หน้าแรก ค้นหา
ผลการค้นหา :
นาโนเทค สวทช. ผนึก “กระบี่” เปิดตัวนวัตกรรมสมุนไพร “ย้อนวัยด้วยวิทยาศาสตร์” ขับเคลื่อนสู่เมืองสุขภาพระดับโลก
(วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568) ณ โรงแรมอ่าวนาง ปริ๊นซ์วิลล์ วิลล่า รีสอร์ท แอนด์ สปา จ.กระบี่: สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยฝ่ายพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี สวทช. และ ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ผนึกกำลังกับจังหวัดกระบี่ จัดกิจกรรม “Krabi: The Living Paradise of Wellness & Longevity” เพื่อเร่งเครื่องยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดกระบี่สู่ “Wellness & Longevity City” ผ่านการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้วยผลิตภัณฑ์สารสกัดสมุนไพรไทยมูลค่าสูง ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมีนายสุวิทย์ สุริยะวงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. และรักษาการผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี สวทช. นางศันสนีย์ ฮวบสมบูรณ์ รองผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สวทช. ดร.ธวิน เอี่ยมปรีดี ผู้อำนวยการแผนงานนวัตกรรมแพลตฟอร์มสร้างนวัตกรรมสารออกฤทธิ์จากสมุนไพรไทยเพื่อความงาม สุขภาพ และอายุยืนยาว โดยมีผู้แทนจากภาครัฐ เอกชน และผู้ประกอบการ เข้าร่วมงานจำนวนมาก กระบี่ มุ่งสู่ศูนย์กลางสุขภาพโลก นายสุวิทย์ สุริยะวงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวชื่นชมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่และความร่วมมือระหว่างภาครัฐ นักวิจัยและภาคเอกชน ที่ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งในปีงบประมาณ 2568 ทำให้จังหวัดกระบี่สามารถยกระดับสถานประกอบการสู่มาตรฐาน Wellness Center จำนวน 10 แห่ง พัฒนามาตรฐานอาหารเป็นยา 20 แห่ง พัฒนาบุคลากรกว่า 400 คน โดยช่วยสร้างทักษะ เพิ่มรายได้และโอกาสใหม่ ซึ่งผลสำเร็จเหล่านี้ ได้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจังหวัดกระบี่ในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวและเป็นที่รู้จักในระดับสากล ด้วยศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรมที่งดงาม และอัธยาศัยไมตรีของคนกระบี่ จะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาให้จังหวัดก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพของประเทศและของโลกในอนาคต สวทช. ชูงานวิจัย “ย้อนวัยด้วยวิทยาศาสตร์” สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า สวทช. มุ่งมั่นที่จะผลักดันงานวิจัยระดับสูงด้านสารสกัดธรรมชาติให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม ตอบโจทย์ทั้งเศรษฐกิจและสุขภาพ โดยเฉพาะการยกระดับผลิตภัณฑ์ในจังหวัดกระบี่ เมืองแห่ง Wellness & Longevity พร้อมให้ความเชื่อมั่นว่านวัตกรรมเหล่านี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทยในเวทีโลก นางศันสนีย์ ฮวบสมบูรณ์ รองผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า นาโนเทค สวทช. พร้อมเป็นกลไกสำคัญในการถ่ายทอดเทคโนโลยีนาโนเอนแคปซูเลชัน ให้ผู้ประกอบการนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความแตกต่างและยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการด้านสุขภาพของกระบี่ให้ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทั้งนี้นาโนเทค สวทช. ได้นำเสนอไฮไลต์สำคัญของงานคือการเปิดเผยนวัตกรรมล่าสุดจาก โปรแกรม PhytoEX สวทช. ซึ่งเป็นผลงานที่ผสานภูมิปัญญาสมุนไพรไทยกับเทคโนโลยีนาโนเอนแคปซูเลชัน (Nano-encapsulation) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสารสกัดให้เทียบเท่าหรือเหนือกว่าแบรนด์ระดับโลก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม สุขภาพ และอายุยืนยาว (Longevity) ตัวอย่างสารออกฤทธิ์ที่มานำเสนอ เช่น อนุภาคสารสกัดจากกระชายดำ เพื่อความอ่อนวัยของผิว กระตุ้นการงอกเส้นผม และลดไขมันสะสม อนุภาคสารสกัดบัวบก ที่โดดเด่นในการกระตุ้นการสร้างไฮยาลูรอนในผิวได้สูงกว่า 300% และสมานแผล และ อนุภาค ZenoLase: นวัตกรรมขั้นสูงจากบริษัท โครโนไลฟ์ จำกัด ซึ่งเป็นดีปเทคสตาร์ทอัพของ นาโนเทค สวทช. ที่สามารถกำจัด “เซลล์ซอมบี้” และฟื้นฟู “อายุชีวภาพของผิว” ให้กลับมาอ่อนเยาว์ได้ถึง 4 ปี ภายในระยะเวลาเพียง 3 สัปดาห์ ดร.ธวิน เอี่ยมปรีดี ผู้อำนวยการแผนงานนวัตกรรม PhytoEX กล่าวว่า เราพร้อมสนับสนุนการต่อยอดงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ โดย สวทช. ได้นำกลไกสนับสนุนผู้ประกอบการไทย โดยมี นายเกียรติรัตน์ ทองผาย ฝ่ายพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี (BID) และคุณอภิวันท์ รอเสนา ที่ปรึกษาฝ่ายสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมภาคเอกชน โครงการ ITAP ร่วมให้คำปรึกษาแนวทางเข้าถึงทุนและการพัฒนาธุรกิจเทคโนโลยีจากภาครัฐมาให้คำปรึกษาภายในงานด้วย สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของโครงการ “กระบี่ Wellness City Destination” และเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อร่วมกันผลักดันจังหวัดกระบี่สู่การเป็น “เมืองแห่งสุขภาวะและความยั่งยืน (Wellness & Longevity City)” อย่างแท้จริง
ข่าว
 
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
สัมมนา ฟรี! “เทคโนโลยีการผลิตซีโอไลต์ ZSM-5 จากหินพอตเทอรี่ สำหรับสารเร่งปฏิกิริยาในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และการพัฒนาโดโลไมต์เป็นวัสดุก่อสร้างคาร์บอนต่ำ”
📣 ขอเชิญเข้าร่วมงานสัมมนา ฟรี! “เทคโนโลยีการผลิตซีโอไลต์ ZSM-5 จากหินพอตเทอรี่ สำหรับสารเร่งปฏิกิริยาในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และการพัฒนาโดโลไมต์เป็นวัสดุก่อสร้างคาร์บอนต่ำ”   🗓 วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 🕣 เวลา 08.30 – 13.00 น. 📍 ห้องพญาไท 1–3 ชั้น 6 โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท   ✨ ไฮไลต์ภายในงาน ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต ซีโอไลต์ ZSM-5 จากหินพอตเทอรี่ เพื่อใช้เป็นสารเร่งปฏิกิริยาในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ✅ การพัฒนา โดโลไมต์ เป็นวัสดุก่อสร้างคาร์บอนต่ำ สนับสนุนอุตสาหกรรมสีเขียว   🆓 เข้าร่วมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย 🚨 ที่นั่งจำนวนจำกัด! 📌 ปิดรับสมัครวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 👉 คลิกลงทะเบียนเลย: https://shorturl.at/7uYTz 📩 ผู้ได้รับการคัดเลือกจะได้รับอีเมลยืนยันภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568   สอบถามเพิ่มเติม: 📞 คุณพวงพร 02-564-6500 ต่อ 4784 ✉️ puangpp@mtec.or.th 📞 ดร.ปัญจลักษณ์ 02-564-6500 ต่อ 4257 ✉️ punchaluck.sir@mtec.or.th
ปฏิทินกิจกรรม
 
ผู้บริหาร สวทช. เข้าร่วมพิธีเปิดงาน “SynBio Forum 2025” รวมพลังไทย-นานาชาติ ขับเคลื่อนชีววิทยาสังเคราะห์สู่เศรษฐกิจอนาคต
(11 พ.ย. 68) ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท กรุงเทพฯ - Thailand SynBio Consortium รวมพลังเดินหน้าสู่ก้าวใหม่ของเศรษฐกิจชีวภาพ ในงาน “SynBio Forum 2025” เวทีสำคัญที่แสดงถึงความร่วมมือจากทั้งภาคนโยบาย สถาบันวิจัย เอกชน และเยาวชน เพื่อผลักดันชีววิทยาสังเคราะห์ให้เป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคต ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และความยั่งยืนของประเทศ พิธีเปิดงาน SynBio Forum 2025 ได้รับเกียรติจาก นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในการกล่าวแสดงความยินดีต่อการลงนามความร่วมมือของภาคีเครือข่าย Thailand SynBio Consortium อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นกลไกเชื่อมโยงมหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย ภาครัฐ และภาคเอกชน ภายใต้วิสัยทัศน์ “ชีววิทยาสังเคราะห์สร้างโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG)” โดยย้ำถึง 3 นโยบายสำคัญของกระทรวง อว. คือ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม การพัฒนากำลังคนคุณภาพสูง และการเติบโตสีเขียว ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนา SynBio ของไทย โอกาสนี้ ในช่วงพิธีเปิด ผู้บริหารจาก สวทช. ได้แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. เชาวรีย์ อรรถลังรอง ผู้อำนวยการไบโอเทค และ ดร.กอบกุล เหล่าเท้ง รองผู้อำนวยการด้านวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพเพื่ออุตสาหกรรม เข้าร่วมในพิธีเปิดงานนี้ด้วย ทั้งนี้ ภายในงาน SynBio Forum 2025 มีการจัดเวทีเสวนาและกิจกรรมสำคัญตลอดทั้งวัน เพื่อเชื่อมโยงงานวิจัย นโยบาย และอุตสาหกรรมด้านชีววิทยาสังเคราะห์ของไทยกับความร่วมมือระดับโลก โดยมี Session พิเศษที่จัดร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในการนำเสนอธุรกิจและเทคโนโลยีด้านชีววิทยาสังเคราะห์จากนานาประเทศ เพื่อแสดงถึงศักยภาพของธุรกิจนวัตกรรม (Innovation Driven Enterprise) ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงการวิจัยสู่ภาคอุตสาหกรรมและสร้างโอกาสความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างนักลงทุนไทยกับพันธมิตรต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอผลงานจาก บูทเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) จาก สวทช. เพื่อแสดงศักยภาพของนวัตกรรมชีวภาพไทยบริเวณงานด้วย งาน SynBio Forum 2025 เป็นการรวมพลังของภาครัฐ เอกชน และสถาบันวิชาการ พร้อมด้วยพันธมิตรจากหลายประเทศ เพื่อยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมชีววิทยาสังเคราะห์แห่งภูมิภาคอาเซียน
ข่าว
 
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
สวทช. ต้อนรับคณะ ก.พ.ร. หารือแนวทางการถือหุ้นหรือร่วมทุนในกิจการนิติบุคคลอื่น พร้อมเยี่ยมชมผลงานและห้องปฏิบัติการวิจัยชั้นนำ
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ดร.กัลยา อุดมวิทิต รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พร้อมด้วย ดร.มนัสชัย คุณาเศรษฐ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช., ดร.ปรีชา เกียรติกิระขจร (รักษาการ) ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. และ นายภาณุทัต ธรรมบุศย์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมนวัตกรรม ให้การต้อนรับ นางสาวจิตตา กิตติเสถียรนนท์ ที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ และคณะจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ในโอกาสร่วมหารือเกี่ยวกับแนวทางการถือหุ้นส่วน และการเข้าร่วมทุนในกิจการของนิติบุคคลอื่นของหน่วยงานองค์การมหาชน เพื่อนำประเด็นสำคัญต่าง ๆ ที่ได้จากการหารือใช้เป็นข้อมูล ในการนำไปทบทวนหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติที่เป็นประโยชน์ต่อไป  และเยี่ยมชมผลงานวิจัยและห้องปฏิบัติการของ สวทช. ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย โอกาสนี้ ดร.มนัสชัย คุณาเศรษฐ ได้บรรยายและนำเสนอองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับ Generative AI และ การประยุกต์ใช้ NSTDA ChatAI ในการทำงานของ สวทช. ภายหลังการบรรยาย คณะผู้เยี่ยมชมได้เข้าเยี่ยมชมหน่วยงานหลักของ สวทช. ได้แก่ FoodSERP ณ โรงงานต้นแบบชีวกระบวนการไบโอเทค (BIOTEC Bioprocessing Facility) ศูนย์ทรัพยากรคอมพิวเตอร์เพื่อการคำนวณขั้นสูง (NSTDA Supercomputer Center หรือ ThaiSC) ห้องปฏิบัติการกลุ่มวิจัยการห่อหุ้มระดับนาโนและระบบนำส่งทางชีวภาพ โดยมี ดร.ศิวพร วรรณวิไล หัวหน้าทีมวิจัยเทคโนโลยีชีวกระบวนการอุตสาหกรรม กลุ่มวิจัยส่วนผสมฟังก์ชั่นและนวัตกรรมอาหาร ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (BIOTEC), ดร.กริช นาสิงห์ขันธุ์ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัย ทีมพัฒนาธุรกิจด้านซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ThaiSC ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) และ ดร.ฐานิศร มหัตนิรันดร์กุล นักวิจัยโรงงานต้นแบบผลิตอนุภาคนาโนและเครื่องสำอาง กลุ่มวิจัยการห่อหุ้มระดับนาโนและระบบนำส่งทางชีวภาพ ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (NANOTEC) ร่วมให้การต้อนรับและให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับงานวิจัย เทคโนโลยี และศักยภาพของห้องปฏิบัติการในแต่ละด้านอย่างใกล้ชิด
ข่าว
 
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
สวทช. พัฒนา ‘Digital EMS’ ต้นแบบรถพยาบาลโครงสร้างแข็งแรง พร้อมระบบการแพทย์ฉุกเฉินดิจิทัล
  ปี 2566 คนไทยเรียกใช้รถพยาบาลฉุกเฉินมากกว่า 1.8 ล้านครั้ง และมีแนวโน้มใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันประเทศไทยยังมีโอกาสเผชิญกับสถานการณ์วิกฤตของโรคอุบัติใหม่และอุบัติซ้ำ สะท้อนถึงความจำเป็นในการยกระดับความปลอดภัยของรถพยาบาล และการอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล พัฒนาแพลตฟอร์มบริการการแพทย์ฉุกเฉิน หรือ ‘Digital EMS’ เพื่อยกระดับรถพยาบาลให้มีความแข็งแรง ช่วยผู้ป่วยฉับไว และรองรับโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ แพลตฟอร์มนี้ประกอบด้วย 3 เทคโนโลยีหลัก คือ การพัฒนาโครงสร้างรถที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย ระบบจัดการอากาศภายในรถ และระบบรับแจ้งเหตุฉุกเฉินดิจิทัล โดยเป็นการวิจัยและพัฒนาภายใต้การสนับสนุนทุนวิจัยจากสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และได้รับการสนับสนุนด้านการทดสอบมาตรฐานจากสถาบันยานยนต์ รถพยาบาลเสริมความแข็งแรงและปลอดภัย การปฏิบัติงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินโดยทั่วไป เจ้าหน้าที่มักขับรถด้วยความเร็วสูงเพื่อนำส่งผู้ป่วยวิกฤตให้ถึงโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด ทำให้บางครั้งเกิดอุบัติเหตุ สร้างความเสียหายรุนแรงต่อทั้งตัวรถ อุปกรณ์ภายในรถ รวมถึงผู้โดยสาร [caption id="attachment_76823" align="aligncenter" width="450"] ดร.ศราวุธ เลิศพลังสันติ รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช.[/caption] ดร.ศราวุธ เลิศพลังสันติ รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. กล่าวว่า ที่ผ่านมากลุ่มวิจัยการออกแบบเชิงวิศวกรรมและการคำนวณ เอ็มเทค สวทช. ได้พัฒนากระบวนการออกแบบโครงสร้างรถพยาบาลเพื่อยกระดับความปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นภายใต้แพลตฟอร์ม Digital EMS คือ เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับความแข็งแรงของห้องโดยสาร 2 เทคโนโลยี ประกอบด้วยเทคโนโลยีโครงสร้างรถและชุดยึดอุปกรณ์การแพทย์สำหรับใช้งานกับรถพยาบาลทั้งประเภทรถตู้และรถกระบะ และเทคโนโลยีระบบจัดการอากาศภายในรถพยาบาลที่ประยุกต์ใช้ได้กับรถพยาบาลทุกประเภท “ในส่วนของเทคโนโลยีโครงสร้างรถและชุดยึดอุปกรณ์การแพทย์ ทีมวิจัยได้พัฒนาชุดอุปกรณ์โครงสร้างน้ำหนักเบา โดยใช้หลักการประกอบแบบแยกส่วน เพื่อให้การประกอบ ติดตั้ง และซ่อมบำรุงทำได้ง่ายโครงสร้างภายนอกของห้องโดยสารผ่านการทดสอบความแข็งแรงตามมาตรฐาน SAE J3057 โดยรองรับแรงกระทำได้ 2.5 เท่าของน้ำหนักรถ ขณะที่ชุดยึดอุปกรณ์การแพทย์ภายในห้องโดยสารผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน EN 1789 สามารถรองรับแรงกระทำได้ 10 เท่าของน้ำหนักชุดยึดรวมกับอุปกรณ์ที่ติดตั้ง ทำให้มั่นใจได้ว่าทั้งโครงสร้างรถและชุดยึดอุปกรณ์มีความแข็งแรงและทนทานต่อแรงกระแทก” [caption id="attachment_76817" align="aligncenter" width="750"] ต้นแบบรถพยาบาลที่ผ่านการยกระดับเรื่องความปลอดภัย[/caption] [caption id="attachment_76819" align="aligncenter" width="750"] การทดสอบความแข็งแรงของโครงสร้างรถและอุปกรณ์ยึดติด[/caption] สำหรับเทคโนโลยีระบบจัดการอากาศภายในรถ ทีมวิจัยได้พัฒนาระบบปรับอากาศให้มีการไหลเวียนและกรองเชื้อโรคภายในห้องโดยสารตามมาตรฐานห้องปลอดเชื้อ ISO 14644 อย่างไรก็ตามในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ เช่น วัณโรค ปอดอักเสบ ไข้หวัดใหญ่ โควิด-19 ยังมีคำแนะนำให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยเพื่อเสริมความปลอดภัย ปัจจุบันทั้งสองเทคโนโลยีอยู่ในสถานะพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยี Digital EMS ยกระดับความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน นอกจากเทคโนโลยียกระดับความปลอดภัยการใช้งานรถพยาบาลทั้งด้านโครงสร้างและระบบจัดการอากาศแล้ว ภายใต้แพลตฟอร์ม Digital EMS ยังมีอีกหนึ่งเทคโนโลยีสำคัญ คือ Emergency Telemedical Operation (ETO) หรือระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินดิจิทัล ที่พัฒนาโดย ดร.กิตติ วงศ์ถาวราวัฒน์ ผู้อำนวยการกลุ่มนวัตกรรมแพลตฟอร์มดิจิทัลสุขภาพการแพทย์ สวทช. และทีมวิจัย ดร.ศราวุธ อธิบายว่า ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินดิจิทัลที่นำมาใช้ในแพลตฟอร์มประกอบด้วย 2 เทคโนโลยีหลัก คือ ระบบรับแจ้งฉุกเฉินดิจิทัลหรือ Call Information System (CIS) ที่พัฒนาโดย ดร.ณัฐนันท์ ทัดพิทักษ์กุล และทีมวิจัย และระบบอำนวยการทางการแพทย์ดิจิทัลหรือ Medical Information System (MIS) ที่พัฒนาโดย ดร.ปรารถนา กู้เกียรติกูล และทีมวิจัย “ระบบ CIS เป็นเทคโนโลยีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรับแจ้งเหตุผ่านหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน 1669 ของ สพฉ. โดยทีมวิจัยได้พัฒนาให้เป็นระบบรับแจ้งเหตุแบบครอบคลุมรูปแบบการสื่อสารที่จำเป็น เมื่อมีการแจ้งเหตุทางโทรศัพท์ผ่านเบอร์ 1669 ผู้แจ้งจะได้รับ SMS สำหรับยืนยันตัวตนและระบุพิกัดสถานที่เกิดเหตุ เพื่อให้หน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุได้รวดเร็วและแม่นยำ หากผู้แจ้งใช้งานสมาร์ตโฟนจะใช้ระบบนี้วิดีโอคอลกับผู้รับแจ้งเหตุ เพื่อให้ผู้รับแจ้งเหตุประเมินสถานการณ์ พร้อมให้คำแนะนำในการปฐมพยาบาลแบบเรียลไทม์ได้ด้วย” ส่วนระบบ MIS เป็นระบบอำนวยการทางการแพทย์ที่ทำหน้าที่ส่งข้อมูลของผู้ป่วยขณะเดินทางด้วยรถพยาบาลไปยังศูนย์อำนวยการแพทย์แบบเรียลไทม์ ดร.ศราวุธ อธิบายว่า ระบบนี้จะส่งข้อมูลที่จำเป็นต่อการรับช่วงต่อในการดูแลผู้ป่วยวิกฤตไปยังศูนย์อำนวยการแพทย์ เช่น ข้อมูลสัญญาณชีพของผู้ป่วย สัญญาณภาพและเสียงภายในห้องโดยสาร ทั้งนี้ก็เพื่อให้หน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินสามารถรับคำปรึกษาเรื่องการดูแล รวมถึงการทำหัตถการให้แก่ผู้ป่วยวิกฤตขณะเดินทางได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีระบบติดตามขั้นตอนการทำงานและตำแหน่งการรับส่งผู้ป่วยวิกฤตแบบเรียลไทม์ด้วย โดยระบบจะจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดในรูปแบบไฟล์ดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งต่อผู้ป่วยและการจัดทำเอกสารประกอบการเบิกจ่าย” [caption id="attachment_76822" align="aligncenter" width="750"] ภาพจำลองการแสดงผลของระบบ MIS[/caption] [caption id="attachment_76820" align="aligncenter" width="750"] ดร.ศราวุธ เลิศพลังสันติ และ ดร.ปรารถนา กู้เกียรติกูล นักวิจัย สวทช.[/caption] ที่ผ่านมากลุ่มนวัตกรรมแพลตฟอร์มดิจิทัลสุขภาพการแพทย์ได้นำร่องทดสอบใช้งานเทคโนโลยี ETO ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลเรียบร้อยแล้ว และในอนาคตอันใกล้นี้จะมีการทดสอบทั้งระบบ Digital EMS ร่วมกับสถานพยาบาลในจังหวัดสุพรรณบุรีและหน่วยงานอื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างการประสานงาน ดร.ศราวุธ กล่าวสรุปทิ้งท้ายว่า ขณะนี้ต้นแบบรถพยาบาล Digital EMS อยู่ระหว่างการทดสอบใช้งานจริง ในขั้นตอนต่อไปจะดำเนินงานร่วมกับ สพฉ. จัดทำแนวทางมาตรฐานสำหรับรถพยาบาลที่ใช้งานในประเทศไทย โดยมีรายละเอียดครอบคลุมทั้งความแข็งแรงของโครงสร้างรถ ระบบจัดการอากาศภายในห้องโดยสาร และระบบดิจิทัลสำหรับรับแจ้งเหตุและอำนวยการทางการแพทย์ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์ทำงานได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจเทคโนโลยี Digital EMS สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ โทรศัพท์ 0 2564 6500 และ info@mtec.or.th เรียบเรียงโดย ภัทรา สัปปินันทน์ ฝ่ายสร้างสรรค์สื่อและผลิตภัณฑ์ สวทช. อาร์ตเวิร์กโดย ภัทรา สัปปินันทน์ ภาพประกอบโดย เอ็มเทค สวทช.
ข่าว
 
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
บทความ
 
ผลงานวิจัยเด่น
 
“ภาพยนตร์วิทยาศาสตร์” ภายใต้หัวข้อ Green Jobs ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร จัดเต็มความรู้และความสนุก ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
“ภาพยนตร์วิทยาศาสตร์” ภายใต้หัวข้อ Green Jobs ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร จัดเต็มความรู้และความสนุก ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับสถาบันเกอเธ่ ประเทศไทย จัดกิจกรรม “ภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ (Science Film Festival) ประจำปี 2568” ภายใต้หัวข้อ Green Jobsระหว่างวันที่ 24–28 พฤศจิกายน 2568 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร สวทช. จังหวัดปทุมธานี ภายในงานมีกิจกรรมหลากหลาย ได้แก่🎬 การฉายภาพยนตร์วิทยาศาสตร์จากนานาชาติ ที่จะเปิดโลกทัศน์และสร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม🧪 ฐานกิจกรรม STEAM สุดสนุก ที่ผสมผสานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม ศิลปะ และคณิตศาสตร์🎁 ร่วมลุ้นของรางวัล ของที่ระลึก และรับขนมเครื่องดื่มฟรีตลอดงาน พิเศษ! โปรแกรมฉายภาพยนตร์สำหรับบุคลากร สวทช. ระหว่างวันที่ 24–28 พฤศจิกายน 2568เช่น “สำรวจโลก AI” (New Zealand) “แผนสุดท้าย – จากห้องทดลองสู่การรอดชีวิต” (UK) “อนุรักษ์สัตว์ป่าด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ” (Germany) “ขุมทรัพย์สีเขียวแห่งมหานคร” (UK) “วัสดุสุดล้ำ! ลุยทั้งไฟและน้ำหวาน” (UK) กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนและประชาชนทั่วไป เข้าใจบทบาทของ “งานสีเขียว” (Green Jobs) ที่ใช้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ปฏิทินกิจกรรม
 
สวทช. เข้าร่วมการประชุม ASEAN COSTI ครั้งที่ 88 ร่วมขับเคลื่อน “อาเซียนขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม” ภายใต้กรอบแผน APASTI ฉบับใหม่ (พ.ศ. 2569–2578)
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการอาเซียนว่าด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ครั้งที่ 88 (ASEAN Committee on Science, Technology and Innovation: ASEAN COSTI-88) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20–22 ตุลาคม 2568 ณ โรงแรมจูบิลี่ เพรสทีจ รัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร โดยมี ดร.วรวรงค์ รักเรืองเดช รองผู้อำนวยการ สวทช. เข้าร่วมพิธีเปิดในฐานะผู้แทนหน่วยงาน เวทีสำคัญผลักดันความร่วมมือ วทน. อาเซียน การประชุม ASEAN COSTI ถือเป็นเวทีสำคัญในการกำหนดทิศทางและติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานด้าน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) ของภูมิภาคอาเซียน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภูมิภาค ผ่านโครงการความร่วมมือด้าน วทน. ระหว่างประเทศสมาชิก ความเชื่อมโยงกับประเทศคู่เจรจา และภาคีที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการสนับสนุนการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์และสังคมจากผลงานวิจัยและนวัตกรรม ขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ “Innovative ASEAN” ด้วยกรอบแผน APASTI 2026–2035 การประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นการสนับสนุนการดำเนินงานตาม กรอบแผนปฏิบัติการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งอาเซียน ฉบับใหม่ (APASTI 2026–2035) ภายใต้วิสัยทัศน์ “อาเซียนขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม” (Innovative ASEAN) โดยเน้นความร่วมมือด้าน งานวิจัยและนวัตกรรม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การเคลื่อนย้ายผู้เชี่ยวชาญ การสร้างโครงสร้างพื้นฐานและมาตรฐานร่วมของภูมิภาค ตลอดจน การส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชนในระบบนิเวศวิจัยและนวัตกรรม สวทช. และศูนย์วิจัยแห่งชาติร่วมประชุมอนุกรรมการเฉพาะด้าน ระหว่างวันที่ 20–21 ตุลาคม 2568 ผู้บริหารจากศูนย์วิจัยแห่งชาติ ได้แก่ NECTEC – ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ BIOTEC – ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ MTEC – ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ NANOTEC – ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ ENTEC – ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ ได้เข้าร่วมการประชุม อนุกรรมการเฉพาะด้าน (Subcommittee) ในฐานะผู้แทนประเทศไทย ครอบคลุมสาขา เทคโนโลยีชีวภาพ อิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ พลังงาน วัสดุศาสตร์ และโครงสร้างพื้นฐานด้านการวิจัยและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยมีเป้าหมายเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เสริมสร้างความร่วมมือในรูปแบบโครงการร่วม และผลักดันเครือข่ายความร่วมมือระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน สวทช. พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานตาม APASTI ฉบับใหม่ สวทช. ยืนยันความพร้อมในการสนับสนุนการดำเนินงานตามกรอบแผน APASTI 2026–2035 ผ่านบทบาทในการ ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการประสานความร่วมมือเชิงระบบ ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา เพื่อให้ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศและภูมิภาคอาเซียนอย่างยั่งยืน
ข่าว
 
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
สัมมนา “Smart Agriculture For Future: พลิกโฉมสู่เกษตร 4.0 สร้างผลผลิตพรีเมียม ขยายโอกาส ธุรกิจแบบยั่งยืน”
ITAP และไบโอเทค สวทช. ขอเชิญร่วมสัมมนา “Smart Agriculture For Future: พลิกโฉมสู่เกษตร 4.0 สร้างผลผลิตพรีเมียม ขยายโอกาสธุรกิจแบบยั่งยืน” 📅 วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน 2568 ⏰ เวลา 09.00 – 15.00 น. 📍 ณ ห้องประชุม SD-601 อาคารสราญวิทย์ (ตึก 12) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ปลดล็อคธุรกิจการเกษตร สู่ยุค “เกษตร 4.0” เตรียมพบกับสัมมนาที่จะ พลิกโฉมภาคการเกษตรไทย ให้ก้าวสู่ความยั่งยืนและแข่งขันได้ในระดับโลก ด้วยแนวทาง Smart Agriculture ที่ผสาน เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) เข้ากับ เงินทุนสนับสนุนจากภาครัฐ เพื่อสร้างผลผลิตที่มีคุณภาพสูงในต้นทุนที่ต่ำลง เนื้อหาสำคัญภายในงาน การบรรยายแนวทางการปรับตัวสู่ เกษตรสมัยใหม่ การเชื่อมโยง เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ กับ โอกาสทางการเงิน แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญ เปิดรับคำปรึกษาเบื้องต้นจากผู้เชี่ยวชาญ แบบ One on One เหมาะสำหรับ ผู้ประกอบการ เกษตรปลอดภัย และ ธุรกิจเกษตรสมัยใหม่ ที่ต้องการยกระดับกระบวนการผลิตให้ทันสมัยและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ลงทะเบียนเข้าร่วมฟรี! รับจำนวนจำกัดเพียง 50 ท่านแรก ลงทะเบียนล่วงหน้าที่: https://forms.gle/h3UmxjWviA3fmhYD8  
ปฏิทินกิจกรรม
 
ENTEC-NECTEC สวทช. ผนึกพันธมิตรจัดประชุม PVSEC-36 สร้างไทยเป็นฮับพลังงานสะอาดอาเซียน
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 ณ อาคารเฉลิมราชกุมารี 60 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพฯ ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) และศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสมาคมอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ไทย จัดการประชุมวิชาการนานาชาติด้านพลังงานแสงอาทิตย์ (The 36th International Photovoltaic Science and Engineering Conference, PVSEC-36) ระหว่างวันที่ 9–14 พฤศจิกายน 2568 เพื่อเป็นเวทีระดับนานาชาติที่รวบรวมนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร นักวิจัย ภาคอุตสาหกรรม และผู้กำหนดนโยบายจากทั่วโลกมาแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิด และนวัตกรรมด้านพลังงานแสงอาทิตย์และเทคโนโลยีโฟโตโวลตาอิก (Photovoltaic Technology) มีเป้าหมายหลักคือการส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการและอุตสาหกรรมในระดับนานาชาติ เผยแพร่ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านเซลล์แสงอาทิตย์ ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาแนวทางพลังงานสะอาดและยั่งยืนเพื่ออนาคตของโลก อีกทั้งยังมีเป้าหมายในการสร้างความตระหนักรู้ถึงบทบาทของพลังงานแสงอาทิตย์ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของมนุษยชาติ โดยภายในงานประกอบด้วยการบรรยายพิเศษ การนำเสนอผลงานวิชาการกว่า 470 ผลงาน การจัดนิทรรศการ และกิจกรรมสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดในระดับโลก วันเปิดงานได้จัดกิจกรรม “Tutorial Workshop on Photovoltaics” เพื่อเป็นเวทีปูพื้นฐานความรู้ด้านเซลล์แสงอาทิตย์ (Photovoltaic: PV) สำหรับนักวิจัย นักศึกษา และผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร.ดุสิต เครืองาม นายกสมาคมอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ไทย (TPVA) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานและเป็นบุคคลสำคัญในวงการพลังงานแสงอาทิตย์ของไทย กล่าวเปิดการประชุม การบรรยายได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก อาทิ Prof. Dr.Arno Smets จาก Delft University of Technology ประเทศเนเธอร์แลนด์, Prof. Dr.Masafumi Yamaguchi จาก Toyota Technological Institute ประเทศญี่ปุ่น, Prof. Dr.Yoshihiro Hishikawa จาก Ritsumeikan University ประเทศญี่ปุ่น และ Dr. Ulrike Jahn จาก Fraunhofer Center for Silicon Photovoltaics ประเทศเยอรมนี ร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ตั้งแต่หลักฟิสิกส์และวิศวกรรมของการแปลงพลังงานแสงเป็นไฟฟ้า สถานะและทิศทางอนาคตของเทคโนโลยี PV การทดสอบและประเมินสมรรถนะของโมดูล ไปจนถึงแนวทางการประยุกต์ใช้จริงในภาคอุตสาหกรรม สวทช. มีบทบาทสำคัญในการจัดงานครั้งนี้ โดย ENTEC มีนักวิจัยเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการจัดงานในหลายตำแหน่ง เช่น ดร.อมรรัตน์ ลิ้มมณี หัวหน้าทีมวิจัยเทคโนโลยีเซลล์แสงอาทิตย์ กลุ่มวิจัยนวัตกรรมพลังงาน ดำรงตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการจัดงาน (Co-Chair) และประธานคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ (Chair of Public Relations Subcommittee) และมีนักวิจัยร่วมเป็นคณะอนุกรรมการด้านวิชาการ การประชาสัมพันธ์ และการจัดนิทรรศการ ซึ่งสะท้อนบทบาทในการขับเคลื่อนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาด การประเมินสมรรถนะและความยั่งยืนของระบบโซลาร์เซลล์ในเขตร้อน ขณะที่ NECTEC มีนักวิจัยร่วมเป็นคณะกรรมการจัดงานหลักและคณะอนุกรรมการด้านวิชาการและโปสเตอร์ นำโดย ดร.กอบศักดิ์ ศรีประภา นักวิจัยอาวุโส กลุ่มวิจัยอุปกรณ์สเปกโทรสโกปีและเซนเซอร์และคณะ ช่วยดูแลด้านเทคนิค มาตรฐาน และระบบการนำเสนอผลงานวิจัย ตอกย้ำบทบาทในการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีด้านอิเล็กทรอนิกส์และระบบตรวจสอบมาตรฐานพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศ การมีส่วนร่วมของ สวทช. ในการ จัดงานครั้งนี้สะท้อนบทบาทสำคัญของประเทศไทยในการขับเคลื่อนองค์ความรู้ด้านพลังงานแสงอาทิตย์ในระดับนานาชาติ ทั้งในด้านการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยี และมาตรฐานระบบพลังงานสะอาด การประชุมครั้งนี้ไม่เพียงช่วยยกระดับศักยภาพนักวิจัยไทยให้ทัดเทียมระดับสากล แต่ยังสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกให้ประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางความรู้ด้านพลังงานสะอาดของภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของการขับเคลื่อนประเทศสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ตามเป้าหมาย Net Zero ภายในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) ของรัฐบาลไทย  
ข่าว
 
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
กิจกรรม MU-NSTDA Knowledge Sharing ประจำปี 2569 ครั้งที่ 1
🎉ขอเรียนเชิญเข้าร่วมกิจกรรม MU-NSTDA Knowledge Sharing ประจำปี 2569 ครั้งที่ 1 ระหว่าง มหาวิทยาลัยมหิดล กับ สวทช. 🚨หัวข้อ “บัญชีนวัตกรรมไทย: ส่งเสริมงานวิจัย สู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์” วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13.00 – 14.30 น. 💻ออนไลน์ Zoom meeting พบกับกิจกรรมบรรยาย การขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทย ดังนี้ บัญชีนวัตกรรมไทยคืออะไร ผลงานที่สามารถขอขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย หลักเกณฑ์และขั้นตอนการขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย แนวทางการเขียนขอขึ้นทะเบียน และระบบการขึ้นทะเบียน ตัวอย่างการใช้ประโยชน์บัญชีนวัตกรรมไทย จากงานวิจัย สู่การสร้างผลกระทบเชิงพาณิชย์ กลุ่มเป้าหมาย/ผู้เข้าร่วมประชุม บุคลากรจากมหาวิทยาลัยมหิดล บุคลากร สวทช. เครือข่ายพันธมิตรของ สวทช. รวมทั้งผู้ที่สนใจทั่วไป ที่ประสงค์ขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย เพื่อโอกาสต่อยอดผลงานวิจัยสู่ตลาดจริง ลงทะเบียนเข้าร่วมฟรี (ไม่มีค่าใช้จ่าย) ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ผ่าน URL หรือ Scan QR Code ด้านล่างนี้  https://forms.gle/swzmURKf2gfWNGQX9
ปฏิทินกิจกรรม
 
“อุทยานวิทยาศาสตร์เอเชีย” รวมพลังขับเคลื่อนโลกธุรกิจด้วย ESG สู่ความยั่งยืน🌱
ไทยตอกย้ำศักยภาพการเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมเอเชีย 🇹🇭 สวทช. โดยอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ร่วมกับอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคจากทั่วประเทศ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปี "สมาคมอุทยานวิทยาศาสตร์แห่งเอเชีย ครั้งที่ 28” หรือ ASPA Annual Conference 2025 เวทีความร่วมมือระดับนานาชาติด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ภายใต้ธีม “The Role of Science and Technology Parks in Facilitating Corporates on the ESG Journey” เป็นการผนึกกำลังของอุทยานวิทยาศาสตร์จากประเทศต่าง ๆ ทั่วเอเชีย ในการขับเคลื่อนภาคธุรกิจด้วยแนวทางของ ESG ที่คำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน 🌱
คลิปสั้นทันเหตุการณ์
 
โครงการ NSTDA Micro-Mouse Contest 2026 เวทีสร้างขุมพลังคนรุ่นใหม่ สู่การพัฒนานวัตกรรมเพื่ออนาคตของประเทศ
📣 ประกาศกำหนดการอย่างเป็นทางการ โครงการ NSTDA Micro-Mouse Contest 2026 เวทีสร้างขุมพลังคนรุ่นใหม่ สู่การพัฒนานวัตกรรมเพื่ออนาคตของประเทศ โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) 📌รายละเอียดโครงการ NSTDA Micro-Mouse Contest 2026 คือเวทีการแข่งขัน หุ่นยนต์ Micromouse สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษา เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของเยาวชนไทย และต่อยอดสู่การพัฒนาทักษะด้านวิศวกรรมและการเขียนโปรแกรมอย่างสร้างสรรค์ 📅 เปิดรับสมัคร ระหว่าง 8 ธันวาคม 2568 – 9 มกราคม 2569 พร้อมกิจกรรมอบรมและการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในเดือน กุมภาพันธ์ 2569 🎓 เตรียมความพร้อมก่อนสมัคร กับ Micromouse Mini Course คอร์สออนไลน์สำหรับเยาวชน เริ่มเผยแพร่ พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป 📍 รับชมได้ที่: NSTDA Official YouTube 🔗 ติดตามความเคลื่อนไหวโครงการได้ที่: Website NSTDA Micro Mouse Facebook: NSTDA Micromouse Contest 📧 สอบถามเพิ่มเติม: NMMC@nstda.or.th
ปฏิทินกิจกรรม