หน้าแรก ค้นหา
ผลการค้นหา :
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 4 ฉ.7 – ปฏิทินกิจกรรม
ประกวดออกแบบ EV BUS Innovation Design Contest 2018 สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ บริษัทสกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด ขอเชิญนิสิต นักศึกษา ส่งผลงานเข้าร่วมการประกวดออกแบบรถโดยสารไฟฟ้า 9 เมตรชิงเงินทุนการศึกษากว่า 50,000 บาท พร้อมโล่ และใบเกียรติบัตร โดยแบบที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจะได้รับการพิจารณานำไปใช้ในการพัฒนารถโดยสารไฟฟ้าต้นแบบต่อไป โจทย์ในการประกวด ประกวดออกแบบรถโดยสารไฟฟ้า 9 เมตร กว้าง 2.5 เมตร ยาว 9.0 เมตร สูงไม่เกิน 3.2 เมตร ประเภทชานสูง ซี่งมีอุปกรณ์ส่วนควบครบตามข้อกำหนดการของกรมขนส่งทางบก เช่น กระจกมองข้าง ประตูขึ้นลงตรงกลาง ที่ปัดน้ำฝน ไฟท้าย ไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟสูง ต่ำ สามารถทำได้ทั้งวาดมือหรือออกแบบจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ คุณสมบัติผู้สมัคร นิสิต นักศึกษา หรือบุคคลทั่วไป ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับอนุปริญญาจากสถาบันอาชีวศึกษาขึ้นไป อายุไม่เกิน 28 ปี สามารถส่งแบบเดี่ยวหรือกลุ่มจากสถาบันเดียวกัน ไม่จำกัดชั้นปีและคณะ โดยผู้สมัครสามารถส่งผลงานเข้าประกวดได้ไม่จำกัดจำนวนหมดเขตส่งผลงาน 15 ตุลาคม 2561 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12168-ev-bus-innovation-design-contest-2018 โครงการพัฒนารถโดยสารประจำทางใช้แล้วขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพเป็นรถโดยสารไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สถาบันยานยนต์ (สยย.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) จัดทำโครงการ“การพัฒนารถโดยสารประจำทางใช้แล้วขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพเป็นรถโดยสารไฟฟ้าเพื่อพัฒนาขีดความสามารถของ ผู้ประกอบการไทย” โดย ขสมก. สนับสนุนรถโดยสารประจำทางเครื่องยนต์สันดาปภายในที่หมดอายุการใช้งานตามข้อกฎหมายของ ขสมก. เพื่อดัดแปลงเป็นรถโดยสารไฟฟ้า ด้วยการสนับสนุนงบประมาณจาก กฟน. กฟผ. และ กฟภ. โดยมอบให้ สวทช. บริหารจัดการสนับสนุนทุนวิจัยและพัฒนาภายใต้โครงการ“การพัฒนารถโดยสารประจำทางใช้แล้วขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพเป็นรถโดยสารไฟฟ้าเพื่อพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทย” ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมขีดความสามารถของผู้ประกอบการรถโดยสารของไทยในการประกอบรถไฟฟ้า โดยอ้างอิงจากโครงสร้างเดิมของรถโดยสารประจำทางใช้แล้วของ ขสมก. เมื่อทำการดัดแปลงสำเร็จ สามารถนำรถคันดังกล่าวจดทะเบียนเป็นรถโดยสารไฟฟ้าแล้วนำไปทดลองวิ่งให้บริการได้ เพื่อศึกษาถึงความเหมาะสมในการนำรถโดยสารไฟฟ้าดัดแปลงมาวิ่งให้บริการ พร้อมวิเคราะห์ความคุ้มค่าเชิงเศรษฐศาสตร์และความเหมาะสมเชิงเทคโนโลยีในการ นำรถเมล์เก่าของ ขสมก. มาใช้ประโยชน์ รวมทั้ง การสร้างความตระหนักด้านยานยนต์ไฟฟ้า ให้แก่สมาชิกภาคีเครือข่ายฯ เพื่อนำไปต่อยอด และพัฒนาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ โครงการฯ จะสนับสนุนผู้ประกอบการในด้านงบประมาณไม่เกิน 75% ของมูลค่าโครงการ หรือไม่เกิน 7 ล้านบาท ใช้เวลาดำเนินการไม่เกิน 9 เดือนในการส่งมอบผลงาน ผู้ประกอบการที่สนใจและมีคุณสมบัติเป็นไปตามเกณฑ์สามารถยื่นขอรับการพิจารณาสนับสนุนได้ ต้องเป็นผู้ประกอบการไทย มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 200 ล้านบาท มีประสบการณ์ดำเนินการด้านการประกอบรถโดยสารหรือผลิตแม่พิมพ์สำหรับโครงสร้างขนาดใหญ่มาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี และไม่เป็นนิติบุคคลที่ล้มละลาย หรือถูกฟ้องร้อง สามารถส่งข้อเสนอโครงการเพื่อเสนอพิจารณาได้จนถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2561 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12187-used-bus-development-project กิจกรรมฝึกอบรมเฉพาะทางเทคโนโลยีชีวภาพการเกษตรหัวข้อ “มหัศจรรย์สารพันธุกรรมดีเอ็นเอขั้นพื้นฐาน” สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย รร.ตากพิทยาคม, ร.ร.จักรคำคณาทร จ.ลำพูน, ร.ร.นวินทราชูทิศ หอวัง นนทบุรี จัดโดยฝ่ายบริหารบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร ร่วมกับหน่วยวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพพืช ศช. 15-19 ตุลาคม 2561 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. จ.ปทุมธานี
 กิจกรรมฝึกอบรมเฉพาะทางเทคโนโลยีชีวภาพการเกษตรหัวข้อ “การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อขั้นพื้นฐาน (ไม้ดอกไม้ประดับ)” สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย รร.สาธิต มศว.ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม) และ ร.ร.สตรีระนอง จัดโดยฝ่ายบริหารบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร ร่วมกับหน่วยวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพพืช ศช.17-19 ตุลาคม 2561 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. จ.ปทุมธานี กิจกรรมฝึกอบรมเฉพาะทางเทคโนโลยีชีวภาพการเกษตรหัวข้อ “การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อขั้นพื้นฐาน (ไม้ดอกไม้ประดับ) + การเพาะเลี้ยงกล้วยไม้เบื้องต้น” สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย รร.ท่าวังผาพิทยาคม และ ร.ร.ดรุณพัฒน์  จัดโดยฝ่ายบริหารบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร ร่วมกับหน่วยวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพพืช ศช.25-26 ตุลาคม 2561 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. จ.ปทุมธานี กิจกรรม “ค่ายสนุกกับกิจกรรมวิทย์สู่การคิดโครงงาน (From fun science activities to science project)” สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 (Gate Program) รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย30 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน 2561 ณ ห้องออดิทอเรียม บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. จ.ปทุมธานี กิจกรรมค่าย โครงการทุนการศึกษา “จากใจไทยพานิชย์” สำหรับนักเรียนผู้ได้รับทุนการศึกษาจาก ธนาคารไทยพานิชย์ จำกัด17 ตุลาคม 2561 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. จ.ปทุมธานี กิจกรรมมหาวิทยาลัยเด็ก ประเทศไทย ตอน “สนุกวิทย์...คิดไปกับพ่อ”25 ตุลาคม 2561 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. จ.ปทุมธานี
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 4 ฉ.7 – “สารบีเทพ” BeThEPS ยืดอายุน้ำยางสด สู่ “ยางแผ่นคุณภาพ”
“สารบีเทพ” BeThEPS ยืดอายุน้ำยางสด สู่ “ยางแผ่นคุณภาพ” ยางแผ่นรมควัน (Rib Smoked Sheet: RSS) วัตถุดิบสำคัญ สำหรับใช้ในการทำผลิตภัณฑ์ยางรูปแบบต่างๆ เช่น ยางล้อ ชิ้นส่วนยานยนต์ สายพานลำเลียง พื้นรองเท้า ท่อน้ำ ยางปูพื้น และกาวยาง ทว่าวัตถุดิบต้นทางที่สำคัญไม่แพ้กันก่อนจะได้ยางแผ่นรมควันคุณภาพเยี่ยมนั้น ต้องผ่านการแปรรูปมาจากน้ำยางสดที่มีคุณภาพ ไม่บูดเน่า เพื่อผลิตและรักษาคุณภาพของยางแผ่นรมควัน ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยครองแชมป์ผู้ผลิตยางแผ่นรมควันอันดับหนึ่งของโลก ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จึงได้คิดค้น “สารบีเทพ” BeThEPS ที่ช่วยยืดอายุน้ำยางสดได้นาน 1-3 วัน ซึ่งนานกว่าการใช้แอมโมเนียที่หาซื้อได้ตามท้องตลาด ที่เกษตรกรต้องทนรับทั้งภาระต้นทุนและปัญหาสุขภาพ แต่ยืดอายุน้ำยางสดได้เพียง 6-8 ชั่วโมง “สารบีเทพ” BeThEPS จึงเป็นทางเลือกใหม่ในการยืดอายุน้ำยางสดให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดน่าน และยังทำให้การผลิตยางแผ่นรมควัน มีคุณภาพดีเยี่ยม เมื่อผลิตออกสู่ตลาดในเชิงพาณิชย์อีกด้วย ดร.จุลเทพ ขจรไชยกูล ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ เปิดเผยว่า เอ็มเทคเป็นหน่วยงานภายใต้ สวทช. มีพันธกิจหลักคือการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนผลักดันให้เกิดการนำผลงานวิจัยออกไปใช้ประโยชน์ในทางเศรษฐกิจและสร้างคุณค่าให้แก่สังคม ทีมวิจัยยางของเอ็มเทคได้พัฒนาสารยืดอายุน้ำยางสดเพื่อการผลิตยางแผ่น หรือ “สารบีเทพ” BeThEPS ซึ่งช่วยยืดอายุน้ำยางสดได้นานกว่าเดิม 1-3 วัน ทำให้แผ่นยางจับตัวรีดง่าย เกิดลายดอกชัดเจน เพิ่มปริมาณยางแผ่นรมควันคุณภาพดี ลดปริมาณยางตกเกรด ลดการใช้สารเคมีทั้งแอมโมเนียและโซเดียมซัลไฟต์ (ยากันกรอก) อีกทั้งช่วยประหยัดค่าเชื้อเพลิง เนื่องจากการยืดอายุน้ำยางสดยาวนานขึ้น ช่วยลดความถี่ในการขนส่ง ทำให้เกษตรกรมีเวลามากขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดร.จุลเทพ กล่าวถึงประเด็นปัญหาซึ่งเป็นที่มาของงานวิจัยและพัฒนา “สารบีเทพ” BeThEPS ว่า เนื่องจากน้ำยางสดที่กรีดจากต้นยางพาราจะคงสภาพเป็นน้ำยางอยู่ได้ในระยะเวลาอันสั้นเพียง 6-8 ชั่วโมงเท่านั้น โดยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี และปริมาณแบคทีเรียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้อนุภาคยางจับตัวเป็นก้อนและมีกลิ่นเหม็น เกิดปัญหาน้ำยางสดเสียสภาพก่อนการแปรรูปเป็นยางแผ่น ทั้งนี้เกษตรกรมักแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการใช้แอมโมเนียและโซเดียมซัลไฟต์เพื่อช่วยยืดอายุน้ำยางสด แต่แอมโมเนียระเหยง่าย มีกลิ่นฉุน เป็นพิษต่อผู้ปฏิบัติงานและไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่วนโซเดียมซัลไฟต์ทำให้เกิดฟองในแผ่นยาง ส่งผลต่อคุณภาพของยางแผ่น ทำให้ยางแผ่นมีราคาถูกลง ดังนั้น ทีมวิจัยห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีน้ำยาง หน่วยวิจัยยาง เอ็มเทค สวทช. จึงได้คิดค้น“สารบีเทพ” BeThEPS ขึ้นมาเพื่อใช้ทดแทนแอมโมเนียและโซเดียมซัลไฟต์ พบว่า“สารบีเทพ” BeThEPS ช่วยยืดอายุน้ำยางได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยางแผ่นจับตัวเรียบรีดง่ายสร้างมูลค่าเพิ่มราว 900 บาท ต่อการผลิตยางแผ่น 1 ตัน ในปัจจุบันเอ็มเทค สวทช. ได้พิจารณาผู้ประกอบการที่มีความพร้อมผ่านตามเกณฑ์ประเมิน จำนวน 4 ราย ได้แก่ บริษัท เอ็ม. ไอ. อินเตอร์ จำกัด, หจก. วัน พารา เอ็นจิเนียริ่ง, พาณิชยกิจ อินเทลลิเจ้น รับเบอร์ อินโนเวชั่น และ บริษัท อิคคิว เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด โดยผู้ประกอบการแต่ละรายจะได้รับสิทธิใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยเพื่อผลิตและจำหน่าย “สารบีเทพ” BeThEPS ในเชิงพาณิชย์ ตลอดจนสามารถนำไปผลิตเป็นวัตถุดิบในการผลิตยางล้อ ชิ้นส่วนยานยนต์ สายพานลำเลียง พื้นรองเท้า ยางปูพื้น และกาวยาง ด้าน นางสาวธนพร โตพัฒน์ หัวหน้ากลุ่มแปรรูปน้ำยางสด อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ในฐานะเกษตรกรผู้ได้รับถ่ายทอดเทคโนโลยี สารยืดอายุน้ำยางสดเพื่อการผลิตยางแผ่น หรือ “สารบีเทพ” BeThEPS กล่าวว่า เนื่องจากสภาพพื้นที่ปลูกยางในจังหวัดน่านส่วนใหญ่เป็นภูเขาและอยู่ห่างจากจุดรับซื้อน้ำยางสดหลายกิโลเมตร ทำให้น้ำยางสดเสื่อมสภาพก่อนถึงจุดรับซื้อน้ำยาง ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผลผลิตของเกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่อย่างมาก ที่ผ่านมาเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดน่านจะใช้แอมโนเนีย (ซึ่งมีกลิ่นฉุนและเป็นพิษกับเกษตรกร) ผสมในน้ำยางสดเพื่อยืดอายุน้ำยางก่อนนำส่งจุดรับซื้อ แต่จะช่วยยืดอายุได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมงเพราะแอมโมเนียระเหยง่าย ทำให้ชาวสวนยางต้องเพิ่มความถี่ในการขนส่งน้ำยางสดวันละหลายรอบ ส่งผลให้ต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มขึ้น อีกทั้งเมื่อนำมาแปรรูปเป็นยางแผ่นรมควัน น้ำยางสดที่ผสมโซเดียมซัลไฟต์จะเกิดฟองในแผ่นยาง ทำให้ยางแผ่นขาดง่าย ไม่มีความยืดหยุ่น และขายไม่ได้ราคา นางสาวธนพร กล่าวต่อว่า กระทั่งเมื่อปีที่ผ่านมา ได้รู้จักกับทีมวิจัยของเอ็มเทค สวทช. และได้รับการถ่ายทอดการใช้ “สารบีเทพ” BeThEPS เพื่อยืดอายุน้ำยางสด โดยนำมาให้เกษตรกรได้ทดลองใช้ในหลายอำเภอ ได้แก่ อำเภอเวียงสา อำเภอท่าวังผา อำเภอเชียงกลาง อำเภอแม่จริม และ อำเภอสันติสุข คิดเป็นพื้นปลูกยางที่ใช้สารบีเทพประมาณ 3,700 ไร่ ซึ่งการใช้ “สารบีเทพ” BeThEPS สามารถทดแทนแอมโมเนียได้ผลดีเยี่ยม ยืดอายุน้ำยางสดได้นาน 1-3 วัน ช่วยลดความถี่ในการขนส่งน้ำยางสดและลดต้นทุนจากค่าขนส่งได้อย่างมาก เกษตรกรมีรายกำไรจากการกรีดยางได้มากขึ้น เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีเนื่องจากมีเวลามากขึ้น “ตั้งแต่ใช้ “สารบีเทพ” BeThEPS เกษตรกรบางคนซึ่งมีน้ำยางสดค้าง 2 วัน ยังสามารถนำมาส่งที่จุดรับซื้อได้โดยยังคงรักษาสภาพน้ำยางสดเพื่อใช้ผลิตยางแผ่นรมควันได้ดี นอกจากนี้ปริมาณการส่งน้ำยางสดของเกษตรกรเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ใช้แอมโมเนียผสมน้ำยางสด ส่งรวมกันได้เพียง 1.5 ตันต่อวัน แต่เมื่อใช้ “สารบีเทพ” BeThEPS มีปริมาณน้ำยางสดจากเกษตรกรส่งมาที่จุดรับซื้อเฉลี่ย 10 ตันต่อวัน ช่วยเพิ่มปริมาณการผลิตยางแผ่นรมควันที่มีคุณภาพตรงกับความต้องของการตลาด” หัวหน้ากลุ่มแปรรูปน้ำยางสด ระบุ ปัจจุบันกลุ่มแปรรูปน้ำยางสดจังหวัดน่าน มีรายได้เพิ่ม 300 ต่อวัน หลังจากใช้“สารบีเทพ” BeThEPS เนื่องจากในกระบวนการผลิตการสูญเสียยางลดน้อยลง สามารถผลิตยางแผ่นรมควันได้เฉลี่ย 70 ตันต่อเดือน จากเกษตรกรกว่า 200 ราย ที่ส่งน้ำยางสดประมาณ 240 ตันต่อเดือน นอกจากนั้นแล้วการใช้งานวิจัย “สารบีเทพ” BeThEPS จากเอ็มเทค สวทช. ยังช่วยเกษตรกรชาวสวนยางในจังหวัดน่านลดต้นทุนการขนส่งจากเดิมมากกว่าเท่าตัว ลดค่าแรงงานคน สร้างรายได้ในฤดูกาลกรีดยางเฉลี่ย 216,000 บาทต่อครัวเรือน ที่สำคัญคือช่วยลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมจากการลดใช้แอมโมเนีย ทั้งยังส่งผลดีต่อสุขภาพของเกษตรกรอีกด้วย ดร.จุลเทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ทีมวิจัยเอ็มเทค และกลุ่มแปรรูปน้ำยางสด จังหวัดน่าน ได้ส่งยางแผ่นรมควันคุณภาพที่ผ่านการใช้ “สารบีเทพ” BeThEPS ไปให้ บริษัท ยางโอตานิ จำกัด ได้นำไปผลิตต้นแบบล้อยางรถบรรทุก (Truck Bus Radial,TBR) ซึ่งผ่านการทดสอบมาตรฐานต่างๆ ว่าได้คุณภาพและเป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม คุณภาพมาตรฐานสากล ไปสู่ผู้ใช้ปลายทาง ถือเป็นการปฏิรูปกระบวนการด้านเกษตรอุตสาหกรรมได้อย่างชัดเจน จากงานวิจัย “สารบีเทพ” BeThEPS ของเอ็มเทค สวทช. ที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กลุ่มแปรรูปน้ำยางสดจังหวัดน่าน และเปลี่ยนวิถีการรักษาสภาพความสดของน้ำยางได้นานขึ้น นำไปสู่การแปรรูปเพื่อผลิตยางแผ่นรมควัน ผลผลิตที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการ นับว่าเป็นผลงานวิจัยที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมยางทั้งวงจร ตั้งแต่เกษตรกรแปรรูปเข้าสู่อุตสาหกรรมยางแผ่น และผลิตต้นแบบยางล้อรถบรรทุกคุณภาพมาตรฐานสากลไปสู่ผู้ใช้ปลายทาง ถือเป็นการปฏิรูปกระบวนการด้านเกษตรอุตสาหกรรมได้อย่างชัดเจน ในวันนี้ “สารบีเทพ” BeThEPS ได้ถ่ายทอดงานวิจัยที่ดีสู่ผู้ใช้จริง ตอบโจทย์ “รักษาความสด ลดมลพิษ เพิ่มผลผลิต สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี” ให้เกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดน่านแล้ว และจะเป็นโมเดลสู่การขยายผลไปยังพื้นที่สวนยางอื่นๆ ในประเทศไทยต่อไป เรียบเรียง : อาทิตย์ ลมูลปลั่ง, ถ่ายภาพ : ชัชวาลย์ โบสุวรรณ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สวทช.
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
บทความ
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 4 ฉ.7 – นาโนเทค สวทช. จับมือ 7 มหาวิทยาลัย ลงนาม MOU ต่อยอดโครงการศูนย์เครือข่ายการวิจัยและพัฒนาด้านนาโนเทคโนโลยีของประเทศ
นาโนเทค สวทช. จับมือ 7 มหาวิทยาลัย ลงนาม MOU ต่อยอดโครงการ ศูนย์เครือข่ายการวิจัยและพัฒนาด้านนาโนเทคโนโลยีของประเทศ 4 ตุลาคม 2561 นาโนเทค สวทช. จัดพิธีลงนามการดำเนินงานโครงการศูนย์เครือข่ายการวิจัยและพัฒนาด้านนาโนเทคโนโลยี ระยะที่ 3 ร่วมกับ 11 ศูนย์เครือข่ายฯ จาก 7 มหาวิทยาลัย ณ โรงแรม อมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ เพื่อมุ่งสร้างเครือข่ายบุคลากรวิจัยด้านนาโนเทคโนโลยีและผลักดันผลงานวิจัย ไปสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจและสังคมกับประเทศอย่างสูงสุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12211-20181004-nanotec
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 4 ฉ.7 – วท. สวทช. ผนึกกำลัง ม.มหิดล เอ็นซีซีไออี ทีเส็บ และ กทม. ดึง RoboCup 2021 จัดใหญ่ที่ไทย มุ่งปั้นไทยสู่ผู้นำอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ของอาเซียน
วท. สวทช. ผนึกกำลัง ม.มหิดล เอ็นซีซีไออี ทีเส็บ และ กทม. ดึง RoboCup 2021 จัดใหญ่ที่ไทย มุ่งปั้นไทยสู่ผู้นำอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ของอาเซียน 3 ตุลาคม 2561 - กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล บริษัทเอ็น.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล อีเว้นท์ ทีเส็บ และกรุงเทพมหานคร ประกาศยืนยันประเทศไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวิชาการหุ่นยนต์นานาชาติ รายการ RoboCup 2021 Bangkok, Thailand ในเดือนมิถุนายน 2564 พร้อมเดินหน้าผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติของอาเซียน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12202-20181003-robocup-2021
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 4 ฉ.7 – สวทช. จับมือ ม.เกียวโต มุ่งสร้าง joint-lab ร่วมวิจัยพัฒนาด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน
สวทช. จับมือ ม.เกียวโต มุ่งสร้าง joint-lab ร่วมวิจัยพัฒนาด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ แกรนด์ : ดร.กัญญวิมว์ กีรติกร ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และทคโนโลยี ร่วมงาน “Ceremony to Commemorate the Granting of NGO Status to Kyoto University and the Signing of the MOU between the NSTDA and Kyoto University” โดยมี ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมลงนามความร่วมมือกับ Dr. Kayo Inaba (ดร.คาโยะ อินาบะ) รองประธานบริหารมหาวิทยาลัยเกียวโต ด้านความเท่าเทียมทางเพศ กิจการระหว่างประเทศ และการประชาสัมพันธ์ ในโครงการวิจัยเกี่ยวกับพลังงานและสิ่งแวดล้อม ด้าน Biorefinery (อุตสาหกรรมพลังงานและเคมีชีวภาพ) พร้อมมุ่งสร้างห้องปฏิบัติการร่วมเพื่อทำวิจัยร่วมกัน เสริมความแข็งแกร่งทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) ให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้นในภูมิภาคอาเซียน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12197-20180928-mou
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 4 ฉ.7 – เพิ่มมูลค่า “กล้วย” ผสานธัญพืชจากชุมชนสู่ “กราโนล่าพาวเวอร์บาร์” ให้พลังงานสูง เจาะกลุ่มตลาดคนรักสุขภาพ
เพิ่มมูลค่า “กล้วย” ผสานธัญพืชจากชุมชนสู่ “กราโนล่าพาวเวอร์บาร์” ให้พลังงานสูง เจาะกลุ่มตลาดคนรักสุขภาพ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือไอแทป (ITAP: Innovation and Technology Assistance Program) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข ภายใต้โครงการยกระดับคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์อาหารที่บรรจุในภาชนะพร้อมจำหน่ายสำหรับผู้ประกอบการผลิตอาหารขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) สนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs เพิ่มมูลค่า “กล้วย” ผสานธัญพืชจากชุมชนสู่ “กราโนล่าพาวเวอร์บาร์”ให้พลังงานสูง เจาะกลุ่มตลาดคนรักสุขภาพ “สร้างคน สร้างงาน และสร้างอาชีพ” จากจุดเริ่มต้นแนวคิดในการทำธุรกิจของห้างหุ้นส่วนจำกัดมองดอยน่าน 1 ใน 54 ธุรกิจจาก 50 จังหวัดทั่วประเทศที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน PRIMARY GMP สู่การพัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนจาก “กล้วยอบกรอบ” ต่อยอดเป็น “กราโนล่าพาวเวอร์บาร์” ที่ให้พลังงานสูงตอบโจทย์กลุ่มคนรักสุขภาพ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12191-20180919-nstda
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 4 ฉ.7 – ก.วิทย์ ยกระดับความร่วมมือกับองค์การวิจัยนิวเคลียร์ยุโรป (เซิร์น) ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านฟิสิกส์พลังงานสูง เสริมภาพลักษณ์ของไทยสู่ประชาคมโลก
ก.วิทย์ ยกระดับความร่วมมือกับองค์การวิจัยนิวเคลียร์ยุโรป (เซิร์น) ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านฟิสิกส์พลังงานสูง เสริมภาพลักษณ์ของไทยสู่ประชาคมโลก 13 กันยายน 2561 : กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จัดพิธีลงนามความร่วมมือระหว่างประเทศระหว่างราชอาณาจักรไทย กับองค์การวิจัยนิวเคลียร์ยุโรป (เซิร์น) เกี่ยวกับความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านฟิสิกส์พลังงานสูง ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้จัดพิธีลงนามความตกลงความร่วมมือดังกล่าวนี้ ในวันที่ 13 กันยายน 2561 เวลา 17.30 น. ณ วังสระปทุม อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12181-20180913-cern
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 4 ฉ.7 – สวทช. และหน่วยงานพันธมิตร นำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานมหกรรมจีน-อาเซียน ครั้งที่ 15 ณ นครหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน
สวทช. และหน่วยงานพันธมิตร นำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานมหกรรมจีน-อาเซียน ครั้งที่ 15 ณ นครหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน 11 กันยายน 2561 – สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย โครงการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีไทย-จีน (Thailand-China Technology Transfer Center: TCTTC) และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จาก 6 หน่วยงาน รวมทั้งผู้ประกอบการจาก 16 บริษัท จำนวนรวมทั้งสิ้น 56 คน เข้าร่วมการประชุมว่าด้วยความร่วมมือด้านนวัตกรรมและการถ่ายทอดเทคโนโลยี จีน-อาเซียน ครั้งที่ 6 (The 6th Forum on China-ASEAN Technology Transfer and Collaborative Innovation) ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมหลักภายใต้งานมหกรรม จีน-อาเซียน ครั้งที่ 15 (The 15th China-ASEAN Expo) ณ นครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง สาธารณรัฐประชาชนจีน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12180-20180911-the-6th-forum-on-china-asean
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 4 ฉ.7 – ไบโอเทค สวทช. จับมือ จ.นครพนม เดินหน้า Plant Factory มุ่งสร้างเศรษฐกิจจากฐานทรัพยากรชีวภาพ ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ไบโอเทค สวทช. จับมือ จ.นครพนม เดินหน้า Plant Factory มุ่งสร้างเศรษฐกิจจากฐานทรัพยากรชีวภาพ ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) และจังหวัดนครพนม ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการสร้างมูลค่าเพิ่มเศรษฐกิจ สมุนไพรไทย ส่งเสริมสังคมคุณภาพ และเตรียมความพร้อมสู่สังคมผู้สูงอายุ” การลงนามในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสร้างเครือข่ายในการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาระบบการผลิตสมุนไพรคุณภาพด้วย Plant Factory รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตสมุนไพรแบบชีวอนามัยและการใช้สมุนไพรครบวงจร เพื่อการสร้างมูลค่าเพิ่มเศรษฐกิจสมุนไพรไทย นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมสังคมสุขภาพ และเตรียมความพร้อมสู่สังคมผู้สูงอายุ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ ที่สอดคล้องกับบริบทและชุมชนในพื้นที่บนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับประเทศ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12173-20180910-bio
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 4 ฉ.7 – นาโนเทค สวทช. จับมือ ม.เซียงไฮ้ ร่วมวิจัยวัสดุนาโน เพื่อพลังงานและสิ่งแวดล้อม
นาโนเทค สวทช. จับมือ ม.เซียงไฮ้ ร่วมวิจัยวัสดุนาโน เพื่อพลังงานและสิ่งแวดล้อม 7 กันยายน 2561 ณ อาคารกลุ่มนวัตกรรม 2 อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย - ดร.วรรณี ฉินศิริกุล ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ Prof. Liyi Shi (ศ. หลี่ยี่ ฉือ) ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเทคโนโลยีและนาโนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ (NTC-SHU) สาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมลงนามความร่วมมือในการนำนาโนเทคโนโลยีมาพัฒนางานวิจัยด้านวัสดุนาโน เพื่อพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green NanoMaterials) พร้อมแลกเปลี่ยนบุคลากรวิจัยระหว่างกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาผลงานและนักวิจัยด้านนาโนเทคโนโลยีของไทยต่อไป โดยมีคณะผู้บริหารและนักวิจัยจากนาโนเทค และ NTC-SHU เข้าร่วมงาน
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 4 ฉ.7 – เนคเทค สวทช. ส่งทีมนักศึกษาไทยคว้ารางวัลด้านการออกแบบนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์สำหรับคนพิการและผู้สูงอายุที่ประเทศจีน
เนคเทค สวทช. ส่งทีมนักศึกษาไทยคว้ารางวัลด้านการออกแบบนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ สำหรับคนพิการและผู้สูงอายุที่ประเทศจีน 7 กันยายน 2561 ณ โรงแรมเดอะสุโกศล : ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประกาศความสำเร็จทีมนักศึกษาของประเทศไทย (Global Student Innovation Challenge: gSIC)  ในงานประชุมวิชาการนานาชาติฯ i-CREATe 2018 ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-16 กรกฎาคม 2561 โดยมีสิ่งประดิษฐ์ระดับนักศึกษาจาก 7 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐสิงคโปร์ สหพันธรัฐเยอรมัน ประเทศอินเดีย และประเทศญี่ปุ่น  รวม 45 ผลงาน ผ่านการคัดเลือกและเข้าร่วมการประกวดในรอบชิงชนะเลิศ โดยการประกวดแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทผลงานด้านการออกแบบนวัตกรรมสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ (Design Category) และประเภทผลงานด้านสิ่งประดิษฐ์สำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ (Technology Category) พร้อมส่งเสริมกลุ่มนวัตกรรุ่นใหม่ด้านเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก (Assistive Innovation Startup Group) โดยมี ศ.ดร. ไพรัช ธัชยพงษ์ ที่ปรึกษาอาวุโสสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และ ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)  ร่วมงาน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12170-20180907-global-student-innovation-challenge-gsic
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย
 
จดหมายข่าว สวทช. ปีที่ 4 ฉ.7 – เอ็มเทค สวทช. จับมือ พพ. แถลงข่าวความสำเร็จการเพิ่มคุณภาพไบโอดีเซล H-FAME ในระดับโรงงานสาธิต และพร้อมทดสอบในรถยนต์
เอ็มเทค สวทช. จับมือ พพ. แถลงข่าวความสำเร็จการเพิ่มคุณภาพไบโอดีเซล H-FAME ในระดับโรงงานสาธิต และพร้อมทดสอบในรถยนต์ 5 กันยายน 2561 ณ โรงแรมรอยัลปริ๊นเซส หลานหลวง กรุงเทพฯ - กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน ภายใต้การสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน แถลงข่าวความสำเร็จการเพิ่มคุณภาพไบโอดีเซล H-FAME ในระดับโรงงานสาธิต และพร้อมทดสอบในรถยนต์ภายใต้โครงการ “สนับสนุนการเพิ่มสัดส่วนการใช้น้ำมันไบโอดีเซลให้สูงขึ้น” เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งในการผลักดันการเพิ่มสัดส่วนไบโอดีเซลในอนาคต อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/news/12154-20180905-h-fame
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย