10 Technologies to Watch 2025: การเข้ารหัสลับหลังยุคควอนตัม (Post-Quantum Cryptography: PQC)
ปัจจุบันเรากำลังอยู่ในยุคที่ทุกอย่างกำลังเคลื่อนเข้าสู่โลกดิจิทัล ความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลกลายเป็นรากฐานสำคัญของทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และชีวิตประจำวันของเรา แต่เทคโนโลยีการเข้ารหัสที่เราใช้กันอยู่ เช่น RSA, ECC ที่เคยเชื่อถือได้ กำลังถูกท้าทายจากการมาถึงของคอมพิวเตอร์ควอนตัม
คอมพิวเตอร์ควอนตัมไม่ใช่แค่คอมพิวเตอร์ที่เร็วขึ้น แต่เป็นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนกฎของการคำนวณ โดยใช้ “อัลกอริทึมของชอร์” (Shor’s Algorithm) ถอดรหัสข้อมูลที่เคยปลอดภัยได้ในเวลาอันสั้น และภัยคุกคามที่น่ากังวลที่สุดคือผู้ไม่หวังดีอาจดักเก็บข้อมูลที่เข้ารหัส แล้วรอถอดรหัสในอนาคต (Harvest Now, Decrypt Later: HNDL) เมื่อคอมพิวเตอร์ควอนตัมพร้อมใช้งาน ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อข้อมูลความมั่นคงของชาติ ข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลส่วนบุคคล ฯลฯ
เทคโนโลยี “การเข้ารหัสลับหลังยุคควอนตัม” หรือ Post-Quantum Cryptography (PQC) จึงกลายมาเป็นเทคโนโลยีที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ โดยมี สถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NIST) เป็นผู้กำหนดมาตรฐานอัลกอริทึม PQC ที่ป้องกันการโจมตีจากคอมพิวเตอร์ควอนตัม โดยอาศัยอัลกอริทึมคณิตศาสตร์ที่แบ่งได้เป็น 3 ประเภท มีจุดแข็งจุดอ่อนต่างกัน อัลกอริทึมเหล่านี้มักใช้ขนาดกุญแจหรือลายเซ็นที่ใหญ่ขึ้น อุปกรณ์ที่มีทรัพยากรจำกัด เช่น IoT อาจต้องปรับตัวตาม
ตัวอย่างบริการแบบนี้ในตลาดโลก เช่น Amazon Web Services (AWS), IBM Quantum Safe, Google Cloud ที่ได้นำลายมือชื่อดิจิทัลที่ทนทานต่อควอนตัมมาใช้ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา (ทั้ง Library และ SDK) ที่รวมอัลกอริทึม PQC สำเร็จรูปไว้ให้ใช้งานได้ทันที เช่น OpenSSL 3.5, WolfSSL, Open Quantum Safe Project
ในปี 2025 มูลค่าตลาดของ PQC อยู่ที่ 1,680 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดการณ์ว่าปี 2034 จะเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น อยู่ที่ 37.72% ระหว่างปี 2025–2034
ประเทศไทยมีความตื่นตัวในการรับมือกับด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในยุคควอนตัม ดังเห็นได้จากสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้ริเริ่มออก “คำแนะนำแนวทางการปฏิบัติการเตรียมความพร้อมสำหรับยุคควอนตัม (Guidelines for Post-Quantum Readiness)” เพื่อเป็นแนวทางให้องค์กรต่างๆ เตรียมรับมือ ส่วนสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) ซึ่งมีการจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับ PQC และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สวทช. ก็เริ่มงานการวิจัยและพัฒนาเพื่อประยุกต์ใช้เทคโนโลยี PQC และพร้อมขยายความร่วมมือกับทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน
การเปลี่ยนผ่านสู่ PQC ไม่ใช่แค่เรื่องการอัปเกรดเทคโนโลยี แต่อาจมีส่วนช่วยให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ เช่น บริการให้คำปรึกษาด้าน PQC การพัฒนานวัตกรรมซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่ปลอดภัย และการสร้างบุคลากรทักษะสูง ฯลฯ
📌 อ่านข้อมูลฉบับเต็มและข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่: https://www.nstda.or.th/r/BtQWQ
📌 รับชมการบรรยายได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=8cAv6AEX55c