หน้าแรก ค้นหา
ผลการค้นหา :
ถั่วเขียว KUML พืชเศรษฐกิจขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ วิถีเมืองยโสธร
ไปทำความรู้จัก ถั่วเขียวพันธุ์คุณภาพ KUML พืชเศรษฐกิจขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ ที่สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรมส่งเสริมการเกษตร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และหน่วยงานพันธมิตร กำลังร่วมมือกันขยายผลให้เกษตรกรใน จ.ยโสธร ปลูกเป็นพืชหลังนา ภายใต้กลไก ‘ตลาดนำการผลิต’ เพื่อช่วยฟื้นฟูดิน และสร้างรายได้เสริม สอดคล้องกับนโยบายการขับเคลื่อนยโสธรสู่เมืองเกษตรอินทรีย์ เมืองแห่งวิถีอีสาน
คลิปสั้นทันเหตุการณ์
 
ถอดรหัสชีวิต: พลิกโฉมอนาคตสุขภาพด้วย AI และจีโนม
🧬 มนุษย์อายุยืนยาวได้ด้วย AI จริงหรือ ? ชวนสัมผัสพลังของ AI และข้อมูลจีโนม ที่จะมาพลิกโฉมวงการสุขภาพและการแพทย์ที่งาน NAC2025 🚀  . 🚨ขอเชิญร่วมสัมมนา "ถอดรหัสชีวิต: พลิกโฉมอนาคตสุขภาพด้วย AI และจีโนม" ที่จะเปิดประตูสู่แนวคิด สุขภาพเฉพาะบุคคล (Precision Health) ร่วมค้นพบว่าข้อมูลจีโนม (Genomic Data) จะเป็นกุญแจสำคัญในการวางแผนสุขภาพได้อย่างไร พบกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI และจีโนมิกส์ ร่วมกับความเชี่ยวชาญของบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อสร้างแผนการดูแลสุขภาพที่แม่นยำ, มีประสิทธิภาพ, และเหมาะสมกับคุณ ร่วมเจาะลึกเทรนด์การใช้ AI ในการดูแลสุขภาพและการแพทย์แม่นยำ การบริหารจัดการข้อมูล Big Data และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึง เสวนาธุรกิจบริการการแพทย์จีโนมิกส์และการบูรณาการเทคโนโลยี AI โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและเอกชน . 📅พบกัน 28 มี.ค. 68 | ⏰09:00-12:00 น. 📍ห้อง CC –309 Auditorium อาคาร 14 (CC) อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี   👉ลงทะเบียน https://www.nstda.or.th/nac/2025/seminar/nac-21/ . 🎯NAC2025 ยังมีหัวข้อสัมมนา นิทรรศการ Open House ที่เจาะลึกเรื่องราว AI ในหลากหลายมิติรอคุณอยู่ เข้าไปดูรายละเอียดและลงทะเบียนได้เลยที่ https://www.nstda.or.th/nac/✨ . 📌 อย่าพลาดโอกาส... ที่จะได้เจาะลึกเรื่องราวการพัฒนาเทคโนโลยีและ AI ที่ใกล้ตัวคุณกว่าที่คิด ในงาน NAC2025 วันที่ 26 - 28 มีนาคม นี้ . #NAC2025 #AIforSustainableFuture #ขับเคลื่อนไทยด้วยAI #SustainableThailand #NSTDA #สวทช
ปฏิทินกิจกรรม
 
“A-MED Care ระบบสุขภาพหลังบ้าน สนับสนุน 30 บาท รักษาทุกที่”
📢ห้ามพลาด ลงทะเบียนฟรี! มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนอนาคตสุขภาพไทย 🚀💙 📲"A-MED Care ระบบสุขภาพหลังบ้าน สนับสนุน 30 บาท รักษาทุกที่"🔬🩺 . 📅  26 มีนาคม 2568 | ⏰เวลา: 09.00 - 12.00 น. 📍 ณ ห้องประชุม CC-306 ชั้น 3 อาคารศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี 👉 ลงทะเบียนที่ https://www.nstda.or.th/nac/2025/seminar/nac-04/ . 🌏ร่วมเปิดมุมมองใหม่กับแพลตฟอร์ม A-MED Care ที่จะช่วยยกระดับระบบสาธารณสุขไทย ด้วยนวัตกรรมดิจิทัลและ Telemedicine พร้อมฟังการบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญและเวทีเสวนาเรื่องแนวทางพัฒนาระบบสุขภาพไทยให้ก้าวไกลและยั่งยืน💡 . 🎯Key Highlights ✅ บทบาทหน่วยงาน ผู้ดำเนินงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ✅ บทบาทหน่วยงานวิจัยและพัฒนาแพลตฟอร์ม A-MED Care ✅ แนะนำบริการดูแลเจ็บป่วยเล็กน้อย 32 อาการ ของร้านยา ✅ แนะนำบริการการรักษาโรคเบื้องต้น ของคลินิกพยาบาล ✅ แนะนำบริการผู้ป่วยนอก ของคลินิกเวชกรรม ✅ แนะนำบริการนวัตกรรมด้านการแพทย์แผนไทย ของคลินิกแพทย์แผนไทย . 🚩ติดต่อสอบถามข้อมูล 📌 ฝ่ายบริการวิจัยและประสานงานนวัตกรรม (RNM) 📞 โทรศัพท์: 02 564 7000 ต่อ 6487 📧 Email: sujira@nstda.or.th . #A_MED_Care #สุขภาพดิจิทัล #30บาทรักษาทุกที่  #นวัตกรรมสุขภาพ #NAC2025 #AIforSustainableFuture #ขับเคลื่อนไทยด้วยAI #SustainableThailand #NSTDA #สวทช
ปฏิทินกิจกรรม
 
โครงสร้างพื้นฐานไทย “พร้อม” แค่ไหน สำหรับการพัฒนา LLM ?
🔑 โครงสร้างพื้นฐานไทย "พร้อม" แค่ไหน สำหรับการพัฒนา LLM ? ค้นหาคำตอบได้ที่ NAC 2025 🚀 . 🚨Large Language Model (LLM) ภาษาไทย จะเกิดขึ้นไม่ได้หากขาด "โครงสร้างพื้นฐาน" ที่แข็งแกร่ง! ขอเชิญร่วมสัมมนา "Thai LLM กับความพร้อมของ Infrastructure ในประเทศไทย" ในงาน NAC2025 ร่วมสำรวจการพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ภาษาไทย และวิเคราะห์โครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการใช้งานจริงในภาคธุรกิจ, สังคม, และอุตสาหกรรม🎉 . 🎯พบกับการนำเสนอความก้าวหน้า, ความท้าทาย, และบทบาทของ HPC, ระบบคลาวด์, และเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ต่อการพัฒนา LLM จากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมร่วมเสวนาเพื่อหาแนวทางการนำ Thai LLM ไปประยุกต์ใช้ และเตรียมความพร้อมให้กับประเทศไทยในยุค AI✨ . 📅 พบกัน 28 มี.ค. 68 | ⏰13:00-16:00 น. 📍ห้อง SD-601 อาคาร 12 (สราญวิทย์) อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี 👉ลงทะเบียน https://www.nstda.or.th/nac/2025/seminar/nac-19/ . 🌍NAC2025 ยังมีหัวข้อสัมมนา นิทรรศการ Open House ที่เจาะลึกเรื่องราว AI ในหลากหลายมิติรอคุณอยู่ เข้าไปดูรายละเอียดและลงทะเบียนได้เลยที่ https://www.nstda.or.th/nac/ . 📌 อย่าพลาดโอกาส... ที่จะได้เจาะลึกเรื่องราวการพัฒนาเทคโนโลยีและ AI ที่ใกล้ตัวคุณกว่าที่คิด ในงาน NAC2025 วันที่ 26 - 28 มีนาคม นี้ . #NAC2025 #AIforSustainableFuture #ขับเคลื่อนไทยด้วยAI #SustainableThailand #NSTDA #สวทช
ปฏิทินกิจกรรม
 
Advisory Clinic@NAC2025 – คลินิกให้คำปรึกษาแบบ Exclusive โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม
หากคุณกำลังมองหาแนวทางเพิ่มขีดความสามารถ สร้างจุดเด่นที่แตกต่างและต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างยังยืน.....นี่คือโอกาสที่คุณห้ามพลาด!!! . Advisory Clinic@NAC2025 - คลินิกให้คำปรึกษาแบบ Exclusive โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม . อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (อวท.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จับมือเครือข่ายพันธมิตรสมาชิกประชาคม อวท. เปิดบริการให้คำปรึกษาฟรี! แบบ One on One โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่จะมาให้คำปรึกษาแบบรู้ลึก รู้จริง สำหรับผู้ประกอบการ นักธุรกิจ และผู้สนใจด้านเทคโนโลยีที่ต้องการสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ...ห้ามพลาด . บริการให้คำปรึกษาด้าน รอบรู้เรื่องทรัพย์สินทางปัญญา โดย คุณอรุณศรี ศรีธนะอิทธิพล ที่ปรึกษาอาวุโส สถาบันพัฒนาบุคลากรแห่งอนาคต สวทช. การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนและกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ โดย คุณเซบาสเตียน มัลวิลล์ ผู้อำนวยการ และคุณภัททิยา บุศยรัตน์ กรรมการ จากบริษัท เอสเซนเชียล สตูดิโอ จํากัด การวางแผนจัดการก๊าซเรือนกระจกรับมือภาษีคาร์บอนและแนวทาง ThaiESG โดย คุณนันทพัชร ณ สงขลา จาก บริษัท เอฟ ดี ไอ แอคเคาน์ติ้ง แอนด์ แอดไวซอรี่ จำกัด การทำมาตรฐาน GMP/GHPs/HACCP เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้ได้มาตรฐานสากล โดย ดร. กุลรดา โชคธราสิริภัช (ดร.กบ) จาก บริษัท ซิสเต็ม เอ็กเซลเล้นท์ จำกัด ยกระดับมาตรฐานองค์กร สร้างระบบที่แข็งแกร่ง และเตรียมความพร้อมสำหรับการส่งออก โดย คุณรัฐกร สิริอมราพร Managing Director และ คุณชญานิศ สุดชานัง Executive Consultant จาก บริษัท พีวีไอ คอนซัลแทนท์ จำกัด ให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดย ดร.สุพิชชา โชคไพบูลย์ คุณอภิวันท์ รอเสนา และ คุณนราธิป นิธิชัย ที่ปรึกษาเทคโนโลยี โครงการ ITAP สวทช. 26-28 มีนาคม 2568 | เวลา 10.00-16.00 น. ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย โอกาสดีๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย ห้ามพลาด! ลงทะเบียนขอรับคำปรึกษาที่ https://www.nstda.or.th/r/S5I7k (จำนวนจำกัด) 02-564-7000 ต่อ 71950 bcd@nstda.or.th
ปฏิทินกิจกรรม
 
สวทช. และ CPALL หารือแนวทางการพัฒนาความร่วมมือ เพื่อสนับสนุนธุรกิจค้าปลีก
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) นำโดย ดร.สมบุญ สหสิทธิวัฒน์ รองผู้อำนวยการ สวทช. และ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) นำโดย คุณทัพพ์เทพ จีระอดิศวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส จัดประชุมหารือแนวทางการพัฒนาความร่วมมือ เพื่อสนับสนุนธุรกิจค้าปลีก ซึ่งทาง บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) โดย 7-Eleven คาดหวังจะเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมและผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐ เพื่อนำองค์ความรู้ของ สวทช. ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ และก้าวสู่เวทีสากลอย่างมั่นคงและยั่งยืน โอกาสนี้ นักวิจัย สวทช. ร่วมนำเสนอผลงานวิจัยที่มีศักยภาพในการพัฒนาต่อยอดร่วมกัน อาทิ งานวิจัยและบริการของ FoodSERP งานวิจัยด้านอาหารและโภชนาการ งานวิจัยด้านอาหารและอาหารสัตว์ฟังก์ชั่น และ Chatbot Thai LLM
ข่าว
 
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
นักวิจัยไบโอเทค สวทช. รับทุนช่วยเหลือการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้งที่ 31 จากมูลนิธิโทเร เพื่อการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ ประเทศไทย (TTSF)
(วันที่ 7 มีนาคม 2568) ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก: ฯพณฯ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลและเงินทุนช่วยเหลือการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้งที่ 31 พร้อมกันนี้ ศาสตราจารย์ ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ ประธานมูลนิธิฯ และนายอาคิฮิโระ นิคคาคุ ประธานกรรมการ บริษัท โทเรอินดัสตรีส์ อิงค์ (ประเทศญี่ปุ่น) ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ ประธานคณะกรรมการเงินทุนช่วยเหลือทางด้านวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และศาสตราจารย์ ดร. ม.ร.ว. ชิษณุสรร สวัสดิวัตน์ ประธานคณะกรรมการรางวัลการศึกษาวิทยาศาสตร์ เข้าร่วมงาน ในโอกาสนี้ ดร.เบญจรัตน์ บรรเทิงสุข นักวิจัยทีมวิจัยเทคโนโลยีเอนไซม์ กลุ่มวิจัยเทคโนโลยีไบโอรีไฟเนอรีและชีวภัณฑ์ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้รับทุนช่วยเหลือการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้งที่ 31 จากโครงการเรื่องการพัฒนากระบวนการผลิตไซลิทอลด้วยตัวเร่งปฏิกิริยาทางชีวภาพและการทำผลิตภัณฑ์ให้บริสุทธิ์เพื่อเพิ่มมูลค่าวัสดุเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมการผลิตข้าว ซึ่งเป็น1ใน20ทุน ที่ได้รับการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อเป็นการสนับสนุนนักวิจัยที่กำลังค้นคว้าหรือมีโครงการในการค้นคว้างานที่เป็นรากฐานอันจะอำนวยประโยชน์ให้แก่การพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในประเทศไทยในสาขาเกษตรศาสตร์และชีววิทยา ฟิสิกส์ เคมี และวิศวกรรมศาสตร์ โอกาสนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เชาวรีย์ อรรถลังรอง​ ผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ผู้แทนผู้อำนวยการ สวทช. เข้าร่วมแสดงความยินดีกับนักวิจัยในครั้งนี้ สำหรับมูลนิธิโทเรเพื่อการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ได้ดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 31 เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติแก่บุคคลและหน่วยงาน ที่มีผลงานดีเด่นทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยบุคคลและหน่วยงานที่ได้รับรางวัลวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะได้รับโล่รางวัล พร้อมด้วยเงินรางวัลมูลค่ารางวัลละ 4 แสนบาท พร้อมทั้งมอบทุนสนับสนุนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน 4 ล้านบาทให้กับนักวิจัยที่มีผลงาน โดดเด่น และรางวัลแก่ครูอาจารย์ด้านการศึกษาวิทยาศาสตร์อีก 690,000 บาท รวมเป็นเงินรางวัลและเงินทุนสนับสนุนทั้งสิ้น 5,490,000 บาท
ข่าว
 
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
สวทช. – สพฐ. – สสวท. สถ. คิกออฟ สร้าง ‘ครูแกนนำ’ สู่ยุคดิจิทัล ปูทาง AI ในห้องเรียน ด้วย “LEAD Education”
(วันที่ 7 มีนาคม 2568) ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์ กรุงเทพฯ:  ทีมวิจัยเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในกำกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และพันธมิตร กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในชั้นเรียน โดยมี นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกล่าวเปิดการอบรมในครั้งนี้ พร้อมด้วย ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค ดร.วิษณุ ทรัพย์สมบัติ ผู้อำนวยการ สพฐ. รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านมาตรฐานการศึกษา และ รองศาสตราจารย์ ธีระเดช เจียรสุขสกุล ผู้อำนวยการ สสวท. ผนึกกำลังพัฒนาบุคลากรด้วย “LEAD Education” นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ และท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ท่านสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล ได้มีนโยบายการนำ AI มาช่วยในการเรียนการสอน ซึ่งได้มีการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมทั้งในรูปแบบการนำ AI ไปใช้อย่างรู้เท่าทัน “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” และการพัฒนาให้นักเรียนสร้าง AI ได้เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตามความถนัด ความสนใจ “เรียนดี มีความสุข เรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา” ซึ่งปัจจุบัน AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกมิติของสังคม โดยเฉพาะในภาคการศึกษา AI เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยพัฒนาทักษะและศักยภาพของผู้เรียน ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในศตวรรษที่ 21 ด้วยเหตุนี้กระทรวงศึกษาธิการโดย สสวท. สพฐ.ได้ร่วมมือกับกระทรวงอุดมศึกษา วิจัยและนวัตกรรม โดย เนคเทค ในการพัฒนาหลักสูตรและส่งเสริมการเรียนเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในชั้นเรียน เพื่อสร้างพลเมืองดิจิทัลที่มีความรู้และทักษะด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต การอบรมในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างทักษะและความรู้ด้าน AI ให้กับคุณครูจำนวน 1,500 ท่าน จาก 750 โรงเรียนทั่วประเทศ โดยคุณครูเหล่านี้จะเป็นแกนนำในการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับ ไปยังนักเรียนกว่า 45,000 คน ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาและเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชนไทยในการเผชิญกับความท้าทายของโลกดิจิทัล รวมทั้งเป็นก้าวสำคัญในการนำวิชาที่ทันสมัยไปใช้ในระบบธนาคารหน่วยกิตและ E-Portfolio ต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการยังมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายครูที่มีสมรรถนะด้าน AI เพื่อเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ ตลอดจนการพัฒนาหลักสูตรและสื่อการสอนที่ทันสมัย สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนและตลาดแรงงาน ซึ่งจะมีการดำเนินการพิจารณาผลงานในการประกาศเป็นครูแกนนำ LEAD Education: AI และครูแกนนำดีเด่น Elegant LEAD Education: AI เพื่อยกย่องเชิดชูวิชาชีพครู และสร้างขวัญกำลังใจในการพัฒนานักเรียนต่อไป ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการ เนคเทค สวทช. กล่าวว่า การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในชั้นเรียน (LEAD Education:AI) ทั้งในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และตอนปลาย ภายใต้บันทึกความร่วมมือ “โครงการขับเคลื่อนการสอนปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ในสถาบัน การศึกษา” ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)  ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย “อว. for AI” ที่มุ่งพัฒนาทักษะและสร้างบุคลากรด้านปัญญาประดิษฐ์ โดยการอบรมครั้งนี้ทาง เนคเทค สวทช. ได้นำแพลตฟอร์มติดตาม วิเคราะห์ และประเมินผลการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล มาเป็นเครื่องมือสนับสนุนการเรียนรู้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ทั้งในและนอกห้องเรียน ในชื่อว่า“LEarning analytics for ADaptive Education หรือเรียนสั้น ๆ ว่า LEAD Education” เป็นแพลตฟอร์มที่นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยให้เกิดการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล (Personalized learning) โดยแพลตฟอร์มจะติดตามพฤติกรรมและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนแบบเรียลไทม์ และนำผลการประเมินมาแนะนำเนื้อหาที่เหมาะสมให้แก่ผู้เรียนแต่ละบุคคล ทำให้ผู้เรียนพัฒนาความรู้และทักษะได้เต็มศักยภาพ รองศาสตราจารย์ ธีระเดช เจียรสุขสกุล ผู้อำนวยการ สสวท. กล่าวว่า สำหรับการอบรมในครั้งนี้ ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในชั้นเรียน ทำให้ครูสามารถนำ AI  มาประยุกต์ใช้ในการสอน นับว่าช่วยเปิดโอกาสให้นักเรียนทั่วประเทศเข้าถึงการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ สำหรับการออกแบบเนื้อหาหลักสูตรการเรียนรู้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในชั้นเรียนของ สสวท. หลักสูตร AI ในระดับมัธยมต้น: AI เบื้องต้น, Machine Learning, NLP, Generative AI, จริยธรรม AI ระดับมัธยมปลาย: วิวัฒนาการ AI, ปัญหา AI, Supervised Learning, NLP, Computer Vision หลักสูตร AI ระดับมัธยมปลายสามารถเทียบโอนเข้าสู่ระบบ Micro-Credentials และ Credit Bank การสนับสนุนจาก สสวท. ในครั้งนี้ นอกจากหลักสูตร AI สำหรับการศึกษาขึ้นพื้นฐานหลักสูตรแรกของประเทศแล้ว สสวท. ยังได้จัดทีมวิทยากร 47 คน จากนักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย และครูแกนนำ จากทั่วประเทศ เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้แก่คุณครูผู้เข้าร่วมอบรมอย่างเต็มศักยภาพ ดร.วิษณุ ทรัพย์สมบัติ ผู้อำนวยการ สพฐ. กล่าวว่า สพฐ. ได้ขับเคลื่อนนโยบายของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ และเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง สพฐ. สสวท. และ สวทช. ที่ลงนามในวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 นักเรียนจะได้เข้าถึงการเรียนรู้ AI อย่างรู้เท่าทัน “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” ผ่านแพลตฟอร์ม AI-Adaptive และสามารถนำความรู้ไปต่อยอดไปใช้พัฒนา AI ได้ด้วยตนเอง รวมถึงจะเป็นส่วนหนึ่งของระบบธนาคารหน่วยกิตระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และการเรียนรู้ตามความถนัดและความสนใจทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในอนาคต ผ่านการออกแบบการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นของครู ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศไปพร้อมกับการสร้างความฉลาดรู้ด้าน AI (AI Literacy) เป็นวงกว้าง และสร้างศักยภาพทางการศึกษาสู่มาตรฐานสากลต่อไป
ข่าว
 
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
สานพลังสู่ธนาคารอาหารแห่งชาติ: เวทีขับเคลื่อนมาตรการสนับสนุนบริจาคอาหารส่วนเกิน
(5 มีนาคม 2568) ณ โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค กรุงเทพฯ - สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (SOS) และเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน จัด “ประชุมกลุ่มย่อยผู้ประกอบการอาหารด้านมาตรการส่งเสริมการบริจาคอาหารส่วนเกิน (Food surplus) ของประเทศไทย เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งธนาคารอาหารแห่งชาติของประเทศ (Thailand’s Food Bank)” เป็นเวทีนำเสนอมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการบริจาคอาหารให้แก่ผู้ประกอบการที่ผลิตอาหารและที่เกี่ยวข้องได้เข้าร่วมบริจาคอาหารส่วนเกินให้กับโครงการ ทั้งในส่วนของมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคมจาก BOI มาตรการลดก๊าซเรือนกระจกจาก อบก. และการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon emission) ให้กับผู้ประกอบการจากโปรแกรม ITAP เพื่อขยายผลการส่งต่ออาหารส่วนเกินให้เกิดขึ้นทั้งประเทศอย่างยั่งยืน รวมถึงเป็นเวทีระดมความคิดเห็นจากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ต่อมาตรการส่งเสริมการบริจาคอาหารส่วนเกิน   ดร.จุฬารัตน์ ตันประเสริฐ รองผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มีส่วนร่วมในการพัฒนาเครื่องมือภายใต้โครงการการจัดตั้งธนาคารอาหารแห่งชาติของประเทศ (Thailand’s Food Bank) ด้วยกัน 4 เรื่อง โดย 2 เรื่องแรกดำเนินการแล้วเสร็จคือ แนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยของอาหารบริจาค (Safety Guidelines for Food Donation) โดยไบโอเทค และส่วนที่ 2 เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับจับคู่ผู้บริจาคและผู้รับบริจาค โดยเนคเทค ส่วนอีก 2 เรื่องที่กำลังดำเนินการคือ การจัดทำข้อมูลการลดการปล่อยคาร์บอนจากการบริจาคอาหาร เพื่อผลักดันและสนับสนุนมาตรการลดก๊าซเรือนกระจกขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.) ใน 2 โครงการ คือ โครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme) หรือ LESS และโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program) หรือ T-VER โดยเป้าหมายปลายทางเพื่อนำไปสู่การซื้อขายคาร์บอนเครดิตจากการบริจาคอาหารได้ในอนาคต และเรื่องที่ 4 คือ การจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอมาตรการส่งเสริมการบริจาคอาหารครอบคลุมทั้งสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีของผู้บริจาค และมาตรการลดการปล่อยคาร์บอนในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดการบริจาคอาหารอย่างยั่งยืน   รศ.ดร.เติมศักดิ์ ศรีคิรินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. กล่าวว่า เอ็มเทค เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการ Thailand’s Food Bank ในด้านการจัดเตรียมฐานข้อมูลพื้นฐาน สำหรับข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของอาหาร ซึ่งข้อมูลส่วนนี้ทาง อบก. จะสามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลเพื่อสนับสนุนมาตรการ LESS และ T-VER ต่อไป โดยโครงการจัดตั้งธนาคารอาหารนี้นับเป็นโครงการที่มีประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน และเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมด้วย   การประชุมกลุ่มย่อยครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการสานพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อสร้างระบบและแนวทางการบริหารจัดการอาหารส่วนเกินของประเทศไทย ในที่ประชุมมีการนำเสนอมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการบริจาคอาหาร ประกอบด้วย มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคมของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) โดยคุณสาธาสินี คำไชย นักวิชาการส่งเสริมการลงทุนชำนาญการ ซึ่งได้ให้ข้อมูลขอบข่ายในการสนับสนุนที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ ได้แก่ ด้านเกษตรและระบบน้ำ ผลิตภัณฑ์ชุมชน สิ่งแวดล้อม ท่องเที่ยวชุมชน สาธารณสุข และการศึกษา ขณะที่ มาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการบริจาคอาหารขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.) โดย ดร.สาธิต เนียมสุวรรณ ผู้จัดการสำนักรับรองคาร์บอนเครดิต ได้หยิบยกตัวอย่างกิจกรรมที่ขอรับรอง LESS ได้ เช่น การคัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิล การกักเก็บคาร์บอนของต้นไม้ การใช้ยานพาหนะไฟฟ้า (EV) เป็นต้น และส่วนสุดท้ายคือ กลไกสนับสนุนผู้ประกอบการเพื่อการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยคาร์บอนของโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP) สวทช. โดยนายอภิรักษ์ วิเศษศรีพงษ์ ผู้จัดการงานอุตสาหกรรมวัสดุก้าวหน้า ซึ่งทาง ITAP จะสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญให้แก่ผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารที่จะร่วมบริจาคอาหารส่วนเกินให้กับโครงการ ในการประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon emission) เพื่อคำนวณคาร์บอนเครดิตตามมาตรฐานที่ อบก. กำหนด   “ประเด็นสำคัญในการประชุมกลุ่มย่อยครั้งนี้ ได้แก่ การกำหนดมาตรการจูงใจ เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมอาหาร ธุรกิจร้านอาหาร และที่เกี่ยวข้อง หันมาบริจาคอาหารส่วนเกินอย่างเป็นระบบ รวมถึงเพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้สังคมเห็นถึงความสำคัญของการลดปริมาณอาหารส่วนเกิน และการนำอาหารส่วนเกินไปใช้ประโยชน์ โดยการจัดตั้งธนาคารอาหารแห่งชาติ จะถือเป็นกลไกหลักในการบริหารจัดการอาหารส่วนเกินอย่างยั่งยืน และกระจายอาหารไปยังผู้ที่ต้องการ เป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหารของประเทศไทย ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อประชากรกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง” ดร.ปัทมาพร ประชุมรัตน์ นักวิจัยนโยบาย สวทช. หัวหน้าโครงการการจัดตั้งธนาคารอาหารของประเทศไทย กล่าวปิดท้าย  
ข่าว
 
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
สวทช. – พันธมิตร อัปเดตเทรนด์ AI และการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ ปี 68
(วันที่ 6 มีนาคม 2568) ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 3 อาคารซอฟต์แวร์พาร์ค: กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย ร่วมกับองค์กรพันธมิตร ได้แก่ สถาบันไอเอ็มซี สถาบัน KCT Academy สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช บริษัท โอไร้อัน อินเว็สทิเกชั่น จำกัด และบริษัท เอซิส โปรเฟสชั่นนัล เซ็นเตอร์ จำกัด จัดงานสัมมนาหัวข้อ "Top 10 Technology & Cyber Security Trends and Updates 2025" เพื่ออัปเดต 10 เทรนด์เทคโนโลยีที่น่าจับตามองในปี 2568 และเทรนด์ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในมุมของจริยธรรมและสายอาชีพ รวมถึงวิธีการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์หากภาคธุรกิจหรือประชาชนต้องตกเป็นเหยื่อจากสารพัดกลโกงบนโลกออนไลน์ โดยมีดร.สมบุญ สหสิทธิวัฒน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นประธานกล่าวเปิดงานสัมมนา ดร.สมบุญ สหสิทธิวัฒน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)  กล่าวว่า สวทช. มีภารกิจในการมุ่งผลักดันให้ประเทศไทยแข็งแกร่งและเจริญรุ่งเรืองบนเวทีเศรษฐกิจระดับโลก โดยการนำความ สามารถและองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาช่วยให้ ภาคการเกษตรและภาคอุตสาหกรรมสามารถดำเนินงานได้ดีมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่ง สวทช. ได้ดำเนินงานผ่านการทำงานร่วมกันของศูนย์แห่งชาติ ทั้ง 5 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (BIOTEC) ที่มุ่งพัฒนางานด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) ที่มุ่งพัฒนางานด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับวัสดุต่างๆ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ที่มุ่งพัฒนางานด้านอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (NANOTEC) ที่มุ่งพัฒนางานด้านนาโนเทคโนโลยี และศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) ที่มุ่งวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานของประเทศ ทั้งยังมีเครื่องมือ บุคลากร บริการ และโครงสร้างพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้แก่ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) อีกทั้งโปรแกรมต่าง ๆ ที่ช่วยสนับสนุนและยกระดับสร้างความเข้มแข็งให้กับทั้งบุคลากร SMEs สตาร์ตอัป และภาคอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ด้วยวิยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) ให้สามารถแข่งขันบนเวทีระดับโลกได้ สำหรับการสัมมนาหัวข้อ Top 10 Technology & Cyber Security Trends and Updates เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกปี ร่วมกับองค์กรพันธมิตรเพื่ออัปเดตแนวทาง แบ่งปันและถ่ายทอดความรู้เรื่องแนวโน้มของเทรนด์เทคโนโลยี และภัยคุกคามทางดิจิทัลที่ต้องติดตามเฝ้าระวัง รวมไปถึงให้ความรู้ด้านอาชีพและทักษะของบุคลากรในอุตสาหกรรมดิจิทัลที่ต้องปรับตัวเมื่อเทคโนโลยีอย่าง AI กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อให้องค์กรและบุคลากรที่อยู่ในอุตสาหกรรมดิจิทัล ได้มีแนวทางในการกำหนดกลยุทธ์ วางแผน และเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา ทางซอฟต์แวร์พาร์คฯ จัดกิจกรรมอบรมและสัมมนา เพื่อพัฒนาบุคลากรทางด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลมากกว่า 2,500 ราย ผ่านหลักสูตรและโปรแกรมต่าง ๆ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริหารระดับสูง นักพัฒนา หรือกลุ่มผู้ที่ต้องการได้รับประกาศนียบัตรในระดับสากล นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมสนับสนุนผู้ประกอบการทางธุรกิจเทคโนโลยี เพื่อให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและเสริมศักยภาพรองรับอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และดิจิทัลของประเทศ และรวมไปถึงบริการด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ให้บริการพื้นที่สำนักงาน และห้องอบรม/สัมมนา ภายในงานสัมมนาฯ ยังได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ รศ. ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการ สถาบันไอเอ็มซี ได้เล่าถึงความน่าสนใจเกี่ยวกับ Top 10 Technology และแนวโน้มเทคโนโลยีดิจิทัลในปี 2025 ดร.มนต์ศักดิ์ โซ่เจริญธรรม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านปัญญาประดิษฐ์กระทรวง อว. ให้มุมมองเรื่อง AI และแง่มุมจริยธรรม สังคม กฎหมาย และเศรษฐกิจ นายไกรกิติ ทิพกนก ผู้อำนวยการสถาบัน KCT Academy อัปเดตถึงทักษะที่จำเป็นต้องมีในปี 2025 ของบุคลากรในสาย Business Analyst (BA) ที่เรียกได้ว่าเป็นผู้ที่อยู่ตรงกลางระหว่างงานธุรกิจและงานเทคโนโลยี รศ.ดร.วฤษาย์ ร่มสายหยุด สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ร่วมให้ความรู้เกี่ยวกับแนวโน้มการวิเคราะห์ข้อมูลที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ทั้ง Agentic AI และ XAI ในปี 2025 นายสมิทธ์ ณ นคร หัวหน้าหน่วยสืบสวนไฮเทค บริษัท โอไร้อัน อินเว็สทิเกชั่น จำกัด ให้ความรู้เรื่องทักษะนิติวิทยาศาสตร์ทางดิจิทัล (Digital Forensics) เบื้องต้นที่คุณควรต้องมีเมื่อไปหลงกลภัยออนไลน์ ปิดท้ายด้วย นายปริญญา หอมเอนก ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอซิส โปรเฟสชั่นนัล เซ็นเตอร์ จำกัด ได้แชร์ประสบการณ์และวิธีการป้องกันจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ สำหรับผู้สนใจในบริการทางด้านการพัฒนาบุคลากร หรือพัฒนาผู้ประกอบการ หรือกิจกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงบริการด้านพื้นที่ของทางเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย สวทช. สามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-583-9992, 02-564-7000 หรือติดตามรายละเอียดได้ที่เฟซบุ๊ก: Software Park Thailand , www.swpark.or.th 
ข่าว
 
ข่าวประชาสัมพันธ์
 
ค่าย AI design by KidBright
📢มาแล้วจ้า เมษายนนี้ มาฝึกสกิลเอไอกันดีกว่า กับค่าย AI design by KidBright 🚀 . 📌เรียนรู้การใช้งานบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ KidBright32 และฝึกความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ผ่านแพลตฟอร์ม AI Thai Gen 🧠 🚨สำหรับเด็กอายุ 12 ขึ้นไป ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษา รวมถึงบุคคลทั่วไป ที่สนใจ✨ . 📅24-25 เมษายนนี้ #อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ปทุมธานี . 🎯ค่ายนี้สอนอะไร ♨️ เรียนรู้ปัญญาประดิษฐ์ขั้นพื้นฐานแบบออนไลน์ โดยการฝึกสร้างโค้ดแบบการลากเส้นต่อโหนดด้วยโปรแกรม AI Thai Gen 🌀 ฝึกเอไอแบบง่าย ๆ ผ่านการเรียนรู้และทดลองใช้ AI Thai Gen ♨️ ใช้สัญญาณจากตัวตรวจจับหลักบนบอร์ด KidBright32 เป็นข้อมูลการประมวลผล . 💥 ค่าสมัคร คนละ 3,500 บาท 🎉พิเศษ‼️ สมัครภายในวันที่ 15 มีนาคมนี้ เพียง 2,800 บาทเท่านั้น 👉อ่านรายละเอียดและสมัครได้ที่ https://www.nstda.or.th/r/KgOqG . 🌀 KidBright32 คือบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์เพื่อการศึกษาของไทย ซึ่งพัฒนาเริ่มต้นโดยเนคเทค/สวทช. ♨️ AI Thai Gen (https://aithaigen.in.th) คือ แพลตฟอร์การเรียนรู้และใช้งานปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งพัฒนาโดยนักวิจัยไทยจากมหาวิทยาลัยไทย ที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง . #Kidbright #AiThaiGen #NSTDAshop #inex #ค่ายปิดเทอม #summercamp
ปฏิทินกิจกรรม
 
ประกาศรับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษา ไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง
ด้วยมหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง (Xi’an Jiaotong University : XJTU) สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายทุนการศึกษาแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อพระราชทานแก่บุคคลที่มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดของมหาวิทยาลัย ไปศึกษาระดับปริญญาโท ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่มหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๘ (ค.ศ. ๒๐๒๕) ระดับปริญญาโท หลักสูตรภาษาอังกฤษ จำนวน ๓ ทุน และมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มีประกาศลงวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๘ เรื่อง รายชื่อผู้มีสิทธิได้รับทุนไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง (Xi’an Jiaotong University : XJTU) สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๘ (ค.ศ. ๒๐๒๕) ระดับปริญญาโท หลักสูตรภาษาอังกฤษ ซึ่งผู้มีสิทธิได้รับทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง ระดับปริญญาโท จำนวน ๒ คน ไปแล้วนั้น ดังนั้น มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีจึงดำเนินการรับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาไปศึกษาวิชา ณ มหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง (Xi’an Jiaotong University : XJTU) สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๘ (ค.ศ. ๒๐๒๕) ระดับปริญญาโท หลักสูตรภาษาอังกฤษ เพิ่มเติมจำนวน ๑ ทุน ดังรายละเอียด ดังต่อไปนี้ • ทุนการศึกษา : ระดับปริญญาโท ระยะเวลา ไม่เกิน 2 ปี เป็นทุนการศึกษาของสภาทุนการศึกษาแห่งจีน (China Scholarship Council : CSC) ได้รับการยกเว้นค่าลงทะเบียนเรียน ค่าที่พักในมหาวิทยาลัย และค่าประกันสุขภาพ และมหาวิทยาลัยซีอานเจียวทงสนับสนุนค่าใช้จ่ายรายเดือน เดือนละ 3,000 หยวน *** ไม่มีข้อผูกพันการชดใช้ทุน *** • จำนวนทุนการศึกษา : จำนวน 1 ทุน • หมดเขตรับสมัคร : 11 มีนาคม 2568 • ประกาศรับสมัครดูได้ที่ : https://www.princess-it.org/th/scholarship/xjtu/ • สาขาที่เปิดรับสมัคร : ใน 8 สาขา ได้แก่ (1) Mechanical Engineering (2) Power Engineering and Engineering Thermophysics (3) Electronic Science and Technology (4) Information and Communication Engineering (5) Control Science and Engineering (6) Computer Science and Technology (7) Materials Science and Engineering (8) Electrical Engineering ติดต่อสอบถามได้ที่ : คุณเยาวลักษณ์ คนคล่อง สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โทรศัพท์ 02 564 7000 ต่อ 81813 , 089 452 4244 (เยาวลักษณ์) ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ : yaowalak@nstda.or.th เว็ปไซด์ประชาสัมพันธ์ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี https://www.princess-it.org/scholarship/xjtu/xjtu-2025-xjtu-announce-apply-3/
ปฏิทินกิจกรรม