หน้าแรก กระทรวงพลังงาน จับมือ กระทรวง อว. กำหนดทิศทางการวิจัยและพัฒนา หนุนใช้เทคโนโลยี ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด เพื่อลดการพึ่งพาต่างประเทศสร้างความมั่นคงของประเทศอย่างยั่งยืน
กระทรวงพลังงาน จับมือ กระทรวง อว. กำหนดทิศทางการวิจัยและพัฒนา หนุนใช้เทคโนโลยี ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด เพื่อลดการพึ่งพาต่างประเทศสร้างความมั่นคงของประเทศอย่างยั่งยืน
14 ก.ย. 2563
0
ข่าวประชาสัมพันธ์

For English-version news, please visit : Ministry of Science and Ministry of Energy join hands for clean energy and energy security

14 กันยายน 2563 ณ ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ กระทรวงพลังงาน : กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ กระทรวงพลังงาน ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการกำหนดกรอบทิศทางและการบริหารจัดการงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงาน เพื่อร่วมกำหนดกรอบนโยบายและทิศทางงานวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีพลังงานที่ชัดเจนสอดคล้องกับกรอบนโยบายพลังงานของชาติ ซึ่งยึดจากแผนบูรณาการพลังงานระยะยาว 20 ปี รวม 5 แผน ได้แก่ การพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ อนุรักษ์พลังงาน พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก และบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานของประเทศอย่างยั่งยืน

โดยมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้เกียรติเป็นประธานและสักขีพยานในการลงนาม พร้อมด้วย นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน และ รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วยผู้บริหารร่วมลงนาม

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบริหารจัดการงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงาน ระหว่างกระทรวงพลังงาน และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จะมีส่วนช่วยกำหนดกรอบนโยบายและทิศทางงานวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีพลังงานที่ชัดเจน สอดคล้องนโยบายพลังงานของชาติตามแผนบูรณาการพลังงานระยะยาว 20 ปี โดยกลไกการดำเนินงานร่วมกันนี้จะช่วยขับเคลื่อนประเทศสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน สอดรับกับแนวทางของกระทรวงพลังงานในการเตรียมพร้อมรับมือในยุคดิจิทัล 4D+1E คือ 1.DIGITALIZATION เช่น การพัฒนาระบบดิจิทัลเพื่อบริหารจัดการพลังงานแบบอัจฉริยะ 2.DECARBONIZATION การลดคาร์บอน ส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนที่มีการปล่อยคาร์บอนน้อยลง 3.DECENTRALIZATION การพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ รองรับการกระจายศูนย์สำหรับระบบผลิตไฟฟ้าในพื้นที่ต่าง ๆ 4.DE-REGULATION การผ่อนปรนกฎระเบียบ การเปิด Sandbox ให้เกิดการพัฒนาและทดสอบนวัตกรรมด้านพลังงาน ส่งเสริมให้เกิด Start Up ด้านพลังงาน และ 5.ELECTRIFICATION เช่น การพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า

“บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบริหารจัดการงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการฟื้นฟูและเยียวยาเศรษฐกิจที่เป็นภารกิจเร่งด่วนของรัฐบาล เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจไทยเพื่อรองรับกับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งช่วยขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาประเทศตามบูรณาการพลังงานระยะยาว 20 ปี และแผนยุทธศาสตร์ชาติอีกด้วย” ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าว

รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า กระทรวง อว. มีนโยบายและให้ความสำคัญในการดำเนินงานด้านพลังงานและสร้างความเป็นเลิศในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงาน พร้อมทั้งเชื่อมโยงงานวิจัยและพัฒนากับกระทรวงพลังงานและภาคส่วนต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนแผนพลังงานไปสู่การใช้งานจริง สำหรับ การลงนามความร่วมมือในวันนี้ เพื่อกำหนดกรอบนโยบายและทิศทางงานวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีพลังงานที่ชัดเจนและสอดคล้องกับกรอบนโยบายพลังงานของชาติ โดยเฉพาะในเรื่องของพลังงานทดแทน พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานจากชีวมวลต่าง ๆ ระบบกักเก็บพลังงาน การจัดการพลังงาน และการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน รวมถึงการขับเคลื่อนวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีพลังงาน และนำผลงานวิจัยและพัฒนาไปใช้ประโยชน์ พร้อมทั้งขยายผลในวงกว้าง เพื่อสร้างผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพกลไกการบริหารจัดการงานวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีพลังงานของประเทศไทย ให้มีการกำหนดโจทย์ที่เหมาะสม ตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของประเทศ และมีศักยภาพนำไปใช้ประโยชน์จริงให้กับทุกภาคส่วน นอกจากนี้ยังพัฒนาการดำเนินงานด้านวิชาการ สนับสนุนทรัพยากร และพัฒนาระบบข้อมูลด้านการวิจัย พัฒนาและนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีพลังงานที่มีความทันสมัย ทั้งนี้ เพื่อลดการพึ่งพิงเทคโนโลยีจากต่างประเทศ แก้ปัญหาในอุตสาหกรรมพลังงานของประเทศ สร้างความมั่นคงให้กับประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป

14 ก.ย. 2563
0
แชร์หน้านี้: