หน้าแรก ค้นหา
ผลการค้นหา :
จดหมายข่าว สวทช. ปี 2 ฉ.12 – สวทช. นำทัพงานวิจัยแสดงในงานประชุมวิชาการประจำปี 2560
สวทช. นำทัพงานวิจัยแสดงในงานประชุมวิชาการประจำปี 2560 การแสดงผลงานวิจัยจาก สวทช. และเครือข่ายพันธมิตร เจาะลึกประเด็นทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) การเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการ และมหกรรมรับสมัครงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีครั้งใหญ่สุดของประเทศ วันที่ 29 มีนาคม – 1 เมษายน 2560 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี จัดภายใต้แนวคิด “สวทช. ยุคใหม่ ตอบกลุ่มเป้าหมาย ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง” งานประชุมวิชาการประจำปี 2560 (NAC2017) มีเป้าหมายเพื่อนำเสนอผลงานวิจัยและพัฒาของ สวทช.และเครือข่ายพันธมิตร ที่ดำเนินนโยบายตอบโจทย์ ประเทศไทย 4.0 อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดการนำ วทน. มาใช้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งในการจัดงาน NAC ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13 ในหัวข้อ “สวทช. ยุคใหม่ ตอบกลุ่มเป้าหมาย ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง” (NSTDA 5.0: Building Thailand towards Sufficiency Economy) ในการจัดงานจะมีการประชุมและแสดงผลงานวิจัยของ สวทช. และศูนย์วิจัยแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้สังกัด ได้แก่ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) และศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) นอกเหนือจากผลงานวิจัยต่างๆ แล้ว ในปีนี้ยังได้ขยายรูปแบบและกิจกรรมเพิ่มเติมตามการเปลี่ยนแปลงของภารกิจของ สวทช. ที่นอกเหนือจากการวิจัยและพัฒนาพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการนำองค์ความรู้เหล่านั้นมาพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศแล้ว ยังมีผลงานวิจัย สวทช. ที่นำไปต่อยอดเชิงพาณิชย์ งานวิจัยที่ทำงานร่วมกับเครือข่ายของ สวทช. ทั้งภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนสถาบันการศึกษา ซึ่งครอบคลุมไปในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ดร.ศรัณย์ สัมฤทธิ์เดชขจร ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงาน NAC2017 กล่าวว่า ในการสัมมนาและนิทรรศการในปีนี้จะจัดในวันที่ 29-31 มีนาคม 2560 โดยแบ่งเป็น 8 กลุ่มตามงานวิจัยมุ่งเน้นหลักของ สวทช. ได้แก่ แนวคิดของในหลวง ร.9 / เกษตรสมัยใหม่ / ยานยนต์และขนส่งสมัยใหม่ / เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ / การสร้างเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิต / อาหารเพื่ออนาคต / ดิจิทัลอิเล็กทรอนิกส์ หุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ / บริการและการท่องเที่ยว โดยใน 8 กลุ่มหลักนี้จะนำมาจัดแสดงผ่านการประชุม สัมมนาและนิทรรศการ โดยตัวอย่างหัวข้อการสัมมนาที่น่าสนใจ อาทิ ในหลวง ร.9 กับแรงบันดาลใจ การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง / เรียนรู้สะเต็มศึกษาผ่านโครงการพระราชดำริในหลวง ร.9 / ผู้ประกอบการเกษตรรุ่นใหม่ ก้าวไกลด้วยวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม / การขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางธุรกิจการผลิตเมล็ดพันธุ์ในระดับอาเซียน / ประสบการณ์การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย / การพัฒนาสู่ความมั่นคงและความสามารถทางยาในยุคประเทศไทย 4.0 สำหรับตัวอย่างผลงานวิจัยเด่นๆ ในงานนิทรรศการครั้งนี้ ได้แก่ การพัฒนาและเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ไข่ ที่เกิดจากโจทย์วิจัยร่วมกันระหว่างบริษัท ดีเอ็มเอฟ (ประเทศไทย) และไบโอเทค ที่ทำให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ “ไข่เหลวพาสเจอร์ไรส์” และการผลิตแคลเซียมชีวภาพและโปรคอลลาเจนจากเปลือกไข่ บรรจุภัณฑ์ รุ่นใหม่ “ActivePAK Ultra” ที่พัฒนาขึ้นโดยเอ็มเทค ร่วมกับมูลนิธิโครงการหลวง ที่ช่วยคงความสด คุณค่า และรสชาติของเห็ดหอมให้สด อร่อย ได้นานสูงสุด 10 วัน พร้อมตอกย้ำจุดยืนของโครงการหลวงที่ช่วยสร้างอาชีพ และคุณภาพชีวิตที่ดีแก่เกษตรกรชาวดอยภาคเหนือ ผ้าไม่ถักทอ Nonwovens อีกหนึ่งผลงานของเอ็มเทคที่ออกแบบและพัฒนาขึ้นสำหรับใช้เป็นวัสดุทางเลือกสำหรับการเพาะปลูก เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรสมัยใหม่ B-10 กับเชื้อเพลิงทางเลือกใหม่ของไทย เอ็มเทคนำเทคโนโลยีการเพิ่มคุณภาพไบโอดีเซล H-FAME จากโครงการร่วมวิจัยไทย-ญี่ปุ่น ไปขยายผลในระดับโรงงานสาธิต พร้อมทดสอบใช้จริงกับรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รถกระบะ) เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้น้ำมัน B10 ตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก 2558-2579 ชุดตรวจและวิธีการตรวจเบาหวานด้วยชุดตรวจไกลเคตเตดอัลบูมิน จากทีมวิจัยนาโนเทคที่พัฒนาชุดน้ำยาที่ใช้ร่วมกับเครื่องตรวจวัดแบบพกพา ที่มีความแม่นยำสูง ใช้งานง่าย สะดวก เหมาะกับการใช้งานในสถานพยาบาลทุกประเภทสามารถตรวจวัดได้ทุกสองสัปดาห์ ทันระบาด ชุดซอฟต์แวร์ที่เนคเทคพัฒนาขึ้นเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการป้องกันควบคุมการระบาดของโรคติดต่อ โดยปัจจุบันนำร่องที่โรคไข้เลือดออก Kid-Bright เป็นบอร์ดที่พัฒนาขึ้นโดยเนคเทคเพื่อกระตุ้นศักยภาพการคิดเชิงระบบและการคิด เชิงสร้างสรรค์ในเด็กวัยเรียนผ่านการเรียนรู้แบบ learn and play โดรนแจมเมอร์ ของบริษัท T-Net ที่ได้พัฒนาเทคโนโลยีรบกวนสัญญาณการควบคุมโดรน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ส่วนบุคคล หรืออาจใช้โดรนบรรทุกสิ่งผิดกฎหมาย นางสุวิภา วรรณสาธพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวถึงกิจกรรม NSTDA Open House ว่า เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรมและนักลงทุนที่สนใจ ได้เยี่ยมชมผลงานวิจัยที่โดดเด่นและหลากหลายจากศักยภาพของบุคลากรวิจัย และห้องปฏิบัติการที่มีเครื่องมือเครื่องใช้ทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยของ สวทช. โดยในปีนี้ เปิดให้เยี่ยมชมใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ Smart Farm, Smart Food, Smart Health, Smart Beauty และ Bio-based Economy โดยเป็นการเยี่ยมชมผลงานวิจัยที่โดดเด่นและหลากหลายจากศักยภาพของบุคลากรวิจัยและห้องปฏิบัติการที่มีเครื่องมือเครื่องใช้ทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยของ สวทช. และบริษัทเอกชนชั้นนำที่อยู่ในพื้นที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทยกว่า 10 บริษัทที่มาร่วมเปิดบ้านในครั้งนี้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมพิเศษ NSTDA Open Service Zone ที่มีบุคลากรด้านพัฒนาธุรกิจที่พร้อมให้คำปรึกษาแก่ภาคอุตสาหกรรมในการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียกระดับคุณภาพของสินค้าและบริการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันได้ อาทิ สิทธิประโยชน์ในการยกเว้นภาษี 300% โครงการ Startup Voucher เป็นต้น ดร.เจนกฤษณ์ คณาธารณา ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวถึงงานมหกรรม S&T Job Fair จะจัดขึ้นในวันที่ 31 มีนาคม – 1 เมษายน 2560 ว่าเป็นการจัดมหกรรมรับสมัครงานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในไทย มีตำแหน่งงานมากกว่า 2,000 อัตรา จาก 120 บริษัทชั้นนำ เช่น บริษัทเบทาโกร จำกัด มหาชน, SCG Chemicals Co., Ltd., บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน), บริษัททีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน), Mitr Phol Grop, Honda R&D Asia Pacific Co., Ltd. (HRAP), สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการแนะนำเรื่องของทุนการศึกษาต่อปริญญาตรี-โท-เอก ทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 150 ทุน และพิเศษสุดสำหรับปีนี้ได้จัดให้ผู้เข้าร่วมงาน S&T Job Fairได้เข้าเยี่ยมชมการทำงานของนักวิจัยในห้องปฏิบัติการของภาครัฐและเอกชน เพื่อให้เข้าใจและเห็นภาพการทำงานของนักวิจัยได้อย่างชัดเจนมากขึ้น รวมถึงการเปิดเวทีเสวนาที่จะ ช่วยสร้างความแตกต่างจากคนอื่นและเตรียมความพร้อมในการสร้างความก้าวหน้าและมั่นคงในสายอาชีพ ภายในงาน NAC2017 ยังจัดกิจกรรม Food Innovation Service สำหรับผู้ประกอบการด้านอาหารที่มีความตั้งใจ จะพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีเอกลักษณ์ เพื่อเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น โดยผู้ประกอบการสามารถแวะชมและช้อปบริการต่างๆ ที่หลากหลายของ สวทช. ไม่ว่าจะเป็นบริการที่เกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผลิตทดสอบตลาด หรือรับจ้างผลิต หน่วยงานรับจ้างและออกแบบผลิตเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมอาหารโดยเฉพาะ บริการวิเคราะห์ทดสอบ มาตรฐานและการขึ้นทะเบียนต่างๆ ซึ่งสำคัญมาก นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานที่ให้คำปรึกษา และถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมอาหารด้วย ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนออนไลน์ร่วมงานได้ที่ www.nstda.or.th/nac2017 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 564 8000
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
บทความ
 
จดหมายข่าว สวทช. ปี 2 ฉ.12 – สถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว และ สวทช. จัดประชุมนานาชาติ ร่วมมือวิชาการและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ
สถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว และ สวทช. จัดประชุมนานาชาติ ร่วมมือวิชาการและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ ณ อาคารศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี - สถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว (Tokyo Institute of Technology) และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกันจัดประชุมนานาชาติด้านความร่วมมือทางวิชาการและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ (Joint Symposium for International Industry-Academia Collaboration) โดยมี Prof. Dr. Toshio Maruyama รองประธานบริหารฝ่ายการศึกษาและกิจการระหว่างประเทศ สถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว และ ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. ร่วมในงาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว และ สวทช. ตลอดจนนักวิจัยและคณาจารย์ กว่า 60 คน
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปี 3 ฉ.1 – รองสมคิด เยี่ยมกระทรวงวิทย์ฯ พร้อมผลักดันโครงการพัฒนาประเทศ
รองสมคิด เยี่ยมกระทรวงวิทย์ฯ พร้อมผลักดันโครงการพัฒนาประเทศ   16 มีนาคม 2560 ณ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางเข้าตรวจเยี่ยมกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เยี่ยมชมนิทรรศการของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงวิทย์ฯ ตลอดจนแผนดำเนินงานของกระทรวงในอนาคต พร้อมมอบนโยบายแก่ผู้บริหารระดับสูง โดยมี ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ รศ. นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นำเยี่ยมชมโครงการของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ต้องการขับเคลื่อนในปี 2560-2561 ซึ่งประกอบไปด้วย 5 ส่วน ซึ่งได้นำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุน อันได้แก่ EECi, Innovation Museum, Start Up, Food Innopolis, และวิทยาศาสตร์ฐานราก EECi โครงการยกระดับและพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เป็นการสร้างพื้นที่ที่มีระบบนิเวศนวัตกรรมอย่างสมบูรณ์แบบ หรือ เป็นเมืองนวัตกรรม (Innovation City) เป็นต้นแบบของการพัฒนางานวิจัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมในลักษณะองค์รวม ที่เน้นการบูรณาการการทำงานร่วมกันตามแนวทางประชารัฐ มีการใช้ทรัพยากรร่วมกันเพื่อก่อประโยชน์สูงสุด ด้วยการรวมศูนย์ห้องปฏิบัติการและสนามทดสอบนวัตกรรม (Fabrication Laboratory & Test-bed Sandbox) ศูนย์รับรองมาตรฐานนวัตกรรมทางด้านระบบและอุปกรณ์อัจฉริยะ โดยจัดตั้งเป็นเขตทดสอบนวัตกรรมอัจฉริยะของประเทศที่ผ่อนปรนกฎระเบียบที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ตลอดจนการเป็นชุมชนการจ้างงานผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีระดับสูงของทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป Innovation Museum พิพิธภัณฑ์นวัตกรรมในอนาคต โดยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ แหล่งเรียนรู้ทาง วทน. ที่จะสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ด้าน STEM (Science, Technology,  Engineering, Mathematics) ซึ่งจะช่วยพัฒนากระบวนการคิด วิเคราะห์ การใช้เหตุผล นำไปสู่การพัฒนาสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมต่อไปในอนาคต โดยการจัดแสดงของพิพิธภัณฑ์นวัตกรรมแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ Innovation World ซึ่งผู้เข้าชมจะได้พบนิทรรศการแสดงความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม และ Job World ทำหน้าที่เหมือนพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต ซึ่งจะมีการสร้างประสบการณ์ให้กับผู้ชม โดยให้ความรู้และทดลองทำงานในสายอาชีพต่างๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและความสนใจในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี Start Up เป็นการต่อยอดความสำเร็จจากปีที่ผ่านมา โดยงานนี้เป็นการรวมตัวของกลุ่มสตาร์ทอัพที่มีพลวัต มีการนำเสนอมาตรการส่งเสริมกลุ่มสตาร์ทอัพในรูปแบบบูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา และภาคประชาชน รวมถึงหน่วยงานพันธมิตรในต่างประเทศ ที่จะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของสตาร์ทอัพในประเทศไทย และเพื่อเป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจของรัฐบาลในการขับเคลื่อนและบ่มเพาะ“นักรบเศรษฐกิจใหม่” (New Economic Warrior) และการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของไทยไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ตลอดจนเป็นการสร้างความต่อเนื่องของกิจกรรมดังกล่าวให้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในทางปฏิบัติอย่างแท้จริง    Food Innopolis เมืองนวัตกรรมอาหาร โดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ พื้นที่แห่งนี้จะเป็นพื้นที่สำหรับการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างสินค้าและนวัตกรรมอาหารมูลค่าสูง ด้วยการดึงดูดการลงทุนจากบริษัทชั้นนำของโลก โดยภายในบูทเป็นการจัดแสดงผลงานหรือผลิตภัณฑ์ อาทิ ผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมสุขภาพจะต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ปลอดภัย และสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้ เพื่อเพิ่มทางเลือกสำหรับผู้รักการกินเพื่อสุขภาพ ผู้เป็นเบาหวาน ผู้ต้องการควบคุมน้ำหนัก และผู้ต้องการควบคุมระดับไขมันในเลือด,ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทำการเกษตรและปศุสัตว์ เน้นการใช้สารสกัดจากธรรมชาติเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พื้นฐาน 3 ประการ คือ อาหารปลอดภัย  ความมั่นคงทางด้านอาหาร  และความมั่นคงทางด้านเกษตรกรรม เป็นต้น วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อฐานราก โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)  เป็นการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) ไปพัฒนาชุมชนเกษตรกรรม ซึ่งเป็นอาชีพหลักของประชาชนในประเทศไทย โดยจะมีโครงการนำร่อง เพื่อให้แนวคิดดังกล่าวเป็นรูปธรรม วท. ได้มอบหมายให้ วว. เป็นหน่วยงานแกนหลักบูรณาการดำเนินงานกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และสถาบันการศึกษา ในการสร้างความร่วมมือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ โดยใช้กลุ่มลูกค้าของธนาคารการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นผู้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี ด้าน วทน. มุ่งเน้นการพัฒนาพืชหลักทางการเกษตร 9 ชนิด ได้แก่ ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง มะม่วงน้ำดอกไม้ กาแฟ มะเขือเทศ อ้อย และปศุสัตว์ ไก่ไข่และโคเนื้อ จากความร่วมมือดังกล่าว จะทำให้เกิดประโยชน์ด้านเศรษฐกิจต่อวงการเกษตรกรรมในด้านของการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มรายได้ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังจะทำให้ห่วงโซ่อุปทาน มีความเข้มแข็ง สามารถทำการเกษตรกรรมได้อย่างยั่งยืน  
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปี 2 ฉ.12 – สวทช. ภาคเหนือ มอบรางวัล “ผญาดีศรีล้านนา” พัฒนา “ตะบันน้ำ” ปั๊มน้ำไม่ใช้ไฟฟ้าพลังงานสูง ส่งน้ำขึ้นพื้นที่เกษตรเชิงเขา จ.น่าน
สวทช. ภาคเหนือ มอบรางวัล “ผญาดีศรีล้านนา” พัฒนา “ตะบันน้ำ” ปั๊มน้ำไม่ใช้ไฟฟ้าพลังงานสูง ส่งน้ำขึ้นพื้นที่เกษตรเชิงเขา จ.น่าน ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติ โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว จ.เชียงใหม่ : กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการ สวทช. ภาคเหนือ ประจำปี 2560 โดยมี ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นประธานเปิดงาน ภายใต้ชื่องาน “นวัตกรรมเพื่อชุมชน สู่การพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืน” เพื่อนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมของ สวทช. และพันธมิตร การบรรยายพิเศษ การเสวนา เพื่อถ่ายทอดแนวคิดประสบการณ์การพัฒนาด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) รวมทั้งการมอบรางวัลผญาดีศรีล้านนาประจำปี 2560 เพื่อเป็นการยกย่องบุคคลต้นแบบผู้นำเอา วทน. ไปเป็นเครื่องมือในการคิดค้นหรือต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.nstda.or.th/th/news/5137-20170224-conferences
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปี 2 ฉ.12 – สวทช. – สกว. เดินหน้าเฟส 2 ช่วย SME อุตฯ อาหาร-เครื่องสำอาง เข้าถึงนวัตกรรม ต่อยอดขายได้จริง
สวทช. - สกว. เดินหน้าเฟส 2 ช่วย SME อุตฯ อาหาร-เครื่องสำอาง เข้าถึงนวัตกรรม ต่อยอดขายได้จริง 1 มี.ค. 60 ณ โรงแรมเดอะ สุโกศล กรุงเทพฯ - กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ดำเนินโครงการ “การสนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง ระยะที่ 2” เพื่อร่วมกันสนับสนุน SME ให้เข้าถึงและนำนวัตกรรมไปใช้ในการแก้ไข ปรับปรุง และพัฒนาผลิตภัณฑ์จนสามารถผลักดันสินค้าไปสู่การจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้จริง ด้วยการทำงานร่วมกันผ่านโปรแกรม ITAP สวทช. และชุดโครงการ Innovative house สกว. หลังระยะที่ 1 สนับสนุน SME ด้านอาหาร เครื่องสำอาง และอุตสาหกรรมอื่นทั่วประเทศแล้ว 100 โครงการจาก 76 บริษัท ตั้งเป้าระยะที่ 2 หนุน SME ให้ได้เพิ่มอีก 110 โครงการ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้พัฒนาได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.nstda.or.th/th/news/5135-20170301-mou
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปี 2 ฉ.12 – สวทช. ผนึก กรมวิชาการเกษตร มก. มข. มทร.ล้านนา สร้างความร่วมมือบริหารเชื้อพันธุกรรมพืชในระดับชาติ ดันไทยสู่ Seed hub ในระดับสากล
สวทช. ผนึก กรมวิชาการเกษตร มก. มข. มทร.ล้านนา สร้างความร่วมมือ บริหารเชื้อพันธุกรรมพืชในระดับชาติ ดันไทยสู่ Seed hub ในระดับสากล   27 กุมภาพันธ์ 2560 - ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค เขตบางนา กรุงเทพฯ - สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. พร้อมด้วย ดร.สุวิทย์ ชัยเกียรติยศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร รศ. ดร.สิรี ชัยเสรี รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) รศ. ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) และ รศ. ดร.นำยุทธ สงค์ธนาพิทักษ์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา (มทร.ล้านนา)  ลงนามความร่วมมือการบริหารเชื้อพันธุกรรมพืชในระดับชาติ เพื่อผลักดันไทยให้เป็นศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ (Seed hub) ในระดับสากล พร้อมตั้งเป้ามูลค่าการส่งออกเมล็ดพันธุ์เป็น 1 หมื่นล้านบาทภายใน 5 ปี (พ.ศ. 2565) ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า “สวทช. หน่วยงานวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) ที่ได้สนับสนุนส่งเสริมการวิจัยพัฒนาพันธุ์พืช การผลิตเมล็ดพันธุ์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่ง สวทช. ได้ดำเนินงานคลัสเตอร์เมล็ดพันธุ์มาตั้งแต่ปี 2549 มุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกเมล็ดพันธุ์ไทย และเพิ่มมูลค่าในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง โดยการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนและสร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ไทย ให้สอดคล้องตามเป้าหมายของประเทศในการขับเคลื่อนให้ไทยเป็นศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ หรือ Seed hub ในระดับสากล โดยมีเป้าหมายคือ เพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกให้เป็น 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2565 และร้อยละ 50 ของมูลค่าการส่งออก เป็นเมล็ดพันธุ์ที่พัฒนาในประเทศ โดยเน้นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และเมล็ดพันธุ์ผัก และมีเมล็ดพันธุ์คุณภาพดีให้เพียงพอต่อความมั่นคง ความยั่งยืนของประเทศ ในการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ในระดับสากลนั้นยังสอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 ด้านการพัฒนานวัตกรรมกลุ่มเกษตรและอาหารในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน อีกด้วย สำหรับหน่วยเชื้อพันธุกรรมพืชในระดับชาติเป็นแผนยุทธศาสตร์หนึ่งในห้าแผนยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ในระดับสากล ซึ่งสวทช. สนับสนุนให้มีการดำเนินงานร่วมกับกรมวิชาการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) และสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐานการบริหารเชื้อพันธุกรรมพืช ได้แก่ พริก มะเขือเทศ ข้าวโพด และพืชวงศ์แตง เพื่อการจัดการและประเมินเชื้อพันธุกรรมพืช การศึกษาลักษณะประจำพันธุ์ที่สำคัญ เช่น ความต้านทานต่อโรคแมลง หรือลักษณะเชิงคุณภาพอื่นๆ ที่มีผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้นักปรับปรุงพันธุ์พืชเลือกเชื้อพันธุกรรมเพื่อทำการปรับปรุงพันธุ์ให้ได้พันธุ์ใหม่ๆ ที่ตรงตามความต้องการของตลาดได้ง่าย และรวดเร็วขึ้น ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกเมล็ดพันธุ์ผักเป็นอันดับที่ 3 ในเอเชีย รองจากประเทศจีนและญี่ปุ่นตามลำดับ โดยปีที่ผ่านมามูลค่าการส่งออกเมล็ดพันธุ์ของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นมูลค่า 5,551 ล้านบาท ซึ่งร้อยละ 70 มาจากเมล็ดพันธุ์ผัก และร้อยละ 30 มาจากเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทั้งนี้ตลาดส่งออกครึ่งหนึ่งอยู่ในกลุ่มประเทศอาเซียน ทั้งเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ นอกจากนั้นแล้วประเทศไทยยังมีศักยภาพในการสร้างตลาดใหม่ๆ เช่น ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ด้วย" ผอ. สวทช. กล่าว  อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือระหว่าง สวทช. กรมวิชาการเกษตร มก. มข. และ มทร.ล้านนา ในการบริหารเชื้อพันธุกรรมพืชในระดับชาติ เพื่อผลักดันไทยให้เป็นศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ในระดับสากล โดยในระยะแรกมุ่งเน้นกลุ่มพืชเป้าหมาย 4 กลุ่ม คือ ข้าว ข้าวโพด พืชผัก และพืชไร่ตระกูลถั่ว พืชอาหารสัตว์และพืชบำรุงดิน เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ไทย สร้างความมั่นคงในด้านอาหาร สร้างความเข้มแข็งให้กับภาคเอกชน สร้างรายได้ให้เกษตรกรโดยการใช้เมล็ดพันธุ์คุณภาพดี เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปี 2 ฉ.12 – ก.วิทย์ สวทช., เครือข่ายพันธมิตร จับมือสถาบันวิจัยเยอรมนี วิจัยและพัฒนาปรับปรุงพันธุ์มันสำปะหลังเพื่อเพิ่มผลผลิต สร้างความยั่งยืนของประเทศตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0
ก.วิทย์ สวทช., เครือข่ายพันธมิตร จับมือสถาบันวิจัยเยอรมนี วิจัยและพัฒนาปรับปรุงพันธุ์มันสำปะหลังเพื่อเพิ่มผลผลิต สร้างความยั่งยืนของประเทศตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0 27 กุมภาพันธ์ 2560 - ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค เขตบางนา กรุงเทพฯ : กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)  จัดแถลงข่าวลงนามความร่วมมือ “The Collaborative Bioeconomy International Project” โดยมี ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับสถาบัน Forschungszentrum Jülich (ฟอชุมเซนทลัม จูลิช) สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) วิจัยและพัฒนาปรับปรุงพันธุ์มันสำปะหลัง เพื่อเพิ่มผลผลิต สร้างความยั่งยืนของประเทศตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.nstda.or.th/th/news/5130-20170227-mou-the-collaborative-bioeconomy-international-project
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปี 2 ฉ.12 – งาน “แอ็กไบโอ (AgBio) 2017” ก.วิทย์ สวทช. จับมือพันธมิตรโชว์ผลงานวิจัย-นวัตกรรมและการเกษตร ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย
เปิดแล้ว งาน “แอ็กไบโอ (AgBio) 2017” ก.วิทย์ สวทช. จับมือพันธมิตร โชว์ผลงานวิจัย-นวัตกรรมและการเกษตร ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย 27 กุมภาพันธ์ 2560- ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค เขตบางนา กรุงเทพฯ : สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ  สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงานประชุมวิชาการนานาชาติและนิทรรศการเทคโนโลยี นวัตกรรมด้านเกษตรและเศรษฐกิจฐานชีวภาพ “International Conference on Sustainable Agriculture and Bioeconomy 2017 หรือ แอ็กไบโอ (AgBio2017) โดยมี นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กราบบังคมทูลรายงานว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)  เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดประชุม ร่วมกับกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สมาคมปรับปรุงพันธุ์และขยายพันธุ์พืชแห่งประเทศไทย กองทุนการศึกษายั่งยืน มูลนิธิสวิตา สมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย สมาคมเทคโนโลยีชีวภาพสัมพันธ์ สมาคมเมล็ดพันธุ์แห่งประเทศไทย และ China-ASEAN Technology Transfer Center (CATTC) ซึ่งการจัดการประชุมและนิทรรศการ แอ็กไบโอ (Agbio 2017)  เพื่อเป็นแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และความก้าวหน้าด้านเกษตรสมัยใหม่ การพัฒนาเศรษฐกิจฐานชีวภาพ (Bioeconomy) ที่มีมูลค่าสูง และเป็นการผลิตที่ยั่งยืนในรูปแบบของการประชุมและแสดงนิทรรศการ เช่น ด้านเมล็ดพันธุ์ ด้านแมลงผสมเกสรและระบบสมดุลธรรมชาติ เกษตรสมัยใหม่และเทคโนโลยีเพื่อการปรับตัวภาคการเกษตรเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เศรษฐกิจฐานชีวภาพ รวมถึงการจัดแสดงนิทรรศการความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ความเชื่อมโยงจากชุมชนสู่ภาคอุตสาหกรรม การสร้างเวทีการเจราธุรกิจ ตลอดจนการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อให้เกิดโอกาสทางการค้าและการลงทุนทั้งภายในและระหว่างประเทศ และส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือในการวิจัย พัฒนาระหว่างหน่วยงานต่างๆ ตามแนวทางประชารัฐทั้งในและต่างประเทศด้วย รวมทั้งยังเป็นการเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจในการพัฒนาเทคโนโลยีตลอดจนการนำไปสู่การใช้ประโยชน์ให้กับผู้เกี่ยวข้องและประชาชนผู้สนใจทั่วไป อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.nstda.or.th/th/news/5129-20170227-agbio-2017
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปี 2 ฉ.12 – ซอฟต์แวร์พาร์ค สวทช. จับมือ เว็ลธ์ แมเนจเม้นท์ ซิสเท็ม และสมาคม TACGA จัดประกวดเงินออมสร้างชาติ ปี 2
ซอฟต์แวร์พาร์ค สวทช. จับมือ เว็ลธ์ แมเนจเม้นท์ ซิสเท็ม และสมาคม TACGA จัดประกวดเงินออมสร้างชาติ ปี 2 “กองทุนรวมเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้ว” ชิงมูลค่ารวมกว่า 260,000 บาท หวังกระตุ้นคนไทยใส่ใจวางแผนการเงิน 22 กุมภาพันธ์ 2560 - เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย (ซอฟต์แวร์พาร์ค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ บริษัทเว็ลธ์ แมเนจเม้นท์ ซิสเท็ม จำกัด และสมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย (TACGA) จัดประกวดการ์ตูนแอนิเมชั่น เงินออมสร้างชาติ ปี 2 หัวข้อ “กองทุนรวมเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้ว” เปิดโอกาสให้เยาวชน และบุคคลทั่วไป ใช้ความคิดสร้างสรรค์ถ่ายทอดผลงาน ผ่านสื่อแอนิเมชั่นผสมผสานโมชั่นกราฟิคหรืออินโฟกราฟิก ชิงโล่เกียรติยศ พร้อมทุนการศึกษา และเงินรางวัลมูลค่ารวมถึง 260,000 บาท หวังกระตุ้นคนไทยนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นเครื่องมือช่วยบริหารเงินออมผ่านกองทุนรวม สร้างความมั่นคงให้ชีวิต เตรียมพร้อมต้านเกษียณจน และก้าวสู่สังคมสูงวัยได้อย่างสมบูรณ์ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.nstda.or.th/th/news/5124-20170222-software-park-wealthmagik-season2
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปี 2 ฉ.12 – ก.วิทย์ สวทช. จับมือพันธมิตร โชว์ผลงานวิจัย-นิทรรศการ ในงานไรส์ (RISE3) นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางไทย
ก.วิทย์ สวทช. จับมือพันธมิตร โชว์ผลงานวิจัย-นิทรรศการ ในงานไรส์ (RISE3) นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางไทย 16 กุมภาพันธ์ 2560 ที่โถงชั้น 1 อาคารพระจอมเกล้า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กรุงเทพฯ : กระทรวงวิทย์ฯ โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ กระทรวงคมนาคม โดย สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งจราจร การรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัท   รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย รวมถึงสมาคมวิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ(วช.) และ Railway Technical Research Institute หรือ RTRI ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยระบบรางของประเทศญี่ปุ่น ร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดงานประชุมและนิทรรศการระบบรางของไทย ครั้งที่ 3 (Thai Rail Industry Symposium and Exhibition: RISE3) ในหัวข้อ “อนาคตอุตสาหกรรมระบบรางไทย: ก้าวกระโดดไปด้วยยุทธศาสตร์ความร่วมมือการจัดซื้อจัดจ้างที่มีเงื่อนไขความร่วมมือในการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางไทย” ระหว่างวันที่ 9 - 11 มีนาคม 2560 ณ สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ มักกะสัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.nstda.or.th/th/news/5106-20170216-rise3
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปี 2 ฉ.12 – นาโนเทค สวทช. แสดงผลงานในเวทีนานาชาติ nano tech 2017 ณ กรุงโตเกียว
นาโนเทค สวทช. แสดงผลงานในเวทีนานาชาติ nano tech 2017 ณ กรุงโตเกียว เมื่อเร็วๆ นี้ ฯพณฯ บรรสาน บุนนาค เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว (คนกลาง) พร้อมด้วย  ศ. ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ ประธานกรรมการบริหารศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (ที่ 2 จากซ้าย) และ ดร.วรรณี ฉินศิริกุล ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สวทช. (ที่ 2 จากขวา) ร่วมพิธีเปิดนิทรรศการ “Thailand Nanotechnology Pavilion” ในงานนิทรรศการนานาชาติ nano tech 2017 - The 16th International Nanotechnology Exhibition and Conference ณ โตเกียว บิ๊กไซท์ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อแสดงผลงานวิจัยและผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการไทยในเวทีระดับโลก พร้อมทั้งผลักดันให้เกิดความร่วมมือในระดับนานาชาติต่อไป  
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปี 2 ฉ.12 – เวทโปรดักส์ กรุ๊ป ทุ่มงบกว่า 40 ล้านบาท ตั้งศูนย์ R&D ในอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทยต่อยอดงานวิจัยนาโนเทค สวทช.
เวทโปรดักส์ กรุ๊ป ทุ่มงบกว่า 40 ล้านบาท ตั้งศูนย์ R&D ในอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทยต่อยอดงานวิจัยนาโนเทค สวทช. 1 กุมภาพันธ์ 2560 - กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พร้อมด้วย ดร.เจนกฤษณ์ คณาธารณา ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (อวท.) ตลอดจนคณะผู้บริหาร สวทช. และคณะผู้บริหารในเครือเวทโปรดักส์ ร่วมเปิดศูนย์ “เวทโปรดักส์ รีเซิร์ซ แอนด์ อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์” อย่างเป็นทางการ พร้อมลงนามความร่วมมือวิจัยพัฒนาระหว่างเวทโปรดักส์ กับ สวทช. และนาโนเทค ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ปทุมธานี เพื่อเดินหน้างานวิจัยด้านเวชภัณฑ์สัตว์เต็มสูบ ประเดิมต่อยอดงานวิจัยนาโนเทค ‘เทคโนโลยีระบบการนำส่งมาใช้ในกลุ่มยาปฏิชีวนะ’ มุ่งลดการดื้อยาในมนุษย์ ตั้งเป้าปีแรกเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด 15% ในธุรกิจเวชภัณฑ์สัตว์ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.nstda.or.th/news/22514-nstda
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย