ASI ผู้ประกอบการบริการระบบงานเกษตรอัจฉริยะ ฟันเฟืองสู่เกษตร 4.0

“สถานการณ์สภาพอากาศในปัจจุบันและการขาดแคลนน้ำ เรามองว่าระบบฟาร์มรักษ์น้ำฯ ช่วยให้เกษตรกรให้น้ำได้เหมาะกับความต้องการของพืชและลดการสูญเสียน้ำโดยไม่จำเป็นได้ ข้อมูลในระบบฯ จะเป็น Big Data ที่เป็นประโยชน์ของเกษตรกรและบริษัท กระตุ้นให้เกิดการใช้เทคโนโลยีเพื่อใช้คาดการณ์บริหารจัดการแปลง หรือนำไปพัฒนาเทคโนโลยีต่อได้ จากที่เราให้บริการแนะนำ ติดตั้งและบำรุงรักษาระบบฟาร์มรักษ์น้ำฯ กับเกษตรกร ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เริ่มสนใจเทคโนโลยี ต้องการใช้เพื่อทำสวนสะดวกสบายขึ้น เน้นเปิดปิดให้น้ำผ่านมือถือ กลุ่มที่สองประมาณ 30% จะใช้ข้อมูลจากเซนเซอร์ แล้วเปิดปิดระบบ และกลุ่มสุดท้ายประมาณ 10% ที่ใช้ข้อมูลจากเซนเซอร์ร่วมกับประสบการณ์ แล้วเอาไปคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้น”

“โดยส่วนตัวสนใจด้านเกษตรอยู่แล้ว ไปหาความรู้หลายที่รวมถึงอบรมกับ สวทช. ทำให้ได้รู้จักโรงเรือนอัจฉริยะ เราทำด้านออกแบบเครื่องจักรอุตสาหกรรมมีความพร้อมด้านเครื่องมือและประสบการณ์ด้านแปรรูปโลหะ จึงสนใจรับถ่ายทอดเทคโนโลยีนี้ โดยผลิตโครงสร้างโรงเรือน ติดตั้งและให้บริการหลังติดตั้ง ช่วงแรกไม่ได้มองตลาด แต่มองว่าเรื่องเกษตรเป็นเรื่องสำคัญในอนาคต โรงเรือนอัจฉริยะของ สวทช. มีจุดเด่นที่เป็นระบบ knockdown มีโครงสร้างที่แข็งแรง ถอดประกอบได้รวดเร็วและออกแบบการติดตั้งที่ปลอดภัยมาก แต่ราคายังสูงพอสมควร และราคาเหล็กปรับตัวขึ้นมาก ทำให้ระยะเวลาคืนทุนนานขึ้น จึงเป็นปัญหาด้านการลงทุนของเกษตรกรหรือหน่วยงานที่สนใจ เราได้หารือและทำงานร่วมกับทีมงาน สวทช. ตลอด ซึ่งได้ปรับปรุงสเปคแต่คุณภาพยังเหมือนเดิม และยังมีเป้าหมายออกแบบโรงเรือนเฉพาะพืชให้มีชิ้นส่วนต่างๆ ที่จำเป็นในแต่ละกลุ่มพืช น่าจะช่วยลดต้นทุนลงได้ อย่างไรก็ตามราคาโรงเรือนจะไม่ใช่อุปสรรคใหญ่ ถ้าสินค้าเกษตรปลอดภัยมีราคาสูงตามความปลอดภัยที่ผู้บริโภคได้รับ เกษตรกรสามารถขายผลผลิตคุณภาพดีราคาสูง"