นักเคมี ม.มหิดล แนะเรียนรู้อยู่กับสารเคมีให้ปลอดภัย

          สารเคมีอยู่รอบตัวเรา เราทุกคนต่างต้องใช้ชีวิตอยู่กับสารเคมีซึ่งเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น หากทุกคนได้เรียนรู้ที่จะประเมินความเสี่ยงจากอันตรายของสารเคมี จะทำให้อยู่กับสารเคมีได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน

          รองศาสตราจารย์ ดร.เอกสิทธิ์ สมสุข อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า สารเคมีที่อยู่ในห้องปฏิบัติการ ส่วนใหญ่จะเก็บไว้เพื่อใช้ทดลองในปริมาณที่ไม่มาก จึงไม่เป็นอันตรายเท่าสารเคมีที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งตามมาตรฐานความปลอดภัย จะต้องมีการประเมินความเสี่ยงของความอันตราย มีระบบที่ตรวจจับความอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น ที่สำคัญโรงงานที่ใช้สารเคมีอันตรายควรตั้งอยู่ในพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรม และอยู่ห่างไกลจากเขตชุมชน

          อุบัติเหตุโรงงานกิ่งแก้วอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น จากการทำปฏิกิริยาจนเกิดความร้อน และแรงดัน หรือมีการรั่วของแก๊สที่ทำให้ติดไฟ จนทำให้เกิดการระเบิด โดยได้มีการยับยั้งอุบัติเหตุด้วยการพยายามใช้โฟมในการดับไฟ และพยายามปิดวาล์วเพื่อทำให้สารเคมีออกสู่สิ่งแวดล้อมน้อยลง จากนั้นทำให้อุณหภูมิของถังเก็บสารเคมีต่ำลงด้วยการหล่อเย็น เพื่อที่จะยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาที่ไม่คาดฝัน

          รองศาสตราจารย์ ดร.เอกสิทธิ์ สมสุข ได้แนะนำกรณีเกิดการระเบิดเพลิงไหม้จากสารเคมีอันตราย ในเบื้องต้นควรหลีกหนีสถานที่เกิดเหตุให้ไกลจากความอันตราย ควรหลีกเลี่ยงการสูดดมสารที่ระเหยออกมา อยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่ใช้หน้ากากอนามัยซึ่งไม่สามารถป้องกันอันตรายจากการระเหยของสารเคมีได้ นอกจากนี้ หากสารเคมีโดนผิวหนังควรล้างด้วยน้ำสบู่ แต่ถ้าโดนดวงตาให้ล้างด้วยน้ำสะอาด และถ้าถึงกับเกิดอาการหมดสติควรรีบส่งพบแพทย์

          “ในฐานะนักเคมี ไม่อยากให้ทุกคนกลัวสารเคมี แต่ควรเรียนรู้ที่จะอยู่กับสารเคมีด้วยความปลอดภัย รู้จักการประเมินความเสี่ยงของความอันตรายเพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างไม่คาดฝัน โดยที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้มีการเปิดสอนรายวิชาความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการให้กับนักศึกษาของคณะฯ ในทุกระดับชั้น ตั้งแต่ปริญญาตรี ไปจนถึงปริญญาเอก นอกจากนี้ยังได้มีการเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยมหิดลได้ลงทะเบียนเรียน MU LabPass ออนไลน์ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าศึกษาจริงในห้องปฏิบัติการ และก้าวต่อไปจะผลักดันให้เป็นหลักสูตรอบรมออนไลน์ระยะสั้นสำหรับประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นการส่งเสริมสังคมอุดมปัญญา ด้วยองค์ความรู้ที่มหาวิทยาลัยมหิดลพร้อมจะมอบให้ในฐานะที่เป็น “ปัญญาของแผ่นดิน” ตามปณิธานของมหาวิทยาลัยมหิดลต่อไปอีกด้วย” รองศาสตราจารย์ ดร.เอกสิทธิ์ สมสุข กล่าวทิ้งท้าย


สัมภาษณ์ และเขียนข่าวโดย
ฐิติรัตน์ เดชพรหม
นักประชาสัมพันธ์ (ชำนาญการ) งานสื่อสารองค์กร กองบริหารงานทั่วไป
สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โทร. 0-2849-6210

About Author