หน้าแรก ค้นหา
ผลการค้นหา :
สรุปยุทธศาสตร์ที่ 5 การเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศสู่ความมั่งคั่งและยั่งยืน ของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12
สรุปยุทธศาสตร์ที่ 5 การเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศสู่ความมั่งคั่งและยั่งยืน ในส่วนที่ 4 ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 ได้ดังนี้ ยุทธศาสตร์ที่ 5 การเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศสู่ความมั่งคั่งและยั่งยืน มีแนวทางการพัฒนา ดังนี้ 1. การรักษาความมั่นคงภายในเพื่อให้เกิดความสงบในสังคมและธำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ โดยสร้างจิตสำนึกของคนในชาติให้มีความหวงแหนและธำรงรักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เสริมสร้างความปรองดองของคนในชาติและมีกลไกในการตรวจสอบและพัฒนาภาคการเมือง ป้องกันและแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้  2. การพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพการป้องกันประเทศ โดยพัฒนาศักยภาพและความพร้อมของกองทัพในการป้องกันและรักษาผลประโยชน์ของประเทศ พัฒนาระบบงานด้านการข่าวที่มีประสิทธิภาพ มีระบบเตรียมพร้อมและกลไกเผชิญเหตุที่มีประสิทธิภาพ พัฒนาระบบบริหารจัดการเชิงบูรณาการและเตรียมความพร้อมในการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านโรคติดต่ออุบัติใหม่ พัฒนาระบบรวบรวมและเชื่อมโยงข้อมูลด้านการก่อการร้ายทั้งหน่วยงานภายในและหน่วยงานภายนอกประเทศ พัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศดำเนินบทบาทเชิงรุกและใช้กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งระดับภูมิภาคและพหุภาคี สนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านกายภาพ  3. การส่งเสริมความร่วมมือกับต่างประเทศด้านความมั่นคง โดยดำเนินความสัมพันธ์กับต่างประเทศอย่างสมดุล เสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกับประเทศเพื่อนบ้านและส่งเสริมความร่วมมือในการบริหารจัดการความมั่นคงตามแนวชายแดน พัฒนาระบบการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลด้านไซเบอร์ให้มีความมั่นคงปลอดภัยและกำกับดูแลระบบการส่งข้อมูลส่วนบุคคลข้ามแดนไปต่างประเทศให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล สร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายภายในประเทศ ภูมิภาค และนานาชาติในการวางระบบเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพที่ได้มาตรฐานสากล  4. การรักษาความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล โดยเสริมสร้างความร่วมมือในการรักษาความมั่นคงทางทะเลทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ แก้ไขปัญหาการแย่งชิงทรัพยากรโดยรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเล พัฒนาสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับคุณค่าของทะเล  5. การบริหารจัดการความมั่นคงเพื่อการพัฒนา โดยปรับปรุงระบบติดตาม เฝ้าระวัง ศึกษา วิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์ด้านความมั่นคง พัฒนากลไกด้านความมั่นคงและระบบการขับเคลื่อนแผนงานต่างๆ ให้พร้อมรับสถานการณ์ทั้งระดับชาติและระดับพื้นที่
THAILAND 4.0
 
สรุปยุทธศาสตร์ที่ 4 การเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12
สรุปยุทธศาสตร์ที่ 4 การเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในส่วนที่ 4 ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 ได้ดังนี้ ยุทธศาสตร์ที่ 4 การเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีแนวทางการพัฒนา ดังนี้ 1. การรักษาฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ โดยอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ อนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน พัฒนาระบบบริหารจัดการที่ดินและแก้ไขการบุกรุกที่ดินของรัฐ ปกป้องทรัพยากรทางทะเลและป้องกันการกัดเซาะตลิ่งและชายฝั่ง วางแผนบริหารจัดการทรัพยากรแร่  2. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยเร่งรัดการประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ เร่งรัดให้มีแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในระดับลุ่มน้ำ ผลักดันกระบวนการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ เพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำของแหล่งน้ำต้นทุนและระบบกระจายน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำและการจัดสรรน้ำต่อหน่วยในภาคการผลิต  3. แก้ไขปัญหาวิกฤตสิ่งแวดล้อม โดยเร่งรัดแก้ไขปัญหาการจัดการขยะตกค้างสะสมในพื้นที่วิกฤต ผลักดันกฎหมายและกลไกเพื่อการคัดแยกขยะ สนับสนุนการแปรรูปเป็นพลังงาน ใช้มาตรการทางเศรษฐศาสตร์เพื่อให้เกิดการลดปริมาณขยะ รวมทั้งสร้างวินัยคนในชาติเพื่อการจัดการขยะอย่างยั่งยืน เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคุณภาพน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำวิกฤตและลุ่มน้ำสำคัญอย่างครบวงจร แก้ไขปัญหาวิกฤตหมอกควันไฟป่าในเขตภาคเหนือและภาคใต้ ปรับปรุงกฎหมายและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเมืองเพื่อรองรับการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  4. ส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยส่งเสริมการผลิตและการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สนับสนุนการผลิตภาคการเกษตรไปสู่เกษตรกรรมที่ยั่งยืน ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนโดยคำนึงถึงขีดความสามารถในการรองรับของระบบนิเวศ สร้างแรงจูงใจเพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนไปสู่การบริโภคที่ยั่งยืน  5. สนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยจัดทำและปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้สามารถรองรับพันธกรณีระหว่างประเทศด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พัฒนามาตรการและกลไกเพื่อสนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจกในทุกภาคส่วน ส่งเสริมภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีการจัดเก็บและรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพิ่มขีดความสามารถในการวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อสนับสนุนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สร้างความรู้ ความเข้าใจ ความตระหนัก และการมีส่วนร่วมของประชาชน และภาคส่วนต่างๆ ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ  6. บริหารจัดการเพื่อลดความเสี่ยงด้านภัยพิบัติ โดยบูรณาการการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติเข้าสู่กระบวนการวางแผน เสริมสร้างขีดความสามารถในการเตรียมความพร้อมและการรับมือภัยพิบัติ พัฒนาระบบการจัดการภัยพิบัติในภาวะฉุกเฉิน พัฒนาระบบการฟื้นฟูบูรณะหลังการเกิดภัย ส่งเสริมองค์ความรู้ด้านการจัดการภัยพิบัติ  7. พัฒนาระบบการบริหารจัดการและกลไกแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยปรับปรุงกลไกและกระบวนการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้มีประสิทธิภาพ ผลักดันการนำแนวทางการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ให้มีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย สร้างจิตสำนึกความตระหนักและปรับปรุงกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน ทบทวนแก้ไขกฎหมาย ส่งเสริมบทบาทภาคเอกชนและชุมชนเพื่อสร้างพลังร่วม  8. การพัฒนาความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ
THAILAND 4.0
 
สรุปยุทธศาสตร์ที่ 3 การสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12
สรุปยุทธศาสตร์ที่ 3 การสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ในส่วนที่ 4 ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 ได้ดังนี้ ยุทธศาสตร์ที่ 3 การสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน มีแนวทางการพัฒนา ดังนี้ 1. การบริหารจัดการเศรษฐกิจส่วนรวม ได้แก่ 1.1 การพัฒนาด้านการคลัง โดยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดแผนงานโครงการ การจัดสรรงบประมาณ การบริหารและการตรวจสอบกระบวนการงบประมาณของประเทศ  เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ภาครัฐและขยายฐานภาษีให้ครอบคลุม ใช้เครื่องมือทางภาษีเพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดการผลิตและการบริโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเพื่อเป็นช่องทางการเพิ่มรายได้ภาครัฐ เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปรับโครงสร้างการบริหารจัดการรัฐวิสาหกิจทั้งระบบและฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจที่มีปัญหาฐานะการเงิน  1.2 การพัฒนาภาคการเงิน โดยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการเงินและสถาบันการเงินทั้งในตลาดเงินและตลาดทุน ขยายการเข้าถึงบริการทางการเงิน  พัฒนานวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ๆ เพิ่มประสิทธิภาพและเสถียรภาพของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ  2. การเสริมสร้างและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและบริการ ได้แก่ 2.1 การพัฒนาภาคการเกษตร โดยเสริมสร้างฐานการผลิตภาคการเกษตรให้เข้มแข็งและยั่งยืน สร้างและถ่ายทอดองค์ความรู้ทางวิชาการ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการเกษตรแบบมีส่วนร่วม ยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารเข้าสู่ระบบมาตรฐานและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดและการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ เสริมสร้างขีดความสามารถการผลิตในห่วงโซ่อุตสาหกรรมเกษตร ส่งเสริมและเร่งขยายผลแนวคิดการทำเกษตรตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พัฒนาปัจจัยสนับสนุนในการบริหารจัดการภาคเกษตรและสนับสนุนเกษตรกรรุ่นใหม่  2.2 การพัฒนาภาคอุตสาหกรรม โดยพัฒนาต่อยอดความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพปัจจุบันเพื่อยกระดับไปสู่อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง วางรากฐานการพัฒนาอุตสาหกรรมสำหรับอนาคต  2.3  การพัฒนาภาคบริการและการท่องเที่ยว โดยเสริมสร้างขีดความสามารถการแข่งขันในเชิงธุรกิจของภาคบริการ  พัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงบูรณาการ พัฒนาอุตสาหกรรมกีฬาอย่างครบวงจร  2.4 การพัฒนาภาคการค้าและการลงทุน โดยส่งเสริมการทำตลาดเชิงรุก พัฒนาการอำนวยความสะดวกทางการค้าให้ได้มาตรฐานสากล สนับสนุนผู้ประกอบการลงทุนในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พัฒนาปัจจัยสนับสนุนเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศและการลงทุนของคนไทยในต่างประเทศ  ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบ พัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญา
THAILAND 4.0
 
สรุปยุทธศาสตร์ที่ 2 การสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12
สรุปยุทธศาสตร์ที่ 2 การสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ในส่วนที่ 4 ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 ได้ดังนี้ ยุทธศาสตร์ที่ 2 การสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม มีแนวทางการพัฒนา ดังนี้ 1. เพิ่มโอกาสให้กับกลุ่มเป้าหมายประชากรร้อยละ 40 ที่มีรายได้ต่ำสุดให้สามารถเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพของรัฐ และมีอาชีพ โดยขยายโอกาสการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพให้แก่เด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาสทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง จัดบริการด้านสุขภาพให้กับประชากรกลุ่มเป้าหมายฯ ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล สร้างโอกาสในการมีที่ดินทำกินของตนเองและยกระดับรายได้ กำหนดนโยบายการคลังเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคมและเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มคนที่มีรายได้น้อยให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เพิ่มการจัดสวัสดิการสังคมให้กับกลุ่มเป้าหมายประชากรร้อยละ 40 ที่มีรายได้ต่ำสุดอย่างเพียงพอและเหมาะสม  2. กระจายการให้บริการภาครัฐทั้งด้านการศึกษา สาธารณสุข และสวัสดิการที่มีคุณภาพให้ครอบคลุมและทั่วถึง โดยส่งเสริมให้มีการกระจายการบริการด้านการศึกษาที่มีคุณภาพให้มีความเท่าเทียมกันมากขึ้นระหว่างพื้นที่ บริหารจัดการการให้บริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เร่งรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้แรงงานนอกระบบตระหนักถึงประโยชน์ของการสร้างหลักประกันในวัยเกษียณและประโยชน์จากระบบประกันสังคม ส่งเสริมและจัดหาโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมให้ประชากรกลุ่มต่างๆ ปรับปรุงปัจจัยแวดล้อมทางธุรกิจ รวมทั้งกฎหมาย กฎระเบียบให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม  3. เสริมสร้างศักยภาพชุมชน การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน และการสร้างความเข้มแข็งการเงินฐานรากตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยสร้างและพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลงในชุมชน ส่งเสริมให้เกิดชุมชนแห่งการเรียนรู้ พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน สนับสนุนการให้ความรู้ในการบริหารจัดการทางการเงิน สนับสนุนชุมชนให้มีส่วนร่วมในการจัดสวัสดิการ บริการ และการจัดการทรัพยากรในชุมชน
THAILAND 4.0
 
สรุปยุทธศาสตร์ที่ 1 การเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์ ของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12
สรุปยุทธศาสตร์ที่ 1 การเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์ ในส่วนที่ 4 ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 ได้ดังนี้ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์ มีแนวทางการพัฒนา ดังนี้ 1. ปรับเปลี่ยนค่านิยมคนไทยให้มีคุณธรรม จริยธรรม มีวินัย จิตสาธารณะ และพฤติกรรมที่พึงประสงค์  2. พัฒนาศักยภาพคนให้มีทักษะความรู้ และความสามารถในการดำรงชีวิตอย่างมีคุณค่า โดยส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยมีการพัฒนาทักษะทางสมองและทักษะทางสังคมที่เหมาะสม พัฒนาเด็กวัยเรียนและวัยรุ่นให้มีทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะการทำงานและการใช้ชีวิตที่พร้อมเข้าสู่ตลาดงาน ส่งเสริมแรงงานให้มีความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพที่เป็นไปตามความต้องการของตลาดงาน พัฒนาศักยภาพของกลุ่มผู้สูงอายุวัยต้นให้สามารถเข้าสู่ตลาดงานเพิ่มขึ้น  3. ยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต  4. ลดปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพและให้ทุกภาคส่วนคำนึงถึงผลกระทบต่อสุขภาพ  5. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการระบบสุขภาพภาครัฐและปรับระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ  6. พัฒนาระบบการดูแลและสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับสังคมสูงวัย  7. ผลักดันให้สถาบันทางสังคมมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศอย่างเข้มแข็ง
THAILAND 4.0
 
สรุปการบรรยายหัวข้อ มาลาเรียดื้อยา ความท้าทายของนักวิจัยไทย ในงาน R&D Sharing 2017
สรุปการบรรยายหัวข้อ มาลาเรียดื้อยา ความท้าทายของนักวิจัยไทย โดย ดร.สุมาลี กำจรวงศ์ไพศาล ผู้อำนวยการหน่วยวิจัยชีววิทยาโมเลกุลทางการแพทย์  ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ในงาน R&D Sharing 2017 ณ ห้องออดิทอเรียม อาคารศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ได้ดังนี้ หน่วยประกอบด้วย 2 ห้องปฏิบัติการ คือ ห้องปฏิบัติการมาลาเรีย และห้องปฏิบัติการวัณโรค ผลงานห้องปฏิบัติการวัณโรค เช่น ดูสถานการณ์การดื้อยาการไวต่อยา ชุดตรวจวัณโรคดื้อยา ชุดตรวจวัณโรคในช้าง พัฒนาวัคซีนวัณโรค ผลงานห้องมาลาเรีย เช่น พัฒนายา ศึกษาเป้าหมายยา ศึกษายาที่มีอยู่กับเชื้ออื่นๆ เช่น trypanosome leishmania toxoplasma ศึกษา interaction ของยุงกับเชื้อและคน ผลงานเด่นของหน่วย ได้แก่ 1. โครงสร้างของ DHFR-TS ซึ่งเป็นเป้าหมายของยา 2. ออกแบบสาร P218 ให้เป็นยา โดยผ่านการทดสอบในคนแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างการทดสอบว่ารักษาโรคมาลาเรียได้ไหม งานอื่นของหน่วย ได้แก่ ศึกษา Pharmacokinetics และ Pharmacodynamics ความฝันในอนาคตของหน่วยคือ วิจัยพัฒนายาได้ด้วยตนเองอย่างครบวงจร สามารถผลิตสารตัวยาได้เอง ติดตามการบรรยายฉบับเต็มได้ที่ http://ffwtube.nstda.or.th/category/seminar/rd-sharing/rd-sharing-2017/         
นานาสาระน่ารู้
 
สรุปการบรรยายหัวข้อ ถอดรหัสพันธุกรรมพืช ในงาน R&D Sharing 2017
สรุปการบรรยายหัวข้อ ถอดรหัสพันธุกรรมพืช โดย ดร.สิทธิโชค ตั้งภัสสรเรือง ผู้อำนวยการหน่วยวิจัยเทคโนโลยีจีโนม ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ในงาน R&D Sharing 2017 ณ ห้องออดิทอเรียม อาคารศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ได้ดังนี้ งานที่ทำของหน่วยได้แก่ 1. sequence genome 2. วิเคราะห์ genome ในระดับประชากร 3. หาความสัมพันธ์ระหว่าง genotype และ phenotype งานวิจัยที่หน่วยทำ เช่น 1. genome sequencing และ genome assembly ของยางพาราและมันสำปะหลัง 2. sequence genome ของข้าว 3. วิเคราะห์ genome ของพืช เช่น ข้าวโพด พริก แตงกวา มะเขือเทศ 4. ค้นหาเครื่องหมายโมเลกุลที่สัมพันธ์กับความสูงของต้นปาล์ม 5. พัฒนาเครื่องหมายโมเลกุลที่สัมพันธ์กับความต้านทานโรคราน้ำค้างและโรคใบไหม้แผลใหญ่ในข้าวโพด 6. โครงการปรับปรุงพันธุ์อ้อย โดย 1. พัฒนาเครื่องหมายโมเลกุลที่สัมพันธ์กับความหวานของอ้อย 2. seqence genome ของพันธุ์อ้อยที่ปลูกมากที่สุดในประเทศไทย 3. พัฒนาเครื่องหมายโมเลกุลที่สัมพันธ์กับ sugar content ติดตามการบรรยายฉบับเต็มได้ที่ http://ffwtube.nstda.or.th/category/seminar/rd-sharing/rd-sharing-2017/                 
นานาสาระน่ารู้
 
สรุปการบรรยายหัวข้อ มาตรวิทยานาโนวิเคราะห์ : รากฐานความเชื่อมั่น คุณภาพและมาตรฐานในระดับสากล ในงาน R&D Sharing 2017
สรุปการบรรยายหัวข้อ มาตรวิทยานาโนวิเคราะห์ : รากฐานความเชื่อมั่น คุณภาพและมาตรฐานในระดับสากล โดย ดร.วิยงค์ กังวานศุภมงคล ผู้อำนวยการหน่วยมาตรวิทยานาโนวิเคราะห์และวิศวกรรม ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ ในงาน R&D Sharing 2017 ณ ห้องออดิทอเรียม อาคารศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ได้ดังนี้  งานวิจัยของหน่วยเช่น 1. physico chemical characterization พัฒนาวัสดุและออกแบบวัสดุ 2. sample preparation 3. การพัฒนาการขยายสัญญาณ 4. ศึกษาความเป็นพิษและควาปลอดภัยทั้ง in vivo และ in vitro 5. สุ่มตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้ซิลเวอร์นาโนในท้องตลาดมา 20 ชนิด มาทำการศึกษาว่ามีซิลเวอร์อยู่จริงไหมและการระคายเคืองต่อผิวหนัง งานด้านมาตรฐานของหน่วย เช่น 1. เปรียบเทียบค่าผลการวัดโดยทำร่วมกับสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ 2. พัฒนามาตรฐานทางนาโนเทคโนโลยี งานด้านบริการของหน่วยครอบคลุมการวัดทั้งในส่วน chemical physical และ bio ทางส่วน bio จะรวม in vivo และ in vitro ผลงานเชิงคุณภาพในปีที่ผ่านมาของหน่วยคือ การศึกษาความเป็นพิษและการระคายเคืองของผลิตภัณฑ์ของบริษัท SCG ติดตามการบรรยายฉบับเต็มได้ที่ http://ffwtube.nstda.or.th/category/seminar/rd-sharing/rd-sharing-2017/                  
นานาสาระน่ารู้
 
สรุปการบรรยายหัวข้อ นาโนเทคโนโลยีเพื่อชีวิตและสุขภาพ ในงาน R&D Sharing 2017
สรุปการบรรยายหัวข้อ นาโนเทคโนโลยีเพื่อชีวิตและสุขภาพ โดย ดร.อุดม อัศวาภิรมย์ ผู้อำนวยการหน่วยวิจัยนาโนเทคโนโลยีเพื่อชีวิตและสุขภาพ ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ ในงาน R&D Sharing 2017 ณ ห้องออดิทอเรียม อาคารศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ได้ดังนี้   งานของหน่วย เช่น 1. การตรวจเบาหวานโดยวัดน้ำตาลที่ไม่อยู่ในเม็ดเลือดแดง วัดน้ำตาลที่เกาะติดกับโปรตีน สามารถตรวจวัดได้ทันทีไม่ต้องอดอาหาร พัฒนาเป็นเครื่องแบบพกพา 2. การตรวจมะเร็งปากมดลูกโดยใช้สารคัดหลั่ง เช่น เลือด พัฒนา biomarker ที่มีความจำเพาะกับเซลล์มะเร็ง 3. การนำส่งยาเพื่อรักษามะเร็งปากมดลูก 4. แผ่นแปะส่งยา บนผิวของแผ่นแปะจะมี microneedle ที่บรรจุยาเพื่อส่งยาผ่านผิวหนัง 5. สารสกัดจากกาวไหม มีฤทธิ์ป้องกันแสง UV ให้ความชุ่มชื้น antioxidant ป้องกันรอยเหี่ยวย่น ได้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ครีม capsule เซรั่ม 6. สารสกัดจากมะขามป้อม มีฤทธิ์ทำให้ขาวลดเม็ดสี พัฒนาเป็น capsule เครื่องสำอาง เช่น ครีมทาหน้าขาว 7. แป้งศรีจันทร์ 8. เซรั่มบำรุงเส้นผม 9. เจลทาแผลเป็น 10. ชุดตรวจโรคแตง ติดตามการบรรยายฉบับเต็มได้ที่ http://ffwtube.nstda.or.th/category/seminar/rd-sharing/rd-sharing-2017/                   
นานาสาระน่ารู้
 
สรุปการบรรยายหัวข้อ บริการเปลี่ยนเสียงพูดเป็นข้อความแบบทันเวลาจริง ในงาน R&D Sharing 2017
สรุปการบรรยายหัวข้อ บริการเปลี่ยนเสียงพูดเป็นข้อความแบบทันเวลาจริง โดย ดร.ณัฐนันท์ ทัดพิทักษ์กุล และดร.อนันต์ลดา โชติมงคล สถาบันเทคโนโลยีเพื่อคนพิการและผู้สูงอายุ ในงาน R&D Sharing 2017 ณ ห้องออดิทอเรียม อาคารศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ได้ดังนี้  กลุ่มผู้ใช้งาน คือ ผู้ที่พิการทางการได้ยิน ผ้สูงอายุ คนปกติ นำบริการนี้ไปประยุกต์ใช้กับคำบรรยายใต้ภาพ สำหรับบริการถอดความเสียงพูดเป็นภาษาไทยแบบใกล้เวลาจริงที่พัฒนาขึ้นมาจะใช้เทคโนโลยีระบบแบ่งพิมพ์ คือ มีศูนย์ถอดความอาศัยเทคโนโลยีการสื่อสารทางไกลส่งข้อความเสียงมาที่ศูนย์ แบ่งเสียงส่งให้เจ้าหน้าที่ถอดความแต่ละคนพิมพ์ออกมา ทำให้ข้อความปรากฏขึ้นมาทันทีหลังจากเจ้าหน้าที่พิมพ์โดยใช้ realtime protocol ระบบแบ่งพิมพ์จะช่วยลดข้อจำกัดของภาษาถิ่น การพูดภาษาไทยปนภาษาอังกฤษ ติดตามการบรรยายฉบับเต็มได้ที่ http://ffwtube.nstda.or.th/category/seminar/rd-sharing/rd-sharing-2017/                 
นานาสาระน่ารู้
 
สรุปการบรรยายหัวข้อ Partii ระบบแปลงเสียงพูดภาษาไทยเป็นข้อความอัตโนมัติ ในงาน R&D Sharing 2017
สรุปการบรรยายหัวข้อ Partii ระบบแปลงเสียงพูดภาษาไทยเป็นข้อความอัตโนมัติ โดย ดร.วาทยา ชุณห์วิจิตรา ผู้อำนวยการหน่วยวิจัยวิทยาการสื่อสารของมนุษย์และคอมพิวเตอร์ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ในงาน R&D Sharing 2017 ณ ห้องออดิทอเรียม อาคารศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ได้ดังนี้ Partii หรือระบบรู้จำเสียงพูดภาษาไทย ทำหน้าที่แปลงเสียงพูดเป็นภาษาไทย สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับบทบรรยายใต้ภาพ ถอดความการประชุม ปัจจุบัน Partii มีลักษณะการทำงาน 2 ลักษณะ ได้แก่ 1. client server ซึ่งการประมวลผลทั้งหมดอยู่บน server 2. embedded ตัวประมวลจะอยู่บนอุปกรณ์นั้นเลยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการทำงาน ความสามารถการทำงานของทั้งสองแบบจะต่างกันคือแบบที่ 1 รองรับการทำงานที่ไม่ระบุผู้พูด รองรับคำศัพท์ภาษาไทยได้เกือบทั้งหมด ความถูกต้องอยู่ที่ 80% ความเร็วอยู่ที่ 1.5 นาที แบบที่ 2 รองรับการทำงานที่ไม่ระบุผู้พูดเช่นกัน รองรับคำศัพท์น้อยกว่าที่ 1000 คำ ความถูกต้องที่ 80 % ความเร็วอยู่ที่ 1.2 นาที ได้นำ Partii ไปประเมินผลข้อมูลจากรัฐสภา และข้อมูลที่มีการประชุม ปรากฏว่า Partii ทำงานได้ถูกต้องมากกว่ากับข้อมูลจากรัฐสภา ตอนนี้ทีมวิจัยกำลังหาทางแก้ปัญหาตรงจุดนี้อยู่ ข้อจำกัดการทำงานของ Partii คือภาษาถิ่น การพูดภาษาไทยปนภาษาอังกฤษ คำสแลง สภาพแวดล้อมที่ดัง ติดตามการบรรยายฉบับเต็มได้ที่ http://ffwtube.nstda.or.th/category/seminar/rd-sharing/rd-sharing-2017/                  
นานาสาระน่ารู้
 
สรุปการบรรยายหัวข้อ เทคโนโลยีชีวภาพอาหาร วิจัยกับการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ในงาน R&D Sharing 2017
สรุปการบรรยายหัวข้อ เทคโนโลยีชีวภาพอาหาร วิจัยกับการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ โดย ดร.วรรณพ วิเศษสงวน ผู้อำนวยการหน่วยวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพอาหาร ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ในงาน R&D Sharing 2017 ณ ห้องออดิทอเรียม อาคารศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ได้ดังนี้  ผลงานของหน่วย คือ 1. พัฒนาต้นเชื้อสำหรับอาหารหมัก 2. ผลิตเอนไซม์เพื่อใช้ในอาหารสัตว์ 3. ลด histamin โดยใช้จุลินทรีย์ 4. การหมักน้ำปลาโดยลดระยะเวลาในการหมัก อนาคตทำอะไร คือ ทำเรื่อง functional ingredient food safety ติดตามการบรรยายฉบับเต็มได้ที่ http://ffwtube.nstda.or.th/category/seminar/rd-sharing/rd-sharing-2017/                 
นานาสาระน่ารู้