนที่ลุกขึ้นมาเรียนรู้และลงมือสร้างด้วยหัวใจของนักนวัตกรตัวจริง เมล็ดพันธุ์แห่งนวัตกรรมที่ได้ร่วมกันปลูกไว้ในวันนี้ จะเติบโตเป็นต้นกล้าแห่งความคิดสร้างสรรค์และเป็นพลังขับเคลื่อนอนาคตของประเทศไทยต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน
![]() |
![]() |