สวทช. จุดประกายนักวิจัยสู่ผู้ประกอบการ เปิดเวที “Startup Inspirations” แชร์ประสบการณ์ตรงจากผู้ก่อตั้งธุรกิจ
(วันที่31 กรกฎาคม 2568) ณ ออดิทอเรียม ชั้น 1 ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) : กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยฝ่ายพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี (BID) จัดเสวนาพิเศษหัวข้อ Startup Inspirations series 1 : แรงบันดาลใจสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ เพื่อเร่งกระตุ้นและก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม ๆ โดยเชื่อว่าการ Sharing & Inspiration คือหัวใจสำคัญที่จะช่วยเติมเต็มแนวคิดใหม่ ๆ และผลักดันให้กลไกนี้เติบโตได้อย่างไม่หยุดยั้ง โดยมี ดร.สมบุญ สหสิทธิวัฒน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวต้อนรับพร้อมเปิดกิจกรรม พร้อมด้วย นางศันสนีย์ ฮวบสมบูรณ์ รองผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค สวทช.) และรักษาการผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี (BID) ทั้งนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากร คุณนรินทร์ คูรานา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท จับจ่าย คอร์ปอเรชั่น จำกัด สตาร์ตอัปด้าน Ed-Tech ชั้นนำของประเทศ ในหัวข้อ “Start from Scratch” และหัวข้อเสวนา “Life is a series of Choices” โดยมี ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ร่วมด้วย ดร.ชูชาติ หฤไชยะศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท เอไอไนน์ จำกัด (AI-9) และ นายชัยภูมิ ศิริพันธ์พรชนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท บิ๊กโก อนาไลติกส์ จำกัด (BIGGO) ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ตอัป สวทช. ที่ประสบความสำเร็จ เข้าร่วมเสวนาในครั้งนี้
ดร.สมบุญ สหสิทธิวัฒน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า กิจกรรม Startup Inspirations series1 : แรงบันดาลใจสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ เกิดขึ้นจากการขับเคลื่อนตามนโยบายของผู้บริหาร สวทช. ที่มุ่งเน้นการผลักดันผลงานวิจัย สวทช. ให้เกิดการใช้ได้จริง สร้าง Ecosystem และการเสริมสร้างขีดความสามารถ ให้กับบุคลากร ซึ่งปัจจุบัน สวทช. มีกลไกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการร่วมวิจัย การจ้างวิจัย Licensing หรืออื่น ๆ และหนึ่งในช่องทางสำคัญที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์นี้โดยเฉพาะ คือ กลไก NSTDA Startup ซึ่งฝ่ายบริหารเห็นว่าเป็นกลไกที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพ เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการนำผลงานวิจัยไปสู่การใช้งานจริงได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และ สวทช.พร้อมส่งเสริม
โดยกลไก NSTDA Startup มอบโอกาสที่สำคัญให้กับนักวิจัยในการเป็นเจ้าของและผู้บริหารธุรกิจ สามารถถือหุ้นและเป็นกรรมการบริษัทได้ด้วยตนเอง ทำให้สามารถผลักดันผลงานวิจัยได้อย่างเต็มที่ และยังช่วยลดความเสี่ยงทางธุรกิจด้วยการมีพันธมิตรร่วมลงทุน อย่างไรก็ตาม เส้นทางนี้ต้องอาศัยจิตวิญญาณของผู้กล้า (Challenger) และความกล้าที่จะก้าวข้ามข้อจำกัด เพื่อไปจัดตั้งเป็นบริษัทสตาร์ตอัป รวมทั้งกลไกการบ่มเพาะ (Incubation) ก็มีส่วนสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับสตาร์ตอัป ซึ่งแน่นอนว่าการอบรมและเสวนาในครั้งนี้จะช่วยเติมเต็มความรู้และสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกท่าน โดยทั้งจากวิทยากร และจากบริษัท NSTDA Startup ของ สวทช. ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการจัดกิจกรรมครั้งแรก ในอนาคตจะมีการจัดกิจกรรมดี ๆ อย่างนี้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเชิญวิทยากรเด่นทั้งในประเทศและต่างประเทศมาแบ่งปันประสบการณ์ดี ๆ ให้ทุกท่านต่อไป
นางศันสนีย์ ฮวบสมบูรณ์ รองผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค สวทช.) และรักษาการผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี (BID) กล่าวว่า กิจกรรม Sharing & Inspiration วันนี้มีหัวข้อที่น่าสนใจจากวิทยากรจากบริษัทสตาร์ตอัปรุ่นพี่ทั้งจากบริษัทสตาร์ตอัปที่กำลังเตรียมระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และบริษัทสตาร์ตอัป สวทช. รวมทั้งได้รับมุมมองจากผู้บริหารศูนย์ฯ ที่เปิดโอกาสให้นักวิจัยจัดตั้งบริษัทสตาร์ตอัป กิจกรรมวันนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและช่วยผลักดัน Spin-off ผลงานวิจัยใช้จริง ผ่านกลไก NSTDA Startup ทั้งในหัวข้อ “Start from Scratch” และหัวข้อ “Life is a series of Choices” และเชื่อมั่นว่าทุกคนที่อยู่ในที่นี้จะได้รับแนวคิดใหม่ ๆ ที่ใช้ได้จริง และเกิดพลังที่ร่วมกันผลักดันผลงานวิจัยไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุด
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
กลไก NSTDA Startup ได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 2562 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเปิดโอกาสให้นักวิจัยสามารถ ผลักดันผลงานด้วยตัวเองและบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างอิสระ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางนอกเหนือไปจากกลไกการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เคยมี และ สวทช.ก็เป็นหน่วยงานภาครัฐรายแรก ๆ ในประเทศที่พัฒนากลไกเพื่อตอบโจทย์การผลักดันสตาร์ตอัปที่ใช้เทคโนโลยีเป็นฐาน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากลไกนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพที่แข็งแกร่ง โดยได้อนุมัติโครงการไปแล้วถึง 16 โครงการ ปัจจุบันมีอยู่ 10 บริษัท ซึ่งนับเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจและเป็นเครื่องยืนยันว่านักวิจัยของเรามีศักยภาพในการเป็นผู้ประกอบการอย่างเต็มเปี่ยม
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |