ผลการค้นหา :

จดหมายข่าว สวทช. ปี 3 ฉ.5 – ก.พลังงาน สนพ. ร่วมกับ ก.วิทย์ สวทช. สัมมนาเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงาน ขับเคลื่อนนโยบายพลังงาน 4.0 สำหรับประเทศไทย
ก.พลังงาน สนพ. ร่วมกับ ก.วิทย์ สวทช. สัมมนาเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงาน ขับเคลื่อนนโยบายพลังงาน 4.0 สำหรับประเทศไทย 14 กรกฎาคม 2560 กรุงเทพฯ : กระทรวงพลังงาน โดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ร่วมกับ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดสัมมนา “ความพร้อมของประเทศไทยกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงาน” เพื่อเป็นเวทีให้นักวิจัย นักวิชาการ ผู้ประกอบการ องค์กรภาครัฐและเอกชน ได้ทราบถึงทิศทางการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมด้านระบบกักเก็บพลังงานในระดับสากล รวมถึงกรณีศึกษาและแนวทางปฏิบัติที่ดีสำหรับประยุกต์ใช้ในประเทศไทย โดยระบบกักเก็บพลังงานนี้ เป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยในการเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้ได้นานขึ้นรองรับ Thailand 4.0 ที่จะใช้พลังงานเพิ่มสูงขึ้น อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/11301-20170714-energy-4-0
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย

จดหมายข่าว สวทช. ปี 3 ฉ.5 – เอ็มเทค สวทช. ผนึกเครือข่ายนวัตกรรมยางพารา ใช้ วทน. สร้างความเข็มแข็งอุตฯยางพาราในประเทศ
เอ็มเทค สวทช. ผนึกเครือข่ายนวัตกรรมยางพารา ใช้ วทน. สร้างความเข็มแข็งอุตสาหกรรมยางพาราในประเทศ 13 กรกฎาคม 2560 ที่ศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี : ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับ เครือข่ายนวัตกรรมยางพารา ซึ่งประกอบด้วย การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดการประชุมความร่วมมือการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยียาง ระหว่างวันที่ 13 - 14 กรกฎาคม 2560 ณ ศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี โดยมุ่งหวังให้เป็นเวทีการพบปะ แลกเปลี่ยนทัศนะ และระดมความคิด เพื่อนำไปสู่ความร่วมมือในการสร้างงานวิจัย และนวัตกรรมยางพาราในประเทศ ดร.จุลเทพ ขจรไชยกูล ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. กล่าวว่า เนื่องจากประเทศไทยเป็นผู้ผลิตยางพาราหรือยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยผลิตได้มากกว่า 4 ล้านตันต่อปี และมีผลกระทบอย่างมากต่อผู้คนหลายภาคส่วนในประเทศ เช่น เกษตรกรชาวสวนยาง ผู้ผลิตยางดิบ อุตสาหกรรมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น เมื่อพูดถึง “ยาง” ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของไทย จึงได้รับความสนใจอย่างมากในทุกมุมมอง อีกทั้งเป็นนโยบายที่รัฐบาลกำลังสนับสนุน คือการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) มาแปรรูปยางดิบให้เป็นผลิตภัณฑ์ เพื่อใช้ในประเทศและส่งออก อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/11293-20170713-mtec
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย

จดหมายข่าว สวทช. ปี 3 ฉ.5 – นักวิจัยนาโนเทค สวทช. รับโล่เกียรติยศ ผลงานวิจัยเด่น สกว. (ด้านวิชาการ) ประจำปี 2559
นักวิจัยนาโนเทค สวทช. รับโล่เกียรติยศ ผลงานวิจัยเด่น สกว. (ด้านวิชาการ) ประจำปี 2559 ดร.ขจรศักดิ์ เฟื่องนวกิจ นักวิจัย ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้รับมอบโล่เกียรติยศผลงานวิจัยเด่น สกว. (ด้านวิชาการ) ประจำปี 2559 ณ โรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน โฮเท็ล แอนด์ ทาวเวอร์ส ในผลงานวิจัย “การพัฒนาตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีโครงสร้างระดับนาโนเพื่อการผลิตไบโอดีเซลและไบโอไฮโดรดีออกซิจิเนทดีเซล” ผลงานวิจัยนี้เป็นการสร้างองค์ความรู้ใหม่แบบบูรณาการ ทั้งในเชิงวิศวกรรม และการวิจัยพัฒนา ที่รวมเทคนิคการคำนวณทางทฤษฎีมาใช้ร่วมกับการทดลอง ในด้านตัวเร่งปฏิกิริยานาโน สำหรับการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพเหลวจากแหล่งวัตถุดิบหมุนเวียนที่มีศักยภาพ สูงในประเทศ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/11294-20170713-nanotec
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย

จดหมายข่าว สวทช. ปี 3 ฉ.5 – ก.วิทย์ ร่วมกับ รร.นายเรืออากาศ จัดแข่งขัน CanSat Thailand 2017
ก.วิทย์ ร่วมกับ รร.นายเรืออากาศ จัดแข่งขัน CanSat Thailand 2017 5 กรกฎาคม 2560 ณ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ โดยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ (สทอภ.) ร่วมกับ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช และศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาตร์โลกและดาราศาสตร์ (LESA) ในสังกัดกองทัพอากาศ และองค์การสำรวจอวกาศแห่งประเทศญี่ปุ่น (JAXA) จัดแถลงข่าวประสัมพันธ์การแข่งขัน “CanSat Thailand 2017” หรือ “ดาวเทียมกระป๋อง” ซึ่งเฟ้นหาเยาวชนไทยที่มีความสามารถเพื่อเข้าแข่งขันในระดับนานาชาติ โดยมีการเสวนาในหัวข้อ “ความร่วมมือในการจัดโครงการ CanSat Thailand 2017” รวมถึงสาธิตการปล่อย CanSat จากโดรนในระยะ 60 เมตร อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/11263-20170705-cansat
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย

จดหมายข่าว สวทช. ปี 3 ฉ.5 – สวทช. นำผลงานวิจัยเข้าร่วมการประชุมประจำปี 2560 สภาพัฒน์ฯ ขับเคลื่อนแผนฯ 12 สู่อนาคต
สวทช. นำผลงานวิจัยเข้าร่วมการประชุมประจำปี 2560 สภาพัฒน์ฯ ขับเคลื่อนแผนฯ 12 สู่อนาคต กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) นำผลงานวิจัยเข้าร่วมงานการประชุมประจำปี 2560 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เรื่อง “ขับเคลื่อนแผนฯ 12 สู่อนาคตประเทศไทย” โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมและแสดงปาฐกถาพิเศษ ซึ่ง สวทช. ได้นำผลงานวิจัยไปร่วมแสดงในการประชุมดังกล่าว อาทิ EECi, Smart Mainternace for Industry 4.0, FARRM Series (Food and Agriculture Revolution Model, BUBBLE Fit : ระบบการควบคุมและเฝ้าระวังสภาพแวดล้อมสำหรับการเลี้ยงสัตว์น้ำ, โครงการระบบสื่อสาระออนไลน์เพื่อการเรียนรู้ทางไกล เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 และ Food Innovation เป็นต้น โดยมี ดร.จุฬารัตน์ ตันประเสริฐ รองผู้อำนวยการ สวทช. ให้การต้อนรับพร้อมกับนำเสนอผลงานวิจัยที่นำมาแสดง
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย

จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 3 ฉบับที่ 4 ประจำเดือน กรกฎาคม 2560
ข่าว
ITAP สวทช. สภาหอการค้าฯ อวดโฉมผปก.ผักและผลไม้ไทยได้ ThaiGAP ในงาน THAIFEX2017
สวทช. ติวเข้มเกษตรกรรุ่นใหม่สู่ “ผู้ประกอบการเมล็ดพันธุ์”
สวทช. จัดสัมมนา “When Food meets IP” ให้ความรู้เรื่องทรัพย์สินทางปัญญา
วช. เชิญชวนส่งผลงานประดิษฐ์คิดค้นขึ้นบัญชีสิ่งประดิษฐ์ไทย
นาโนเทค สวทช. จับมือ คณะเภสัชฯ ม.รังสิต เดินหน้าพัฒนาศักยภาพนาโนเวชสำอาง
สวทช. นำผลงานเซนเซอร์ให้น้ำออนไลน์ ถุงหายใจได้ มตฐ.ThaiGAP ร่วมงานมหานครผลไม้ จ.จันทรบุรี
สวทช. สอท. BSID ผนึก FMDIPA ญี่ปุ่น วิจัยพัฒนาอุปกรณ์การแพทย์ หวังดึงลงทุน EECi
สวทช. จัดเวทีนำเสนอผลงานนักศึกษาทุน สวทช. ดึงรุ่นพี่ทุน TGIST มอบแรงบันดาลใจแก่รุ่นน้อง
สวทช. จับมือ 9 มทร. มุ่งเสริมศักยภาพพัฒนาบุคลากรวิชาชีพ รองรับอุตสาหกรรมใน EECi
สวทช. เปิดประชุมการบริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 4
เนคเทค สวทช. ร่วมกับ กฟผ. ลงนามสัญญาร่วมวิจัยพัฒนาและวิศวกรรม “EV Kit & Blueprint Project”
สสว. ร่วมกับ ซอฟต์แวร์พาร์ค สวทช. หนุน SME รุ่นใหม่ในธุรกิจ Digital สร้างเครือข่ายทั้งในไทยและต่างประเทศ
แบบสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย พ.ศ. 2560
สมเด็จพระเทพรัตน ฯ ร่วมพิธีปิดการประชุมผู้ได้รับรางวัลโนเบล ครั้งที่ 67 และลงนามบันทึกความร่วมมือ
บทความ
“Hendy Sense” เซ็นเซอร์ควบคุมระบบให้น้ำเพื่อการเกษตร
ปฏิทินกิจกรรม
การประชุมวิชาการนานาชาติ
กิจกรรมเยี่ยมชม
กิจกรรมค่าย
หลักสูตรอบรม
Download เอกสารฉบับเต็ม [10.6 MB]
NSTDA Newsletter ปีที่ 3 ฉบับที่ 4 ประจำเดือนกรกฎาคม 2560 from National Science and Technology Development Agency (NSTDA) - Thailand
จดหมายข่าว สวทช.

จดหมายข่าว สวทช. ปี 3 ฉ.4 – ปฏิทินกิจกรรม
การประชุมวิชาการนานาชาติ "The International Forum on Data, Information, and Knowledge for Digital Lives" ด้วยภาควิชาบรรณารักษศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กำหนดจัดการประชุมวิชาการนานาชาติ "The International Forum on Data, Information,and Knowledge for Digital Lives" ในระหว่างวันที่ 13 - 15 พ.ย. 2560 เนื่องในวาระครบรอบ 100 ปี แห่งการสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักวิชาชีพสารสนเทศและผู้เชี่ยวชาญในสาขาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ และสาขาที่เกี่ยวข้องในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้มีโอกาสนำเสนอผลการวิจัย แลกเปลี่ยนเรียนรู้และ สร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อเพิ่มพูนความรู้ทางวิชาการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล สารสนเทศ และความรู้เพื่อการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล สมัครเข้าร่วมประชุมวิชาการได้ที่ http://www.arts.chula.ac.th/dlives การประชุมวิชาการ “The 15th Asia Pacific Conference on Giftedness (APCG2018)” ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดในเดือนสิงหาคม 2561 ในงาน “The 22nd Biennial World Conference: Global Perspectives in Gifted Education” ระหว่างวันที่ 20-23 กรกฎาคม 2560 ณ University of New South Wales ประเทศออสเตรเลีย กิจกรรมเตรียมความพร้อมครั้งที่ 3 การพัฒนาศักยภาพทักษะภาษาอังกฤษในการนำเสนองานวิจัย โครงการนักศึกษาภาคฤดูร้อนเดซีและโครงการนักศึกษาภาคฤดูร้อนเซิร์น ประจำปี 2560 ระหว่างวันที่ 11-12 กรกฎาคม 2560 ณ อาคารศูนย์ประชุม อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี กิจกรรมนำเสนอรายงานสรุปผลงานวิจัยเพื่อปิดโครงการของนักศึกษาทุน NUI-RC ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2560 ณ กองวิศวกรรมระบบเครื่องช่วยการเดินอากาศ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด โดยงานพัฒนาบัณฑิตวิจัยและบุคลากรวิจัยระดับสูง ฝ่ายพัฒนาบัณฑิตและนักวิจัย กิจกรรมมหาวิทยาลัยเด็ก ประเทศไทย ตอน ท้าประลองสนุกคิดกับ....วิทยาศาสตร์รอบตัว นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี กิจกรรมขยายผลโครงการ STEM หลักสูตร Investigating Wind Energy สำหรับนักเรียนห้องเรียนพิเศษ ม.1 - ม.6 ระหว่างวันที่ 13-14 กรกฎาคม 2560 ณ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี จ.นนทบุรี ร่วมจัดโดยฝ่ายวิชาการและกิจกรรมพัฒนาเยาวชนวิทยาศาสตร์ และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี กิจกรรมค่ายบูรณาการโครงงานวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ครั้งที่ 1 นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนดำรงวิทยา โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ และโรงเรียนสมบูรณ์ศาสน์ ระหว่างวันที่ 10-12 กรกฎาคม 2560 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี กิจกรรมค่ายบูรณาการโครงงานวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ครั้งที่ 2 นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนพัฒนาอิสลามวิทยา โรงเรียนสุทธิศาสน์วิทยา และโรงเรียนมะอาหัดอิสลามียะห์ ระหว่างวันที่ 20-22 กรกฎาคม 2560 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี กิจกรรม “ค่ายสนุกคิดกับโครงงานวิทยาศาสตร์”สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 2 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย พิษณุโลก ระหว่างวันที่ 24-26 กรกฎาคม 2560 ณ ห้องออดิทอเรียม บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. กิจกรรมค่ายหนึ่งวัน (One Day Camp) สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โครงการการศึกษาพหุภาษา ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา จังหวัดชลบุรี ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2560 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี กิจกรรมเยี่ยมชม สวทช. “แรงบันดาลใจสู่เส้นทาง..นักวิทยาศาสตร์” สำหรับเยาวชน วิทยาลัยเทคโนโลยีอรรถวิทย์พณิชยการ ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2560 ณ ห้องบรรยาย 1 บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย และศูนย์แห่งชาติ สวทช. กิจกรรมเยี่ยมชมและทัศนศึกษาดูงานของ สวทช. คณะครูโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2560 ณ ห้องบรรยาย 1 บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. หลักสูตรการนำระบบงานขึ้นคลาวด์ให้มีความมั่นคงปลอดภัยตามมาตรฐาน CSA 3.0.1 และ ISO/IEC 27001:2013 รุ่นที่ 2 มุ่งเน้นการฝึกปฏิบัติการจัดทำระบบงานให้มีความมั่นคงปลอดภัยและสอดคล้องตามมาตรฐาน CSA 3.0.1 และ ISO/IEC 27001:2013 (เน้นฝึกปฏิบัติโดเมนและมาตรการทางเทคนิค) อ่านรายละเอียดหลักสูตรเพิ่ม เติมได้ที่ Read more หรือ www.nstdaacademy.com/CSS ดำเนินการฝึกอบรม โดยสถาบันวิทยาการ สวทช. และบริษัท ที-เน็ต จำกัด สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center: โทร 0 2644 8150 ต่อ 81892 คุณศศิธร E-mail: advanced.training@nstda.or.th | Website: www.nstdaacademy.com หลักสูตรฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญด้านไอซีทีในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล รุ่นที่ 2 ICT Professional Development Training in the Digital Economy: ITDE 2 มุ่งยกระดับผู้บริหารระดับต้นและผู้เชี่ยวชาญด้านไอซีทีของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ให้มีวิสัยทัศน์ มีความรู้ที่ทันสมัย เพิ่มขีดความสามารถและสมรรถนะในการบริหารจัดการไอซีทีที่เหมาะสมและสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของประเทศและสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งสามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้จริงในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล อบรมระหว่างวันที่ 6-27 กรกฎาคม 2560 (อบรมทุกวันพฤหัสบดี และวันศุกร์) อบรมเชิงปฏิบัติการและศึกษาดูงานด้านไอซีทีของหน่วยงานชั้นนำในประเทศ ระหว่างวันที่ 20-21 กรกฎาคม 2560 อ่านรายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติม ได้ที่ www.NSTDAacademy.com/itde สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center: โทร 0 2644 8150 ต่อ 81894 คุณปานทิพย์, 81892 คุณศศิธร E-mail: advanced.training@nstda.or.th | Website: www.nstdaacademy.com หลักสูตรอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาบุคลากรสำหรับระบบนิเวศการออกแบบและผลิตวงจรรวม IC Design โครงการพัฒนาบุคลากรสำหรับระบบนิเวศ หลักสูตรการออกแบบและผลิตวงจรรวม (Human Resource Development for IC Design Ecosystem) ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม - 4 สิงหาคม 2560 ณ ห้องประชุมออดิทอเรียม บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. โดย ศูนย์วิจัยไมโครอิเล็กทรอนิกส์ NECTEC, งานพัฒนาบัณฑิตวิจัยและบุคลากรวิจัยระดับสูง ฝ่ายพัฒนาบัณฑิตและนักวิจัย และบริษัท ซิลิกอน คราฟท์ จำกัด
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย

จดหมายข่าว สวทช. ปี 3 ฉ.4 – “Hendy Sense” เซ็นเซอร์ควบคุมระบบให้น้ำเพื่อการเกษตร
“Hendy Sense” เซ็นเซอร์ควบคุมระบบให้น้ำเพื่อการเกษตร
ในโลกแห่งยุคนวัตกรรมดิจิทัล ที่นำระบบอิเล็กทรอนิกส์ และเซ็นเซอร์ต่างๆ มาทำให้เกิดระบบอัจฉริยะที่สามารถเชื่อมข้อมูลทุกสรรพสิ่งเข้าหากันได้สำเร็จ ไม่ได้เพียงเอื้ออำนวยให้นักธุรกิจหรือพนักงานออฟฟิศทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านสมาร์ตโฟนเท่านั้น แต่ทุกวันนี้เกษตรกร ชาวสวน ชาวไร่ ก็สามารถดูแลให้น้ำผลผลิตไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ได้เช่นกัน ด้วยนวัตกรรม “Hendy Sense” (เฮนดี้ เซนส์) หรือ เทคโนโลยีเซ็นเซอร์กับการควบคุมระบบการให้น้ำ ผลงานวิจัยพัฒนาโดย นายนริชพันธ์ เป็นผลดี ผู้ช่วยวิจัยอาวุโส ศูนย์เทคโนโลยีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (Thai Microelectronics Center : TMEC) หน่วยงานภายใต้ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
Hendy Sense เป็นระบบการให้น้ำอัตโนมัติตามค่าความชื้นในดินที่เหมาะสมตามชนิดพืชที่ปลูก และใช้ปรับสภาพแวดล้อม เช่น แสง อุณหภูมิ ของโรงเรือนให้เหมาะสมกับพืชได้อย่างอัตโนมัติ โดยใช้ระบบควบคุมบริหารจัดการผ่านสมาร์ตโฟน ซึ่งใช้ได้ทั้งระบบปฏิบัติการ IOS และ Android
นายนริชพันธ์ กล่าวว่า ทีเมค เป็นศูนย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านไมโครอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะเซ็นเซอร์ เมื่อผลิตเซ็นเซอร์ขึ้นมาแล้ว ทีมวิจัยก็สนใจถึงการนำไปใช้กับอุตสาหกรรมด้านต่างๆ ซึ่งส่วนตัวสนใจด้านเกษตร จึงเริ่มพัฒนา Hendy Sense โดยมีเป้าหมายการออกแบบที่ตรงตามชื่อ คือ ต้องการให้เป็นเทคโนโลยีที่ใช้งานง่าย สะดวก และราคาถูก ดังนั้นในการพัฒนาจึงเลือกใช้เซ็นเซอร์เฉพาะที่จำเป็น มี 4 ตัวหลัก คือ เซ็นเซอร์วัดแสง อุณหภูมิ ความชื้นดิน และความชื้นอากาศ จากนั้นได้พัฒนาเว็บแอปพลิเคชันและตัวอุปกรณ์ทรานสมิตเตอร์ (Transmitter) ทำหน้าที่เป็นตัวรับข้อมูลจากเซ็นเซอร์ แล้วแปลงสัญญาณส่งไปที่เว็บเซิร์ฟเวอร์ (Web Server) เพื่อรับและส่งข้อมูลให้ผู้ใช้งานผ่านสมาร์ตโฟน
สำหรับจุดเด่นของ Hendy Sense คือ เกษตรกรสามารถกำหนดชนิดพืชที่ปลูก และค่าความชื้นดิน ความชื้นอากาศ อุณหภูมิ และความเข้มแสง ที่เหมาะสมในแอปพลิเคชันได้ด้วยตนเอง โดยระบุเป็นตัวเลขสูง-ต่ำ ที่พืชชนิดนั้นๆ ยอมรับได้ ซึ่งนั่นทำให้ Hendy Sense ใช้ได้กับพืชผลทุกชนิด ขณะเดียวกันในแอปพลิเคชันได้จัดทำข้อมูลของพืชไว้ให้เลือกจำนวน 5 ชนิด ได้แก่ ข้าว เมลอน มะเขือเทศ กุหลาบ และกล้วยไม้ พร้อมกันนี้ Hendy Sense ยังมี ระบบการแจ้งเตือน แบบเรียลไทม์ คือ เมื่อเซ็นเซอร์วัดค่าสภาวะจากตัวแปรต่างๆ แล้วพบว่ามีตัวเลขสูงหรือต่ำกว่าที่ระบุไว้ ระบบจะแจ้งเตือนทันที โดยหากสภาวะต่างๆ อยู่ในช่วงที่เหมาะสมจะขึ้นสัญลักษณ์เป็นสีฟ้า แต่หากสูงหรือต่ำเกินจากค่าที่กำหนด ก็จะขึ้นสัญลักษณ์เป็นสีแดง
“สมมติว่าเกษตรปลูกข้าว และความชื้นในดินควรอยู่ที่ 60% เมื่อเซ็นเซอร์วัดความชื้นในดินพบว่า มีค่าต่ำกว่า 60% ระบบจะแจ้งเตือนไปที่สมาร์ตโฟน โดยแสดงตัวเลขและสัญลักษณ์ความชื้นเป็นสีแดง ขณะเดียวกันตัวเครื่อง Hendy Sense ที่ติดตั้งในแปลงก็มีระบบการทำงานที่เชื่อมต่อกับระบบให้น้ำอัตโนมัติอยู่แล้ว จึงสั่งเปิด-ปิดการให้น้ำได้ทันที หรือผู้ใช้จะเลือกใช้วิธีสั่งเปิด-ปิด ระบบให้น้ำด้วยตนเองผ่านสมาร์ตโฟนก็ทำได้
ทั้งนี้ Hendy Sense นำไปใช้บริหารจัดการการเพาะปลูกได้ทั้งพืชสวน พืชไร่ หรือ พืชที่ปลูกในโรงเรือน โดยหากเป็น พืชสวน พืชไร่ ซึ่งควบคุมสภาพแวดล้อมไม่ได้ทั้งหมด จะเน้นเรื่องการบริหารจัดการน้ำเป็นหลัก เพื่อให้พืชได้น้ำอย่างเพียงพอ ขึ้นกับค่าความชื้นของดินที่วัดได้ ส่วนกรณีของโรงเรือน ซึ่งเป็นพื้นที่ปิด ควบคุมสภาพแวดล้อมได้ทั้งอุณหภูมิ ความชื้น แสง จึงใช้ออกแบบโรงเรือนและช่วยปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับพืชที่ปลูกได้ เช่น หากเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิและความเข้มแสงได้ค่าสูงกว่าที่กำหนด ผู้ใช้สามารถออกแบบระบบให้ปิดสแลนกันแดด พ่นหมอกน้ำ หรือ เปิดพัดลมระบายอากาศภายในโรงเรือนได้อัตโนมัติ ส่วนแนวทางการนำไปติดตั้งใช้งานนั้น ถ้าเป็นโรงเรือน ใช้ Hendy Sense 1 ชุด น่าจะเพียงพอ แต่หากเป็นในสวนอาจติดตั้งระบบ 1 ชุด ต่อ 1 ไร่ หรือ 5 ไร่ ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่และชนิดของพืชที่ปลูก”
ปัจจุบันมีการนำ Hendy Sense ไปทดลองใช้งานแล้วในแปลงปลูกมะเขือเทศที่ จ.ฉะเชิงเทรา และ แปลงปลูกเมลอน จ.สุพรรณบุรี พบว่า ได้ผลผลิตค่อนข้างดี อีกทั้งล่าสุดยังนำโมเดลไปจัดแสดง พร้อมบรรยายพิเศษให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการในงานมหานครผลไม้ไทย จ.จันทบุรี ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก
“ประโยชน์สำคัญของ Hendy Sense คือ ช่วยบริหารจัดการน้ำของเกษตรกรได้ ยกตัวอย่างทุเรียนซึ่งเป็นพืชที่ขาดน้ำไม่ได้ ถ้าขาดน้ำคือ เจ๊งเลย เพราะฉะนั้นวันนี้คุณให้น้ำทุเรียนพอเพียงหรือยัง เซ็นเซอร์ตอบได้ทันที แต่หากถามว่าแล้วให้น้ำเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ วันนี้อาจยังตอบไม่ได้ทันที แต่เกษตรกรสามารถใช้เซ็นเซอร์ทำวิจัยเองได้ โดยอาจจะเก็บข้อมูล 1 ปี แล้วดึงข้อมูลจากเซ็นเซอร์มาวิเคราะห์ ซึ่ง Hendy Sense รายงานผลเป็นกราฟ หรือ ข้อมูลเชิงสถิติได้ ทำให้เกษตรกรวิเคราะห์ได้ว่าการให้น้ำอย่างน้อยที่สุดควรจะเป็นเท่าไหร่ และเมื่อวันหนึ่งเกษตรกรมีชุดข้อมูลเป็นของตัวเอง ก็จะช่วยให้เขาทำการเกษตรได้อย่างแม่นยำ ตั้งโปรแกรมให้เป็น “ระบบควบคุมอัตโนมัติ” ที่ช่วยให้ปลูกพืชในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดีที่สุด”
อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการควบคุมการให้น้ำพืชผลอย่างเพียงพอและพอเพียงของ Hendy Sense ไม่เพียงช่วยให้เกษตรกรมีผลผลิตดี มีรายได้ และลดค่าใช้จ่ายมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยเกษตรกรบริหารจัดเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
“สิ่งที่คาดหวังต่อการพัฒนา Hendy Sense มากที่สุด คือ คือเกษตรกรใช้งานง่าย สะดวก และใช้งานที่ไหนก็ได้ เมื่อเราตั้งค่าข้อมูลสภาวะต่างๆ ที่จำเป็นต่อการปลูกพืชได้อย่างอัตโนมัติแล้ว เกษตรกรอาจไม่จำเป็นต้องอยู่ในสวนเลย เท่ากับช่วยลดเวลาการทำงาน และไปจัดการงานอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ได้เพิ่มขึ้น”
-สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย วัชราภรณ์ สนทนา ฝ่ายเผยแพร่วิทยาศาสตร์ สวทช.-
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
บทความ

จดหมายข่าว สวทช. ปี 3 ฉ.4 – สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินร่วมพิธีปิดการประชุมผู้ได้รับรางวัลโนเบล ครั้งที่ 67 และพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินร่วมพิธีปิดการประชุม ผู้ได้รับรางวัลโนเบล ครั้งที่ 67 และพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ 30 มิถุนายน 2560 : สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินร่วมพิธีปิดงานประชุมผู้ได้รับรางวัลโนเบล ครั้งที่ 67 ค.ศ. 2017 ณ เมืองลินเดา สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ซึ่งเป็นการประชุมที่จัดขึ้นเพื่อสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ได้รับรางวัลโนเบลกับนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ โดยเชิญผู้ได้รับรางวัลโนเบล (Nobel Laureate) นักศึกษา และนักวิทยาศาสตร์/นักวิจัย ประมาณ 70 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วมการประชุม โดยทรงร่วมฟังการเสวนาหัวข้อ “จริยธรรมทางวิทยาศาสตร์” (Ethics in Sciences) จากนั้น ได้ทรงเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือในการสนับสนุนผู้แทนประเทศไทยเข้าร่วมการประชุมผู้ได้รับรางวัลโนเบล ณ เมืองลินเดา ครั้งที่ 4 ระหว่างสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. กับ ประธานสภาการประชุมผู้ได้รับรางวัลโนเบล โดย Countess Bettina Bernadotte ประธานสภา และมูลนิธิการประชุมผู้ได้รับรางวัลโนเบล โดย Professor Dr. Jurgen Kluge ประธานมูลนิธิ และ ศาสตราจารย์ ดร. ไพรัช ธัชยพงษ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และ Mr. Nikolaus Turner กรรมการมูลนิธิผู้ได้รับรางวัลโนเบล ได้ร่วมลงนามเป็นสักขีพยานด้วย ซึ่งครั้งนี้เป็นการลงนามครั้งที่ 4 (การลงนามในครั้งที่ 1, 2 และ 3 เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2551, 2553 และ 2556 ตามลำดับ) โดย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความร่วมมือทุกครั้ง และการเสด็จการประชุมรางวัลโนเบล ณ เมืองลินเดา ครั้งนี้ ทรงมีพระราชประสงค์ให้คนไทยได้มีโอกาสเข้าร่วมการประชุมระดับโลกเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่ปี 2551 ถึงปัจจุบัน ทรงพยายามหาเวลาเสด็จพระราชดำเนินไปทรงร่วมการประชุมเพื่อให้ความสัมพันธ์ไม่ขาด ทรงขวนขวายติดต่อกับสภาการประชุมผู้ได้รับรางวัลโนเบลและในฐานะที่ทรงวุฒิสภากิตติมศักดิ์ของมูลนิธิการประชุมผู้ได้รับรางวัลโนเบล ทำให้นักวิทยาศาสตร์ของไทย มีโอกาสพบปะ มีเวทีแสดงความคิดเห็น การคัดเลือกผู้เข้าร่วมประชุมทำอย่างระมัดระวัง เพื่อให้ได้คนที่สมควรสนับสนุน จะได้เป็นกำลังสำคัญของชาติด้านวิทยาศาสตร์ต่อไป บันทึกความร่วมมือที่ลงนามในครั้งนี้ มีระยะเวลา 3 ปี (ค.ศ. 2018 - 2020) โดยประเทศไทยสามารถส่งนักศึกษา นักวิทยาศาสตร์ และ/หรือนักวิจัย ตั้งแต่ระดับปริญญาตรี จนถึงระดับหลังปริญญาเอก (Postdoctoral Fellows) เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวได้ปีละ 6 คน การที่ประเทศไทยได้รับโอกาสในการส่งนักศึกษา และนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์เข้าร่วมการประชุมระดับโลกเช่นนี้ เกิดขึ้นเพราะพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีพระราชประสงค์จะให้นักศึกษา และนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ของไทยได้มีโอกาสเข้าร่วมและเรียนรู้ประสบการณ์จากผู้ได้รับรางวัลโนเบลในสาขาต่างๆ ประกอบด้วย ฟิสิกส์ เคมี และสรีรวิทยา หรือแพทยศาสตร์ เพื่อมาเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาวงการวิทยาศาสตร์ของไทยในอนาคตต่อไป ซึ่ง สวทช. ได้ร่วมสนองพระราชดำริในการคัดเลือกตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประชุม นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 จนถึงปัจจุบัน มีนักศึกษา และนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ของไทยเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวรวม 51 คน www.nstda.or.th โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ข่าวในพระราชสำนัก http://news.ch7.com/detail/236577
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย

จดหมายข่าว สวทช. ปี 3 ฉ.4 – แบบสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย พ.ศ. 2560
แบบสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย พ.ศ. 2560 สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดทำแบบสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐาน ลักษณะและพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย โดยในปีนี้จะมีคำถามพิเศษประจำปีในเรื่องพฤติกรรมการซื้อสินค้า/บริการออนไลน์ของคนไทยในยุค Thailand 4.0 ผนวกในแบบสำรวจฯ ด้วย ข้อมูลจากการสำรวจฯ นี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้ภาครัฐได้รับรู้และเข้าใจถึงสถานการณ์การใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทย อันจะนำไปสู่การกำหนดนโยบายและมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ส่วนภาคเอกชนสามารถนำข้อมูลชุดนี้ไปใช้ในการพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ที่สำคัญที่สุดคือ คนไทยจะได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นจากการทำธุรกรรมออนไลน์ เนื่องจากภาครัฐและภาคเอกชนได้มีการพัฒนาทั้งโครงสร้างพื้นฐาน และบริการต่างๆ ให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ในยุค Thailand 4.0 สพธอ. จึงใคร่ขอเชิญชวนท่านให้มีส่วนร่วมในการจัดทำฐานข้อมูลสำคัญชุดนี้ ด้วยการตอบแบบสำรวจฯ จำนวน 26 ข้อ ใช้เวลาตอบประมาณ 20 – 25 นาที และเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณสำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ จะมีการสุ่มจับรางวัลผู้โชคดีจากผู้ตอบแบบสำรวจฯ ออนไลน์ทั้งหมดด้วย ตอบแบบสำรวจฯ ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง วันที่ 31 กรกฎาคม 2560 ประกาศผลผู้โชคดีในวันที่ 27 กันยายน 2560 ที่ https://www.etda.or.th/internetuserprofile/ และ Facebook page : https://www.facebook.com/ETDA.Thailand
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย

จดหมายข่าว สวทช. ปี 3 ฉ.4 – สสว. ร่วมกับ ซอฟต์แวร์พาร์ค สวทช. สนับสนุน SME รุ่นใหม่ในธุรกิจ Digital มีโอกาสขยายฐานลูกค้าและสร้างเครือข่ายกับธุรกิจขนาดใหญ่ทั้งในไทยและต่างประเทศ
สสว. ร่วมกับ ซอฟต์แวร์พาร์ค สวทช. สนับสนุน SME รุ่นใหม่ในธุรกิจ Digital มีโอกาสขยายฐานลูกค้าและสร้างเครือข่ายกับธุรกิจขนาดใหญ่ทั้งในไทยและต่างประเทศ 23 มิ.ย. 60 กรุงเทพฯ : กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย (ซอฟต์แวร์พาร์ค) ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จัดงาน Technology Investment Conference 2017 ในหัวข้อ “Next Generation Businesses” หรือประเด็นธุรกิจยุคใหม่ เพื่อเป็นเวทีสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการลงทุนจากวิทยากรระดับสากล เปิดโอกาสให้บริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่ สถาบันการเงิน และสตาร์ทอัพไทย ได้เห็นรูปแบบการทำงาน ความร่วมมือและการลงทุนร่วมกัน (Synergy) เพื่อให้เกิดผลประโยชน์ร่วมสูงสุด สร้างโอกาสทางธุรกิจ พร้อมประกาศมุ่งขับเคลื่อนการสร้างนวัตกรรม ที่นำเทคโนโลยีเป็นพื้นฐานทำธุรกิจ เช่น แอปพลิเคชัน หรือบริการต่างๆ ด้วยเป็นกลไกสำคัญช่วยสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศยุคไทยแลนด์ 4.0 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/11237-20160623-technology-investment-conference
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย

จดหมายข่าว สวทช. ปี 3 ฉ.4 – เนคเทค สวทช. ร่วมกับ กฟผ. ลงนามสัญญาร่วมวิจัยพัฒนาและวิศวกรรม “โครงการวิจัยพัฒนาชุดประกอบรถไฟฟ้าดัดแปลงและคู่มือดัดแปลง (EV Kit & Blueprint Project)
เนคเทค สวทช. ร่วมกับ กฟผ. ลงนามสัญญาร่วมวิจัยพัฒนาและวิศวกรรม "โครงการวิจัยพัฒนาชุดประกอบรถไฟฟ้าดัดแปลงและคู่มือดัดแปลง (EV Kit & Blueprint Project)" การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ลงนามสัญญาร่วมวิจัยพัฒนาและวิศวกรรม “โครงการวิจัยพัฒนาชุดประกอบรถไฟฟ้าดัดแปลงและคู่มือดัดแปลง (EV Kit & Blueprint Project)” ซึ่งเป็นโครงการวิจัยระยะที่ 2 มุ่งขยายผลไปสู่การดัดแปลงรถไฟฟ้ากับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ปรับปรุงรถไฟฟ้าดัดแปลงต้นแบบ และต่อยอดองค์ความรู้ในอนาค นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า ปัจจุบัน รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 ซึ่ง กฟผ. ได้ตระหนักถึงความสำคัญของเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตและการพัฒนานักวิจัย จึงได้มีการวิจัยและพัฒนาร่วมกันกับ สวทช. มาตั้งแต่ปี 2553 โดยมีเป้าหมายในการออกแบบชิ้นส่วนหลักรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะดัดแปลงรถยนต์สันดาปภายในที่มีอยู่ในท้องตลาดให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ปราศจากการใช้เครื่องยนต์ พร้อมทั้งสามารถขับเคลื่อนได้ด้วยแบตเตอรี่ 100% โดยมีแผนดำเนินการ 3 ระยะ สำหรับการลงนามสัญญาร่วมวิจัยพัฒนาฯ ในครั้งนี้ เป็นการลงนามในโครงการวิจัยยานยนต์ไฟฟ้าระยะที่ 2 ระหว่างปี 2560 - 2563 ได้แก่ “โครงการวิจัยพัฒนาชุดประกอบรถไฟฟ้าดัดแปลงและคู่มือดัดแปลง (EV Kit & Blueprint Project)” เพื่อมุ่งขยายผลไปสู่การดัดแปลงรถยนต์ไฟฟ้า EV กับรถยนต์รุ่นอื่นๆ เพื่อพัฒนาและนำไปใช้ได้ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งมีเป้าหมายหลัก คือ การดัดแปลงรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engine) หรือ รถยนต์ ICE ที่ใช้แล้วมีเครื่องยนต์ที่เสื่อมสภาพ ปลดปล่อยไอเสียคุณภาพต่ำ เสียงดัง และความร้อนจำนวนมากสู่สิ่งแวดล้อม ให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่สามารถกลับมาใช้งานได้ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการวิจัยนาน 30 เดือน ใช้งบประมาณในการวิจัยทั้งสิ้น ประมาณ 60 ล้านบาท โดย กฟผ. สนับสนุนงบประมาณในการวิจัย ประมาณ 25 ล้านบาท และ สวทช. สนับสนุนงบประมาณ 35 ล้านบาท อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/11235-20160621-blueprint-project
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย