เอ็มเทค สวทช. ร่วมกับ มหาวิทยาลัยป่าไม้หนานจิง และ บพท. ผนึกกำลังจัดตั้งห้องปฏิบัติการร่วม แปรรูปและใช้ประโยชน์จากไม้ไผ่
18 มิถุนายน 2568: กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. ลงนามความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา ด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีวัสดุก่อสร้างจากไม้ไผ่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ระหว่าง เอ็มเทค สวทช. และ มหาวิทยาลัยป่าไม้หนานจิง จัดขึ้นภายในงาน “สัมมนาไทย – จีนด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน: การถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรม การแปรรูปไม้ไผ่และการประยุกต์ใช้งาน “Thailand – China Symposium on Innovation and Sustainability: Technology and Innovation Transfer on Bamboo Processing and Its Applications” ภายใต้งานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568 โดยมีศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. และ ดร.พสุภา ชินวรโสภาค อัครราชทูตที่ปรึกษา ฝ่ายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัย และนวัตกรรม นายหม่า หมิงเกิง ที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Counselor (Science and Technology) สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และศาสตราจารย์ ดร.ซรู่ว จาง รองคณบดีวิทยาลัยวัสดุศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยป่าไม้หนานจิง ดร.ปุ่น เที่ยง บูรณธรรม รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กร หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) และ ดร.ลักษมณ สมานสิทธิ์ ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องโลตัส 5-6 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์
ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่าง สวทช. และ มหาวิทยาลัยป่าไม้หนานจิง (Nanjing Forestry University) ในครั้งนี้เป็นความร่วมมือในการแสวงหาและถอดบทเรียนว่าประเทศไทยและจีนสามารถร่วมมือกันอย่างไร ในการปลดล็อกศักยภาพของไม้ไผ่ ทั้งในมิติด้านงานวิจัย การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการประยุกต์ใช้ในบริบทจริง ซึ่ง “ไม้ไผ่” ในมุมมองที่เป็นวัสดุชีวภาพที่มีความอุดมสมบูรณ์ สามารถปลูกทดแทนได้ และมีความหลากหลายในการใช้งาน นับเป็นวัสดุทางเลือกที่มีศักยภาพเป็นอย่างมากและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีส่วนสำคัญในการช่วยเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการพัฒนาชุมชนในพื้นที่ มีความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และเป็นแหล่งวัตถุดิบตั้งต้นในการพัฒนานวัตกรรมวัสดุชีวภาพ โดย สวทช. มีความยินดีและภาคภูมิใจที่ได้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนความยั่งยืนผ่านโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งเป็นการบูรณาการแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ผ่านกลไกวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม โดนเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อนำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ต่อไป”
รองศาสตราจารย์ ดร.เติมศักดิ์ ศรีคิรินทร์ ผู้อำนวยการเอ็มเทค สวทช. กล่าวว่า “การลงนามครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของความสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง เอ็มเทค สวทช. กับ มหาวิทยาลัยป่าไม้หนานจิง (Nanjing Forestry University) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา โดยเฉพาะด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีวัสดุก่อสร้างจากไม้ไผ่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเพื่อเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในการแลกเปลี่ยนทรัพยากรและดำเนินงานวิจัยที่เสริมจุดแข็งซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะด้านการแปรรูปและใช้ประโยชน์จากไม้ไผ่ รวมถึงการนำเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นไปปรับใช้ในบริบทพื้นที่จริง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ใช้งานได้จริงและเกิดผลกระทบอย่างยั่งยืน”
สำหรับวัตถุประสงค์ของการลงนามความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและร่วมอภิปรายแนวโน้มงานวิจัยและเทคโนโลยีด้านนวัตกรรมวัสดุและความยั่งยืนในปัจจุบัน ตลอดจนการประยุกต์ใช้และต่อยอดเทคโนโลยีจากต่างประเทศให้มีความยั่งยืนในอนาคต และเพื่อส่งเสริมความยั่งยืนในภาคอุตสาหกรรม ผ่านการจัดตั้งห้องปฏิบัติการร่วมเพื่อแลกเปลี่ยนทรัพยากรและดำเนินงานวิจัยร่วมกันที่เสริมจุดแข็งซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะในด้านการแปรรูปและใช้ประโยชน์จากไม้ไผ่ รวมถึงการนำเทคโนโลยีที่พัฒนานำไปสู่การใช้จริงในบริบทพื้นที่จริง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ใช้งานได้จริงและเกิดผลลัพธ์ผลกระทบอย่างยั่งยืนในระยะยาว
อย่างไรก็ตามความร่วมมือระหว่างสวทช. และ จีนในครั้งนี้ ที่ผ่านมาทาง เอ็มเทค สวทช. มีการพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีจากต่างประเทศ (Technology Localization) โดยใช้กลยุทธ์การจัดหาเทคโนโลยีและเครื่องจักรจากต่างประเทศที่มีการพัฒนาไปไกลมาก ผ่านการออกแบบ พัฒนาและต่อยอดโดยคนไทย จึงเป็นแนวทางที่ทำให้เกิดการใช้งานจริงในระดับผู้ประกอบการไทยและกลุ่มลูกค้าปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยการสนับสนุนที่แข็งแกร่งของหน่วยงานพันธมิตรจีนและไทย โดยเฉพาะโครงการในลุ่มแม่น้ำโขงของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ซึ่งเป็นโครงการสำคัญที่เชื่อมโยงทั้ง 2 หน่วยงานนำมาสู่ความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม ทำให้ เอ็มเทค สวทช. ได้มีโอกาสได้รู้จักกับคณะวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์วัสดุ มหาวิทยาลัยป่าไม้หนานจิง (College of Materials and Engineering, Nanjing Forestry University (NJFU)) นอกจากนี้จากการเยือน NJFU ของคณะจาก เอ็มเทค สวทช. เมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ยังเป็นการเพิ่มความมั่นใจของทั้งสองฝ่ายที่จะแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยี และความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านการแปรรูปไม้ไผ่ระหว่างจีนและไทย ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญของทั้งสองประเทศที่จะได้มีความร่วมมือในด้านใหม่ ๆ อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 50 ปี ซึ่งสะท้อนถึงมิตรภาพและความร่วมมืออันแน่นแฟ้นระหว่างประเทศไทยและประเทศจีน
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |