ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดได้เปิดตัวแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์แบบเอเจนต์ (Agentic AI) ชื่อ MetaChat ซึ่งสร้างความก้าวหน้าครั้งสำคัญในด้านการออกแบบอุปกรณ์ทัศนศาสตร์ขั้นสูง โดยเฉพาะ Metasurfaces ซึ่งเป็นเลนส์ขนาดนาโนที่สร้างจากโครงสร้างขนาดจิ๋วระดับเม็ดทรายที่มีความสามารถในการดัดโค้งแสงในแบบที่เลนส์ทั่วไปทำไม่ได้ เมทาเซอร์เฟซนี้เป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีแห่งอนาคต ตั้งแต่แว่นตา Augmented Reality (AR) ที่บางเฉียบ ไปจนถึงระบบเซนเซอร์ความละเอียดสูง
การออกแบบ Metasurfaces เป็นงานที่ซับซ้อนมากและต้องใช้การจำลองทางฟิสิกส์ซ้ำ ๆ หลายพันครั้ง ซึ่งปกติแล้วอาจใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน แต่ MetaChat เข้ามาแก้ปัญหานี้ด้วยการรวมเครื่องมือสองชนิดเข้าด้วยกัน คือ เครื่องมือคำนวณความเร็วสูงที่สามารถจำลองผลลัพธ์ได้ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที (เร็วกว่าวิธีการเดิมกว่าพันเท่า) และเอเจนต์ AI ที่ปรึกษา ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่รับบทบาทเป็นทั้งนักออกแบบและผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุ โดยมีคุณสมบัติที่สามารถสะท้อนตนเองและปรับปรุงการตัดสินใจของตนเองได้ตลอดเวลา
ในการทดสอบ MetaChat สามารถออกแบบเลนส์ที่มีความซับซ้อน เช่น เลนส์ที่สามารถโฟกัสแสงสีต่างกันไปยังจุดที่ต่างกันได้ในเวลาเดียวกัน โดยใช้เวลาเพียง 11 นาที เท่านั้น ซึ่งเป็นการพิสูจน์ประสิทธิภาพในการสร้างอุปกรณ์ที่ซับซ้อนเทียบเท่ากับอุปกรณ์ชั้นนำในปัจจุบันได้อย่างรวดเร็ว การค้นพบครั้งนี้จะช่วยเร่งความก้าวหน้าในวงการต่าง ๆ ทั้งด้านการประมวลผลด้วยแสง (Optical Computing) และดาราศาสตร์ และยังช่วยลดช่องว่างด้านการขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญการออกแบบออปติกอีกด้วย โดยทีมนักวิจัยเชื่อว่า แม้ AI จะช่วยเร่งการสร้างสรรค์ แต่มนุษย์ยังคงมีบทบาทสำคัญในการตั้งคำถามที่ถูกต้องและให้ข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็น
ข้อมูลอ้างอิง : Stanford University

