วันนี้ (31 มีนาคม 2557) ในงานประชุมวิชาการประจำปี 2557 ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มีการเสวนาพิเศษหัวข้อ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี: พลังขับเคลื่อนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตั้งแต่เวลา 14.00 – 16.30 น. ณ ห้องประชุมออดิทอเรียม อาคารศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย โดยมีผู้ร่วมเสวนา 5 ท่าน (แต่ละท่านมีเวลา 20 นาที) คือ 1. คุณอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้พูดถึงบทบาทของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 2. คุณพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้พูดถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยอย่างยั่งยืนด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเน้นยุทธศาสตร์ของภาคเอกชนคือการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3. คุณอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้พูดถึงกลยุทธ์เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันทางการค้าด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยยกตัวอย่างบริษัทน้ำตาลมิตรผลซึ่งสามารถเพิ่มผลผลิตอ้อยโดยเปลี่ยนมาใช้เครื่องจักรไม่ใช่ใช้แรงงานคนอย่างเดียวเหมือนแต่ก่อน ทำให้ในอนาคตอาจแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ได้ 4. ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้พูดถึงนวัตกรรมขับเคลื่อน ปตท. สู่การเป็นบริษัทไทยข้ามชาติชั้นนำ โดยเน้นการดำเนินธุรกิจของปตท. รายได้จากการดำเนินธุรกิจ และปตท. กำลังจะมีโรงเรียนมัธยมปลายและมหาวิทยาลัยทางด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ระดับโลกที่อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง เพื่อผลิตนักวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพสูง 5. ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการสวทช. ได้พูดถึงแนวทางการขับเคลื่อนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเน้นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการจัดการน้ำ การพัฒนาป่าไม้ การแก้ปัญหาข้าว เช่น งานวิจัยใช้ชีวภัณฑ์ควบคุมศัตรูพืช งานวิจัยผลิตข้าวอินทรีย์ การแก้ปัญหาการเกษตร การแก้ปัญหาพลังงานและสิ่งแวดล้อม เช่น งานวิจัยพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียที่ได้จากการเกษตร นอกจากนี้เน้นการศึกษากับการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเน้นประเด็นทำอย่างไรให้ได้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถที่ทำงานได้
ในตอนท้ายของการเสวนาผู้ดำเนินรายการ คือ ดร.ชฎามาศ ธุวะเศรษฐกุล รองผู้อำนวยการสวทช. ได้ให้แต่ละท่านพูดสรุปท่านละ 2 นาที ดังนี้ ท่านที่ 1 สรุปว่ากำลังคนที่มีความรู้ความสามารถเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ท่านที่ 2 สรุปว่าเมื่อทราบทิศทางของโครงสร้างต่างๆ ของอุตสาหกรรม เช่น ทิศทางการลงทุนควรจะไปทางไหน จะทำให้การพัฒนาบุคลากรเป็นไปในทิศทางที่มีประสิทธิภาพ ท่านที่ 3 สรุปว่านักวิจัยต้องสนใจและร่วมมือกับภาคเอกชน ท่านที่ 4 สรุปว่ามหาวิทยาลัยของปตท. ก่อตั้งขึ้นเพื่อเน้นการพัฒนานักวิทยาศาสตร์ที่มีความสามารถระดับสูง ท่านสุดท้ายสรุปโดยตอบคำถามว่าหน่วยงานวิจัยภาครัฐมีคนพอสำหรับการต้องใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการพัฒนาของบริษัทเอกชนหรือไม่ โดยได้พูดถึงงานวิจัยใหม่ๆ ที่กำลังจะมีขึ้นในสวทช. เพื่อตอบสนองความต้องการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของภาคเอกชน
ที่มา: จากการเข้าฟังเสวนาในหัวข้อดังกล่าวข้างต้น– ( 36 Views)
