“เขาเป็นคนพิการ แต่เขาไม่ได้ทำให้ดูเป็นคนพิการเลย เขาทำงานได้เหมือนคนปกติ ถากหญ้าได้ ทำโน่นนี่ได้ ขนาดเขาไม่ปกติ เขายังสู้เลย” น้องแนน-นางสาวนลินี พรมสังข์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ สะท้อนความรู้สึกที่เกิดขึ้นหลังจากที่ “โรงเรือนไม้ไผ่ปลูกพืชต้นทุนต่ำ” ของ “ชมรมคนพิการสายใยรักตำบลร่องเคาะ” เสร็จสมบูรณ์

น้องแนนและเพื่อนๆ ชั้นปี 4 จากสาขาพืชผัก คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นแรงกำลังสำคัญสร้างโรงเรือนไม้ไผ่ปลูกพืชต้นทุนต่ำและปรับปรุงแปลงผักบนพื้นที่ของ “ชมรมคนพิการสายใยรักตำบลร่องเคาะ” อ.เวียงเหนือ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2563 จากความร่วมมือของสถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลักกี้ซี้ด อโกร และบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด

“ชมรมคนพิการสายใยรักตำบลร่องเคาะ” เป็นหนึ่งในเครือข่ายผู้ผลิตผักอินทรีย์ของนายภัทราพล วนะธนนนท์ เจ้าของ “สุขใจฟาร์ม” ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมอบรมหลักสูตร “การผลิตผักสดและการผลิตเมล็ดพันธุ์ผักอินทรีย์คุณภาพดีไว้ใช้เอง” ภายใต้โครงการ การพัฒนาเครือข่ายเกษตรอินทรีย์และผู้ผลิตผักสดและเมล็ดพันธุ์ในชุมชน ผ่านกระบวนการให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านเกษตรอินทรีย์ เรื่องการผลิตผักสดคุณภาพ การเก็บเมล็ดพันธุ์ผักอินทรีย์ไว้ใช้เอง และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตผักสดคุณภาพ ที่ สท. ได้ดำเนินการร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้

ภัทราพล หรือ สุขใจ ได้ส่งต่อความรู้ที่ได้รับจากการอบรมและสนับสนุนให้สมาชิกชมรมคนพิการฯ และผู้ดูแลผู้พิการได้ปลูกผักไว้บริโภคและจำหน่าย จนเป็นเครือข่ายการผลิตผักอินทรีย์ของ “สุขใจฟาร์ม” ส่งจำหน่ายที่ท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต และตลาดจริงใจ ในเซ็นทรัล ลำปาง และพะเยา

“หนูทำงานอยู่ข้างๆ พี่แอ เขาขยันมาก ถ้าพี่แอสู้ หนูก็สู้ เขาบอกว่าถ้าเราทำงาน เหนื่อยก็พัก แป๊บเดียวก็หายเหนื่อย พี่เขาทำตลอด ไม่ได้พัก พอโรงเรือนสร้างเสร็จ มันรู้สึกปลื้มปริ่ม พี่แอเขาดีใจมาก เห็นเขาดีใจก็รู้สึกดี…หนูคิดว่าแรงบันดาลใจหาได้ทั่วไป มันอยู่ที่เราจะมองหา” น้องแนน บอกเล่าถึงความรู้สึกที่ได้ทำงานร่วมกับ แอ ดีงาม ชายหนุ่มสมาชิกชมรมผู้พิการฯ

“โรงเรือนไม้ไผ่ขนาด 2.5×12 เมตร มีขนาดทางเดินที่รถเข็นผู้พิการเข้าได้ โต๊ะปลูกผักขนาดความสูง 70 ซม. พอเหมาะสำหรับการทำงาน ฐานการผลิตปุ๋ยหมักแบบไม่พลิกกลับกอง” เป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นภายในสองวันจากความร่วมแรงร่วมใจของสมาชิกชมรมผู้พิการฯ ชาวบ้าน นักศึกษา คณาจารย์มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ภาคเอกชน ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สท. หรือแม้แต่พนักงานขับรถตู้ได้ร่วมแรงอย่างแข็งขัน

“แปลงผักสุขใจสู่สายใยรัก” ไม่เพียงเป็นแปลงผักที่จะสร้างรายได้และอาชีพให้สมาชิก “ชมรมผู้พิการสายใยรักตำบลร่องเคาะ” แต่จะเป็นต้นแบบให้ผู้คนที่มีร่างกายครบสมบูรณ์หรือแม้แต่ผู้พิการ (กายหรือใจ) ได้ลุกขึ้นพัฒนาตัวเองเพื่อพึ่งพาตนเองโดยไม่เป็นภาระต่อครอบครัวและสังคม

# # #

‘แปลงผักสุขใจ’ สู่ ‘สายใยรัก’