คู่มือการสร้างโรงเรือนปลูกพืชไม้ไผ่ทรงหลังคาจั่ว 2 ชั้นอย่างง่าย

คู่มือการสร้างโรงเรือนปลูกพืชไม้ไผ่ทรงหลังคาจั่ว 2 ชั้นอย่างง่าย

ลงทะเบียนเพื่อดาวน์โหลดคู่มือฯ คลิก ท่านจะได้รับ Link สำหรับดาวน์โหลดคู่มือฯ หลังกด submit ลงทะเบียนแล้ว ข้อมูลการลงทะเบียนของท่านจะเป็นประโยชน์ต่อการขยายผลองค์ความรู้และเทคโนโลยีของ สท./สวทช. ข้อมูลเพิ่มเติม “โรงเรือนปลูกพืชไม้ไผ่หลังคาจั่ว 2 ชั้น” คลิก ตัวอย่างเนื้อหา

โรงเรือนปลูกพืชไม้ไผ่ทรงหลังคาจั่ว 2 ชั้น

โรงเรือนปลูกพืชไม้ไผ่ทรงหลังคาจั่ว 2 ชั้น

สถาบันารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) สวทช. ได้ปรับปรุงรูปแบบโครงสร้างโรงเรือนไม้ไผ่ทรงหลังคาจั่ง 2 ชั้น จากรูปแบบเดิมที่ค่อนข้างซับซ้อน เกษตรกรสร้างเองได้ยาก ให้เป็นรูปแบบอย่างง่ายที่เกษตรกรสามารถสร้างได้ง่ายขึ้น ใช้ไม้ไผ่น้อยลง แต่ยังคงความแข็งแรงในระดับที่ยอมรับได้ ลดต้นทุนการสร้างลงได้ร้อยละ 37.5 เมื่อเทียบกับแบบเดิม มีราคาประเมินการก่อสร้างโรงเรือนขนาด 6×15 เมตร กรณีจ้างเหมาอยู่ที่ 20,000 บาท ประมาณอายุการใช้งาน 3 ปี ในการสร้างโรงเรือนนี้ เกษตรกรสามารถเตรียมไม้ไผ่ตามขนาดและความยาวที่กำหนดในแบบแปลน นำมาเชื่อมต่อกันเป็นโครงสร้างโรงเรือนด้วยสกรูเกลียว สท. ได้พัฒนาขนาดโรงเรือน 2 ขนาด คือ แบบหน้ากว้าง 4 เมตร ไม่มีเสากลาง และแบบหน้ากว้าง 6 เมตร มีเสากลาง โดยมีรูปแบบโครงสร้างหลังคาและมีระยะช่วงเสา

คู่มือ “การผลิตผักอินทรีย์และการบริหารจัดการการผลิตในระบบโรงเรือน”

คู่มือ “การผลิตผักอินทรีย์และการบริหารจัดการการผลิตในระบบโรงเรือน”

ลงทะเบียนเพื่อดาวน์โหลดคู่มือฯ คลิก ท่านจะได้รับ Link ดาวน์โหลดคู่มือฯ หลังกด submit ลงทะเบียนแล้ว ข้อมูลการลงทะเบียนของท่านจะเป็นประโยชน์ต่อการขยายผลองค์ความรู้และเทคโนโลยีของ สท./สวทช. ตัวอย่างเนื้อหา

คู่มือ “โรงเรือนปลูกพืชต้นทุนต่ำโดยใช้วัสดุในท้องถิ่นและการบริหารจัดการปลูกพืช”

คู่มือ “โรงเรือนปลูกพืชต้นทุนต่ำโดยใช้วัสดุในท้องถิ่นและการบริหารจัดการปลูกพืช”

ดาวน์โหลดคู่มือฯ และแบบแปลนโรงเรือน ตัวอย่างเนื้อหาในคู่มือฯ

สท. ติดตาม-เสริมความรู้วางแผนผลิตผักอินทรีย์ของกลุ่มเกษตรกรยางสีสุราช จ.มหาสารคาม

สท. ติดตาม-เสริมความรู้วางแผนผลิตผักอินทรีย์ของกลุ่มเกษตรกรยางสีสุราช จ.มหาสารคาม

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2567 น.ส.เลอทีชา เมืองมีศรี นักวิชาการสถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) สวทช. และทีมงาน ลงพื้นที่ติดตามการผลิตผักอินทรีย์ของสมาชิกวิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกพืชด้วยวิถีเกษตรอินทรีย์และวิสาหกิจชุมชนศูนย์เรียนรู้เกษตร Organic ของดียางสีสุราช ต.นาภู อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม ภายใต้ “โครงการการยกระดับเครือข่ายผู้ผลิตผักอินทรีย์ด้วยเทคโนโลยีโรงเรือนและการบริหารจัดการผลิตพืชผัก” ที่ได้รับสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ซึ่งเกษตรกรได้นำความรู้ที่ได้รับจากโครงการฯ ไปปรับใช้สร้างโรงเรือนปลูกพืชต้นทุนต่ำจากวัสดุในท้องถิ่นรวม 33 โรงเรือน และติดตั้งเทคโนโลยีกล่องควบคุมการให้น้ำ Water Fit Simple จำนวน 2 จุด เพื่อเรียนรู้และปรับใช้ให้เหมาะกับบริบทของพื้นที่และการผลิตผัก จากการติดตามพบว่า เกษตรกรประสบปัญหาการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวและการขนส่งผัก เช่น โรคพืช ผักช้ำ ผักเหี่ยว

คู่มือ “โรงเรือนปลูกพืชต้นทุนต่ำโดยใช้วัสดุในท้องถิ่นและการบริหารจัดการปลูกพืช”

คู่มือ “โรงเรือนปลูกพืชต้นทุนต่ำโดยใช้วัสดุในท้องถิ่นและการบริหารจัดการปลูกพืช”

ดาวน์โหลดคู่มือฯ ดาวน์โหลดแบบแปลนโรงเรือนปลูกพืชต้นทุนต่ำโครงสร้างไม้-เสาปูน และโครงสร้างไม้-เสาไม้

ฐานการผลิตผักอินทรีย์ในระบบโรงเรือน

ฐานการผลิตผักอินทรีย์ในระบบโรงเรือน

ฐานเรียนรู้การผลิตผักอินทรีย์ในระบบโรงเรือน มีรูปแบบโรงเรือนปลูกพืชโครงสร้างต่างๆ เป็นแนวทางให้ผู้สนใจได้นำไปประยุกต์ใช้ โรงเรือนปลูกพืชต้นทุนต่ำ ใช้วัสดุในท้องถิ่น เช่น ไม้ไผ่ ไม้พื้นเมือง เสาปูน เป็นโครงสร้าง โดยมีทั้งแบบหลังคาจั่วและหลังคาโค้ง โรงเรือนปลูกพืชหลังคาจั่ว 2 ชั้น รูปแบบ สวทช. ใช้เหล็กเป็นโครงสร้าง  สื่อความรู้โรงเรือนปลูกพืช (คลิกที่รูปเพื่อดาวน์โหลด)

ผักแซ่บๆ ปลูกด้วยความรู้ ดีต่อกาย ดีต่อรายได้

ผักแซ่บๆ ปลูกด้วยความรู้ ดีต่อกาย ดีต่อรายได้

“แต่ก่อนไม่มีรายได้จากผัก เดี๋ยวนี้ได้วันละ 40-50 บาท บางวันได้ 100-200 บาท ผักที่เราปลูกเองกินอร่อยกว่า ไม่ต้องซื้อผักจากตลาดแล้ว” วันเพ็ญ บุญเชิด เล่าด้วยรอยยิ้มระหว่างที่รดน้ำแปลงผักน้อยๆ ของเธอ วันเพ็ญ เป็นสมาชิกกลุ่มปลูกผักบ้านบุตาโสม ต.เมืองบัว อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เธอได้รับจัดสรรพื้นที่ขนาด 1.5×7 เมตร เป็นหนึ่งในแปลงผักนับสิบแปลงบนพื้นที่เกือบ 1 ไร่ ด้านหลังโรงเรียนบ้านบุโสม จากพื้นที่รกร้าง สภาพดินที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ถูกแปรเปลี่ยนเป็นแปลงผักเขียวขจีเต็มพื้นที่ ด้วยความตั้งใจของ เสมอ กระจ่างจิต ผู้ใหญ่บ้านบุตาโสม ที่ต้องการให้ลูกบ้านได้รับประทานผักปลอดภัย “ชาวบ้านพบสารเคมีตกค้างในเลือดกันทุกคน เราทำนาปีละครั้ง การรับสารเคมีอาจไม่เยอะเท่าผักที่เราซื้อกินทุกวัน วิธีที่เราพอจะป้องกันได้ก็คือ ปลูกผักกินเอง” เสมอ ใช้เวลากว่า 2