หน้าแรก 10 Technologies to Watch 2025: เวชสำอางเพื่อสุขภาพและการชะลอวัย (Longevity Cosmeceuticals)

10 Technologies to Watch 2025: เวชสำอางเพื่อสุขภาพและการชะลอวัย (Longevity Cosmeceuticals)

3 ก.ย. 2568
0
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์
บทความ

10 Technologies to Watch 2025: เวชสำอางเพื่อสุขภาพและการชะลอวัย (Longevity Cosmeceuticals)

อินโฟกราฟิกประกอบเนื้อหาเรื่องเวชสำอางเพื่อสุขภาพและการชะลอวัย โดยมีรายละเอียดอยู่ในเนื้อหาส่วนต่อไป

การดูแลสุขภาพผิวและความงามในปัจจุบันไม่ได้เน้นเพียงรูปลักษณ์ภายนอก แต่ยังคำนึงถึงสุขภาพที่ดีจากภายในเพื่อผลในระยะยาวด้วย องค์ความรู้ใหม่เรื่องกลไกความเสื่อมและความชราระดับเซลล์ รวมทั้งกลไกการออกฤทธิ์ของสมุนไพร ทำให้พัฒนาเวชสำอางที่ไม่เพียงแต่ดูแลความงามจากภายนอก แต่ยังชะลอกระบวนการเสื่อมระดับเซลล์จากภายในได้อีกด้วย

อินโฟกราฟิกประกอบเนื้อหาเรื่องเวชสำอางเพื่อสุขภาพและการชะลอวัย โดยมีรายละเอียดอยู่ในเนื้อหาส่วนต่อไป

เวชสำอางเพื่อสุขภาพและการชะลอวัย จึงมิได้เป็นเพียงแค่ “ตำรับเครื่องสำอาง” ที่เน้นการดูแลสุขภาพผิวภายนอก เช่น การลดริ้วรอย หรือเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวเท่านั้น แต่มีจุดเด่นคือการค้นหาสารออกฤทธิ์ที่แก้ปัญหาตรงกลไกหลักของความชรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งความชราของผิว เช่น ลดจำนวนเซลล์ชรา (senescent cells) กระตุ้นการทำงานของยีนซ่อมแซมผิว ซึ่งช่วยยืดอายุผิว (skinspan) ออกไปได้อย่างมีนัยสำคัญ เพราะเป็นการแก้ไขความชราในระดับเซลล์

อินโฟกราฟิกประกอบเนื้อหาเรื่องเวชสำอางเพื่อสุขภาพและการชะลอวัย โดยมีรายละเอียดอยู่ในเนื้อหาส่วนต่อไป

ทั้งหมดนี้วัดประสิทธิภาพได้จากความแข็งแรงของเซลล์ผิว โครงสร้างของชั้นผิว และความสามารถในการฟื้นฟูตนเองของเซลล์ผิว ทั้งนี้มีผลการทดสอบการออกฤทธิ์ทางคลินิกและมาตรฐานความปลอดภัยที่ชัดเจน โดยดูจาก “ตัวชี้วัดชีวภาพ” หรือ “เครื่องหมายชีวภาพ” (biomarkers) ที่เกี่ยวข้องกับความชรา

อินโฟกราฟิกประกอบเนื้อหาเรื่องเวชสำอางเพื่อสุขภาพและการชะลอวัย โดยมีรายละเอียดอยู่ในเนื้อหาส่วนต่อไป

ปัจจุบันขนาดตลาดอุตสาหกรรมเวชสำอาง และตลาดผลิตภัณฑ์และการรักษาด้วยการแพทย์ทางเลือกหรือทดแทน (รวมทั้งผลิตภัณฑ์และการรักษาในกลุ่มชะลอวัย) มีมูลค่าอยู่ที่ราว 67,000 และ 63,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ โดยมีอัตราการเติบโตแบบทบต้น (CAGR) ร้อยละ 4-10 และ 22 ต่อปี สำหรับประเทศไทย มีการคาดการณ์ตลาดในกลุ่มหลังในปี ค.ศ. 2023 อยู่ที่ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะมีมูลค่าสูงขึ้นเป็น 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี ค.ศ. 2030 โดยมีอัตราการเติบโตแบบทบต้นร้อยละ 22 ต่อปี

อินโฟกราฟิกประกอบเนื้อหาเรื่องเวชสำอางเพื่อสุขภาพและการชะลอวัย โดยมีรายละเอียดอยู่ในเนื้อหาส่วนต่อไป

ในต่างประเทศมีบริษัทที่ขยายตลาดทางด้านเวชสำอางเพื่อสุขภาพและการชะลอวัยแล้ว เช่น AstaReal และ Beiersdorf ขณะที่ในประเทศไทยมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่สนใจพัฒนาเวชสำอางอยู่จำนวนหนึ่ง

สวทช. มีงานวิจัยด้านเวชสำอางเพื่อสุขภาพและการชะลอวัยร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรต่าง ๆ ผ่าน “แพลตฟอร์มสร้างนวัตกรรมสารออกฤทธิ์จากสมุนไพรไทย” มีบริษัทสตาร์ตอัปจากงานวิจัยเกิดขึ้นแล้ว เช่น Krono-Life นำส่วนผสมของสารออกฤทธิ์จากสมุนไพรไทย มาพัฒนาเป็นนวัตกรรมสารออกฤทธิ์ Zenolase และผลิตภัณฑ์ ZenoLase Evanesce Serum และมีแนวโน้มจะต่อยอดงานวิจัยเพิ่มเติมกับสมุนไพรอื่น ๆ รวมทั้งพัฒนาวิธีการวิเคราะห์และทดสอบความปลอดภัย ตลอดจนวิธีวัดประสิทธิภาพของสารออกฤทธิ์เพิ่มขึ้นอีกด้วย


📌 อ่านข้อมูลฉบับเต็มและข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่: https://www.nstda.or.th/r/BtQWQ
📌 รับชมการบรรยายได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=8cAv6AEX55c

3 ก.ย. 2568
0
แชร์หน้านี้: