หน้าแรก สวทช. จับมือ มจพ. สร้างความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา เตรียมกำลังคน สู่อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต

สวทช. จับมือ มจพ. สร้างความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา เตรียมกำลังคน สู่อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต

6 ส.ค. 2568
0
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์

 วันที่ 5 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์พัฒนาธุรกิจและอุตสาหกรรม มจพ. มาบตาพุด จ.ระยอง – สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย ศูนย์ความเป็นเลิศด้านยานยนต์ไฟฟ้าประเทศไทย (TECE) ร่วมกับ ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมทรัพยากรมนุษย์เพื่ออุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา “เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและการพัฒนาทักษะความรู้ด้านยานยนต์ไฟฟ้า และการจัดการแบตเตอรี่อย่างยั่งยืนให้กับบุคลากรภาคการศึกษาและภาคอุตสาหกรรม” โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สุมิตรา จรสโรจน์กุล ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านยานยนต์ไฟฟ้าประเทศไทย (TECE) สวทช. และผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) เป็นประธานเปิดงาน ร่วมกับ นางปิยะฉัตร ใคร้วานิช เบอร์ทัน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาพื้นที่และกำลังคน เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) ซึ่งทาง TECE สวทช. จะร่วมกับ มจพ. ในการขับเคลื่อนการดำเนินการพัฒนากำลังคนพัฒนาทักษะ บุคลากรในกลุ่มผู้ประกอบการ และนักเรียนนักศึกษา เพื่อสร้างความร่วมมือการพัฒนาด้านกำลังคน สู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า มุ่งเน้นการเรียนรู้พื้นฐานการทำงาน และการซ่อมบำรุงยานยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งชิ้นส่วนสำคัญอย่างมอเตอร์ขับเคลื่อนไฟฟ้า โดยใช้องค์ความรู้จาก ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) และการจัดการแบตเตอรี่อย่างปลอดภัย โดยใช้องค์ความรู้จากศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC)  ในการตรวจสอบ ซ่อมบำรุง รวมถึงแนวทางการจัดการแบตเตอรี่ใช้แล้วในยานยนต์ไฟฟ้าอย่างยั่งยืน ในอนาคต

ทั้งนี้ภายในงานได้รับเกียรติจากประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง รองประธานหอการค้าจังหวัดระยอง  ปลัดเทศบาลนครระยอง และรองผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคระยอง ร่วมเป็นสักขีพยาน

รศ.ดร.สมนึก วิสุทธิแพทย์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนางานบริการวิชาการและอุตสาหกรรมสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) กล่าวว่า โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมองค์ความรู้และทักษะด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยเริ่มจาก มุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ให้แก่ผู้เข้าร่วมจากภาคการศึกษาและภาคอุตสาหกรรม พร้อมทั้งการพัฒนาศักยภาพบุคลากรผ่านการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อให้สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้จริงในการทำงาน นอกจากนี้ ยังเป็นการเชื่อมโยงงานวิจัยกับอุตสาหกรรมด้วยการดำเนินการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความร่วมมือทางวิชาการกับหน่วยงานภายนอกมหาวิทยาลัย เพื่อขยายเครือข่ายการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และเทคโนโลยีให้ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมในอนาคต ซึ่งปัจจุบันยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นทำให้ความต้องการบริการซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มีแนวโน้มเติบโตตามไปด้วย แต่จำนวนอู่ซ่อมที่มีทักษะและความรู้เฉพาะทางยังมีจำกัด การพัฒนาทักษะบุคลากรจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยให้กับช่างและผู้ใช้บริการ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดยานยนต์ยุคใหม่

ดร.สุมิตรา จรสโรจน์กุล ผู้อำนวยการ ENTEC และ TECE สวทช. กล่าวถึงบทบาทของ สวทช. โดยศูนย์ฯ TECE มีพันธกิจในการผลักดันงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประเทศ และในบริบทของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) สวทช. ให้ความสำคัญกับการสร้างระบบนิเวศ EV ที่ครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาเทคโนโลยี บุคลากร และโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริมการนำไปใช้ โดยการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา ตามนโยบายด้าน EV ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ความร่วมมือนี้เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของประเทศไทย สวทช. ทำหน้าที่เป็นตัวกลางสำคัญในการสนับสนุนการดำเนินงานในหลายมิติ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ การถ่ายทอดองค์ความรู้ และการสร้างโอกาสในการเรียนรู้ร่วมกับมหาวิทยาลัย ฯ เพื่อเตรียมความพร้อมให้แรงงานมีทักษะตรงตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ยังมีการขับเคลื่อนงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการจัดการแบตเตอรี่อย่างยั่งยืน การพัฒนาสถานีชาร์จไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ ไปจนถึงนวัตกรรมที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่เข้มแข็งในประเทศ และด้านการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน สวทช. พร้อมสนับสนุนทรัพยากรที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนโครงการ ทั้งบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ อุปกรณ์วิจัย ตลอดจนเครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติ เพื่อยกระดับคุณภาพของการดำเนินงานให้ทัดเทียมนานาประเทศ ดร.สุมิตรา กล่าวทิ้งท้ายว่า บทบาทในฐานะศูนย์กลางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สวทช. มุ่งมั่นที่จะสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่ง เพื่อให้เกิดระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศอย่างครบวงจร ซึ่งนอกจากจะมุ่งหวังผลลัพธ์เชิงเศรษฐกิจแล้ว  ยังให้ความสำคัญกับการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยทุกภาคส่วนจะร่วมมือกันเพื่อยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความยั่งยืนอย่างแท้จริง

หลังจากพิธีลงนาม มีการจัดกิจกรรมการ Showcasing: การทดสอบมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า  ในรูปแบบการ บรรยายและสาธิต หัวข้อ “การทดสอบหาคุณลักษณะมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า” ถ่ายทอดองค์ความรู้ทั้งในเชิงวิชาการและเชิงวิชาชีพแก่คณาจารย์ นักวิจัย วิศวกร นักศึกษาในระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา ตลอดจนผู้ที่สนใจในเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า การสาธิตการใช้งานแท่นทดสอบวัดคุณลักษณะมอเตอร์ไฟฟ้า สามารถใช้ในการหาพารามิเตอร์ที่สำคัญต่าง ๆ ของมอเตอร์ไฟฟ้า ตลอดจนใช้ในการตรวจสอบความผิดปกติของมอเตอร์ไฟฟ้าในยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แท่นทดสอบวัดคุณลักษณะมอเตอร์ไฟฟ้าดังกล่าว เป็นผลงานวิจัยที่พัฒนาโดยนักวิจัยจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สวทช. โดยผลงานดังกล่าวได้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีและให้สิทธิการใช้ประโยชน์แก่บริษัท เพาเวอร์ไดรฟ์ ออโตเมชั่น จำกัด เพื่อใช้ในการพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ ช่วยยกระดับศักยภาพในการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศให้สูงยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังกำหนดจัด กิจกรรม “การพัฒนาผู้ประกอบการไทยด้านความปลอดภัยในการซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้า” โดยโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP) สวทช. ร่วมกับ มจพ.ระยอง มุ่งเน้นสร้างความรู้ความเข้าใจด้านความปลอดภัย และเทคนิคเฉพาะทางในการซ่อมตัวถังรถยนต์ไฟฟ้า ตั้งแต่การเรียนรู้โครงสร้างและวัสดุของตัวถัง EV การประเมินความเสียหายหลังอุบัติเหตุ การตัดการเชื่อมต่อระบบแรงดันสูงอย่างถูกวิธี และการใช้เครื่องมือวัดและอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้ลงมือปฏิบัติจริงกับรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ (Nissan Leaf, BYD Dolphin) และระบบจำลองเสมือนจริง VR/AR เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยในการทำงานจริง ซึ่งกิจกรรมจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 2 กันยายน 2568 ณ ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมทรัพยากรมนุษย์เพื่ออุตสาหกรรม มจพ. จ.ระยอง เพื่อยกระดับทักษะและความรู้ด้านการซ่อมบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า (EV) แก่ผู้ประกอบการไทย รองรับการขยายตัวของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ

 

 

6 ส.ค. 2568
0
แชร์หน้านี้: