อว. โดย สวทช. เสริมกำลังส่งนวัตกรรม “เครื่องกรองน้ำดื่มด้วยนาโนเทคโนโลยี” บรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมสนับสนุนหน้ากากอนามัยแก่เจ้าหน้าที่ทหารชายแดน
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ส่งเทคโนโลยีและนวัตกรรม ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดน่านและเชียงราย พร้อมสนับสนุนความช่วยเหลือทหารชายแดนไทย – กัมพูชา
วันที่ 8 สิงหาคม 2568 ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ผู้ อำนวยการ สวทช. ภญ.ดร.อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ พร้อมนักวิจัยศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ ส่งมอบเครื่องกรองน้ำดื่มต้นแบบที่พัฒนาโดยนาโนเทคโนโลยี พร้อมระบบติดตามคุณภาพน้ำและอุปกรณ์ตรวจวัดคุณภาพน้ำ และหน้ากากอนามัย รุ่น M01 แผ่นกรองเส้นใยละเอียด นวัตกรรมจาก สวทช. จำนวน 5,000 ชิ้น โดย นางสาวสุณีย์ เลิศเพียรธรรม หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (หน. ผตร. อว.) ผู้แทน “โครงการ อว. เพื่อประชาชน” เป็นผู้รับมอบ
เครื่องกรองน้ำไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่มสะอาดในระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของนวัตกรรมและเทคโนโลยีในการรับมือกับภัยพิบัติ ในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อรองรับปัญหาคุณภาพน้ำดื่มน้ำใช้และเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำหลากที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ สวทช. และ อว. ยังได้ร่วมส่งมอบหน้ากากอนามัยคุณภาพสูง เพื่อสนับสนุนภารกิจของเจ้าหน้าที่ทหารที่ประจำการในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ซึ่งยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเฝ้าระวังและปฏิบัติภารกิจอย่างต่อเนื่อง
เครื่องกรองน้ำดื่มต้นแบบที่พัฒนาโดยนาโนเทคโนโลยี พร้อมระบบติดตามคุณภาพน้ำและอุปกรณ์ตรวจวัดคุณภาพ เป็นการประยุกต์ใช้ถ่านกัมมันต์ชนิดเกล็ดที่ดัดแปรพื้นผิว “FerGACO” ที่นำมาผ่านกรรมวิธีทางเคมี จึงทำให้คาร์บอนที่ได้มีความจำเพาะในการดูดซับสารอินทรีย์และสารประกอบของโลหะหนักได้ อันได้แก่ ฟลูออไรด์ สารหนู โครเมียม ทองแดง ปรอท และ แคดเมียม เป็นต้น โดยบรรจุในระบบกรองน้ำดื่มแบบรวมชุดที่สามารถขนย้ายได้ง่าย ที่มาพร้อมระบบติดตามคุณภาพน้ำ อายุการใช้งานไส้กรอง รวมถึงประสิทธิภาพการกรองน้ำ ที่ทีมวิจัยศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติพัฒนาขึ้นเอง โดยใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์กลุ่ม ESP32 รองรับการทำงานบนแพลตฟอร์ม IoT ทำงานร่วมกับเซนเซอร์ตรวจวัดค่า EC/TDS ระดับอุตสาหกรรมผ่านโปรโตคอลสื่อสาร MODBUS (RS-485) ซึ่งสามารถพัฒนาให้อ่านค่าเซนเซอร์ชนิดอื่นที่ใช้โปรโตคอลสื่อสารเดียวกันเพิ่มเติมได้ในอนาคต
หน้ากากอนามัย P&T รุ่น M01 ที่นำมามอบสนับสนุนภารกิจชายแดนครั้งนี้ ใช้ไส้กรองภายในที่เป็นผลผลิตจากการวิจัยพัฒนาโดย สวทช. และผลิตขึ้นตามมาตรฐานสากลของสถาบัน American Society for Testing and Materials (ASTM) โดยถูกควบคุมดูแลภายใต้การกำกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมโดย สวทช. เพื่อให้ได้หน้ากากอนามัยที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการป้องกันฝุ่น PM2.5 และละอองฝอยเชื้อโรคทางเดินหายใจ หน้ากากอนามัย 3 ชั้น ความหนา 105 แกรม การป้องกันระดับ 1 ตามมาตรฐาน ASTM F2100: 2020 และ มอก.242 – 2562 กรองแบคทีเรียขนาดอนุภาค 3 ไมครอน กรองได้มากถึง 99.9% ต้านทานของเหลวซึมผ่านได้มากถึง 160 mmHg (มากถึงระดับ 3)
การส่งมอบเครื่องกรองน้ำและหน้ากากอนามัยในครั้งนี้ ตอกย้ำถึงแนวทางการทำงานของกระทรวง อว. ที่มุ่งเน้นการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) มาแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศอย่างเป็นรูปธรรม โดยมี สวทช. เป็นหน่วยงานหลักในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อตอบสนองความต้องการของสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ขานรับแนวทางขับเคลื่อนงานวิจัยด้านการบริหารจัดการภัยพิบัติ บูรณาการการใช้เครื่องจักรและทรัพยากรกับหน่วยงานท้องถิ่น และส่งมอบความช่วยเหลือไปยังชายแดนไทย ด้วยการนำนวัตกรรมมาช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนไทยในทุกบริบท