ปลานกแก้ว

เรื่องโดย ชวลิต วิทยานนท์


          ปลานกแก้วของไทย วงศ์ Scaridae พบ 6 สกุล อย่างน้อย 28 ชนิด พบในอันดามันอย่างน้อย 21 ชนิด ในอ่าวไทยกว่า 10 ชนิด มี 3 ชนิดที่อยู่ใน IUCN Redlist นกแก้วหัวโหนก Bolbometopon muricatum VU ล่อแหลมต่อการใกล้สูญพันธุ์ (EN/ใกล้สูญพันธ์ุ ไทย) นกแก้วครีบจุด Scarus maculipinna NT ใกล้ถูกคุกคาม และนกแก้วครีบสูง Scarus hypselopterus ลดลงจำนวนมากแต่ยังขาดข้อมูล data deficient (ข้อมูลไม่เพียงพอที่จะประเมิน)

          ปลานกแก้วอาศัยในแนวปะการัง มีจะงอยปากแข็ง ๆ ไว้ใช้ครูดกินปะการังและซาก รวมถึงสาหร่ายและสัตว์ที่เกาะติด บางชนิดก็กัดกิ่งปะการังกร้วม ๆ เลย หม่ำเสร็จแล้วก็ถ่ายออกมาเป็นทรายขาว ๆ ได้ถึงปีละ 90 กิโลกรัมต่อตัวเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีหน้าที่สำคัญคือตกแต่งแนวปะการังที่ตายเนื่องจากเหตุการณ์ปะการังฟอกขาวหรือภัยคุกคามอื่น ๆ ให้ไม่มีสาหร่ายขึ้นคลุม เปิดพื้นที่ให้ตัวอ่อนปะการังลงเกาะทดแทน การกินปะการังของเจ้านกแก้วนี้ถือเป็นสัดส่วนการสูญเสียน้อยมากเมื่อเทียบกับข้อดี

          ปลานกแก้วทุกชนิดเป็นปลาน่าหม่ำ เคยเป็นปลาราคาถูก เพราะเนื้อขาว เหนียว ปลาสด ๆ กลิ่นเหม็นคาวเขียว ไม่เหมาะนักกับอาหารไทย จึงมักทำเป็นสับนก ลูกชิ้น หรือห่อหมก ส่วนมากบริโภคในท้องถิ่นที่จับ แต่ต่อมามีการปรุงตามตำรับอาหารจีนและญี่ปุ่นที่นิยมกินกันมาก และยังมีการสั่งซื้อทั้งปลาเป็น ปลาสด ส่งออกไปประเทศจีน ฮ่องกง จึงมีความนิยมมากขึ้นและมีราคาสูง เป็นที่นิยมในคนเมืองมากขึ้น ซึ่งตรงนี้เหมือนดาบสองคม ถึงแม้มันจะน่าหม่ำแต่ก็ไม่ควรสร้างความนิยมจนเกินไป เพราะถ้าความต้องการมีมากจนชาวประมงต้องล่ามันเป็นพิเศษก็ไม่ดีแน่ เอาเป็นว่าถ้าจับมาแบบพลอยได้แล้วกินเท่าที่มีก็น่าจะดีกว่า

          ปลานกแก้วจับได้ด้วยลอบปลา ข่าย (เบ็ดเป็นส่วนน้อย) และอีกวิธีที่ได้มามาก ๆ คือ ระเบิด !!! ซึ่งผิดกฎหมาย แต่มักพบในตลาดของประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ มากกว่า แหล่งที่พบมากในตลาดท้องถิ่นประเทศไทย เช่น หาดราไว ตลาดในเมืองภูเก็ต บ้านกรูด ประจวบคีรีขันธ์ ระยอง สัตหีบ ชลบุรี สตูล ฯลฯ ประเทศแหล่งส่งออกใหญ่คืออินโดนีเซียและฟิลิปปินส์


ปลานกแก้ว 28 ชนิดที่พบในน่านน้ำไทย  

Bolbometopon muricatum Valenciennes, 1840
Calotomus carolinus Valenciennes, 1840
Cetoscarus ocellatus Valenciennes, 1840
Chlorurus capistratoides Bleeker, 1847
Chlorurus rhakoura Randall&Anderson, 1997 
Chlorurus sordidus Forsskål, 1775
Chlorurus strongylocephalus Bleeker, 1854
Chlorurus troschelii Bleeker, 1853
Chlorurus microrhinos Bleeker, 1854
Chlorurus spilurus Valenciennes, 1840
Chlorurus japanensis Bloch, 1789
Hipposcarus harid Forsskål, 1775
Hipposcarus longiceps Valenciennes, 1840
Scarus hypselopterus Bleeker, 1853
Scarus forsteni Bleeker, 1861
Scarus frenatus Lacepède, 1802
Scarus ghobban Forsskål, 1775  
Scarus maculipinna Westneat, Satapoomin & Randall, 2007
Scarus niger Forsskål, 1775  
Scarus prasiognathos Valenciennes, 1840
Scarus quoyi Valenciennes, 1840
Scarus rivulatus Valenciennes, 1840
Scarus rubroviolaceus Bleeker, 1847
Scarus russelii Valenciennes, 1840
Scarus scaber Valenciennes, 1840
Scarus tricolor Bleeker, 1847
Scarus viridifucatus Smith, 1956
Scarus spinus Kner, 1868

About Author