magnify
magnify

Open Knowledge for all 

Home Articles posted by waree (Page 8)
formats

มะเร็งตับจากถั่วป่น (ใกล้ตัวกว่าที่คิด)

เข้าร้านก๋วยเตี๋ยวทีไร คุณมักจะสั่งเส้นเล็กต้มยำใส่ถั่วลิสงป่นเยอะ ๆ พริกป่นแยะ ๆ เพราะติดใจในรสชาติที่หอมมันและเผ็ดร้อน แต่รู้หรือไม่ว่า คุณอาจต้องเสี่ยงกับโรคมะเร็งตับ องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization: FAO) ร่วมกับองค์การอนามัยโลก ( World Health Organization: WHO) ออกประกาศตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 ระบุให้แอฟลาท็อกซิน (Aflatoxin) เป็นสารก่อมะเร็งตับชนิดร้ายแรง และกำหนดให้มีการควบคุมระดับการปนเปื้อนในอาหารแห้งหลายรายการ โดยเฉพาะถั่วลิสงและผลิตภัณฑ์จากถั่วลิสง ซึ่งสารแอฟลาท็อกซินเป็นสารพิษอันตราย เกิดจากเชื้อราในกลุ่มแอสเปอร์จิลลัส (Aspergillus) พบมากในผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร รวมทั้งธัญพืชและผลิตภัณฑ์แปรรูป และเนื่องจากสารพิษแอฟลาท็อกซินสามารถทนความร้อนได้ถึง 250 องศาเซลเซียส ความร้อนจากการปรุงอาหารจึงไม่สามารถทำลายสารพิษนี้ได้ หากสารแอฟลาท็อกซินสะสมในร่างกายของมารดา อาจปนออกมากับน้ำนมและก่อให้เกิดอันตรายต่อทารกได้ ดังปรากฏในผลงานวิจัยการศึกษาคุณค่าอาหาร – ( 85 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

มะเร็งตับจากอาหารหมดอายุ

แม้อาหารจะหมดอายุหรือขึ้นรา คุณมักจะกินโดยไม่สนใจคำทักท้วง เพราะคิดว่าไม่เป็นไร นิสัยช่างเสียดายแบบนี้ ระวังโรคมะเร็งถามหา จากกรณีที่มีข่าวปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อไม่นานมานี้ว่า มีแม่ค้าหัวใสนำขนมปังหมดอายุมาตากแดด ตัดส่วนที่มีเชื้อราออกแล้วนำมาวางขาย ที่จังหวัดสุรินทร์และบุรีรัมย์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจึงประกาศเตือนสำนักงานสาธารณสุข จังหวัดทั่วประเทศให้ช่วยกันสอดส่องดูแลและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายของอาหารหมดอายุให้ประชาชนทราบ อาหารทุกชนิดมีระยะเวลาการเก็บรักษาที่จำกัด เมื่อพ้นวันหมดอายุ อาหารจะเริ่มเสื่อมสภาพและสูญเสียคุณค่าทางอาหาร กินอาหารหมดอายุทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะอาหารที่มีเชื้อรา ซึ่งบางครั้งอาจปรากฏบนอาหารเป็นจุดเล็ก ๆ จนไม่ทันสังเกตเห็น เมื่อกินบ่อย ๆ สารพิษจากเชื้อราอาจสะสมในร่างกายจนทำให้เกิดโรคมะเร็งหลายชนิด เช่น โรคมะเร็งตับ – ( 483 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ตายเพราะผลไม้ดอง

หลังอาหารมื้อกลางวัน คุณมักจะซื้อผลไม้จากรถเข็นเจ้าประจำเป็นของหวานตบท้าย หากไม่สังเกตให้ดี ซื้อผิดร้าน ระวังแบคทีเรีย สารกันราและสีสังเคราะห์เพียบ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และมหาวิทยาลัยสยาม ร่วมกันเก็บตัวอย่างผลไม้จากรถเข็น จำนวน 38 แหล่ง ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ผลการทดสอบหาสารปนเปื้อนพบว่า ผลไม้จำนวน 153 ตัวอย่างปนเปื้อนแบคทีเรียโคลิฟอร์มเกินค่ากว่ามาตรฐานถึงร้อยละ 67 ทั้งยังพบการปนเปื้อนของสีสังเคราะห์และสารกันราในผลไม้อีกด้วย สารกันพบสูงสุดในผลไม้ดอง และหากสะสมในร่างกายอย่างต่อเนื่องจะทำลายเยื่อบุผิวในระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ บางรายที่มีอาการแพ้อาจเกิดผื่นคันขึ้นตามตัว อาเจียน หูอื้อ มีใช้ หรือความดันโลหิตลดต่ำจนเกิดอาการช็อกและเสียชีวิต ส่วนสีสังเคราะห์นิยมใส่ในผลไม้เพื่อเพิ่มสีสันให้น่ากิน เช่น ฝรั่งดองบ๊วยที่มีสีเขียวและสีแดงเข้ม หากสะสมในร่างกายปริมาณมาก อาจเคลือบเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้ ขัดขวางการดูดซึมอาหาร ส่งผลให้ร่างกายขาดสารอาหารได้ – ( 330 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ไตวายเพราะถั่วงอกและขิง

เมื่อไปจ่ายตลาด คุณมักจะ…ซื้อถั่วงอกดิบและขิงซอยขาว ๆ ที่แลดูสะอาด (แม้จะตากลมหรือทิ้งข้ามวัน สีก็ยังคงขาว) หากกินอาหารที่ปนเปื้อนสารฟอกขาวติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้ปาก หลอดอาหาร  และกระเพาะอาหารอักเสบ ทั้งอาจทำให้เกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ปวดท้อง ปวดศีรษะ อาเจียน ท้องร่วง และหากแพ้สารนี้อย่างรุนแรงอาจถ่ายเป็นเลือด ซ็อก ไตวาย และเสียชีวิตในที่สุด วิธีเลือกซื้อถั่วงอกและขิงให้ถูก คือ 1.    ซื้อถั่วงอกและขิงซอยที่ไม่ดูขาวจนผิดธรรมชาติ ขิงนั้น เมื่อปอกเปลือกแล้วจะมีสีคล้ำเนื่องจากสัมผัสกับอากาศ ส่วนถั่วงอก เมื่อเด็ดรากออก บริเวณที่ฉีกขาดจะมีสีคล้ำขึ้น 2.    ลวกถั่วงอกและขิงซอยในน้ำเดือดก่อนกิน เพราะความร้อนจะทำลายสารฟอกขาว ช่วยให้ปลอดภัยกว่ากินแบบสด ๆ 3.    ปลูกถั่วงอกกินเอง ส่วนขิงนั้น หากต้องซื้อ ควรซื้อแบบเป็นแง่ง แล้วปอกเปลือกและซอยเอง (อย่าลืมล้างให้สะอาดก่อน) แหล่งที่มา  : ธิษณา จรรยาชัยเลิศ. “ชีวจิต : ไตวายเพราะถั่วงอกและขิง”. ชีวจิต. 14 (326) ; 67 ; พฤษภาคม 2555.–

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ตายเพราะน้ำแข็ง

จากการตรวจสอบของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบพบว่า น้ำแข็งหลอดมีเชื้อแบคทีเรียชนิด อี.โคไล และเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคชนิดซาลโมเนลลาปริมาณสูงในระดับที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะทำให้ท้องเสีย อุจจาระเหลว ส่วนเชื้อจุลินทรีย์ก่อกรดชนิดซาลโมเนลลาจะก่อให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ ทำให้มีอาการไข้ ปวดศีรษะ ท้องเดิน อาเจียน และถ้าเด็กอ่อนหรือผู้สูงอายุได้รับเชื้อ อาจมีอันตรายถึงขั้นเสียชิวิต วิธีที่ควรปฏิบัติ คือ ควรเลือกร้านอาหารที่สะอาดและเก็บน้ำแข็งอย่างถูกสุขลักษณะ กล่าวคือ ไม่แช่น้ำแข็งปนกับอาหารชนิดอื่นและเมื่อสังเกตก้อนน้ำแข็งด้วยตาเปล่า ควรมีลักษณะใสสะอาดและปราศจากฝุ่นละอองปนเปื้อน แหล่งที่มา :  ธิษณา จรรยาชัยเลิศ. “ชีวจิต : ตายเพราะน้ำแข็ง”. ชีวจิต. 14 (326) ; 67 ; พฤษภาคม 2555.– ( 73 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

สตรอว์เบอร์รีพันธุ์พระราชทาน…สตรอว์เบอร์รีตามพระราชดำริ

สตรอว์เบอร์รีพันธุ์พระราชทานเกิดขึ้นจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ต้องการสร้างอาชีพให้ชาวเขาแทนการปลูกฝิ่น โดยหาพืชชนิดอื่น ๆ ให้ปลูกทดแทน โครงการวิจัยสตรอว์เบอร์รีจึงเป็นอีกหนึ่งโครงการที่เริ่มดำเนินการในระหว่าง พ.ศ. 2517 – 2522 โดยได้รับทุนวิจัยจากทางฝ่ายงานวิจัยกระทรวงเกษตร ประเทศสหรัฐอเมริกา มีการนำสตรอว์เบอร์รีพันธุ์ต่าง ๆ เข้ามามากมาย เพื่อทดลองปลูกตามสถานีทดลองเกษตรที่มีระดับความสูงต่างกัน รวมทั้งศึกษาเรื่องของโรคแมลง การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว การบรรจุหีบห่อ และตลอดจนทางด้านการตลาดและส่งเสริมสู่เกษตรกรในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายผลจากการทดลองที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องก็ทำให้ได้สตรอว์เบอร์รีพันธุ์พระราชทานหลายพันธุ์ดังต่อไปนี้ สายพันธุ์ สายพันธุ์พระราชทานเบอร์ 16 เป็นพันธุ์ที่ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี ผลขนาดปานกลางถึงใหญ่ มีสีแดง ค่อนข้างทนต่อสภาพอุณหภูมิสูง ทนต่อการขนส่งค่อนข้างอ่อนแอต่อโรคใบจุด เหมาะสำหรับการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ สายพันธุ์พระราชทาน 20 เจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำมีผลขนาดใหญ่ ผลนิ่ม สีแดงสด กลิ่นหอม รสหวาน ทนทานต่อโรคใบจุด ไม่ทนการขนส่ง สายพันธุ์พระราชทาน 50 (พระราชทานเมื่อ พ.ศ. 2539 ซึ่งเป็นปีฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี) เป็นสายพันธุ์จากประเทศสหรัฐอเมริกานำเข้ามาคัดเลือกโดยการผสมตัวเองตั้งแต่ พ.ศ. 2536 เจริญเติบโตได้ดีในอากาศเย็นปานกลาง มีลักษณะเป็นทรงพุ่มรูปร่างเป็นลิ่มสีแดงถึงสีแดงเข้ม แต่ต้านทานราได้ดี สายพันธุ์พระราชทาน 70 (ตรงกับ

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

โดมศิลาทองแห่งเยรูซาเล็ม

โดมศิลาทองแห่งเยรูซาเล็ม เป็นศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม ตั้งอยู่กลางใจ เมืองบนเทมเปิลเมาด์แห่งกรุงเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล นับเป็นศาสนสถานของศาสนาอิสลามที่เก่าแก่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 1232 (ค.ศ.689) ริเริ่มการก่อสร้างโดย อูเมย์ยาดกาลิป อับด์ อัล-มาลิก อิบน์ มาร์วาน และควบคุมการก่อสร้างโดยสองวิศวกร ยาชิด อิบน์ ชาลาม จากเยรูซาเล็ม และ ราชา อิบน์ เฮย์วาห์ จากเบย์ชาน จนแล้วเสร็จลงใน พ.ศ.1234 (ค.ศ.691) โดยหวังเป็นที่พำนักของชาวมุสลิม และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับผู้จาริกแสวงบุญ โครงสร้างพื้นฐานมีลักษณะเป็นแปดเหลี่ยม ประกอบด้วยโดมไม้สีทองที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 20 เมตร กำแพงด้านนอกประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ และกระจกอย่างงดงาม แหล่งที่มา : น้องโนเนะ. “สิ่งสร้างมหัศจรรย์ : โดมศิลาทองแห่งเยรูซาเล็ม”. Update. 28 (305) ; 105 ; มีนาคม 2556– ( 219 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

โรเบิร์ต วิลเฮล์ม อีเบอร์ฮาร์ด บุนเสน (Robert wilhelm eberhard bunsen)

โรเบิร์ต วิลเฮล์ม อีเบอร์ฮาร์ด บุนเสน เป็นนักเคมี ชาวเยอรมัน เกิดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ.1811 ที่ฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมนี  ส่วนชีวิตของโรเบิร์ต บุนเซน นั้น เขาเติบโตมาในครอบครัวของศาสตราจารย์ด้านภาษาศาสตร์สมัยใหม่ และหัวหน้าบรรณารักษ์แห่งมหาวิทยาลัยเกิตทิงเกน เขาได้รับการศึกษาเล่าเรียนเหมือนเด็กปกติ โดยสนใจด้านเคมีเป็นพิเศษ และเริ่มมุ่งเน้นศึกษาต่อทางด้านเคมีจนจบปริญญาเอก ขณะที่อายุได้เพียง 22 ปีเท่านั้น และหลังจากที่เขาเรียนจบแล้ว ก็ได้เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเดิตทิงเกน สถาบันเดียวกันกับพ่อและแม่ ก่อนที่จะได้รับเกียรติให้ไปสอนในมหาวิทยาลัยมาร์เบิร์ก ซึ่งตลอดเวลาที่เป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัยนั้น เขาก็ค้นคว้าทางด้านเคมีอย่างต่อเนื่อง ด้วยความรักทางด้านเคมี ทำให้เขาทดลองสารต่าง ๆ จนเกือบจะเสียชีวิตเพราะพิษสารหนูมาแล้ว และยิ่งไปกว่านั้น ตาขวาเขายังมองไม่เห็นหลังจากเกิดการระเบิดของคาโคดิลอีกด้วย – ( 466 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ไมโครชิป ตรวจจับเซลล์มะเร็งในเลือด

ก้าวใหม่ของการค้นคว้าเพื่อรักษามะเร็งในเลือด บริษัท Clearbridged BioMedical Pte ได้พัฒนาเทคนิคใหม่ที่จะแยกเซลล์มะเร็งออกจากกระแสเลือด เพื่อให้ได้เซลล์มะเร็งในจำนวนที่มากพอ เพื่อนำไปค้นคว้าวิจัยหาแนวทางการรักษาต่อไป โดยบริษัทได้ใช้เทคโนโลยีนาโนมาพัฒนาไมโครชิปชีวภาพที่คัดกรองของเหลวที่มีขนาดเล็กมาก ไมโครชิปที่บริษัทได้พัฒนาขึ้นนั้น จะประกอบไปด้วยตัวดักจับเซลล์มะเร็งที่มีรูปทรงแบบกล้องจุลทรรศน์ จำนวนหลายพันตัว เมื่อนำตัวอย่างเลือดมาหยอดบนแผ่นไมโครชิปนี้เซลล์เม็ดเลือดที่ปกติจะไหลตามปกติ ผ่านตัวดักจับไปทุกทิศทาง แต่เซลล์มะเร็งจะถูกกักไว้ เพราะเซลล์มะเร็งมีขนาใหญ่กว่าเซลล์ปกติ วิธีนี้ยังทำให้เม็ดเลือดปกติบอบช้ำน้อยที่สุดอีกด้วย การตรวจแบบใหม่ด้วย ไมโครชิปนี้จะทำให้แพทย์สามารถทราบได้ทันทีว่าผู้ป่วยมะเร็งยังมีมะเร็งเนื้อร้ายอยู่หรือไม่ จะทำให้มีการแนวการรักษาที่แม่นยำมากขึ้น และการเข้าใจถึงเซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปได้อย่างไร จะสามารถตรวจพบโรคได้เร็วขึ้นและทำการรักษาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและทันการณ์ แหล่งที่มา : “Health Technology : ไมโครชิปตรวจจับเซลล์มะเร็งในเลือด”. การเงินธนาคาร. (368) ; 286 ; ธันวาคม 2555.– ( 66 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

โรคมือ เท้า ปาก รับมืออย่างไรให้ไกลจากโรค

เมื่อไม่นานมานี้ ข่าวโรคมือ เท้า ปาก ที่ระบาดในเด็ก ได้มีการนำเสนออย่างต่อเนื่อง จนทำให้โรงเรียนเหล่านี้ต้องปิดการเรียนการสอน เพื่อทำความสะอาดสถานที่ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกัน และอยู่ให้ห่างจากโรคดังกล่าว เรามาทำความรู้จักโรคนี้กันให้มากขึ้น โรคมือ เท้า ปาก เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโรไวรัสหลายสายพันธุ์ย่อย โดยโรคนี้ถูกพบเมื่อ พ.ศ. 2500 ที่เมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา โดยเด็กจะมีอาการไข้และเกิดตุ่มน้ำใสในช่องปาก ต่อมาก็เกิดการระบาดอีกที่เมือง เบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ จนมีการเรียกกลุ่มอาการที่พบนี้ว่า โรคมือ เท้า ปาก ซึ่งประเทศเขตหนาวจะพบในช่วงฤดูร้อน ส่วนในประเทศเขตร้อนพบได้ตลอดทั้งปี ส่วนใหญ่จะระบาดในโรงเรียนอนุบาลหรือระดับประถม การติดต่อนั้นจะเกิดการสัมผัสโดยตรงจากน้ำลาย น้ำมูก หรืออุจจาระของผู้ป่วย อาการของโรคนี้จะเริ่มจากไม่สบาย มีไข้ประมาณ 36 ถึง 39 องศา อยู่หนึ่งถึงสองวัน เบื่ออาหาร เจ็บคอ มีน้ำมูก มีผื่นแดงอักเสบที่ลิ้น เหงือก ฝ่ามือ ฝ่าเท้า จะเป็นเช่นนี้ประมาณ 10 วัน อาการต่างๆ ก็จะทุเลา แต่ถ้ามีอาการซึม ไม่รับประทานอาหาร

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments