หน้าแรก สวทช.-กรมชลประทาน-กรมควบคุมมลพิษ-จุฬาฯ ผนึกกำลังสร้างระบบจัดการคุณภาพน้ำยั่งยืน รับมือสารปนเปื้อนอุบัติใหม่

สวทช.-กรมชลประทาน-กรมควบคุมมลพิษ-จุฬาฯ ผนึกกำลังสร้างระบบจัดการคุณภาพน้ำยั่งยืน รับมือสารปนเปื้อนอุบัติใหม่

6 ส.ค. 2568
0
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์

ภาพหมู่สวทช.-กรมชลประทาน-กรมควบคุมมลพิษ-จุฬาฯ ผนึกกำลังสร้างระบบจัดการคุณภาพน้ำยั่งยืน รับมือสารปนเปื้อนอุบัติใหม่

วันที่ 6 สิงหาคม 2568 ณ กรมชลประทาน สามเสน กรุงเทพฯ – สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ กรมชลประทาน กรมควบคุมมลพิษ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “การยกระดับขีดความสามารถด้านการจัดการคุณภาพน้ำและการปนเปื้อนในแหล่งน้ำของประเทศไทย” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการศึกษา วิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีด้านการจัดการคุณภาพน้ำและการควบคุมสารมลพิษอุบัติใหม่ (Emerging Contaminants) เช่น สาร PFAS และโลหะหนักในแหล่งน้ำของประเทศไทย ผ่านการบูรณาการองค์ความรู้ การพัฒนาบุคลากร การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ

ภาพการลงนามความร่วมมือ

การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ มีนายสุริยพล นุชอนงค์ อธิบดีกรมชลประทาน นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และรองศาสตราจารย์ ดร.อักษรา พฤทธิวิทยา อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมแหล่งน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมลงนาม โดยมีรองศาสตราจารย์ ดร.เติมศักดิ์ ศรีคิรินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาคีเข้าร่วมงาน และการสัมมนาวิชาการในหัวข้อ “Understanding the Perils of Emerging Contaminants in Water and Environment” โดยผู้แทนจากหน่วยงานพันธมิตร และการบรรยายพิเศษออนไลน์จาก Professor Denis O’Carroll, Deputy Head of School of Civil and Environmental Engineering & Managing Director of the Water Research Laboratory, University of New South Wales (UNSW) ประเทศออสเตรเลีย

นายสุริยพล นุชอนงค์ อธิบดีกรมชลประทาน

นายสุริยพล นุชอนงค์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชลประทานมีหน้าที่ในด้านการพัฒนาแหล่งน้ำและการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ โดยความร่วมมือนี้จะช่วยส่งเสริมให้มีการพัฒนามาตรการเชิงป้องกัน แก้ไข การออกมาตรฐานคุณภาพน้ำ เพื่อนำไปสู่แนวปฏิบัติด้านการตรวจวัด ติดตาม และประเมินผลคุณภาพน้ำของแม่น้ำและแหล่งน้ำทั้งระบบตามหลักวิชาการ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อปัญหาระดับพื้นที่อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับบริบทของประเทศไทย และที่สำคัญคือเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญที่จะช่วยให้การจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

ภาพนางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ

นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า ปัญหาด้านคุณภาพน้ำและการปนเปื้อนในแหล่งน้ำ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในประเทศไทยหรือจากพื้นที่โดยรอบที่เข้าสู่ประเทศไทย ล้วนมีความรุนแรง ซับซ้อน และแพร่กระจายสู่สิ่งแวดล้อมอย่างรวดเร็ว การปนเปื้อนของโลหะหนักหรือสารมลพิษอุบัติใหม่เหล่านี้จำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการตรวจวัด วิเคราะห์ ติดตาม และกำจัด เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และการเฝ้าระวังที่เท่าทันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งในระดับประเทศและระดับสากล กรมควบคุมมลพิษมีบทบาทสำคัญในการติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำของประเทศ ซึ่งความร่วมมือของทั้ง 4 หน่วยงานในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการบูรณาการร่วมกัน ครอบคลุมทั้งด้านการศึกษา การวิจัยและพัฒนา รวมถึงการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านการแก้ไขปัญหาและการจัดการคุณภาพน้ำ ตลอดจนการปนเปื้อนในแหล่งน้ำ เพื่อยกระดับคุณภาพสิ่งแวดล้อมของประเทศและประชาชนได้รับสิ่งแวดล้อมที่ดี

ภาพศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

ด้าน ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า ปัญหาคุณภาพน้ำและการปนเปื้อนในแหล่งน้ำเป็นความท้าทายระดับชาติที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพของประชาชน และการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างมหาศาล การแก้ไขปัญหานี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคการศึกษา และภาควิจัย

ภาพบทบาทของ สวทช. ในความร่วมมือในครั้งนี้

สวทช. ในฐานะหน่วยงานวิจัยหลักด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มีความมุ่งมั่นที่จะนำองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และโครงสร้างพื้นฐานด้านการวิจัยและพัฒนา มาสนับสนุนการทำงานร่วมกันในครั้งนี้อย่างเต็มกำลัง โดยเฉพาะศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. ที่มีความเชี่ยวชาญในการตรวจวัดและบำบัดสารมลพิษอุบัติใหม่ รวมถึงสาร PFAS และโลหะในน้ำ โดยมีประสบการณ์ในการดำเนินงานโครงการสำรวจสาร PFAS ในแม่น้ำท่าจีน แม่กลอง และชายฝั่งตะวันออก รวมทั้งร่วมกับสำนักงานภูมิภาคองค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO) ในการเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อตรวจหาสาร PFAS และการพัฒนาต้นแบบคัดกรองโลหะในน้ำประปาหมู่บ้าน ซึ่งเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการนำความรู้และเทคโนโลยีมาสนับสนุนการทำงานร่วมกัน นอกจากนี้ สวทช. โดย นาโนเทค และเอ็มเทค ยังได้ทำงานร่วมกับสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ หรือ สคพ. ในการตรวจวัดและพัฒนาคุณภาพน้ำสำหรับอุปโภคและบริโภคสำหรับชุมชนภายใต้แผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ระหว่างปี 2566-2567 เพิ่มการเข้าถึงน้ำสะอาดมากกว่า 2,700 ครัวเรือน ในปี 2568 มากกว่า 24,000 ครัวเรือน และจะขยายวงกว้างในพื้นที่อื่นในอนาคต โดยอาศัยนวัตกรรมตรวจวัดและปรับปรุงคุณภาพน้ำ กิจกรรมเหล่านี้สอดคล้องกับทิศทางการวิจัยของนาโนเทคหรือที่เรียกว่า strategic focus น้ำและสิ่งแวดล้อม ที่ตอบโจทย์และปัญหาที่สำคัญของประเทศ ตามเป้าหมายสำคัญของ สวทช. คือ “การทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น”

ภาพหมู่สวทช.-กรมชลประทาน-กรมควบคุมมลพิษ-จุฬาฯ ผนึกกำลังสร้างระบบจัดการคุณภาพน้ำยั่งยืน รับมือสารปนเปื้อนอุบัติใหม่

การลงนาม MOU ในครั้งนี้จึงนับเป็นก้าวสำคัญของการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาควิชาการ และหน่วยงานวิจัย ในการวางรากฐานการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและตอบสนองต่อความท้าทายของการปนเปื้อนในแหล่งน้ำของประเทศในระยะยาว ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีความซับซ้อนและส่งผลกระทบในหลายมิติต่อการดำรงชีวิตของประชาชนและการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

แชร์หน้านี้: