Q1: | คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้รับทำวิจัย ในการขอขึ้นทะเบียนผู้รับทำวิจัย (ว.พ.01) กับกรมสรรพากร เป็นอย่างไร |
A1: | 1) มีการระบุวัตถุประสงค์การประกอบกิจการทางด้านธุรกิจวิจัย พัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม ไว้อย่างชัดเจนในหนังสือรับรองนิติบุคคล 2) มีความพร้อมในด้านต่าง ๆ ได้แก่ องค์ความรู้ บุคลากรวิจัย เครื่องมือและอุปกรณ์ ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการทางด้านธุรกิจวิจัยฯ หมายเหตุ โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจาก “ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการยื่นคำขอเป็นผู้รับทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ลงวันที่ 12 เมษายน พ.ศ.2559)" |
Q2: | การยื่นขอ ว.พ.01 ของผู้รับทำวิจัย มีโอกาสที่จะไม่ได้รับการอนุมัติจากกรมสรรพากรหรือไม่ |
A2: | มีความเป็นไปได้ที่จะไม่ได้รับการอนุมัติ อย่างไรก็ตาม ผู้รับทำวิจัยฯ ที่จะยื่นขอ ว.พ.01 ควรมีการกรอกข้อมูลในแบบคำขอ ว.พ.01 และเตรียมเอกสารประกอบตามที่กำหนดไว้อย่างครบถ้วน
หมายเหตุ : |
Q1: | การขอรับรองโครงการเพื่อใช้สิทธิประโยชน์ภาษี 200% มีกรอบระยะเวลากำหนด และมีการกำหนดเพดานค่าใช้จ่ายสูงสุดของโครงการหรือไม่ |
A1: | การขอรับรองโครงการเพื่อใช้สิทธิประโยชน์ภาษี 200% ตาม พ.ร.ฎ.598 ไม่มีกรอบระยะเวลากำหนด และไม่มีการกำหนดเพดานค่าใช้จ่ายสูงสุด |
Q2: | ผู้ว่าจ้าง หรือ ผู้รับทำวิจัยที่จะเป็นผู้ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในการยื่นโครงการเพื่อขอการรับรองจาก สวทช. |
A2: | ผู้ที่จะได้สิทธิประโยชน์ในมาตรการนี้ จะเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเพื่อการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ผู้ว่าจ้าง) ให้กับผู้รับทำวิจัยที่มีการยื่นแบบคำขอ ว.พ.01 หรือได้รับการประกาศรายชื่อให้เป็นผู้รับทำการวิจัยฯ แล้ว |
Q3: | วิธีการขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีแบบ Pre-approval กับแบบ Self-Declaration มีความแตกต่างกันอย่างไร |
A3: |
การขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีแบบ Pre-approval การขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีแบบ Self-Declaration |
Q4: | สวทช. มีมาตรการรักษาความลับของข้อมูลงานวิจัยที่ยื่นขอการรับรอง ไม่ให้ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะอย่างไร |
A4: | ปัจจุบัน สวทช. กำหนดให้ยื่นโครงการเพื่อขอการรับรองผ่านระบบ RDC Online ซึ่งในการเข้าใช้งานระบบ นอกจากจะมีการกรอกข้อมูล Username และ Password แล้ว จะมีการใช้ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Certificate) เพื่อเป็นการระบุตัวตนของผู้ใช้งาน สำหรับการล๊อคอินเข้าระบบทุกครั้ง นอกจากนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการรับรองโครงการวิจัยฯ เช่น ผู้เชี่ยวชาญ และคณะกรรมการฯ จะมีการลงนามในเอกสารรักษาความลับ (NDA) |
Q5: | การจ้างผู้รับทำวิจัยที่ยังไม่ได้รับประกาศ ว.พ.01 บริษัทเจ้าของโครงการสามารถยื่นโครงการเพื่อขอการรับรองจาก สวทช. ได้หรือไม่ และค่าใช้จ่ายในการวิจัยสามารถใช้สิทธิประโยชน์ได้เมื่อใด |
A5: | 1) การจ้างผู้รับทำวิจัยที่ยังไม่ได้รับประกาศ ว.พ.01 สามารถยื่นโครงการเพื่อขอการรับรองจาก สวทช. ได้ โดยการแนบสำเนาแบบคำขอ ว.พ.01 มาเป็นเอกสารประกอบการพิจารณา 2) บริษัทจะใช้สิทธิ์ได้ก็ต่อเมื่อผู้รับทำวิจัยได้รับประกาศเป็นผู้รับทำวิจัยตามประกาศของอธิบดีกรมสรรพากร โดยค่าใช้จ่ายในการวิจัยที่เกิดขึ้น จะสามารถใช้สิทธิ์ทางภาษี 200% ได้โดยเริ่มนับจากวันที่ทางกรมสรรพากรออกเลขรับในแบบคำขอ ว.พ.01 |
Q6: | โครงการที่เป็นการร่วมวิจัยซึ่งมีเจ้าของโครงการมากกว่า 1 ราย จะมีการจัดสรร สิทธิประโยชน์ทางภาษีของรายจ่ายแต่ละเจ้าของโครงการอย่างไร |
A6: | จัดสรรสิทธิประโยชน์ทางภาษีของรายจ่าย ตามร้อยละของสัดส่วนที่แต่ละเจ้าของโครงการมีส่วนร่วมในโครงการวิจัย |
Q7: | ในกรณีที่บริษัทเจ้าของโครงการมีการทำวิจัยด้วยตนเอง (In-house research) สามารถออกใบกำกับภาษีให้กับหน่วยงานของตนเองได้หรือไม่ |
A7: | กรณีทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้กับตนเอง ให้ออกใบรับให้กับตนเอง เสมือนเป็นการรับทำวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้กับบุคคลอื่น โดยไม่จำเป็นต้องจัดทำใบกำกับภาษี หมายเหตุ : |
Q8: | กรณีบริษัทเจ้าของโครงการได้รับการส่งเสริมการลงทุนและสิทธิประโยชน์จาก BOI มีข้อจำกัดในการใช้สิทธิประโยชน์มาตรการนี้อย่างไร |
A8: | ตามพระราชกฤษฎีกา ฉบับที่ 598 ระบุไว้ว่า มาตรา 6 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ เนื่องจากรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเพื่อทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมตามพระราชกฤษฎีกานี้ ต้องไม่นำรายจ่ายดังกล่าวไปใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน |
Q9: | โครงการที่ยื่นขอการรับรองจาก สวทช. เพื่อขอใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีต้องเป็นโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จหรือไม่ |
A9: | โครงการที่ยื่นขอการรับรองฯ ไม่จำเป็นต้องเป็นโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ ทั้งนี้สถานะการดำเนินงานของโครงการที่สามารถยื่นขอการรับรองได้ มีทั้งหมด 3 สถานะ ได้แก่ โครงการแล้วเสร็จ (ไม่เกิน 3 ปี เพื่อให้สามารถใช้สิทธิ์ได้ทันตามปีภาษี) / โครงการอยู่ระหว่างการดำเนินการ / โครงการยังไม่เริ่มดำเนินการ |
Q10: | หากไม่สามารถยื่นโครงการเพื่อขอการรับรองจาก สวทช. ได้ทันภายในปีภาษีที่ค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น จะสามารถยื่นโครงการเพื่อขอการรับรองย้อนหลังได้หรือไม่ |
A10: | สามารถยื่นโครงการเพื่อขอการรับรองย้อนหลังได้ ทั้งนี้ โครงการที่มีสถานะเสร็จสิ้นแล้ว กำหนดให้เจ้าของโครงการดำเนินการยื่นโครงการ ซึ่งวันที่ยื่นโครงการจะต้องมีระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี นับตั้งแต่วันที่สิ้นสุดระยะเวลาตามแผนงานโครงการ หมายเหตุ : |
Q11: | บริษัทเจ้าของโครงการสามารถใช้สิทธิ์ทางภาษี 200% ล่วงหน้าก่อนที่จะได้รับการรับรองโครงการจาก สวทช. ได้หรือไม่ |
A11: | ตามประกาศกระทรวงการคลังเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 391) ได้ระบุถึง ข้อ 3 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประสงค์จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ จะต้องยื่นโครงการวิจัยฯ ต่อ สวทช. หรือหน่วยงานอื่นที่รัฐมนตรีจะได้ประกาศกำหนด เพื่อตรวจสอบและรับรองโครงการฯ ดังนั้น บริษัทเจ้าของโครงการควรได้รับการรับรองโครงการจาก สวทช.ก่อน จึงดำเนินการใช้สิทธิประโยชน์ เนื่องจากหากโครงการไม่ได้รับการรับรอง ทางบริษัทจะต้องมีการปรับปรุงบัญชี จึงมีความเสี่ยงเกิดขึ้นหากมีการใช้สิทธิ์ทางภาษีก่อน |
Q12: | โครงการที่ยื่นขอการรับรองจาก สวทช. มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะไม่ได้รับการรับรองเป็นโครงการวิจัยฯ |
A12: | มีความเป็นไปได้ที่ สวทช. จะพิจารณาไม่รับรองเป็นงานวิจัยฯ เนื่องด้วยโครงการอาจไม่เข้าข่ายตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติการพิจารณารับรองโครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่ได้กำหนดไว้ |