หน้าแรก อว. นำทีมไทยร่วมเวทีวิทยาศาสตร์โลก STS Forum 2025 ร่วมขับเคลื่อน AI และการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่ออนาคตของมนุษยชาติ

อว. นำทีมไทยร่วมเวทีวิทยาศาสตร์โลก STS Forum 2025 ร่วมขับเคลื่อน AI และการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่ออนาคตของมนุษยชาติ

5 ต.ค. 2568
0
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์

ภาพของ สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น ที่เสด็จฯ มาร่วมงานด้วย

ภาพ สมเด็จพระจักรพรรดิ กล่าว บนเวที ผ่านจอ

ภาพ การประชุม

ภาพหมู่ผู้บริหาร

วันที่ 5 ตุลาคม 2568 ณ นครเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น – ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เข้าร่วมเปิดการประชุมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาสังคม ครั้งที่ 22 (Science and Technology in Society: STS Forum 2025) พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) และผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวง อว. เข้าร่วมการประชุม
ภาพ สมเด็จพระจักรพรรดิ กล่าว บนเวที ภาพของ สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น ที่เสด็จฯ มาร่วมงานด้วย

การประชุม STS Forum 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคม 2568 ภายใต้หัวข้อ หลัก “การมองโลกในปี 2030 และในอนาคตต่อไป – อนาคตของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และมนุษยชาติ” โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น ที่เสด็จฯ มาร่วมงานด้วย ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญสูงสุดที่ประเทศญี่ปุ่นและประชาคมโลกให้ต่อการสร้างสรรค์อนาคตผ่านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมไปด้วยกันอย่างยั่งยืน เพื่อ “ปูทางสำหรับคนรุ่นต่อไปในอนาคตแห่งยุคเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์” ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ได้จัดให้มีการแบ่งปันวิสัยทัศน์ใน 12 การประชุม Plenary Sessions และ 22 การประชุมย่อย เน้นประเด็นสำคัญที่ AI เป็นแกนหลักของการพัฒนา เพื่อเชื่อมโยงองค์ความรู้และส่งเสริมการพัฒนาอย่างรวดเร็วในทางที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ เช่น ผลกระทบของ AI ต่อสังคมและเศรษฐกิจ การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม การเติบโตทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม เทคโนโลยีนิวเคลียร์เพื่ออนาคต เทคโนโลยีควอนตัม การลดช่องว่างดิจิทัล โครงสร้างพื้นฐานทางสังคมและความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม วิทยาศาสตร์เพื่อสันติภาพและความมั่นคง เป็นต้น
ภาพ ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย กล่าว
ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย นั่งบนเวที ภาพ ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย กล่าว ผ่านจอ
ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. ได้ร่วมการแสดงปาฐกถาพิเศษในพิธีเปิด นำเสนอแผนงานของประเทศไทยในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 ด้วยการขยายพลังงานหมุนเวียน การเกษตรอัจฉริยะ การประยุกต์ใช้ AI และความร่วมมือในระดับภูมิภาคในการเข้าสู่การเป็นสังคมคาร์บอนเป็นศูนย์ (zero carbon society) รวมถึงการเชื่อมโยงงานวิจัยกับภาคอุตสาหกรรมเพื่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกต่อการพัฒนาสังคมโลกอย่างเป็นประโยชน์สูงสุด
ภาพ ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ถ่ายกับป้าย  22nd  S&T Ministers’ Roundtable Meeting ภาพหมู่  ถ่ายกับป้าย  22nd  S&T Ministers’ Roundtable Meeting
ภาพ ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ยืนคู่กับรัฐมนตรีด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาพ ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ นั่งโต๊ะ
ภาพ ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ยืนกับรัฐมนตรีด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ภาพ ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ยืนจับมือกับรัฐมนตรีด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาพ รัฐมนตรีด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยืนกล่าว
จากนั้น ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. ได้รับมอบหมายจาก นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. เป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุมโต๊ะกลมรัฐมนตรีด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (S&T Ministers’ Roundtable Meeting) ในหัวข้อ “วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อสังคมแห่งอนาคต” โดยที่ประชุมได้หารือร่วมกันในการร่วมออกแบบสังคมแห่งอนาคตเพื่อชีวิตของมวลมนุษยชาติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อที่อุบัติใหม่ และการเพิ่มขึ้นของโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ทำให้ภาระด้านการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น การพัฒนาอย่างรวดเร็วของ AI นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยมีมาก่อน การใช้ AI ตามหลักจริยธรรม ผลกระทบต่อการจ้างงาน และธรรมชาติของสังคม โดยญี่ปุ่นเป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ในระดับสากล
พร้อมกันนี้ ผู้อำนวยการ สวทช. ได้ร่วมการหารือทวิภาคีกับผู้บริหารของกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม และกลุ่มอุตสาหกรรม-รัฐบาลมาเลเซียเพื่อเทคโนโลยีขั้นสูง (Malaysian Industry-Government Group for High Technology) ประเทศมาเลเซีย เพื่อกระชับความสัมพันธ์และขยายเครือข่ายความร่วมมือเพื่อรองรับความท้าทายของภูมิภาคและนโยบายของทั้งสองประเทศ เช่น เศรษฐกิจชีวภาพ นาโนเทคโนโลยี เทคโนโลยีพลังงานเพื่อความยั่งยืน และการส่งเสริมเทคโนโลยีขั้นสูงเชิงพาณิชย์ ร่วมสร้างผสานพลังร่วมกันในการยกระดับขีดความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของทั้งไทยและมาเลเซียในระดับภูมิภาคอาเซียน และเข้าร่วมการประชุมคู่ขนานในหัวข้อ “ปัญญาประดิษฐ์เพื่อการเตรียมพร้อมและตอบสนองต่อภัยพิบัติ” จัดโดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เพื่อเป็นเวทีให้นักวิจัยรุ่นใหม่ได้นำเสนอมุมมองและแนวทางนวัตกรรมในการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติร่วมกับผู้กำหนดนโยบายที่มีประสบการณ์ และส่งเสริมศักยภาพให้มีบทบาทในการเป็นผู้นำและผู้ผลักดันแนวทางการแก้ปัญหาความท้าทายระดับโลก
นอกจากนี้ ดร.อิทธิ์ทณัฏฐ์ อิทธิวิภาต นักวิจัยศูนย์เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกและเครื่องมือแพทย์ สวทช. เข้าร่วม Young Leaders Program 2025 ซึ่งจัดภายใต้การประชุม The 22nd Annual Meeting of the STS forum เวทีนี้เปิดโอกาสให้นักวิจัยรุ่นใหม่จากทั่วโลกได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ มุมมอง และสร้างเครือข่ายกับผู้นำระดับโลก รวมถึงผู้ได้รับรางวัลโนเบลจากสาขาฟิสิกส์ เคมี สรีรวิทยาหรือการแพทย์ และสันติภาพ รวมทั้งสิ้น 12 ท่าน การประชุมมุ่งแลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับบทบาทของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการพัฒนาโลก เช่น การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการวิจัย และความสำคัญของการส่งต่อองค์ความรู้สู่นักวิจัยรุ่นใหม่ เพื่อเสริมพลังการวิจัยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 141 คน จากภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษาทั่วโลก
แชร์หน้านี้: