magnify
magnify

Open Knowledge for all 

Home Articles posted by Valaiporn Changkid (Page 7)
formats

27 สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าอัศจรรย์

วันนี้หลังจากมีประชุมเครียดๆ ในช่วงเช้า ช่วงบ่ายๆ เลยนึกอยากจะไปท่องเที่ยวซะหน่อยเลยชมนกชมไม้ในโลก Social ไปเรื่อยเปื่อย จนมาสะดุดกับภาพวิวทิวทัศน์ที่ธรรมชาติได้แต่งแต้มสีสันไว้อย่างสวยงาม เลยคลิกเม้าท์เข้าไปดูว่าสถานที่แห่งนั้นคือที่ไหน แล้วก็ได้พบว่าเว็บไซต์ MThai ได้เก็บรวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวเหนือจริง 27 แห่งไว้ จึงขอนำมาแชร์ต่อให้กับสาวกที่หลงรักความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ได้สร้างสรรความวิจิตรขึ้นมาบนโลกใบนี้ จะมีที่ไหนบ้าง และมีที่ไหนบ้างที่พอจะหยอดกระปุกไปชื่นชมได้บ้าง ^^ – ( 168 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

การพยากรณ์อวกาศ (อุตุอวกาศ)

บีบีซีรายงานว่า สำนักงานพยากรณ์อากาศสหรัฐเตรียมเพิ่มแผนงานใหม่ในฤดูใบไม้ผลิปี 2557 โดยจะเริ่มพยากรณ์สภาพแวดล้อมในอวกาศ เพื่อเตือนองค์กรของรัฐและภาคธุรกิจ เกี่ยวกับปรากฏการณ์ในอวกาศที่อาจส่งผล กระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน อาทิ พายุสุริยะ ที่อาจส่งผลให้ระบบไฟฟ้า การสื่อสารผ่านคลื่นวิทยุและดาวเทียมขัดข้อง โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจาก กรมธุรกิจของสหรัฐ เป็นเงินถึง 1.5 แสนล้านบาท ในช่วงระยะเวลา 3 ปี เพื่อให้สำนักงานพยากรณ์อากาศของสหรัฐพัฒนากระบวนการพยากรณ์สภาพดังกล่าวให้มีความแม่นยำ มากที่สุด โดยร่วมกับองค์การบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติ (โนอา) ของสหรัฐ ทั้งนี้ ต้นเหตุของพายุสุริยะ เกิดจาก เปลว สุริยะ (โซลาร์แฟล) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในบรรยากาศของดวงอาทิตย์หลังเกิดการระเบิดขนาดใหญ่ (มาส โคโรนอล อีเจ๊กชั่น) ที่เกิดขึ้นเฉลี่ยทุกๆ 11 ปี โดยสามารถส่งผลกระทบทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าของดาว เทียมเสียหาย และทำให้ระบบไฟฟ้าบนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบบนโลกปั่นป่วนทำให้เกิดไฟดับทั่วประเทศ (แบล็กเอาต์) ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี 2532 ที่เมืองควิเบก ประเทศแคนาด แหล่งที่มา : “สหรัฐเริ่มรายงานสภาพ อุตุอวกาศ”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้ที่ : http://forum.khonkaenlink.info/index.php?topic=17210049.0 (วันที่ค้นข้อมูล 26

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

เหตุผลที่นกบินเกาะกลุ่มเป็นตัว V

เคยสังเกตุการบินของเหล่าฝูงนกบนท้องฟ้ากันหรือไม่ว่าทำไมฝูงนกถึงได้เกาะกลุ่มบินกันเป็นลักษณะตัว V เหตุที่ฝูงนกพากันบินหมู่เป็นรูปตัว V ส่วนใหญ่ ก็เพื่อให้อาศัยประโยชน์จากลมส่ง เมื่อตัวข้างหน้ากระพือปีกได้มากที่สุด นกตัวที่บินตามมาจะได้รับแรงยกตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพการบินของนกทั้งฝูงเพิ่มมากขึ้น และในขณะเดียวกันในฝูงนกที่บินอยู่ด้วยกันนี้หากนกที่บินอยู่ข้างหน้ารู้สึกเหนื่อยล้า แรงเริ่มถอยลงก็จะบินถอยหลังมาให้ตัวที่อยู่ข้างหลังได้บินขึ้นข้างหน้าแทน ในขณะเดียวกันฝูงนกที่อยู่ข้างหลังก็จะส่งเสียงร้องเพื่อให้กำลังใจนกที่อยู่ข้างหน้าเพื่อให้รักษาระดับความเร็วต่อไป และท้ายที่สุดหากในฝูงนกที่บินมาด้วยกันนี้มีนกตัวหนึ่งตัวใดเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ นกอีกสองตัวในฝูงจะบินมาประคองเพื่อดูแลจนกว่าจะหายดี หรือตายจากกันไป นกสองตัวนี้จะบินตามหาฝูงของตัวเองที่บินมาด้วยกันให้ทัน นักวิจัยจากคณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยลอนดอน ได้พบว่านกในฝูงแต่ละตัวจะกระพือปีกในจังหวะที่ลมส่งอำนวย และพร้อมกับเลี่ยงการทวนลมให้มากที่สุดด้วย แต่ไหนแต่ไรมานักวิทยาศาสตร์ไม่คาดว่าพวกมันจะสามารถบินหมู่แบบนี้ได้เอง เพราะต้องอาศัยความรู้ในเรื่องการเคลื่อนที่ของวัตถุในอากาศที่ยุ่งยาก ทั้งยังจะต้องมีประสาทสัมผัสที่ไวอีกด้วย นักวิทยาศาสตร์ได้อาศัย ศึกษารูปแบบการบินของมัน โดยการนั่งยานบินชนิดเบา ติดตามดูการบินของฝูงนกยางหัวล้าน ตอนมันบินอพยพข้ามประเทศ จากออสเตรียลงใต้ไปยังอิตาลี แหล่งที่มา : “นกรู้หลักในการบินเกาะหมู่เป็นรูปตัว V”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้ที่ : http://forum.khonkaenlink.info/index.php?topic=17216802.0. (วันที่ค้นข้อมูล 26 มกราคม 2557). “นกบินเป็นรูปตัว V”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้ที่ : http://www.neutron.rmutphysics.com/teaching-glossary/index.php?Itemid=11&id=9147&option=com_content&task=view. (วันที่ค้นข้อมูล 26 มกราคม 2557). – ( 362 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

คอลเลคชั่นพิเศษจากโค้กสำหรับฟุตบอลโลก 2014

ฤดูกาลของสิงห์นักเตะประจำปีกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งแล้วใน “ฟุตบอลโลก 2014″ ที่จัดขึ้น ณ ประเทศบราซิล และจะเรียกว่าเป็น “ธรรมเนียมปฏิบัติ หรือ ธรรมเนียมนิยม” ก็ว่าได้สำหรับแบรนด์เครื่องดื่มน้ำดำระดับโลกอย่าง “Coke” ที่ตั้งใจออกแบบขวด หรือ สิ่งของที่เป็นคอลเลคชั่นพิเศษๆ สำหรับฤดูกาลนี้เสมอๆ เช่นเดียวกันในปี 2014 นี้ที่กำลังเกิดเทศกาลฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล โค้กเองก็ไม่พลาดที่จะออกแบบขวดในคอลเลคชั่นพิเศษเพื่อสร้างสีสันและความตื่นเต้นให้แก่ชาวบอล (เรียกว่าเป็นการกระตุ้นยอดขายให้คึกคักยิ่งขึ้นในช่วงฟุตบอลโลก) เทศกาลฟุตบอลโลก 2014 นี้ โค้กตั้งในผลิตขวดหรือฉลากติดขวดเครื่องดื่มในคอลเลคชั่นเป็นขวดไซส์เล็กที่ไม่ได้บรรจุน้ำอัดลมไว้แต่อย่างใด หรือขนาดเท่ากับพวงกุญแจห้อยกระเป๋า เพียงเพื่อให้เป็นของสะสมเท่านั้น โดยโค้กได้แรงบันดาลใจในการดีไซน์ขวดในครั้งนี้จากธงชาติของประเทศเจ้าภาพฟุตบอลโลกที่ผ่านมาในอดีตทั้งหมด 15 ประเทศ อาทิ อาร์เจนติน่า, ญี่ปุ่น, แม็กซิโก, อเมริกา, อังกฤษ, เยอรมัน, สเปน, ฝรั่งเศส, อิตาลี, แอฟฟิรกาใต้, และ เกาหลี โดยรวมประเทศเจ้าภาพในอนาคตอีก 3 ปีไว้ได้วย ได้แก่ บราซิล, รัสเซีย และกาตาร์ ซึ่งโค้กได้มีระบบการเชื่อมต่อผ่านแอพพลิเคชั่นเฟสบุ๊คในไอโฟน และแอนดรอยด์ แฟนๆ

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ช็อกโกแลตกับไวน์ ต้นโรคเบาหวาน

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยของอักฤกษ ศึกษาพบว่าการกินช็อกโกแลตและดื่มเหล้าไวน์แดง อาจจะช่วยป้องกันโรคเบาหวานแบบที่ 2 ได้ โดยนักวิจัยได้พบในการศึกษากับคนจำนวนเกือบ 2,000 คนว่าการกิจและดื่มของเหล่านี้จะช่วยลดอาการ “ดื้ออินซูลิน” และสามารถรักษาระดับน้ำตาลในเลือด เพราะเหตุว่ามันช่วยลดการอักเสบที่เกิดขึ้น เนื่องจากว่าหากปล่อยทิ้งไว้ให้เรื้อรัง อาจทำให้เป็นเบาหวาน โรคอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือด แม้กระทั่งมะเร็งได้ ศาสตราจารย์เอดิน แคสวิดี้ โรงเรียนแพทย์นอร์วิชชี้แจงว่า “การวิจัยของเรามุ่งที่คุณประโยชน์ในการกินอาหารกลุ่มย่อยบางอย่างที่อุดมด้วยสารฟลาโวนอยด์ เราสนใจสารนี้ที่มีอยู่ในผักและสมุนไพรอย่างผักชีฝรั่ง ไม้จำพวกสาระแหน่ ต้นเซเลอรี่ กับสารแอนโธไซยานินส์ ที่มีอยู่ในผลไม้ลูกเล็ก องุ่นแดง และผักผลไม้ที่มีสีน้ำเงินแดง” ครั้งนี้นับเป็นการศึกษาดูว่าสารประกอบที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพเหล่านี้จะสามารถช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้ ผลจากการทดลองในห้องปฏิบัติการได้แสดงว่าอาหารเหล่านี้ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคเบาหวานได้ แหล่งที่มา : “ช็อกโกแลตกับไวน์ ต้นโรคเบาหวาน”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้ที่ : http://www.thairath.co.th/content/edu/398413. (วันที่ค้นข้อมูล 24 มกราคม 2557).– ( 6 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

เฉาก๊วย

“เฉาก๊วยมาแล้วครับ…เฉาก๊วย หวานเย็นชื่นใจมาแล้วครับ” ทุกๆ วันเสาร์และอาทิตย์ ที่เป็นวันหยุดพักผ่อนของมนุษย์เงินเดือนตามหมู่บ้าน ที่พักอาศัย มักจะได้ยินเสียงร้องเรียกของพ่อค้าแม่ค้าเพื่อนำเสนอขายสินค้าเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคในแต่ละวัน “เฉาก๊วยเย็นๆ” ก็เช่นกัน มักจะได้ยินเสียงร้องเรียกอยู่เป็นประจำ เฉาก๊วย ขนมหวานเย็นที่ต้องกินพร้อมกับน้ำเชื่อมบ้าง หรือบางเจ้าก็เพิ่มความหวานหอมด้วยการโรยหน้าด้วยน้ำตาลทรายแดง มีรูปร่างสี่เหลี่ยมลักษณะสัมผัสเด้งๆ นุ่มๆ คล้ายวุ้นแต่มีความหยุ่นกว่า – ( 359 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ปลาแช่แข็งเฉียบพลันในอ่าวของนอร์เวย์

ยาฮูนิวส์ (สถานีโทรทัศน์และวิทยุแห่งนอรเวย์ NRK) ได้เผยแพร่ภาพสุดช็อค ภาพของน้ำในอ่าวแห่งหนึ่งรอบๆ เกาะโลวุนด์ของนอร์เวย์ที่แข็งตัวอย่างเฉียบพลับ ผลจากความแปรปรวนของอากาศที่อุณหภูมิดำดิ่งลง -7.8 องศาเซลเซีย ประกอบกับมีลมพัดแรง ภาวะอากาศที่หนาวเย็นลงอย่างกระทันหันทำให้น้ำอ่าวเกิดการแข็งตัวอย่างเฉียบพลันทำให้ฝูงปลาที่หลายพันตัวที่หนีตะเกียกกายเอาตัวรอดจากนักล่าแห่งท้องน้ำอย่างเช่น วาฬ มายังอ่าวแหล่งนี้ พวกปลาที่หนีตายนี้จึงอาศัยกันอยู่อย่างแออัดและเกิดอาการปรับตัวรับสภาพหนาวเย็นไม่ทันทำให้ตายหลายพันตัวติดอยู่คาสายน้ำที่แข็งตัวนั้น นี่ไม่ใช่ปรากฎการณ์แรกที่พบเห็นสัตว์ต้องแข็งตายติดอยู่ภายใต้สายน้ำที่แข็งตัวของนอร์เวย์นี้ ก่อนหน้านั้นยังมีผู้พบเห็นกวางมูสตัวหนึ่งติดแข็งตายอยู่ใต้สายน้ำที่แข็งตัวในทะเลสาบคอสโม แหล่งที่มา : ภาพสุดอึ้ง! นอร์เวย์หนาวเฉียบพลัน ฝูงปลาหลายพันตายแหง็กคาอ่าวน้ำแข็ง. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้ที่ : http://manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9570000006158. (วันที่ค้นข้อมูล 23 มกราคม 2557).  – ( 11 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

เพชรจากเถ้ากระดูกมนุษย์

การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักยังความโศกเศร้าให้กับครอบครัวเป็นอย่างมากบางครอบครัวก็อาจจะทำใจกับการสูญเสียบุคคลในครอบครัวอันเป็นที่รักไม่ได้ แต่ในปัจจุบันนี้มีคนกลุ่มหนึ่งที่เลือกจะรักษาบุคคลอันเป็นที่รักของเค้าไว้ในรูปของอัญมณีอันทรงคุณค่า โดยการ “แปลงเถ้ากระดูกมนุษย์ให้เป็นเพชร” สถาบันอัลกอร์แดนซ่า (Algordanza) ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์สามารถคิดค้นเทคโนโลยีที่สามารถเปลี่ยนเถ้ากระดูกของมนุษย์ให้กลายเป้นเพชรแท้เพื่อเป็นอัญมณีแห่งความทรงจำที่ “เลอค่า อมตะ…ตลอดกาล” สถาบันอัลกอร์แดนซ่าค้นพบว่าองค์ประกอบพื้นฐานทางเคมีระหว่างเพชรและเถ้ากระดูกนั้นตรงกันอยู่หลายอย่าง อาทิ คาร์บอน กราไฟต์ และเกลือ ซึ่งเมื่อนำเถ้ากระดูกมาผ่านกระบวนการอัดแรงดันสูงและความร้อนสูงถึง 1300 องศาเซลเซียส (เช่นเดียวกับเพชรธรรมชาติเคยผ่านมาแล้วเป็นเวลานับร้อยปี) เมื่อผ่านกระบวนการดังกล่าวแล้วจะได้เพชรดิบจากเถ้ากระดูกแล้วสามารถนำเพชรดิบนี้ไปเจียระไนเพื่อให้เกิดความเงางามได้ สนนราคาในการทำเพชรจากเถ้ากระดูกนี้อยู่ระหว่าง 5,000-22,000 USD ในช่วงเริ่มแรกนั้นรับทำแต่เพชรที่เป็นเถ้ากระดูกจากมนุษย์เท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้สามารถผลิตเพชรจากเถ้ากระดูกสัตว์ได้แล้ว (วิดีโอของ Algordanza ในการผลิตเพชรจากเถ้ากระดูก http://www.youtube.com/watch?v=bdLLpGnqmyo) แหล่งที่มา : “อัญมณีแห่งชีวิต” เมื่อเถ้ากระดูกสลายกลายเป็นเพชร. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้ที่ : http://www.tcdc.or.th/src/14541/www-tcdcconnect-com/-อัญมณีแห่งชีวิต-เมื่อเถ้ากระดูกสลายกลายเป็นเพชร. (วันที่ค้นข้อมูล 23 มกราคม 2557).– ( 30 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

“มดสีรุ้ง” วิทยาศาสตร์ ศิลปะ บนความบังเอิญ

ภาพ “มดสีรุ้ง” นี้เป็น 1 ใน Top 10 ประจำเดือนที่เป็นการรวบรวมเนื้อหาต่างๆ ที่ “สำรวจโลก” ได้โพสลงบน  www.facebook.com/samrujlok มาจัดอันดับโดยนำเนื้อหาที่มีแฟนเพจกดไลท์มากที่สุดในแต่ละเดือนมาให้ชมกัน โดยภาพ “มดสีรุ้ง” เป็นภาพยอดนิยมของเดือนพฤษภาคม 2013 มดสีรุ้งที่เห็นอยู่นี้เป็นภาพถ่ายที่สร้างสรรค์โดย Dr. Babu การที่มดเป็นสีรุ้งนี้ค้นพบจากความช่างสังเกตของเขา จากการที่วันหนึ่งภรรยาของ Dr. Babu ได้ทำนมหกบนพื้นแล้วมีมดมารุมดื่มกินนมที่หกบนพื้นนั้น Dr.Babu ได้สังเกตเห็นท้องของมดจากเดิมที่เคยมีลักษณะใสๆ เกิดเป็นสีขาวขุ่นเหมือนกับสีของนมที่มดได้ดื่มเข้าไป เมื่อเห็นดังนั้น Dr.Babu จึงได้ทดลองนำสีต่างๆ ผสมกับน้ำเชื่อม เช่น สีแดง สีน้ำเงิน สีเขียว และสีเหลือง แล้วหยดลงบนพื้นเพื่อล่อให้มดเข้ามากิน ผลที่เกิดขึ้นคือท้องของมดที่ดื่มกินน้ำเชื่อมสีต่างๆ นั้นจะแสดงเป็นสีตามที่มดได้ดื่มน้ำเชื่อมผสมสีเข้าไป และสิ่งที่ Dr.Babu สังเกตเห็นยิ่งกว่านั้นคือ ดูเหมือนว่าเหล่ามดทั้งหลายนี้จะชอบสีเขียวและสีเหลืองมากเป็นพิเศษ ด้วยความที่ Dr.Babu เป็นนักวิทยาศาสตร์ จึงให้นิยามของการทดลองนี้ว่า “you are what you eat” ดั่งที่คนไทยชอบพูดกันเสมอว่า “กินอะไรย่อมได้อย่างนั้น”

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

“Biblio Tech Library” ต้นแบบห้องสมุดไร้เล่ม

ห้องสมุดที่เรารู้จักกันตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบัน จะมีภาพที่จดจำกันได้อย่างแม่นยำคือจะต้องมี บรรณารักษ์เสียงเข้ม ชั้นหนังสือเรียงราย รายล้อมไปด้วยหนังสือขนาดน้อยใหญ่ ตู้บัตรรายการ (ปัจจุบันอาจจะไม่ค่อยได้เห็นกันแล้ว) ห้องสมุดเป็นเสมือนแหล่งรวบรวมความรู้ต่างๆ ในทุกๆ แขนงไว้อย่างคับคั่ง ห้องสมุดเป็นสถานที่ที่ทุกๆ คนสามารถเข้าไปค้นคว้าหาความรู้ได้จากตัวเล่มหนังสือ วารสาร นิตยสาร ห้องสมุดแต่ละแห่งกว่าจะก่อตั้งขึ้นมาได้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ละแห่งจะต้องมีเงินทุนมากพอที่จะใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ ค่าดูแลซ่อมบำรุงหนังสือ ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อจัดหาวัสดุอุปกรณ์ในการวางหนังสือ ในปัจจุบันนี้ ห้องสมุด Biblio Tech Library ที่สหรัฐอเมริกา เป็นห้องสมุดรูปแบบใหม่เป็นห้องสมุดที่ “ไม่มีหนังสือแม้แต่สักเล่มเดียว” ห้องสมุด Biblio Tech Library มีความรู้ให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปค้นคว้าได้จาก e-Book ที่เก็บรวบรวมไว้กว่า 10,000 เล่ม ผ่านการให้บริการด้วย iMac และ iPad ซึ่งตั้งเรียงรายเต็มไปหมดภายในพื้นที่การให้บริการ โดยห้องสมุดแห่งนี้พยายามตกแต่งให้คล้ายกับ Apple Store ซึ่งทุกคนสามารถเข้าใช้บริการได้อย่างง่ายดาย นอจากนี้ยังมีห้องย่อยเล็กๆ เพื่อใช้สำหรับการพบปะ หรือ ศึกษาเรียนรู้แบบกลุ่มย่อยได้อีกด้วย นาย Ashley Elkholf หัวหน้าบรรณารักษ์ประจำห้องสมุด Biblio Tech

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments