ผลการค้นหา :

CRDF Global ร่วมกับ IJC-FOODSEC โดย สวทช. มธ. และ QUB จัดประชุมระดับภูมิภาคว่าด้วยความปลอดภัยด้านอาหารและผลผลิตทางการเกษตร ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมหาสมุทรแปซิฟิก
วันที่ 9 - 11 กรกฎาคม 2567 ณ โรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ - องค์กร Civilian Research and Development Foundation Global (CRDF Global) หน่วยงานภายใต้กำกับของสหรัฐอเมริกา ร่วมกับศูนย์วิจัยนานาชาติด้านความมั่นคงทางอาหาร (International Joint Research Center on Food Security: IJC-FOODSEC) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง สวทช. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ Queen’s University Belfast (QUB) ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการระดับภูมิภาคว่าด้วยความปลอดภัยด้านอาหารและผลผลิตทางการเกษตรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมหาสมุทรแปซิฟิก (Regional Workshop on Food Safety and Agricultural Productivity in Southeast Asia and the Pacific) การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สองในชุดการประชุมทั้งหมด 3 ครั้ง โดยมุ่งเน้นที่ความท้าทายและโอกาสในการพัฒนาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทับซ้อน (Overlapping areas) ระหว่างความมั่นคงด้านอาหารและเทคโนโลยีนิวเคลียร์ กิจกรรมหลัก ได้แก่ การอภิปรายที่เกี่ยวกับ Sustained Dialogue on Peaceful Uses (SDPU) Initiative หรือกรอบการเจรจาที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีนิวเคลียร์อย่างสันติ ว่าจะสามารถช่วยส่งเสริมโครงการที่ดำเนินอยู่และโครงการใหม่ในการเพิ่มการเข้าถึงเทคโนโลยีการฉายรังสีและนวัตกรรมนิวเคลียร์เพื่อความมั่นคงด้านอาหารได้อย่างไร โดยมีผู้แทนหน่วยงานจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และไทย ประกอบด้วย นางเพ็ญนภา กัญชนะ รองเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ผศ.ดร.เชาวรีย์ อรรถลังรอง ผู้อำนวยการไบโอเทค สวทช. รศ.ดร.วุฒิพล สินธุนาวารัตน์ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและพัฒนา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ Dr. Meera Chandra, Agricultural Attaché, U.S. Department of Agriculture at the U.S. Embassy Bangkok และ Ms. Holly Haines, Head of IAEA Policy & Peaceful Uses, UK Department for Energy Security and Net Zero ร่วมกล่าวเปิดงาน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมอบรมจาก 21 ประเทศ 75 องค์กร รวมกว่า 150 คน
ผศ.ดร.เชาวรีย์ อรรถลังรอง ผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สวทช. กล่าวตอนหนึ่งในช่วงเปิดประชุมว่า เทคโนโลยีนิวเคลียร์มีศักยภาพที่สำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงทางอาหาร ประเทศไทยในฐานะประเทศเกษตรกรรมได้รับผลประโยชน์จากการบูรณาการเทคโนโลยีนิวเคลียร์เข้ากับระบบการผลิตอาหารโดยเฉพาะการปรับปรุงพันธุ์โดยการกลายพันธุ์ (Mutation breeding) สามารถนำมาใช้ในการพัฒนาพันธุ์พืชที่ทนต่อโรคและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากขึ้น สามารถเพิ่มผลผลิตสร้างความมั่นคงทางอาหาร ทำให้มั่นใจได้ถึงผลผลิตด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคนิคการจัดการดินและน้ำที่เหมาะสมผ่านการใช้วิธีการทางนิวเคลียร์ เกษตรกรไทยสามารถใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด อนุรักษ์น้ำ และเพิ่มผลผลิตพืชผล
เนื่องจากการวิจัยด้านความมั่นคงทางอาหารมีความสำคัญอย่างยิ่ง ไบโอเทค สวทช. จึงได้มีส่วนร่วมจัดตั้งหน่วยงานระดับนานาชาติขึ้นคือ ศูนย์วิจัยนานาชาติด้านความมั่นคงทางอาหาร (IJC-FOODSEC) ด้วยเชื่อว่าจะสามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพของเทคโนโลยีนิวเคลียร์มาใช้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพทางการเกษตรของประเทศไทย สร้างความยั่งยืน และยกระดับความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างมาก
ทั้งนี้ IJC-FOODSEC มีส่วนร่วมสำคัญในการเป็นที่ปรึกษาเรื่องการจัดทำโปรแกรมการประชุมเชิงปฏิบัติการรวมถึงการเชิญผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงในสาขาที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมให้การบรรยายและอภิปราย หัวข้อการประชุมครอบคลุมเรื่องการปลอมแปลงอาหาร การนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนไปประยุกต์ใช้ การยืดอายุผลิตภัณฑ์ การเพิ่มประสิทธิภาพการชลประทาน และการออกแบบโครงการอย่างยั่งยืน เป็นต้น
สำหรับการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ มีการนำเสนอหัวข้อการบรรยายในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยด้านอาหารและผลผลิตทางการเกษตรใน 6 ประเด็น ได้แก่ ช่วงที่ 1: ความท้าทายด้านอาหารและชุดเครื่องมือนิวเคลียร์ (Food Challenges and the Nuclear Toolkit) ช่วงที่ 2: เรื่องการทำงานและความสำเร็จที่กำลังดำเนินอยู่ (Ongoing Work and Success Stories) ช่วงที่ 3: เครื่องมือสู่ความสำเร็จ-การใช้งานนิวเคลียร์ในภาคเกษตรกรรม (Tools for Success - Nuclear Applications in Agriculture) ช่วงที่ 4: แนวคิดโครงการโดยวิธีระดมสมองรูปแบบ World Cafe World Cafe - แนวทางในการออกแบบโครงการใหม่ (Project Ideation with a World Cafe - An Approach to Identifying New Projects) ช่วงที่ 5: เส้นทางสู่การสนับสนุนในรูปแบบต่างๆ (Pathways for Support) และช่วงที่ 6: การขับเคลื่อนโครงการและขั้นตอนถัดไป (Mobilizing Projects, Next Steps, and Closing)
การประชุมเชิงปฏิบัติการระดับภูมิภาคว่าด้วยความปลอดภัยด้านอาหารและผลผลิตทางการเกษตรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมหาสมุทรแปซิฟิกและ Sustained Dialogue on Peaceful Uses (SDPU) Initiative ได้รับสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงเกษตร สหรัฐอเมริกา และกรมความมั่นคงทางพลังงานและเน็ตซีโร่ สหราชอาณาจักร (UK Department for Energy Security and Net Zero (DENSZ)) โดยสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.sustaineddialogue.com
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์

อว. พร้อมใจบริจาคโลหิต เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
(12 ก.ค. 2567) ณ ห้องโถง ชั้น1 อาคารพระจอมเกล้า : กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดกิจกรรมบริจาคโลหิต "ทุกยูนิต รวมใจ ชาว อว. พร้อมใจบริจาคโลหิต" ครั้งที่ 2 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 นำโดย นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวง อว. พร้อมด้วย นางสาวสุณีย์ เลิศเพียรธรรม หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง อว. ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และข้าราชการพนักงาน อว. นักเรียน นักศึกษาร่วมกิจกรรม
นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวง อว. กล่าวว่า การจัดโครงการจิตอาสาทำความดี “ทุกยูนิต รวมหัวใจ ชาว อว. พร้อมใจบริจาคโลหิต ประจำปี 2567” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 นับเป็นปีมหามงคลที่ปวงชนชาวไทยทุกคนจะได้พร้อมใจกันแสดง ความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ อว. ได้จัดโครงการและกิจกรรมเนื่องในวาระมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 6 รอบ 72 พรรษา โดยน้อมนำแนวพระราชดำริและพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการจัดทำโครงการต่าง ๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทย ให้อยู่ดีมีสุขทั่วกัน ซึ่งโครงการบริจาคโลหิต จะสนับสนุนแก้ไขปัญหาโลหิตสำรองของสภากาชาดไทยและเป็นการ สร้างจิตสำนึกของการทำความดีด้วยหัวใจด้วยการเป็นผู้ให้และเป็นผู้มีจิตสาธารณะ ช่วยเหลือสังคม
ทั้งนี้ ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และงานธนาคารโลหิตเคลื่อนที่ โรงพยาบาลราชวิถีที่ได้ร่วมกันจัดโครงการที่ได้สร้างคุณค่าและเสริมสร้างสังคมแห่งการให้ ในวาระมหามงคลนี้ กระทรวง อว. ขอเชิญชวนข้าราชการ เจ้าหน้าที่ อว. นักศึกษา และประชาชนทุกท่านร่วมกิจกรรม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและสืบสานพระราชปณิธานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งขอบคุณทุกท่านที่บริจาคโลหิต เพื่อช่วยต่อชีวิตผู้ป่วยและผู้ต้องการใช้โลหิตในครั้งนี้
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์

กิจกรรมเปิดบ้านศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (TSP-CC Open House)
ศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย บริหารงานโดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
.
ขอเรียนเชิญผู้ประกอบการทุกท่าน เข้าร่วมกิจกรรมเปิดบ้านศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (TSP-CC Open House) เพื่อให้ทุกท่านได้เห็นถึงความพร้อมในการรองรับการจัดงานในรูปแบบต่างๆ ของอาคารศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ซึ่งเป็นศูนย์ประชุมฯ แห่งเดียว ที่ตั้งอยู่ในนิคมวิจัยสำหรับเอกชนและแวดล้อมด้วยนิคมอุตสาหกรรมใกล้กรุงเทพฯ ที่พร้อมให้บริการคุณ……อย่างครบวงจร
.
“Elevate your mix-and-match event at our Northern Bangkok venue, unlocking the power of the STI ecosystem.”
.
วันที่ 6 สิงหาคม 2567 เวลา 13.30 - 16.00 น.
ณ ห้องประชุม CC403 ชั้น 4 อาคารศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี
แผนที่เดินทาง https://www.nstda.or.th/tspcc/map/
.
ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน https://forms.gle/VMdVREC5Gf7s5VcFA
.
สอบถามข้อมูล 083-786-0738 , 02-564-7000 ต่อ 6012 (คุณอภิรดี)
E-Mail : smv@nstda.or.th
.
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม :
https://www.sciencepark.or.th/th/seminar-event/306/tsp-cc-open-house/
.
อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย คือ พันธมิตรธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และ นวัตกรรม
อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย
The Integrated Ecosystem where Innovation Grows
Faster Better Prosper
www.sciencepark.or.th
02-5647200
info@sciencepark.or.th
https://goo.gl/maps/GHtjhg1NoJWpAbN99
ไม่มีค่าใช้จ่ายในการติดต่อ
ข่าว
ปฏิทินกิจกรรม

CPF บูรณาการความร่วมมือ สวทช. ต่อยอดวิจัยที่มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงของโลกและสังคม พร้อมเยี่ยมชม LANTA Supercomputer และ Bioprocessing Facility
(11 กรกฎาคม 2567) นายพฤฒ โพธิ์ศรีทอง รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ และคณะผู้บริหาร CPF เข้าเยี่ยมชมศูนย์ทรัพยากรคอมพิวเตอร์เพื่อการคำนวณขั้นสูง (NSTDA Supercomputer Center: ThaiSC) และ “LANTA” Supercomputer และเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีชีวกระบวนการอุตสาหกรรม (Bioprocessing Facility) อาคาร BIOTEC Pilot Plant พร้อมร่วมประชุมหารือกับศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมด้วย ดร.ปิยวุฒิ ศรีชัยกุล รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) และผู้อำนวยการศูนย์ทรัพยากรคอมพิวเตอร์เพื่อการคำนวณขั้นสูง (ThaiSC) ดร.กอบกุล เหล่าเท้ง รองผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ณ อาคาร INC2 อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี
ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ กล่าวว่า สวทช. มีความตั้งใจนำวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีมาตอบโจทย์วิจัยเพื่อขยายผล มีการวางแนวของการทำงาน โดย สวทช. เป็นศูนย์วิจัยหลักของประเทศ ที่มีนักวิจัยมากที่สุดในประเทศครอบคลุมทุกด้าน ส่งเสริมให้นักวิจัยได้วิจัยเชิงลึกพร้อมผลักดันให้นักวิจัยทำงานตอบโจย์ได้จริง ที่สำคัญส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน มองว่า สวทช. เป็นประตูเชื่อมให้นักวิจัยตอบโจย์ได้จริงให้กับภาคอุตสาหกรรม เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือวิเคราะห์งานวิจัยให้สามารถตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมได้
นายพฤฒ โพธิ์ศรีทอง รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า CPF ก็มีความยินดีอย่างยิ่งในความร่วมมือที่ผ่านมากับ สวทช. ทั้งที่ทำอยู่และพัฒนาด้านความร่วมมือกันมากขึ้นเพื่อผลิตผลงาน ในฐานะตัวแทนของ CPF มีโอกาสได้อยู่ในกลุ่มคณะทำงานได้สานต่อความคืบหน้าในการทำงานร่วมกัน หาแนวทางรูปแบบที่ให้นักวิจัยมาร่วมงานมากขึ้นเพื่อให้การดำเนินงานส่วนของความร่วมมืออื่น ๆ โดยมีความสนใจทางด้าน AI มาใช้งาน เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่หน่วยงานทั้งหมดต้องปรับเปลี่ยนไปสู่โลกอนาคต ทำให้คนอยู่ร่วมกับเทคโนโลยีให้ได้
ทั้งนี้ สวทช. ได้ใช้โอกาสนี้ แนะนำเยี่ยมชมหน่วยงานวิจัย NECTEC และศูนย์ ThaiSC ซึ่งมีความพร้อมทั้ง นักวิจัยและบุคลากร มุ่งเน้นการให้บริการระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง (High Performance Computing: HPC) เพื่อการพัฒนางานวิจัยด้านวิทยาการคำนวณ (Computational Science) เช่น การทำแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ งานวิจัยด้าน Computational chemistry, Bioinfomatics, Climate change, Artificial Intelligence (AI), Big data เป็นต้น และมีศักยภาพสามารถรองรับโจทย์ปัญหาขนาดใหญ่ของประเทศได้
นอกจากนี้คณะได้เยี่ยมชม โรงงานต้นแบบชีวกระบวนการไบโอเทค (BIOTEC Bioprocessing Facility, BBF) โครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศในการวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม บริการผลิตในระดับขยายและขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ มุ่งเน้นการนำไปใช้ประโยชน์ หรือ Translational research โดยดำเนินงานตามมาตรฐานสากล รวมถึงแนวทางการปฏิบัติที่ดีในการใช้จุลินทรีย์ในระดับอุตสาหกรรม หรือ Good Industrial Large Scale Practice (GILSP) ในสภาพควบคุมระดับ LS1 เพื่อผลักดันการนำไปใช้จริงในอุตสาหกรรมฐานชีวภาพ ช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยและเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG อีกด้วย
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์

ประชุมกลุ่มย่อย (Focus group) ครั้งที่ 2 Bio-energy with Carbon Capture and Storage: BECCS ในประเทศไทย
📢 ขอเชิญเข้าร่วมประชุมกลุ่มย่อย (Focus group) ครั้งที่ 2 โครงการการพัฒนารูปแบบการประเมินเทคโนโลยีและการลงทุนที่เหมาะสม เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายสำหรับภาคอุตสาหกรรมใช้ประกอบการตัดสินใจในการลงทุนเทคโนโลยีการผลิตพลังงานชีวภาพด้วยการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (Bio-energy with Carbon Capture and Storage: BECCS) ในประเทศไทย
📌 พบกับการบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา พร้อมรับฟังการนำเสนอผลการวิจัยล่าสุด
อย่าพลาดโอกาสสำคัญในการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้เชี่ยวชาญในวงการ! 🌱
🗓️ วันอังคารที่ 6 สิงหาคม 2567
⏰ เวลา 8.45-16.15 น.
💻 ในรูปแบบออนไลน์ (webinar)
✅ ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
✅ ลงทะเบียนออนไลน์ : https://www.nstda.or.th/r/3QkTy
ปฏิทินกิจกรรม

APEC Workshop on AI in Atmospheric Corrosion Assessment to Address Climate Change Impact
📌ขอเรียนเชิญผู้สนใจเข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการ
"APEC Workshop on AI in Atmospheric Corrosion Assessment to Address Climate Change Impact"
การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อโครงสร้างเหล็ก การเกิดพายุและภัยพิบัติที่รุนแรงขึ้นเป็นการเร่งกระบวนการการกัดกร่อนของโลหะในบรรยากาศ ซึ่งสัมพันธ์กับตัวแปรทางสภาพภูมิอากาศ ดังนั้นองค์ความรู้ด้านการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning model) ได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้สำหรับการทำนายอัตราการกัดกร่อน เพื่อประโยชน์ต่อการควบคุมการกัดกร่อนจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ
วัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าของงานวิจัยด้านการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการทำนายอัตราการกัดกร่อน โดยมีการนำเสนอหัวข้อที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การพัฒนาเซนเซอร์วัดการกัดกร่อน การเก็บข้อมูล ณ สถานีทดสอบ ไปจนถึงการสร้างโมเดลเพื่อเรียนรู้ชุดข้อมูล ผู้ร่วมประชุมสามารถริเริ่มงานด้านดังกล่าวและเป็นโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญจากประเทศสมาชิกเอเปคอีกด้วย
----------------------
📌กลุ่มเป้าหมาย
▪️ อุตสาหกรรมเหล็ก ก่อสร้าง ไฟฟ้า พลังงาน ระบบขนส่งทางราง ยานยนต์
▪️ นักวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์
▪️ นักนโยบายสิ่งแวดล้อม วิศวกรรมก่อสร้าง มาตรฐานการออกแบบโครงสร้างเหล็ก
PPSTI_201_2023A
Host economy: Thailand
Co-Sponsoring economies: Japan, Viet Nam, Philippines
----------------------
🗓 วันที่ 30 - 31 กรกฎาคม 2567 เวลา 9:00 - 16:00 น.
📍ห้องออดิทอเรียม บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (Onsite Only) ‼️
----------------------
📌ลงทะเบียนได้ที่ https://www.nstda.or.th/r/P2NcG
หรือสแกน QR code จากโปสเตอร์ด้านล่างนี้
.
‼️ภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2567
รับจำนวนจำกัด ‼️
----------------------
📌สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
Dr.Wanida Pongsaksawad
Email: wanida.pon@mtec.or.th
ปฏิทินกิจกรรม

สวทช. จัดสัมมนาด้านชีวภัณฑ์จัดการศัตรูพืช เชื่อมนักวิจัยไบโอเทคพบปะเกษตรกร มุ่งสู่การผลิตพืชแบบเกษตรปลอดภัย
(9 ก.ค. 67) ณ อาคารสราญวิทย์ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี - สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP) ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) และสถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) จัดสัมมนาเรื่อง “นวัตกรรมและเทคโนโลยีชีวภัณฑ์จัดการศัตรูพืช เพื่อธุรกิจเกษตรปลอดภัย” มุ่งให้ข้อมูลเรื่องการใช้ชีวภัณฑ์จัดการศัตรูพืช การใช้ผลิตภัณฑ์ชีวภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสมาชิกเกษตรกรในชุมชน การควบคุมแมลงศัตรูพืชดื้อยา รวมถึงการผลิตและใช้ชีวภัณฑ์อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนรับฟังมุมมองของผู้ผลิตโดยผู้แทนภาคเอกชนในเรื่องชีวภัณฑ์กำจัดแมลงศัตรูพืช แก่ผู้ประกอบการด้านเกษตรปลอดภัย บริษัทห้างร้าน สหกรณ์การเกษตร กลุ่มผู้ผลิตชีวภัณฑ์ และที่เกี่ยวข้องมากกว่า 300 คน ในรูปแบบออนไลน์และออนไซต์ โดยมีผู้อำนวยการโปรแกรม ITAP และนักวิจัยไบโอเทค ประกอบด้วย ดร.อลงกรณ์ อำนวยกาญจนสิน ทีมวิจัยเทคโนโลยีการควบคุมทางชีวภาพ ดร.บุญเฮียง พรมดอนกอย ทีมวิจัยเทคโนโลยีการควบคุมทางชีวภาพ และคุณสัมฤทธิ์ เกียววงษ์ โรงงานต้นแบบผลิตไวรัสเอ็นพีวีเพื่อควบคุมแมลงศัตรูพืช พร้อมด้วยผู้ประกอบการที่รับถ่ายทอดเทคโนโลยีชีวภัณฑ์กำจัดศัตรูพืชของไบโอเทค จากบริษัท บีไบโอ จำกัด บริษัท ทีเอบี อินโนเวชั่น จำกัด และบริษัท แอพพลายเค็ม (ประเทศไทย) จำกัด เข้าร่วมในงาน
ดร.นันทิยา วิริยบัณฑร ผู้อำนวยการโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP) สวทช. กล่าวว่า “ชีวภัณฑ์จัดการศัตรูพืช” นับเป็นปัจจัยการผลิตที่จำเป็นต่อระบบการผลิตพืชแบบเกษตรปลอดภัยแต่ยังใช้ในวงจำกัด อย่างไรก็ดี ไบโอเทคได้มีการวิจัยและพัฒนาชีวภัณฑ์มาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 10 ปี เพื่อมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากจุลินทรีย์ที่สามารถควบคุมการระบาดของแมลงศัตรูพืชหลายชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัยต่อเกษตรกรและผู้บริโภค เช่น ราแมลงต่าง ๆ แบคทีเรีย และไวรัส เอ็น พี วี (NPV) เป็นต้น ดังนั้น การเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีการควบคุมศัตรูพืชโดยชีววิธี (Biocontrol) จึงเป็นกลไกหนึ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนให้เกษตรกรไทยสามารถทำการเกษตรอินทรีย์ได้อย่างยั่งยืน มีปัจจัยการผลิตที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ช่วยยกระดับผลผลิตให้มีคุณภาพและปลอดภัย เป็นไปตามความต้องการของตลาด และสอดคล้องกับนโยบายขับเคลื่อนด้าน BCG ของประเทศ
“โปรแกรม ITAP สวทช. ดำเนินงานด้านสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการยกระดับเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเฉพาะ SMEs ที่ต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐ เพื่อให้มีความเข้มแข็ง มีศักยภาพในการเติบโต ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญให้กับประเทศไทยต่อไป โดย ITAP เห็นความสำคัญของการขยายผลการใช้ผลิตภัณฑ์ชีวภัณฑ์จัดการศัตรูพืช ที่เป็นผลงานของ สวทช. สู่ผู้ใช้และผู้ผลิตชีวภัณฑ์ อย่างถูกวิธีและเกิดประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ของธุรกิจเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัย มีความเข้มแข็ง และพัฒนาประเทศไทยไปสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำของภูมิภาคอาเซียนในการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ในอนาคต จึงร่วมมือกับทีมวิจัยเทคโนโลยีการควบคุมทางชีวภาพ ไบโอเทค และ สท. จัดสัมมนาครั้งนี้ขึ้น”
กิจกรรมภายใต้งานสัมมนา มีการแนะนำโครงการให้คำปรึกษา “การใช้นวัตกรรมชีวภัณฑ์กำจัดแมลงศัตรูพืช เพื่อธุรกิจเกษตรปลอดภัย” โดย คุณเสาวภา ยุววุฑโฒ โปรแกรม ITAP สวทช.
และการให้ความรู้ในเรื่องนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้าน Biocontrol โดยนักวิจัยไบโอเทค 3 ท่าน เรื่องแรก “นวัตกรรมชีวภัณฑ์จัดการศัตรูพืช เพื่อธุรกิจเกษตรปลอดภัย” โดย ดร.อลงกรณ์ อำนวยกาญจนสิน ทีมวิจัยเทคโนโลยีการควบคุมทางชีวภาพ
เรื่องถัดไปเป็น “สปอด-อี โฟกัส ผลิตภัณฑ์เอ็นพีวี ควบคุมแมลงศัตรูพืชดื้อยา” โดย คุณสัมฤทธิ์ เกียววงษ์ โรงงานต้นแบบผลิตไวรัสเอ็นพีวีเพื่อควบคุมแมลงศัตรูพืช
และเรื่องที่สาม “ปัจจัยสำคัญสำหรับการผลิตและการใช้ชีวภัณฑ์ควบคุมศัตรูพืชอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ” โดย ดร.บุญเฮียง พรมดอนกอย ทีมวิจัยเทคโนโลยีการควบคุมทางชีวภาพ
พร้อมด้วยการสะท้อนมุมมองของผู้ผลิตโดยผู้แทนภาคเอกชนจาก 3 บริษัท ในเรื่องชีวภัณฑ์กำจัดแมลงศัตรูพืช ประกอบด้วย คุณสกล เหนียนเฉลย กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีไบโอ จำกัด คุณปรภาว์ นิตย์โฆษกุล ผู้จัดการ บริษัท แอพพลายเค็ม (ประเทศไทย) จำกัด และคุณวัธนพล เจียรวุฑฒิ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ทีเอบี อินโนเวชั่น จำกัด ร่วมด้วยคุณสิริญาดา ธนังสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิชาการ บริษัท ทีเอบี อินโนเวชั่น จำกัด ก่อนจะปิดท้ายงานสัมมนาด้วยการเปิดเวทีให้เกษตรกรและผู้ร่วมงานได้พบปะนักวิจัย ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชีวภัณฑ์ และที่ปรึกษาโครงการจาก ITAP เพื่อประโยชน์ในการร่วมหารือ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความต้องการสำหรับธุรกิจเกษตรปลอดภัยได้อย่างสูงสุด
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์

เปิดรับโรงพยาบาล เพื่อจัดตั้งสถานพยาบาล ใน สวทช. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 – 2569
✨💡สิทธิพิเศษและบริการ ที่ สวทช. มอบให้ ดังนี้✨
🔑สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการ
🔑สนับสนุนพื้นที่การให้บริการและสาธารณูปโภคพื้นฐาน
🔑บริการด้านการรักษาความปลอดภัยและสุขอนามัยของพื้นที่
.
🗓ระยะเวลาสมัคร ตั้งแต่วันที่ 10 – 23 กรกฎาคม 2567 ในวันและเวลาราชการ
📍สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คุณปารดา หมอนสอาด
📧 E-mail : parada@nstda.or.th 025647000 ต่อ 71119
ปฏิทินกิจกรรม

เปิดรับสมัครผู้รับประกันชีวิตและสุขภาพของพนักงานและพนักงานโครงการ สวทช. ประจำปี 2568
✨💡โดยผู้ที่จะร่วมคัดเลือกต้องคุณสมบัติดังนี้ ✨
🔑เป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนจัดตั้งตามกฎหมายไทย ไม่ต่ำกว่า 5 ปี
🔑มีทุนจดทะเบียนที่ได้รับชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 10,000,000 บาท โดยมีสำนักงานอยู่ใประเทศไทยและประกอบการมีแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี ทั้งนี้ต้องมีวัตถุประสงค์ประกอบการเป็นธุรกิจประกันชีวิตและหรือประกันสุขภาพตรงกับความต้องการของบริษัทในการเข้าเสนอราคา หรือเป็นตัวแทนจำหน่ายซึ่งได้รับมอบอำนาจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
🔑มีประสบการณ์ให้บริการกับหน่วยงาน/องค์กร ที่มีจำนวนพนักงานไม่น้อยกว่า สวทช.
🔑มีทีมงานบริการแบบ One stop service ให้บริการ มี Hotline ที่พนักงานติดต่อได้
🔑มีความเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาเรื่องความคุ้มครองและเงื่อนไขกรมธรรม์ของบริษัทฯ ได้อย่างถูกต้อง
🔑สามารถให้บริการได้ครอบคลุมในเงื่อนไขทั้งหมดตามที่ระบุในแผนความคุ้มครองและเงื่อนไขความคุ้มครอง
🔑มีข้อกําหนดหรือนโยบายในการปกป้องข้อมูลของลูกค้า (แสดงข้อมูลอ้างอิง)
.
🗓ระยะเวลาสมัคร ตั้งแต่วันที่ 10 - 23 กรกฎาคม 2567 ในวันและเวลาราชการ
📍สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คุณพรรณธิภา ขยัน
📧 E-mail : phantipa@nstda.or.th 025647000 ต่อ 71116
ปฏิทินกิจกรรม

ปลดล็อคศักยภาพโรงงานของคุณด้วยพลังดิจิทัล กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตร เทคโนโลยีชีวภาพ ยา สมุนไพร เครื่องสำอาง ”
ธุรกิจด้านเกษตร เทคโนโลยีชีวภาพ ยา สมุนไพร และเครื่องสำอางที่จะก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ไม่ควรพลาดกับงาน ”ปลดล็อคศักยภาพโรงงานของคุณด้วยพลังดิจิทัล .... ลงทะเบียนฟรี...รับจำนวนจำกัด
อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. ขอเชิญผู้บริหาร เจ้าของกิจการ ผู้ประกอบการ ผู้จัดการโรงงาน วิศวกร ผู้เชี่ยวชาญ กลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตร เทคโนโลยีชีวภาพ ยา สมุนไพร เครื่องสำอาง ที่สนใจการปรับเปลี่ยนองค์กร หรือ มีบทบาทในการพัฒนาองค์กรสู่โรงงานอัจฉริยะ เพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ร่วมงานสัมมนาพิเศษ และ Clinic ให้คำปรึกษา
ปลดล็อคศักยภาพโรงงานของคุณด้วยพลังดิจิทัลกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตร เทคโนโลยีชีวภาพ ยา สมุนไพร เครื่องสำอาง
วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม 2567
เวลา 09.00 – 13.00 น.
Event Square ชั้น 2 อาคารศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (อาคาร 14) อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช.
กิจกรรมไม่มีค่าใช้จ่าย รับจำนวนจำกัด
สนใจลงทะเบียนร่วมงานได้ที่ https://forms.gle/w8Dm223wavXgy9Ww9
`Highlight`
*แนวทางการยกระดับความพร้อมของอุตสาหกรรมไทยสู่ Industry 4.0* โดย กลุ่มแพลตฟอร์มสนับสนุนอุตสาหกรรม 4.0 สวทช.
*เส้นทางสู่องค์กรที่ยั่งยืนด้วย Smart Factory* โดย บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด
*Fast track: สิทธิประโยชน์การลงทุนในอุตสาหกรรม 4.0 และอุตสาหกรรมสีเขียว* โดย บริษัท เอฟ ดี ไอ แอคเคาน์ติ้ง แอนด์ แอดไวซอรี่ จำกัด
*Core tech: การพัฒนาโรงงานอัจฉริยะ ด้วย AI IoT Automation and robotics* โดย กลุ่มวิจัยไอโอทีและระบบอัตโนมัติสำหรับงานอุตสาหกรรม NECTEC สวทช.
*รับมือความคุกคามทาง Cyber อย่างไรในโลกดิจิทัล* โดย บริษัท ที-เน็ต ไอที โซลูชัน จำกัด
*พิเศษ! สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมเท่านั้น*
Voucher รับคำปรึกษา สำหรับการประเมินความพร้อมสู่อุตสาหกรรม 4.0
สิทธิพิเศษ สำหรับ บริษัทที่ตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
Clinic ประเมินความพร้อมสู่อุตสาหกรรม 4.0
พบกับผลิตภัณฑ์และบริการด้าน Smart Factory Solution จาก สวทช. และบริษัทพันธมิตร
สอบถามเพิ่มเติม : ikd-kas@nstda.or.th
089 456 2440 (คุณวัชรี) , 086 373 4271 (คุณกานต์ธิดาพร)
ปฏิทินกิจกรรม

อว. แถลงความพร้อม อว.แฟร์2024 ยกระดับการเรียนรู้วิทย์ฯ นวัตกรรม ขับเคลื่อนไทยสู่อนาคต สวทช. ชวนอัปเดต 10 เทคโนโลยีที่น่าจับตามอง พบกัน 22-28 กรกฎาคมนี้ ณ ศูนย์ฯ สิริกิติ์
(10 กรกฎาคม 2567) ห้องอินฟินิตี้บอลรูม โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ: นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) เป็นประธานแถลงข่าว การจัดมหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์ อววน. เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน ด้วยพลังสหวิทยาการ (อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND) หรืองาน “อว.แฟร์ 2024 ซึ่งจะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 22 – 28 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในโอกาสนี้นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวงอว. ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) คณะผู้บริหารเจ้าหน้าที่หน่วยงานภายใต้กระทรวง อว. ร่วมแถลงข่าว โดยงาน อว.แฟร์2024 ถือเป็นการผนึกกำลังเครือข่ายพันธมิตร ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อยกระดับทักษะองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมแก่ประชาชนไทยให้มีมาตรฐานทัดเทียมนานาชาติ พร้อมแสดงศักยภาพของไทยในการพัฒนาเศรษฐกิจด้วยการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตลอดจนเป็นเวทีให้ผู้เข้าร่วมงานได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ พร้อมทั้งสร้างความร่วมมือในด้านต่าง ๆ บนพื้นที่กว่า 23,000 ตารางเมตร กับนิทรรศการ 6 โซนไฮไลต์ ซึ่งผู้สนใจสามารถเข้าร่วมได้ฟรีตลอดงาน
นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 5 ปีของการก่อตั้งกระทรวง อว. เพื่อใหเป็นกระทรวงแห่งปัญญา โอกาส และอนาคต กระทรวง อว. ได้สร้างผลงานไว้มากมาย ทั้งการพัฒนากำลังคนระดับอุดมศึกษา การพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรม เมื่อดิฉันได้เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. จึงได้ดำริให้มีการจัดงาน อว.แฟร์ ขึ้น เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศได้รับรู้ถึงผลงานของหน่วยงานในกระทรวง อว. ที่จะรวมพลังในการนำสหวิทยากรเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง สร้างโอกาส และสร้างอนาคตใหม่ให้กับประเทศ โดยการจัดงาน อว.แฟร์ ดิฉันได้กำหนดให้มีการจัดงาน 2 ส่วน คือ ส่วนภูมิภาค และส่วนกลาง โดยการจัดงานในส่วนภูมิภาคได้ดำเนินการจัดกิจกรรมเดินสาย Roadshow แสดงศักยภาพขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนใน 4 ภูมิภาค โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดที่จังหวัดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ภาคเหนือ จัดที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ภาคใต้จัดที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช และภาคกลาง/ภาคตะวันออก จัดที่มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี โดยผลตอบรับของการจัดงาน อว.แฟร์ ระดับภูมิภาค ที่ผ่านมา มีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมชมงานทั้ง Onsite และ Online ไม่น้อยกว่า 200,000 คน กระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ส่งผลต่อเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคเติบโตขึ้น และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท
สำหรับงาน “อว.แฟร์ ส่วนกลาง” งานมหกรรมที่รวมสหวิทยาการทั้งด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรม การศึกษาที่มีคุณภาพ ด้าน Soft power ที่มีอยู่ในมหาวิทยาลัย หน่วยงานวิจัยมากกว่า 170 หน่วยงาน ครอบคลุมทั่วประเทศ ผู้เข้าชมงานจะได้พบกับกิจกรรมดี ๆ และสาระความรู้ที่ไม่ควรพลาด อาทิ นิทรรศการ 6 โซน ได้แก่ INSPIRED BY SCIENCE, SCIENCE FOR LIFELONG LEARNING, STARTUP LAUNCHPAD, SCIENCE FOR EXPONENTIAL GROWTH, SCIENCE FOR ALL-WELL BEING และ SCIENCE FOR FUTURE THAILAND โดยมีไฮไลต์เป็น ‘หินดวงจันทร์จากยานอวกาศฉางเอ๋อ 5’ ที่นำมาจัดแสดงนอกประเทศเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เป็นสื่อสัมพันธไมตรีระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศไทย เครื่องเล่น VR สุดล้ำจากบริษัทผู้พัฒนาเกมออนไลน์รายใหญ่ของจีน การเฉลยข้อสอบ TCAS และการแนะแนวอาชีพในอนาคต บูธแสดงผลงานจากผู้ประกอบการและสตาร์ตอัป มากกว่า 300 บูธ ร่วมชม ช้อป ผลิตภัณฑ์ฐานงานวิจัยการันตีรางวัลจากหลายเวที ไม่ว่าจะเป็น อาหารนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (Functional Food) อาหารแห่งอนาคต (Future Food) เครื่องสำอาง และสินค้าที่พัฒนาจากวิทยาศาสตร์ งานวิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม และสินค้าด้าน Soft power โดยมีสินค้ามากกว่า 200 รายการ 20,000 กว่าชิ้น
นอกจากนี้ท่านจะได้พบกับการประกวดแข่งขันจากระดับภูมิภาคที่จะมาชิงชนะเลิศในระดับประเทศ ในงาน อว.แฟร์ เช่น e-sport แข่ง ROV Tournament ระดับประเทศ แข่งขัน Innovation Award 2024 และ MHESI Music Variety Award 2024 พร้อมกิจกรรมสาระความบันเทิงที่น่าสนใจมากมาย อาทิเช่น การบินโดรนแปรอักษรเทิดพระเกียรติ ขบวนพาเหรดมาสคอต ขบวนพาเหรดหุ่นยนต์ Live Commerce ขายสินค้าไทยโดยเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ทั้งในและต่างประเทศ มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง อาทิ ซาร่าห์ ซาโรลา (Sarah Salola) อีทีซี (ETC) เปเปอร์ เพลนส์ (Paper Planes) เดอะทอยส์ (THE TOYS) ซีซันไฟฟ์ (Season Five) ปาล์มมี่ (PALMY) ตู่ ภพธร (Two Popetorn) และพลาดไม่ได้สำหรับท่านที่มาร่วมงาน อว.แฟร์ มีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลประจำวัน ได้แก่ จักรยานยนต์ EV วันละ 2 คัน และรางวัลสูงสุดเป็นรถกระบะ EV จำนวน 1 คัน พร้อมของรางวัลอื่น ๆ อีกมากกว่า 17,000 ชิ้น
สำหรับท่านที่ต้องการมาหาความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ภายใน อว.แฟร์ จัดให้มีกิจกรรมการมอบรางวัล การประชุม บรรยาย เสวนา Workshop ในหัวข้อที่น่าสนใจมากมาย เช่น มอบรางวัล Prime Minister Award 2024, การสัมมนา Innovation for Growth and Sustainability, การเสวนา Unicorn Talk , StartupAsia Report OECD, Deep Tech Startup Ecosystem in Montgomery County, Maryland, USA (Judy Costello), Global Innovation Club , สัมมนา Science for Exponential Growth: Tech to BiZ Thailand Tech Show 2024 การเสวนา เรื่อง "Disruptive Trends : ESG, Network Technology Block Chain, Cyber Security", การประชุม Quantum Thrive: Thailand's Journey into the Quantum Era “การเดินทางของประเทศไทยสู่ยุคควอนตัม”, IDE VC for SMEs /Call proposal/ Success Story sharing, การเสวนา 5 ปี : อว. กับการปฏิรูป อววน. และทิศทางในอนาคต เนื่องในโอกาสครบรอบการสถาปนากระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, Climate Tech Workshop – UNSCAP,การจัดการศึกษาตลอดชีวิตและระบบคลังหน่วยกิตของสถาบันอุดมศึกษา, การเสวนาเรื่อง "อาหารสู่การสร้าง Soft Power เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารของไทย", การบรรยาย เรื่อง นโยบายสำคัญเร่งด่วน (Quick Win) ด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศไทย, Agri-Aqua Business Incubation of Philippines and Thailand Networking Workshop, การบรรยาย เรื่อง การประเมินคาร์บอนฟุต พริ้นท์สำหรับผลิตภัณฑ์ Carbon Footprint for Product (CFP), อบรม Empowerment Thailand by Synchrotron Technology และอื่น ๆ อีกมากมายกว่า 150 หัวข้อ
“กระทรวง อว. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงาน อว.แฟร์ ส่วนกลาง ในครั้งนี้ จะเป็นการจัดงานครั้งแรกที่ได้รวบรวมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศมาไว้ในที่เดียวกัน และหวังว่าการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมจะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและศักยภาพของหน่วยงานในกระทรวง อว. ในการสร้างความแข็งแกร่งของสหวิทยาการในทุกด้าน ที่นำไปสู่การพัฒนากำลังคนที่มีความสามารถและพร้อมที่จะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง ความท้าทายของโลกยุคใหม่ ทั้งหมดนี้จะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน และ อว. พร้อมที่จะสนับสนุนการเติบโตของประเทศในทุกมิติ ตลอดจนเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว” น.ส.ศุภมาสฯ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยระดับประเทศที่สร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศได้นำผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่พัฒนาจากสถาบันวิจัย มหาวิทยาลัย และภาคเอกชนอื่น ๆ ออกสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการจัดกิจกรรม Thailand Tech Show ในรูปแบบการจัดงานนำเสนอในรูปแบบตลาดเทคโนโลยี ผู้ซื้อพบผู้ขาย สนับสนุนธุรกิจเทคโนโลยี และ Tech Startup ภายใต้แนวคิด “วิทยาศาสตร์…เพื่อยกระดับขับเคลื่อนธุรกิจและอุตสาหกรรมสู่อนาคต (Science for Exponential Growth)” เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของธุรกิจเทคโนโลยีด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแบบครบวงจรและยั่งยืน ผ่านกิจกรรมรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ นิทรรศการ 1. National IP Marketplace โอกาสทางธุรกิจกับ ผลงานวิจัยพร้อมถ่ายทอดสู่เชิงพาณิชย์ มากกว่า 180 ผลงาน จาก 33 หน่วยงาน เพื่อตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม ช่วยเสริมขีดความสามารถการแข่งขันให้กับธุรกิจอย่างยั่งยืน 2. Open Service การบริการสนับสนุนภาคเอกชน ที่ผู้ประกอบการสามารถเข้ามาขอรับคำปรึกษาในการทำธุรกิจเทคโนโลยีที่ มีกลไกการสนับสนุนแบบครบวงจรจากหน่วยงานภาครัฐ และ สวทช. 3. ผลงานเด่นกลุ่มอุตสาหกรรมหลักของประเทศที่ได้รับการต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ จากทุน บพข. และ 4. การเจรจาธุรกิจ Business Matching และที่ถือเป็นไฮไลต์สำคัญของงาน Thailand Tech Show ที่น่าสนใจในวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 จัดขึ้นบริเวณเวทีกลาง โดย สวทช. คือ การบรรยายพิเศษ “10 เทคโนโลยีที่น่าจับตามอง (10 Technologies to Watch)” เทรนด์เทคโนโลยีในการทำธุรกิจ เพื่อที่จะปรับกลยุทธ์และวางแผนให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลง โดยศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. ที่จะมาคาดการณ์ 10 เทคโนโลยีที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและธุรกิจในอนาคต 5-10 ปีข้างหน้านี้ ซึ่งผู้ประกอบการในปัจจุบันจะต้องรู้และปรับตัวให้เท่าทันกับเทรนด์โลกแห่งเทคโนโลยี นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์ที่จะเป็นโอกาสทางธุรกิจกับการนำเสนอผลงานต่อนักลงทุนและนักอุตสาหกรรม คือ INVESTMENT PITCHING สำหรับ 8 ผลงานวิจัยที่มีความพร้อมถ่ายทอดผลงานให้กับผู้ประกอบการที่มองหาโอกาสและช่องทางในการทำธุรกิจเทคโนโลยี
ทั้งนี้กระทรวง อว. ขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจ ร่วมมาสัมผัสประสบการณ์จริงด้วยตัวเองในงาน อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND งานมหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์ อววน. เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน ด้วยพลังสหวิทยาการ โดยจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม 2567 โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงาน อว.แฟร์ ตั้งแต่เวลา 14.30- 16.00 น. ทั้งนี้ในวันที่ 22 กรกฎาคม จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมตั้งแต่เวลา 16.00 – 20.00 น. และในวันที่ 23 – 28 กรกฎาคม 2567 เปิดให้ประชาชนเข้าชมงานตั้งแต่เวลา 09.00 – 20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.mhesifair.com และเฟซบุ๊ก www.facebook.com/MHESIThailand
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์

สวทช. – SCB เปิดปฐมนิเทศนักเรียนทุนโครงการ JSTP ระยะยาว รุ่นที่ 26 และ JSTP-SCB รุ่นที่ 6 เวทีเฟ้น ‘นักเรียน’ สายวิทย์ฯ สู่วิชาชีพ ‘นักวิทยาศาสตร์’
(วันที่ 8-9 กรกฎาคม 2567) : ดร.สมบุญ สหสิทธิวัฒน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พร้อมด้วย คุณอารยา ภู่พานิช รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมพิธีเปิดปฐมนิเทศนักเรียนทุนโครงการ JSTP ระยะยาว รุ่นที่ 26 จำนวน 7 คน และ JSTP-SCB รุ่นที่ 6 จำนวน 5 คน โดยมี ดร.พัชร์ลิตา ฉัตรวริศพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. ร่วมแสดงความยินดีแก่นักเรียนทุนที่ได้รับคัดเลือก โดยมีนักเรียนทุนในโครงการพัฒนาอัจฉริยภาพฯ ทุนระยะยาว รุ่นที่ 26 โครงการ JSTP-SCB ระดับปริญญาตรี รุ่นที่ 6 และนักเรียนทุนต่อเนื่องในโครงการฯ เข้าร่วมกิจกรรม ณ ห้องออดิทอเรียม บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี
ดร.สมบุญ สหสิทธิวัฒน์ รองผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า โครงการพัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสำหรับเด็กและเยาวชน (Junior Science Talent Project : JSTP) เป็นหนึ่งในโครงการด้านการพัฒนากำลังคนของ สวทช. มีเป้าหมายในการเฟ้นหาและคัดเลือกเด็กและเยาวชนที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตั้งแต่ระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย เข้ามารับการส่งเสริมและพัฒนาในรูปแบบที่หลากหลายและเหมาะสมกับความถนัดของแต่ละคน โดยจัดหานักวิทยาศาสตร์พี่เลี้ยงคอยให้คำดูแล แนะนำ เพื่อให้เด็กและเยาวชนเหล่านี้แสดงศักยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนจบการศึกษาในระดับปริญญาเอก เพื่อพัฒนาเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักเทคโนโลยี และนักวิจัยที่มีคุณภาพและมีจริยธรรมต่อไปในอนาคต
“ขอแสดงความยินดีกับเยาวชนทุกท่านที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ JSTP ระยะยาว รุ่นที่ 26 มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการ 428 คน ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการระยะสั้น 50 คน ซึ่งเยาวชน ได้มุ่งมั่นดำเนินโครงงานวิทยาศาสตร์ ภายใต้การดูแลของนักวิทยาศาสตร์พี่เลี้ยง รวมทั้งการเข้าร่วมกิจกรรมค่ายต่าง ๆ ของโครงการฯ เป็นระยะเวลา 1 ปี ซึ่งคณะทำงานได้พิจารณาคัดเลือกผู้มีแววอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเข้ารับการส่งเสริมในระยะยาว จำนวน 7 คน ซึ่งเยาวชนทั้ง 7 คนจะได้รับทุนสนับสนุนการศึกษาและการทำวิจัย รวมทั้งการส่งเสริมด้วยกิจกรรมเสริมสร้างประสบการณ์ จนถึงระดับปริญญาเอก เพื่อก้าวสู่อาชีพนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยต่อไปในอนาคต
นอกจากเยาวชนในโครงการ JSTP ทุนระยะยาว รุ่นที่ 26 แล้ว การปฐมนิเทศในวันนี้ยังมีเยาวชนในโครงการการสนับสนุนนักเรียนที่มีศักยภาพสูงเพื่อรับการบ่มเพาะผ่านกิจกรรมของโครงการพัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อเข้าสู่อาชีพวิจัย ภายใต้การสนับสนุนจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (โครงการ JSTP-SCB ระดับปริญญาตรี รุ่นที่ 6) ซึ่งคัดเลือกจากเยาวชนในโครงการ JSTP-SCB ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยการสัมภาษณ์คัดเลือกให้รับทุน จำนวน 5 คน เพื่อเข้าสู่การรับทุนการศึกษาและทุนสนับสนุนการวิจัยในระดับปริญญาตรี รวมทั้งเชื่อมโยงและส่งต่อการรับทุนในระดับที่สูงขึ้นต่อไป”
โอกาสนี้นักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม ได้รับฟังการบรรยายพิเศษเรื่อง “การสร้างแรงบันดาลใจ มุมมองชีวิต ระหว่างเรียนและหลังสำเร็จการศึกษา” โดยดร.วิทย์ สิทธิเวคิน พิธีกรและผู้ดำเนินรายการ The Standard Morning Wealth การอบรมเชิงปฏิบัติการ “การทำสวนขวด” โดยคุณสันติ อาริยะ ฝ่ายบริหารบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร และร่วมกิจกรรมค่ายเสริมประสบการณ์: กิจกรรมจิตอาสาปลูกป่าชายเลน และศึกษาระบบนิเวศป่าชายเลน ณ ศูนย์การเรียนรู้ป่าชายเลน เขตบางขุนเทียน กทม.
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์