การมีโรงเรือนปลูกพืชช่วยอำนวยความสะดวกให้เกษตรกรหลายประการ และยังช่วยรักษาผลผลิตให้ได้คุณภาพและปริมาณตามที่ต้องการ โดยเฉพาะการปลูกผัก ประโยชน์ของการปลูกผักในโรงเรือนได้แก่ กันฝน กันแมลง กันลม พรางแสง ควบคุมสภาพแวดล้อม บริหารจัดการแปลงได้ง่าย และที่สำคัญสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตาม การลงทุนในโรงเรือนปลูกพืชอาจเป็นภาระสำหรับเกษตรกรที่ยังไม่พร้อมด้านเงินลงทุน

สถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) สวทช. จึงร่วมกับ หจก. แบมบู แฟมิลี่ กรุ๊ป ออกแบบโรงเรือนไม้ไผ่ที่ประยุกต์แบบจากโรงเรือนปลูกพืชโครงสร้างเหล็กแบบหลังคา 2 ชั้น ของ สวทช. ให้มีการระบายอากาศที่ดี ช่วยลดอุณหภูมิภายในโรงเรือน ลดความเสียหายของผลผลิตจากความร้อน ลดแรงต้านลมและทนต่อลมพายุได้

โรงเรือนปลูกพืชไม้ไผ่ทรงหลังคาจั่ว 2 ชั้น ขนาด 6.0×24.0x4.4 เมตร ใช้เทคนิคโครงสร้างแบบโครงถักรับแรงและเทคนิคการสร้างแบบประกอบขึ้นโครงจั่วทีละโครง ทำให้สามารถสร้างโรงเรือนไม้ไผ่ที่มีหน้ากว้าง 6 เมตร ได้โดยไม่ต้องมีเสากลาง มีระยะห่างแต่ละช่วงเสา 3 เมตร ราคาประเมินการก่อสร้างในกรณีจ้างเหมาอยู่ที่ 50,000 บาท แต่หากเกษตรกรมีความรู้การก่อสร้างและสามารถหาไม้ไผ่ในท้องถิ่นได้ จะลดต้นทุนค่าบริหารจัดการ ค่าวัสดุและค่าแรงลงได้อย่างน้อย 30% ทั้งนี้โรงเรือนฯ นี้ผ่านการทดสอบการใช้งานจริงและขยายผลการใช้งานในหลายพื้นที่ พบว่าสามารถระบายอากาศได้ดี มีความแข็งแรง ทนต่อแรงลมและพายุฝนได้ดี

สื่อความรู้
โรงเรือนปลูกพืชไม้ไผ่ทรงหลังคาจั่ว 2 ชั้น